::KOPPOETS SOCIETY::
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
9 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
ต้มนิดนกผู้ยิ่งใหญ่

คุณอาจสงสัยว่า “ต้มนิดนก” นี้คืออะไร นังนิดนกเป็นใคร ทำไมต้องต้ม
ต้มแล้วจะกินได้มั้ย ฯลฯ ดิชั้นขออธิบายความหมายของคำนามนี้ก่อนแล้วกันค่ะ


“ต้มนิดนก” คือคำที่เพื่อน (หรือรุ่นน้องนี่แหละ) เรียกต้มกะหล่ำปลีสูตรของครอบครัวดิชั้น ไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากความอร่อย หรือเพื่อบัญญัติเอาไว้กันลืม ครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องกินอีกแล้วก็ไม่ทราบได้ ชื่อนี้ถูกเรียกขึ้นสมัยที่ดิชั้นได้ไปทำอาหารให้กับชาวคณะได้รับประทานในช่วงละคอนเวทีของคณะ เป็นที่เลื่องลือระบือไกล


ความดีความชอบทั้งหมด คงต้องยกให้คุณแม่แต่เพียงผู้เดียว


เอาล่ะ และวันนี้ก็ช่างเป็นฤกษ์ดีน่าปรีดา เพราะตัวฉันเองก็อยู่ในช่วงกินเจ และเล็งเห็นแล้วว่า ต้มเจที่ไหนก็อร่อยสู้เราทำกินเองไม่ได้ ก็เลยไปหอบกะหล่ำปลีหัวโตๆ มาจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านฝั่งธน และตั้งใจว่า จะทำ “ต้มนิดนก”ประทังชีวิตตลอดช่วงเจนี้


ความเลว ขั้นที่1
โอเค ตอนนี้เริ่มเย็นละ ฝนก็ตกอยู่ไหวๆ ได้เวลาลงมือทำต้มนิดนกเพื่อให้ทันกินตอนค่ำๆ ฉันก็ผละจากการอ่านหนังสือ หยิบผักมาล้าง ขั้นต่อไปก็คือหั่นกะหล่ำปลี ซึ่งสูตรของแม่ฉันเนี่ยจะไม่หั่นเป็นหัวโตๆ เหมือนที่ร้านชอบทำกัน แต่แม่จะหั่นให้เล็กลงกว่านั้น เพื่อเวลาต้มมันจะได้เละจนลืมไปเลยว่ามันเคยเป็นกะหล่ำปลี



อ๊ะ! ว่าแต่ “มีด” อยู่ไหน


หลังจากค้นหาทั้งห้องส่ง ก็ไม่พบมีดเลยซักเล่ม มีแต่มีดปอกเปลือกที่ไร้สมรรถภาพใดๆ เอ่า…แล้วยังไงวะ ยังไม่ได้เริ่มก็จบซะแล้ว แต่ไม่ได้ ต้องสู้ เพื่อต้มนิดนกผู้ยิ่งใหญ่ ดิชั้นก็เลยคว้ากุญแจห้อง และร่ม ลงไปที่ห้องอาหารด้านล่าง ถามแม่ครัวว่ามีมีดให้ยืมมั้ย พี่เค้าก็ใจดีนะ บอกว่า “พี่มีเล่มเดียวอ่ะน้อง ต้องใช้หั่นของ” โอเค ซึ้งค่ะ เป้าหมายต่อไปคือร้านค้าแถวๆ นั้น ก็เดินกางร่มลุยฝนไปสิ แต่คงเป็นพระเจ้าท่านสมเพช ก็เลยแอบโยนมีดเล่มละ 29 บาทลงไปที่ร้านค้าแห่งนั้น และฉันก็คว้ามันมาเป็นเจ้าของได้


เรียบร้อย ไปหนึ่งเปราะ!


ความเลวขั้นที่2

 


เมื่อหั่นผักตามสไตล์คุณนาย ปุก (ชื่อแม่) เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือการผัด วิธีการก็แค่เอาน้ำมันลงกระทะ เอาผักลง ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาล ผัดๆ ให้หอมฉุยๆ จากนั้นก็ทิ้งไว้ให้ผักสลดจนใกล้ร้องไห้ แล้วก็เอาผักที่ชุ่มๆ น้ำนั้นลงหม้อ…


แล้วหม้อ…หม้ออยู่ไหน?!?


ฉันคงประมาทเกินไป จริงๆ ที่คิดว่าที่ห้องมีหม้อไซส์ใหญ่ที่สามารถรองรับต้มนิดนกได้ คือแต่ก่อนมันมี แต่หลังจากย้ายห้องมันก็ไม่มีแล้ว เหลือแต่หม้อไซส์สำหรับต้มมาม่า



เอาวะ! ก็เริ่มทำไปแล้ว จะให้ทิ้งก็กะไรอยู่ หม้อเล็กก็หม้อเล็ก


หลังจากนั้นขั้นตอนทุกอย่าง ก็ดำเนินไปโดยราบรื่น สิ่งที่ต่างจากการทำต้มนิดนกครั้งอื่นๆ ก็คือ ฉันต้องพยายามรอให้ผักเหี่ยวที่สุดก่อนแล้วค่อยย้ายผักมาลงหม้อ (จะได้ไม่เปลืองเนื้อที่) ส่วนน้ำก็ไม่ต้องใส่เพิ่มแม่งละ แถมยังต้องตักน้ำออกอีก (เสียดายมาก น้ำดีๆ ทั้งนั้น) เพื่อให้ปริมาตรวัตถุภายในหม้อยังสามารถอยู่ได้โดยไม่ล้น


สุดท้าย มื้อค่ำวันนี้ฉันก็มี “ต้มนิดนกเจ” ในสเกลที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยทำมาทั้งชีวิต 5555555


ปล. ฉันเคยมีประสบการณ์ร้ายๆ จากการทำ “ต้มนิดนก” มาแล้ว 1 ครั้ง นั่นคือการเผลอหลับไปขณะที่เปิดเตาเคี่ยวมันเอาไว้ ส่งผลให้ “ไหม้ทั้งหม้อ”น่องไก่ชิ้นโตๆ ห้าชิ้นในหม้อได้จากฉันไปตลอดกาล เพราะว่ามันเหม็นกลิ่นไหม้เหลือเกิน ดังนั้น ครั้งนี้ฉันถือว่าเบาะๆ





Create Date : 09 ตุลาคม 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 21:03:16 น. 2 comments
Counter : 886 Pageviews.

 
มา เยี่ยม ก้าบบบบบ


โดย: dogamania วันที่: 11 ตุลาคม 2553 เวลา:14:10:33 น.  

 
อยากกินต้มนิดนกของพี่นิดนก :)


โดย: ซิดนีย์~sydney วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:17:43:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ยิ่งยง นั่งยองยอง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ยิ่งยง นั่งยองยอง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.