อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ เข้าวันที่ 2 ของฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศเย็นดีค่ะ เช้านี้สองเกลอ ไปนั่งจิบกาแฟกันในสวนหลังบ้าน คุย ๆ กันเรื่องคุณ Steve (Crocodile Hunter) อยู่ดี ๆ ไม่รู้ไปจบเรื่อง “สัตว์เลี้ยงคลาน“ ได้ไง ฮ่า ฮ่า คงเป็นเพราะว่า พ่อสตีฟ เค้าอิน เลิฟ กับสัตว์เลื้อยคลาน เป็นชีวิตจิตใจมั้ง

ว่าแล้ว นายจอมยุ่ง ก็ถามเราว่า สัตว์เลื้อยคลาน ที่เราสยองที่สุด คืออะไร โห้…สาวบ้านนาแบบเรา คงต้องตอบว่า งอ งู อ่ะค่ะ เพราะว่า จ๊ะเอ๋ กับเจ้างูเห่า (บ๊อก บ๊อก) อยู่เรื่อยเลย เป็นคนที่มีดวง ในเรื่องของการเจองูมาก ๆ ไม่รู้เป็นไง

แต่ว่า พูดถึงสัตว์เลื้อยคลาน มันก็ขนลุกไปหมดแหละ (สำหรับเรานะ) แต่ไอ้ที่ขนลุกมาก ๆ เพราะตอนเด็ก ๆ เห็นบ่อยมาก ๆ ก็คือ เจ้า….ต๊ะแก ...... ตะ ตะ ตะ ตะ ตะ ... ต๊ากแก !!

โห้…ตอนเด็ก ๆ นะคะ บ้านไม้ไทยอ่ะ คงรู้กันอยู่แล้วว่า “ตุ๊กแก“ เพียบค่ะ นอกจากกระเหรี่ยงตกดอย จะกลัวผี (แม่นาค To be exact) แล้ว ยังกลัว กลั๊ว กลัว ตุ๊กแก มาก ๆ เลยค่ะ ไอ้บ้านหลังเก่านี่ก็ มีเจ้าตุ๊กแก คอยรอเรียก ผัว ผัว ผัว …เอ้ย ไม่ใช่ นั่นมัน “สัตว์“ ประเภทอื่น อิอิ เจ้าตุ๊กแกบ้านี่ เราอาบน้ำเพลิน ๆ ที่ไร มันเอาเลย ตะ ตะ ตะ ตะ ตะ ... ต๊ากแก !! โอ้ย หัวใจจะวาย

ยิ่งใครต่อใครก็ไม่รู้ ชอบมาหลอกว่า ถ้าดื้อด้าน ตุ๊กแก จะมากินตับ โอ้โห้…ไปกันใหญ่เลยค่ะ กลัวมาก ๆ เพราะรู้ว่า ไม่ใช่เป็นเด็กเรียบร้อย ฮ่า ฮ่า (เห็นม่ะ รู้ตัวเอง ประเสริฐยิ่งค่ะ)

ไปกันใหญ่แล้ววุ้ย มะกันงงค่ะ ว่าอีแค่ตุ๊กแตตัวเดียว กลัวอะไรกันหนักหนา อ่าาาาา…ได้เรื่องซิค่ะเฮีย แบบนี้ต้องจับตบ …มายช่ายยยยยยย แบบนี้ ต้องอธิบายค่ะ ว่าแล้วก็ต้องหา รูป “เจ้าตุ๊กแก“ มาประกอบการเรียนการสอนก่อน ดูดิว่า มันหน้าตาน่ากลัวแค่ไหน

กระเหรี่ยงตกดอย เป็นมนุษย์ช่างพูดค่ะ ถ้าจะให้พูดแค่ตุ๊กแก มันก็ไม่ธรรมดาใช่ป่ะค่ะ ระดับเรา ต้องยกสุภาษิต คำพังเพย มาประกอบการเล่าเรื่องด้วย เพื่อให้ได้อัถรสมากขึ้น มะกันก็ชอบค่ะ เพราะเหมือนได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมไทยไปด้วย

ว่าแล้วกระเหรี่ยงตกดอย ก็ถามมะกันว่า “แกรู้มั้ยว่า ถ้าตุ๊กแกเกาะ ต้องทำไง?” มะกันบอก ก็เอาไรมาแงะไง …หว๊ายยยยยย มายช่ายยยยยยเลยจ้า ต้องเอาปูนมาให้มันกินต่างหาก

เหอะ เหอะ มะกัน งอ งง ค่ะ เอาปูนมาให้มันกินทำไม คุณเมียสุดที่รักเลยต้องบอกว่า กินแล้วมันร้อนท้อง แล้วมันจะปล่อย (จริงป่ะก็ไม่รู้นะ ไม่เคยทำ)

ว่าแล้วขอนำเสนอ คำว่า “ตุ๊กแกกินปูนร้อนท้อง“ ให้มะกันฟังหน่อย เดือดร้อนเราอีก เพราะมันเสือกอยากรู้ เลยต้องนั่งอธิบายนานหน่อย เหอ เหอ

อันว่า “ตุ๊กแกกินปูนร้องท้อง“ หมายความว่า หมายความว่า ผู้ใดทำความผิดไว้ พอมีคนพูดเปรยๆ ถึงความผิดเรื่องนั้น ก็จะปฏิเสธใน ทำนองร้อนตัวไปก่อน มีที่มาจาก การที่ตุ๊กแกกินปูนเข้าไปแล้วร้อนท้องจึงต้องร้อง "ตุ๊กแก" ออกมา
( ที่มา : //www.rn.ac.th/thai/thaiexpression.htm )

ส่วนตัวเรา เราว่า คนทุกคนก็มีเชื้อตุ๊กแกนะ แต่จะมีมากมีน้อย ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล อย่างตัวเราเอง บางทีลืมไปจ่ายค่าโทรศัพท์ ถ้าโทรศัพท์ดัง สะดุ้งทุกที นึกว่าเค้าโทรมาทวง อันนี้ก็ถือว่า มี “เชื้อ“ ของเจ้าตุ๊กแก

และก็เห็นหลาย ๆ คนค่ะ ในชีวิตจริง ๆ นี่แหละ (ไม่มีอิงนิยาย) สนิทสนมกับตุ๊กแกมาก จนตุ๊กแกต้องเรียกพี่ ทำไรก็สะดุ้งไปหมดเลยค่ะ บางทีไม่มีใครว่าไรเลยก็สะดุ้ง ให้ความสำคัญกับตัวเองจังเล้ย ว่าคนอื่นเค้าจะสนใจตัว พวกนี้ประหลาดดีนิ ภาษาฝรั่งเค้าเรียก พวกมี Complex

คนเราจะดีจริง ไม่ต้องออกมาแหกปาก บอกคนอื่นหรอกค่ะ คนทั้งโลกเค้าไม่ได้โง่นะคะ คนดีผีคุ้ม อันนี้ก็คำไทย ๆ ถ้าเราดีจริง ๆ เดี๋ยวก็มีคนออกมาปกป้องเราเอง แต่บางคน เห็นมีเพื่อนเยอะแยะ แต่เอาเข้าจริง ๆ ไม่ต้องเพื่อนอะค่ะ “ผี“ ยังไม่กล้าออกมาปกป้องเลย เอ่อ…อันนี้ก็ไปคิดดูกันเองนะคะ ว่าทำไมเวลาดี ๆ มีเพื่อนมากมาย แต่เวลาโดน “ยำ“ มิมีใครโผล่เลยค่ะ

จบสุภาษิตวันนี้ ด้วยคำว่า “ตุ๊กแก กินปูนร้อนท้อง“ นะคะ สำหรับวันนี้ พี่เอื้อย ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

Create Date : 24 กันยายน 2549
Last Update : 24 กันยายน 2549 1:07:18 น.		35 comments
Counter : 1352 Pageviews.
Share Tweet