ลำไส้อักเสบ(gastroenteritis)-อาหารเป็นพิษ(food poisoning)
รู้โรคตามอาการ
เป็นเรื่องที่น่าสนใจ บางท่านยังสับสนในภาวะสองอย่างนี้ คือลำไส้อักเสบ หรืออาหารเป็นพิษ และเป็นภาวะที่พบบ่อยมาก เกือบจะบ่อยที่สุดในเมืองท่องเที่ยวและชายทะเล
ลำไส้อักเสบและอาหารเป็นพิษต่างกันอย่างไร
ส่วนใหญ่ ชาวบ้านจะทราบเกี่ยวกับอาหารเป็นพิษและวิธีปฏิบัติตนมากกว่าลำไส้อักเสบ อาหารเป็นพิษ ชื่อก็บอกคืออาหารที่มีพิษ อาจจากแบคทีเรีย ปนเปื้อน ส่วนลำไส้อักเสบ หมายถึงการติดเชื้อจากแบคทีเรียในลำไส้
อาหารเป็นพิษ (Food poisoning) อาหารเป็นพิษ หมายถึง อาการท้องเดินเนื่องจากการกินอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อน อาจเป็นสารพิษที่เกิดจาดเชื้อโรค หรือสารเคมี (เช่น ตะกั่ว ยาฆ่าแมลง ฯลฯ) หรือ พืชพิษ (เช่น เห็ดพิษ กลอย ฯลฯ) โดยทั่วไปเรามักหมายถึงอาการท้องเดินที่เกิดจากสารพิษ จากเชื้อโรค เพราะเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยกว่าสาเหตุอื่นๆ ในที่นี้จะได้กล่าวถึงอาหารเป็นพิษจากเชื้อสแตฟฟีโลค็อกคัส, อาหารเป็นพิษจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัส, ยังมีสารอาหารเป็นพิษจากเชื้อซัลโมเนลลา และอาหารเป็นพิษจากเชื้อคลอสตริเดียมซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน มักพบว่าในหมู่คนที่กินอาหารร่วมกัน จะมีอาการพร้อมกันหลายคน ซึ่งอาจมีอาการมากน้อยแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคลและปริมาณที่กิน ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดท้อง อาเจียน ถ่ายเป็นน้ำบ่อยครั้ง ถ้าเป็นรุนแรงอาจทำให้มีภาวะขาดน้ำเป็นอันตรายได้ ถ้าเกิดจากสารเคมีหรือพืชพิษบางชนิด อาจทำให้เกิดพิษต่อระบบประสาท เช่น ชัก หมดสติ รูม่านตาหดเล็ก เป็นต้น อาจร้ายถึงตายได้ การรักษา 1. ให้การรักษาแบบอาการท้องเดินทั่วๆไป 2. ถ้ามีอาการทางระบบประสาท (เช่น ชัก หมดสติ) หรือสงสัยเกิดจากยาฆ่าแมลง สารตะกั่ว อื่นๆ ควรให้น้ำเกลือ แล้วรีบส่งโรงพยาบาลด่วน มักจะต้องทำการล้างท้องด้วย และให้ยาต้านพิษ 3. ถ้าเกิดจากเห็ดพิษ ซึ่งมีอยู่หลายชนิด ทำให้เกิดอาการมากน้อยแตกต่างกันไป ถ้าเป็นชนิดไม่รุนแรงก็ให้ทำการรักษาดังในข้อ 1. แต่ถ้ามีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย ให้ฉีดอะโทรพีน และให้น้ำเกลือ แล้วส่งโรงพยาบาลด่วน
ในที่นี้จะได้กล่าวถึงอาหารเป็นพิษ เนื่องจากสารพิษจากเชื้อโรคต่างๆ อาหารเป็นพิษจากเชื้อสแตฟฟีโลค็อกคัส (Staphylococcal food poisoning) สแตฟฟีโลค็อกคัสออเรียส (Staphylococcus aureus) เป็นแบคทีเรียตัวเดียวกันที่ทำให้เกิดหนองฝีตามผิวหนัง อาจพบปนเปื้อนอยู่ในอาหาร เช่น พวกสลัด ขนมจีน ราดหน้า น้ำปลาหวาน ซุป อาหารประเภทเนื้อ ฯลฯ เชื้อชนิดนี้จะปล่อยพิษ (toxin) ออกมา ซึ่งไม่ถูกทำลายด้วยความร้อน เมื่อคนเรากินอาหารนี้ (ไม่ว่าจะต้มสุกหรือไม่ก็ตาม) เข้าไป หลังจากนั้นอีก 2-4 ชั่วโมงก็เกิดอาการ บางครั้งอาจพบพร้อมๆ กันหลายคน เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป โรคนี้ชาวบ้านเรียกว่า โรคลมป่วง มักจะรักษากันเอง ถ้าไม่มากก็หายได้เอง อาการ เกิดทันทีทันใดด้วยอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดบิดในท้องเป็นพักๆ และถ่ายเป็นน้ำ ส่วนมากจะไม่มีไข้ อาการมักจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน สิ่งตรวจพบ อาจมีภาวะขาดน้ำ อาการแทรกซ้อน ภาวะขาดน้ำรุนแรง การรักษา 1. ถ้าอาการไม่รุนแรง ให้การักษาแบบอาการท้องเดินทั่วไป (32) ก็หายได้เอง 2. ถ้ามีอาการถ่ายท้องหรืออาเจียนรุนแรงหรือมีภาวะขาดน้ำควรส่งโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ และควรส่งอุจจาระตรวจหาเชื้อ อาจมีสาเหตุจากเชื้อชนิดอื่น 3. ยาปฏิชีวนะไม่จำเป็นต้องให้ เพราะเกิดจากพิษของเชื้อโรคไม่ใช่ตัวเชื้อ อาหารเป็นพิษจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัส (Streptococcal food poisoning) สเตรปโตค็อกคัส (streptococcus) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองฝีได้เช่นเดียวกับเชื้อ สแตฟฟีโลค็อกคัส อาจพบปนเปื้อนในอาหารพวกเนื้อ, เป็ด, ไก่, ปู ฯลฯ เชื้อจะปล่อยพิษปนกับอาหาร เมื่อคนกินเข้าไป หลังจากนั้นอีก 4-12 ชั่วโมง ก็ทำให้เกิดอาหาร เป็นภาวะที่พบได้บ่อยเช่นเดียวกัน อาการ เกิดขึ้นทันที่ทันใดด้วยอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดบิดในท้องเป็นพักๆ และถ่ายเป็นน้ำ ผู้ป่วยป่วยมักจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัวคล้ายไข้หวัดใหญ่ร่วมด้วย อาการมักจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน สิ่งตรวจพบ ไข้ อาจมีภาวะขาดน้ำ
การรักษา คล้ายๆกับเชื้อสแตฟฟิลโลคอคคัส
ลำไส้อักเสบ วันนี้โควต้าหมดคงต้องอ่านต่อเรื่องบิด บิดมีตัว อหิวาห์ ครับ
Create Date : 01 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 1 มิถุนายน 2550 4:16:19 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3052 Pageviews. |
|
|
|
โดย: aoy IP: 203.148.186.198 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:54:00 น. |
|
|
|
|
|
แล้วได้ความรู้มากเลยคะ