Kross (เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง~
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 

[เกร็ดความรู้] มิโกะ (Miko): หญิงสาวพรมจรรย์ในชุดขาวแดง (1)

อนึ่งออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่คนเขียนบทความนี้ แต่เห็นมี Entry 2 อันที่เขียนเรื่องมิโกะไว้ได้ละเอียดดีมาก เลยเอามาเรียบเรียงเขียนใหม่ เพื่อแชร์ให้ทุกคนได้เห็นๆกัน เพราะสายมิโกะ (M) นี่ก็จัดเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันพอสมควรทีเดียวในการ์ตูน/เกมเรื่องต่างๆ แม้จะเป็นสีสันของเกมด้านมืดอยู่บ่อยๆก็ตามที



========================================

มิโกะหญิงสาวพรมจรรย์ในชุดขาวแดง ผู้ปกปักษ์รักษาวัฒนธรรม!!



ตามวิถีแห่งชินโต วิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น "ชินโต" เป็นศาสนาหรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาตราบจนทุกวันนี้ เนื่องจากว่ามันไม่มีองค์ประกอบที่จำเป็นของศาสนา อาทิ คำสอน คัมภีร์ องค์กร หรือนักบวช หากพูดถึงชินโตโดยทั่วๆไปแล้ว จะหมายถึง "พระเจ้าในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาที่มีรากฐานมาจากจิตวิญญาณและมีการพัฒนารูปแบบขึ้นมา"



ชินโตนั้นไม่ได้เป็นความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้า จิตวิญญาณ หรือพิธีกรรมที่สือบทอดกันมาเท่านั้น แต่ชินโตยังหมายรวมถึง ภูมิปัญญามากมายในการดำรงชีวิติและวิธีคิดที่ได้สืบถอดกันมาของคนญี่ปุ่น ซึ่งคนญี่ปุ่นสมัยนี้ อาจจะบอกว่าชีวิตประจำวันของตัวเองไม่เกี่ยวของกับชินโต แต่พวกเขาก็ยังไปวัดในวันปีไหม่ ร่วมงานเทศกาลของศาลเจ้า ขอพรเพื่อให้สอบผ่าน พาเด็กไปศาลเจ้าในเทศกาล หรือแม้แต่พิธีแต่งงานก็ยังนิยมแต่งานตามแบบชินโต



นั่นก็เพราะเดิมทีชินโตมีรากฐานมาจากการบูชาเทพเจ้าที่เป็นความเชื่อดั้งเดิมของญี่ปุ่น ได้แก่เทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว เทพเจ้าแห่งดิน เทพเจ้าบรรพบุรุษ บางครั้งก็เรียกกว่า อุจิงะมิ (เทพเจ้าผู้คุ้มครองดูแลรักษาบ้านหรือเผ่า) เทพเจ้าแห่งงานพิธีกรรมมีมากมายหลายประเภท เรียกว่า ยะโอะโยะโรซึ โนะ คะมิ



ชินโตในระยะแรกนั้น ไม่มีการสร้างศาลเจ้า จนถึงศตวรรษที่ 3 , 4 เมื่อรัฐบาลยามาโตะ รวบรวมญี่ปุ่น จัดตั้งเป็นประเทศได้แล้ว จึงมีการสร้างศาลเจ้า และทำให้ชินโตถูกแบ่งออกเป็น 2 ระดับคือ อะมะทสึ-คามิ (เทพเจ้าแห่งรัฐบาลยะมะโตะ มีจักรพรรดิ์เป็นสาวกสูงสุดและมีฐานะเหนือกว่าโคะคุทสึ-คามิ) และ โคะคุทสึ-คามิ (เทพเจ้าทั่วไป) ซึ่งความเกี่ยวของระหว่างเทพนิยายต่าง ๆ นั้น ได้ถูกรวบรวมไว้ใน ไคะจิคิ และ นิฮนโชขิ





คำสอนอันแรกของชินโตได้ปรากฎขึ้นในกลางสมัยเฮอัน คือ ฮนจิสุยจะขุ ที่ได้ผนวกเอาคำสอนของนิกาย เทนได และนิกาย ชินเง็น เข้าไว้ด้วยกัน มีการรวมเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ากับเทพเจ้าที่มีมาตั้งแต่ สม้ยเฮฮันมาแยกเป็นทฤษฎี ให้ความสำคัญกับพระพุทธเจ้าเป็นหลัก และเทพเจ้าเป็นรอง โดยกล่าวว่า เทพเจ้าต่าง ๆ ในญี่ปุ่นล้วนเป็นปางหนึ่งของพระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ที่เสด็จลงมาโปรดนั่นเอง จากสมัยกลางถึงสมัยไหม่ กลุ่มนิกาย ช่น อิเสะ (Ise) , โยชิดะ(Yoshida) , ฟุคโค(Fukkou) ได้สร้างทฤษฎีที่เน้นความเป็นอิสระของชินโต เมื่อเข้าสู่สมัยเมจิ ได้มีการทำให้คำสอนกับพิธีกรรมของศาลเจ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยยึดถึอพิธีกรรมของพระราชวงศ์เป็นหลัก นักบวชของชินโต มีหน้าที่ปฏิบัติพิธีกรรมเท่านั้น ส่วนประชาชนทุกคนถือเป็นสาวก กลายเป็น คกคะชินโต (Kokka Shintou หรือ ชินโตที่เป็นของรัฐ)



ในปัจจุบันชินโตนั้น มีกลุ่มนิกายมากมายหลายร้อยกลุ่ม อาทิ คนโคเคียว (Kokkoukyou), โอโมะโตะเคียว (Oomotokyou), มิโซงิเคียว (Mizogikyou) ส่วนชินโตในระดับท้องถิ่น คือ การนับถือเทพเจ้าแห่งท้องทุ่ง เทพแห่งเตา หรือเทพเจ้าริมทางของผู้คน และครอบครัวซึ่งจะเกี่ยวโยงกับขนบธรรมเนียมการดำเนินชีวิตของมนุษย์และในทุกวันนี้ก็ยังคงหลงเหลืออยู่ตามชนบท





-----------------------------------------------------------------
Miko: The Extreme Energy - พลังสูงสุดแห่งมิโกะ
-----------------------------------------------------------------



มิโกะ (Miko) เป็น Maiden (สตรี) ซึ่งไม่สามารถหาคำเป็นภาษาไทยแทนได้โดยตรง แม้กระทั่งภาษาอังกฤษก็ไม่มีคำที่แทนคำนี้ได้ 100% นะครับ ถ้าจะให้นึกภาพใกล้เคียงที่สุด ขอให้นึกถึงซิสเตอร์ของศาสนาคริสต์ครับ น่าจะใกล้เคียงกัน) ของศาสนาชินโตซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคขุนนางของญี่ปุ่น โดยคำว่ามิโกะนี้สามารถเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์




ในสมัยโบราณนั้น ผู้คนเชื่อกันว่ามิโกะเป็นหญิงสาวที่เข้าสู่สภาวะเคลิ้มฝัน (Trance/ อีกนัยนึงก็คล้ายกับการเข้าทรงในบ้านเรา) แล้วได้รับคำหรือเป็นผู้ถ่ายทอดคำสั่งสอน (พระวัจจนะ)จากพระเจ้ามาสั่งสอนมนุษย์ ต่อมา มิโกะได้เปลี่ยนหน้าที่ไปเป็นผู้กระทำพิธีกรรมต่างๆ ในศาสนาชินโต ซึ่งรวมไปถึงร่ายรำที่ใช้ในพิธีกรรม (Miko-mai/รำถวาย) รวมไปถึงการเป็นผู้ช่วยของนักบวชในพิธีแต่งงานของศาสนาชินโตด้วย


มาถึงในปัจจุบันนี้ มิโกะก็ยังคงเป็นผู้ทำหน้าที่รำถวายในพิธีกรรมต่างๆ ประกอบพิธีกรรม ช่วยเหลืองานของศาลเจ้า รวมไปถึงการให้คำพยากรณ์อนาคตด้วย มีขนบธรรมเนียมที่สืบทอดกันมาว่ามิโกะจะต้องเป็นสาวบริสุทธิ์เท่านั้น จึงพบว่าหญิงสาวหลายคนตัดสินใจยุติการเป็นมิโกะเมื่อพบรักและแต่งงานเป็นที่เรียบร้อย (หากเทียบกับเมืองไทยผมนึกถึงพระราชพิธีพืชมงคล หรือการทำนายของโหรพราห์มณ์ต่างๆ)





เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของมิโกะ ประกอบด้ัวย กระโปรงฮากามะ (Hakama - Divided Skirt) สีแดงสด เสื้อสีขาวที่มีแขนเสื้อกว้างเหมือนปีก (ดูรูปเอาเลยจะดีกว่าคำอธิบายนะครับ) แล้วก็ ทาบิ (Tabi) หรือถุงเท้าสีขาวหุ้มข้อเท้าที่แยกนิ้วหัวแม่เท้าออกมาต่างหาก ทั้งหมดนี้ก็เป็นชุดข้างนอกทั้งหมดของมิโกะแล้วล่ะครับ อ้อ บางคนเค้าก็จะใส่ชุดมิโกะนี่ทับลงไปบนกิโมโนอีกชั้นหนึ่งเพื่อความสวยงามและปลอดภัย (เผื่อมันหลุดจะได้เหลือข้างในชุดนึง) ส่วนชุดชั้นในจริงๆ ถ้าจะเอาต้นตำรับก็ต้องใช้ผ้าพันหน้าอกด้วย




กระโปรงฮากามะ นั้นจะเป็นกระโปรงปลายบานและจับจีบเหมือนกระโปรงพลีท (Pleated Skirt) โดยทั่วไปจะผูกฮากามะไว้ที่เอว (โดยใช้เชือกที่มักจะติดอยู่กับฮากามะผูกเป็นปมง่ายๆ) และความยาวก็จะยาวลงมาถึงข้อเท้า ฮากามะนั้นจะจับจีบลึกทั้งหมด 7 จีบด้วยกัน ด้านหน้า 5 จีบ ด้านหลัง 2 จีบ ซึ่ง 7 จีบนั้นก็ใช้แทนจิตวิญญาณที่สำคัญของซามูไร 7 ประการ ซึ่งซามูไรเหล่านี้ก็จะเป็นผู้สวมใส่ฮากามะเหล่านี้ออกรบในสมัยโบราณครับ (อย่างเช่นใน Ryuroni Kenshin ชุดที่เคนชินใส่นั่นก็คือฮากามะนั่นแหละครับ)




เสื้อนั้นก็ไม่มีอะไรมากครับ ลักษณะภายนอกจะคล้ายๆ กับเสื้อยูโด (ผ่าตรงกลางด้านหน้าตลอดตัวไม่มีกระดุม) แต่เนื้อผ้าจะบางกว่า และก็อย่างที่บอกข้างต้นว่าแขนจะกว้างกว่าแขนเสื้อทั่วไป บางตัวนั้นกว้างจนปลิวไสวได้ก็มี (จนหลายคนให้คำนิยามมันว่าเหมือนกับ "ปีก" ของมิโกะเหล่านั้นเลยทีเดียว) เวลาใส่ก็แค่เอาชายเสื้อสองด้านทับกันแบบไขว้แล้วเอาฮากามะทับเท่านั้นก็พอ แล้วก็ไม่ต้องรัดอะไรที่เสื้อครับ ให้รัดที่ฮากามะเส้นเดียว (จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่าตาม H Games หรือการ์ตูนที่มีแฟนเซอร์วิสทั้งหลาย ชุดมิโกะเป็นชุดที่ถอดได้ง่ายที่สุดหรือหลุดได้ง่ายที่สุดก็เพราะเหตุผลนี้ล่ะครับ มันผูกไว้แค่เชือกเส้นเดียวจริงๆ) ถุงเท้าก็ใส่ธรรมดาไม่มีอะไรครับ ทั้งหมดนี่รวมกันก็จะได้ชุดมิโกะรุ่นมาตรฐานแล้วล่ะครับ




แล้วอุปกรณ์เสริมล่ะ ตามเรื่องราวทั้งหลายกล่าวกันว่ามิโกะนั้นมักจะมีความสามารถทางด้านศิลปะป้องกันตัวโดยใช้อาวุธของญี่ปุ่นโบราณอยู่คนละอย่างน้อยหนึ่งแขนง (นึกไม่ออกก็นึกถึงโมโตโกะจาก Love Hina ก็ได้ครับ) ดังนั้นอาวุธญี่ปุ่นโบราณทั้งหลายก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจถ้าจะหาอุปกรณ์เสริม ไม่ว่าจะเป็นธนูยาว (Yumi), มีดสั้น (Tanto), ดาบไม่ว่าจะเป็นดาบคาตานะ (Katana) หรือดาบสั้นวากิซาชิ (Wakizashi) หรือถ้าไม่สนอาวุธแบบกายภาพ พลังเวทย์มนต์ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องรางทั้งหลาย (Ofuda) และที่ขาดไม่ได้อีกก็คือ ไม้ไล่ผี




ตัวอย่างของชุดมิโกะเห็นชัดๆ ที่ปรากฎในอนิเมก็มีอยู่หลากหลาย อาทิเช่น มิโกะจิ้งจอก (หรือจะเรียกว่าจิ้งจอกมิโกะก็คือกัน) สาวน้อยน่ารักอย่างเม่ยหลินใน Yami to Boushi to Hon no Tabibito หรือจะเป็นจิกาเนะจาก Kannaduki no Miko ซึ่งก็ไม่ได้ใส่ฮากามะสีแดง แต่เป็นสีม่วงไปซะงั้น (จริง ๆ แล้ว กระโปรงม่วงเป็นชุดสำหรับผู้ชายแก่ ๆ ใส่กันนะ (ฮา))


-----------------------------------------------------------------
เคล็ดลับน่ารู้นักคอส(เพลย์)
-----------------------------------------------------------------

มาเข้าใจเรื่องไซส์เสื้อผ้ากันก่อนนะครับ ตามมาตรฐานของร้าน Cospa เขา เสื้อผ้าคอสเพลย์สำหรับผู้หญิงทั้งหมดของร้านนี้จะแบ่งเป็นทั้งหมดสี่ขนาด โดยดูจากสัดส่วน (หรือที่รู้จักกันในนามของ B-W-H/อก-เอว-สะโพก นั่นแหละครับ) ของผู้ใส่เป็นหลัก ไล่ตั้งแต่

1)ไซส์ S สำหรับช่วง B:75 - 81cm. W:56 - 61cm. H:82 - 88 cm.
2)ไซส์ M ก็อยู่ในช่วงของ B 81 - 88 cm. W 61 - 66 cm. H 88 - 93 cm.
3)ไซส์ L ก็จะเป็น B 88 - 95 cm. W 66 - 74 cm. H 93 - 98 cm.
4)ไซส์ XL ไซส์ใหญ่สุด B 95 - 103 cm. W 74 - 80 cm. H 98 - 104 cm.

Note: ถ้าจะแปลงเป็นนิ้วตามสัดส่วนไทยก็หารด้วย 2.54 ก็ได้คำตอบครับ (หรือเอาง่ายที่สุด 10 cm. = 4 นิ้วครับ กะคร่าวๆ ได้)



ตัวอย่าง ชุดมิโกะขนาดมาตราฐานเสื้อขาวกระโปรงยาว



ชุดดัดแปลงที่ตัดกระโปรงให้สั้นเน้นความน่ารักน่ารัก


สุดท้ายนี้ ก็มาถึงวิธีใส่ชุดกันละครับ เขาใส่กันแบบเนี๊ย~~




ทีนี้มาลองดูวิธีการใส่ชุด และรายละเอียดจริงๆของเหล่ามิโกะกันมั่ง เพื่อจะมีใครสนใจคอสเพลย์กันแบบละเอียดสุดๆ




ชุดมิโกะ(มิโกะจูโซะคุ/ 巫女装束)


ในยุคปัจจบันที่เป็นนิยมในขณะนี้นั้น หลัก ๆ แล้วจะประกอบด้วยส่วนบนเป็น เสื้อชั้นในญี่ปุ่นจูบัง 襦袢, เสื้อขาวฮาคุริ 白衣 และส่วนล่าง กระโปรงแดงฮิบาคามะ 緋袴 ถุงเท้าทาบิ (足袋) และ รองเท้าแตะโซวริ 草履 ก็เป็นอันครบชุด นอกจากนั้นก็ยังมีเสื้อคลุมจิฮายะ 千早 สำหรับสวมทับชุดอีกทีเวลาทำพิธี หรือออกไปข้างนอก ผ้าที่ใช้ในการตัดเย็บชุดมิโกะ ก็ใช้แบบเดียวกันดับชุดกิโมโน (着物) ครับ


**ชุดมิโกะ เซทเล็กใส่แล้วแปลงร่างเป็นมิโกะ(ไม่แท้)ได้ทันทีหาซื้อได้ที่ญี่ปุ่นตามแรงศัทธา**


สำหรับฮิบาคามะเป็นกระโปรงแดงมีสายยาวออกมาด้านข้าง จะมีรอยประสีขาวตรงส่วนแถบเอว วิธีแต่งก็ไม่ยุ่งยากเหมือนกับกิโมโนแบบเต็มยศ ขั้นแรกจะสวมชุดก็เสื้อในจูบังก่อน (แต่มิโกะแท้ ๆ ต้องไม่ใส่ชั้นในนะ (ฮา)) แล้วทับด้วยเสื้อขาวฮาคุริรัดเอวด้วยเชื่อกผ้า แล้วสวมยกระโปรงฮะกะมะ ถุงเท้า รองเท้า ตามลำดับ (วิธีใส่โดยละเอียดไว้จะอธิบายทีหลังนะ) สำหรับเสื้อคลุมฮาจิยะนั้นส่วนใหญ่จะใส่เฉพาะตอนที่ทำพิธีกรรมทางศาสนาหรือ การร่ายรำบูชาเทพ เป็นเสื้อคลุมสีขาวล้วน บ้างก็ประดับด้วยลายนกกระสาหรือลายเถาวัลย์



**** เสื้อชั้นใน , เสื้อขาวฮาคุริ, เสื้อคลุมฮาจิยะ , กระโปรงฮิบากะเมะ , ถุงเท้าง่ามทาบิ และ รองเท้าแตะโซว์ริ ***



เสื้อชั้นในญี่ปุ่นจูบัง 襦袢

จูบังเป็นหนึ่งในชุดชั้นในญี่ป่น เขียนด้วยคันจิแต่มาจากเสียงของภาษาโปรตุเกต แต่เดิมนั้นคนญี่ปุ่นยังไม่ได้ใส่ชั้นใน เริ่มนิยมใส่กันเมื่อสมัยเอโดะนี้เอง ก่อนหน้านั้นส่วนใหญ่จะใส่กิโมโนที่เป็นชิ้นเดียวหรือไม่ก็ทับกันหนาหลาย ๆ ชั้นแทน มี 3 ประเภทคือ ฮาดะจูบัง 肌襦袢 , นากะจูบัง 長襦袢 และ ฮันจูบัง 半襦袢



ซึ่งก็แบ่งประเภทกันตามวิธีใช้งาน 肌襦袢 (จูบังแนบเนื้อ) จะใช้ใส่ข้างในสุดเพื่อสัมผัสกับผิว , 長襦袢 (จูบังยาว) นั้นจะใช้ใส่กั้นระหว่างกิโมโนและจูบังแนบเนื้อ ซึ่งลักษณะก็เหมือนกับกิโมโนแต่ใช้ผ้าที่บางและโปร่งกว่า ปัจจุบันใช้เป็นชั้นใน แต่ในต้นยุคเอโดะนั้นทำมาเพื่อชุดลำลองซะมากกว่า เพราะมันถูกทำจากแนวคิดของนางคณิกาในแถบยานโคมแดงเพื่อใช้ใส่ปกคลุมร่างกายได้ทันที แต่กลับเป็นที่นิยมสำหรับพ่อค้า ขุนนาง และเหล่านักรบขึ้นเรื่อย ๆ


** 半襦袢 (เสื้อชั้นในจูบังครึ่งตัว) **

ส่วน 半襦袢 (จูบังครึ่ง) นั้นจะมีขนาดสั้นกว่าจูบังยาวครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังทำการฟอกขาวทำให้ซักได้ง่าย ในสมัยก่อนก็ใช้เป็นชั้นในเหมือนกับจูบังอื่น ๆ แต่ก็ถูกประยุกษ์เป็นเสื้อที่ใส่พร้อมกับกางเกงอื่น ๆ เช่น กางเกง ステテコ, ผ้าถุง 裾除け จนกลายเป็นชุดอีกแบบหนึ่ง ก่อนยุคเอโดะที่ไม่มีชั้นในนั้น บางคนอาจจะอยากรู้ว่าเขาใส่อะไรกันเป็นชั้นในละ คำตอบคือ ผ้าเตี่ยวโคชิมาคิ 腰巻 ไงละ



เสื้อขาวฮาคุอิ/เบียคุเอะ ( 白衣 )

เสื้อ ขาวฮาคุอิ จัดเป็นเป็นกิโมโนชนิดหนึ่ง รูปแบบการตัดเย็บโดยพื้นฐานเหมือนกับชุดกิโมโน แต่มีลักษณะเด่นตรงที่มีสีขาวล้วน และมีช่องระบายอากาศ มิยัตซึงุระ 身八つ口 ที่บริเวณสีข้างและชายเสื้อมีขนาดเท่าฝ่ามือเพื่อทำให้ล้วง.. เฮ้ยระบายความร้อนในตัวได้ดี เวลามิโกะยกแขนขึ้นก็สามารถทำให้ตาวิเศษมองไปเห็นชั้นในได้ เนื้อผ้าที่ใช้ตัดเย็บในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมฝ้ายหรือ ขนสัตว์ หรือ โพลีเอสเตอร์ล้วน ส่วนผ้าที่แพงที่สุดจะเป็นผ้าไหม 100% เขาว่าใส่แล้วจะทำให้อกตูมกว่าปกติด้วยนะ (ฮา)


นอกจากนี้ก็มีการตัดเย็บในลายละเอียดแตกต่างจากปกติบ้าง เช่น แยกแขนออกจากลำตัวแล้วเย็บด้วยผ้าแดง หรือสอดผ้าทำลายประที่ชายเสื้อ




คอปกเสื้อมิโกะคาเคเอริ ( 掛襟 )


เป็นปกเสื้อสีแดงหรือน้ำเงิน ใช้สำหรับตกแต่งบริเวณส่วนคอ แล้วก็สวมทับด้วยฮาคุอิ เพื่อความโมเอะ...และ สวยงาม แต่บางชุดก็เย็บติดกับปกเสื้อไปเลยเพื่อความสะดวก


Entry นี่ก็ขอจบตรงนี้ก่อนละกันครับ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่าน และขอขอบคุณต้นฉบับบทความโดยคุณ

Mikamura Kaoru (//insitecartoon.no-ip.com/e4/E4_Qans.asp?id=7150)

และ
คุณ Kanjiz (//kanjiz.exteen.com/20050220/entry) ในฐานะบทความต้นฉบับไว้ด้วยครับ




ทิ้งท้ายกับ op miko อนิเมเรื่องแรกที่ดึงผมให้มาสนใจสายนี้จริงๆนะเนี่ย (ว่าไปก็เกือบสิบปีแล้วแฮะ คิดถึงจิคาเนะ กะฮิเมโกะเหมือนกัน )




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2554
1 comments
Last Update : 9 สิงหาคม 2554 21:58:44 น.
Counter : 24517 Pageviews.

 

ดูยุ่งยากอยู่เหมือนกัน รายละเอียดเยอะใช่เล่น แต่มิโกะตัวจริงไม่น่ารักเท่ามิโกะคอสเพลย์หรอก

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 31 สิงหาคม 2554 14:49:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Kross_ISC
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]




Blog จับฉ่ายของ Kross ครับ เทคโนโลยี, การทหาร,Military Expert, การ์ตูน, Anime, Manga, Review, Preview, Game, Bishojo Game, Infinite Stratos (IS), Hidan no Aria, Light Novel (LN)

ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง Twitter ที่ @PrameKross
New Comments
Friends' blogs
[Add Kross_ISC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.