BlogGang.com : : Kross_ISC : ตำนานหมากรุก

ตำนานหมากรุก

หนังสือ รู้ร้อยแปด เล่ม 2 ส. พลายน้อย เล่าเรื่องหมากรุกไว้ว่า เป็นกีฬาที่มีประวัติ ตำนานมาแต่โบราณดึกดำบรรพ์ เล่นกันในหลายประเทศ และหลายประเทศก็อ้างว่า ชาติของตนเป็นคนคิดขึ้น

ยิวก็อ้างว่าพระเจ้า โซโลมอน กษัตริย์ยิวเป็น ต้นคิด กรีกอ้างว่าอริสโตเติล เป็นต้นคิด จีนว่า ฮั่นสิน เป็นต้นคิดตั้งแต่ พ.ศ.369อินเดียอ้างว่า นางมณโฑคิดให้ทศกัณฐ์เล่น ระหว่างทำสงครามกับพระราม เรียกชื่อในครั้งนั้น ว่าจตุรงค์

ฝ่ายเปอร์เซียไม่เพียงยืนยัน ยังมีตำนานเล่าประกอบว่า พระเจ้ากาอิทพระราชาแห่งเปอร์เซีย รักในการทำสงคราม ปราบปรามประเทศต่างๆจนไม่มีใครสู้ ไม่มี ใครรบด้วยก็รู้สึกรำคาญพระทัย ออกประกาศว่า ถ้าใครคิดอะไรที่ทำให้หายรำคาญได้ ก็จะให้รางวัลตามที่ขอ

อำมาตย์ ชราผู้หนึ่ง พยายามคิดหาวิธีได้แล้วสั่งให้ช่างแกะงา เป็นตัวหมากรุก...รูปขุนสองตัว และรูปสองคนขี่ม้า และรูปอื่นรวม 64 ตัว แบ่งสองข้างเป็นสีดำสีขาว พร้อมด้วยทำตารางสี่เหลี่ยม 64 ช่อง ในแผ่นไม้กระดาน นำไปถวายแล้วกราบทูลพระเจ้ากาอิทว่า นี่เป็น วิธีทำสงครามแบบใหม่

แบบที่ไม่ต้องใช้คนฆ่าฟันกันให้ล้มตาย เพียงแต่ ต้องใช้สติปัญญา จึงจะเป็นผู้ชนะได้

อำมาตย์ สอนการเล่นให้พระราชาเล่นเป็น ก็รู้สึก พอพระทัย ลืมนึกถึงการทำสงครามในสนามรบจริง ตรัสถามอำมาตย์ว่า ต้องการอะไร ขอให้บอก แม้ว่ามีราคาครึ่งราชอาณาจักร ก็จะทรงประทานให้

"ข้าพเจ้าไม่ต้องการ อะไรมาก..." อำมาตย์กราบทูล "ขอแค่พระราชทานเมล็ดข้าว ลงในช่องแผ่นกระดาน (หมากรุก) ตาที่ 1 หนึ่งเมล็ด ตาที่ 2 สองเมล็ด ตาที่ 3 สี่เมล็ด เพิ่มจำนวนเมล็ดข้าวทับทวีคูณไปเช่นนี้จนครบ 64 ตา ก็พอ"

"ข้าฯเปิดโอกาสให้เจ้าแล้ว ทำไมจึงขอแต่ เพียงเล็กน้อยแค่นี้" พระเจ้ากาอิทพระทัยปา "เอ้า... ขออะไรเพิ่มอีก ข้าก็จะให้เจ้าอีก"

เมื่อ อำมาตย์ยืนกรานขอแค่เมล็ดข้าว...เท่านั้น พระเจ้ากาอิทก็ประทาน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำเมล็ดข้าว... เพิ่มหนึ่งเท่าทุกช่อง ไปจนถึง 64 ช่อง ปรากฏว่า เมล็ดข้าวที่มีในพระนคร...ก็ยังไม่พอ

ตอนแรกพระเจ้ากาอิทไม่เชื่อ แต่เมื่อทรงคำนวณ...ก็เห็นเป็นจริง ยอมรับว่า คิดไม่ถึงที่ต้องประทานเมล็ดข้าวให้อำมาตย์มากถึงเพียงนั้น

ตำนานเปอร์เซียจบลงว่า อำมาตย์พอใจที่ทำหมากรุก ให้พระราชาเลิกทำสงครามทำให้มนุษย์ด้วยกันเดือดร้อนได้ จึงไม่เรียกร้องอะไรเพิ่ม

แม้เปอร์เซียมีตำนาน ข่มขวัญชาติอื่นที่ต่างก็คุยว่าเป็นผู้คิดหมากรุก มีผู้ค้นคว้าพบว่า จริงๆแล้วเปอร์เซีย ได้หมากรุกไปจากอินเดีย

แต่ ก็มีผู้ค้านว่า แรกทีเดียวหมากรุกเริ่มที่เปอร์เซีย อินเดียลอกเอาไป ต่อมาเมื่อเปอร์เซียเสื่อมสูญ เปอร์เซียก็ต้องไปขอจากอินเดียมาเล่นต่อ อาหรับก็ได้ไปจากเปอร์เซีย อีกทีหนึ่ง

หลักฐานหมากรุกอาหรับ อยู่ที่มีช้าง ม้า และอูฐ ส่วนที่เป็นรูปคน หมากรุกชาติไหนก็แต่งตัวแบบชาตินั้น

หมาก รุกในไทยมีหลักฐานการพบตัวหมากรุกสังคโลก ดินเผาเคลือบเขียว ศิลปะสุโขทัย แสดงว่า อย่างน้อยที่สุด หมากรุกไทยมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย

ถึงสมัย อยุธยามีหลักฐานการเล่นหมากรุกว่า แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ พระราชพงศาวดาร กล่าวว่า เมื่อทรงพระประชวรหนัก พระราชทานราชสมบัติแก่เจ้าฟ้าอภัย พระราชบุตร พระมหาอุปราชไม่ชอบพระทัย อากับหลานก็ต้องรบกัน

พงศาวดารกล่าวว่า เจ้าฟ้าอภัยกับเจ้าฟ้าบรเมศร รบแพ้หนีไปซ่อนอยู่ในป่าอ้อพงแขม ทหารฝ่ายพระมหาอุปราชตามไปพบ "เห็นพระราชบุตรเจ้าทั้งสอง เอาดินมาปั้นเป็นตัวหมากรุกเล่นกันอยู่"

ส.พลายน้อยกล่าวว่า หลักฐานชิ้นนี้แสดงว่า การเล่นหมากรุก เล่นกันแบบขึ้นหน้า ขึ้นตา ในราชสำนักสมัยอยุธยาแล้ว.

บาราย

Credit: //www.thairath.co.th/content/pol/15764

Create Date : 03 กรกฎาคม 2552

Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 8:15:12 น.

0 comments

Counter : 2358 Pageviews.