Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
..Memory In Love: บทที่13..


**************************************
Memory In Love: ด้วยรักและความทรงจำ
บทที่ 13 ............................เพียงคำว่า ’รัก’

**************************************








Create Date : 25 สิงหาคม 2549
Last Update : 25 สิงหาคม 2549 17:56:49 น. 9 comments
Counter : 564 Pageviews.

 
ที่หน้าบ้านพักของแผนกวางระบบ กับการตลาด....
“ตูน...........ตูน เสร็จรึยัง” ปฏิมาร้องเรียกสาวน้อยที่ยังไม่ยอมออกมาจากห้องพัก
“เสร็จแล้วๆ พี่ตุ้มนี่เร่งจัง” การ์ตูนวิ่งออกมาจากห้องพัก ด้วยชุดสบายๆ ขาสั้น เสื้อยืดสายเดี่ยว สำหรับลงไปเล่นน้ำทะเล
“สองคนนี่ มาถึงก็จะลงทะเลเลยหรือจ๊ะ” คุณนิรวรรณ ที่เดินมาตรวจความเรียบร้อย กล่าวยิ้มๆ กับสองสาว
“ใครว่าล่ะพี่น้อย........” ปฏิมาหันมาตอบคุณนิรวรรณสีหน้ายิ้มๆ
“ก็พี่เห็นอยู่ว่าน้องๆ เตรียมตัวลงไปเล่นน้ำกัน” คุณนิรวรรณมองสำรวจสองสาวอีกรอบ แล้วยืนยันว่าเธอเข้าใจแบบนั้น
“ไม่ใช่เราสองคนแค่นี้สักหน่อย โน้นด้วยตะหาก” ปฏิมาชี้มือไปยังชายหาดที่มีพรพรรณ และเมราณีที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
“แหม สาวๆ แผนกนี้นิ เหมือนกันหมดเลยนะคะ” คุณนิรวรรณมองตามมือของปฏิมา แล้วต้องพูดยิ้มๆ ออกมา
“พี่น้อยลงไปเล่นกับพวกเรามั้ยคะ” การ์ตูนเดินมาจับมือคุณนิรวรรณพร้อมกล่าวชักชวน
“ไม่ละค่ะ.........พี่ต้องเตรียมงานอีกหลายเรื่อง เชิญน้องๆ ตามสบายเถอะ....อืม แล้วอย่าลืมละ บ่าย 2 เรามีนัดกันที่บ้านสันทนาการนะคะ” คุณนิรวรรณกล่าวปฏิเสธอย่างเสียดาย พร้อมกับแจ้งตารางกิจกรรมกับสองสาว

“คร๊าบป๋ม ตุ้มจะไม่ให้ทุกคนผิดนัดเด็ดขาด” ปฏิมายกมือขึ้นตะแบะให้คุณนิรวรรณ
“แหม น้องตุ้มนี่” คุณนิรวรรณมองท่าทางขี้เล่นของปฏิมาแล้วต้องขมวดคิ้ว แต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“พวกเราไปกันเถอะตูน...” ปฏิมาหันมาพยักหน้าให้การ์ตูน ก่อนจะวิ่งลงไปยังชายหาดที่มีพรพรรณ และเมราณีรออยู่
“ไปก่อนนะคะพี่น้อย” การ์ตูนบอกกับคุณนิรวรรณ ก่อนที่จะวิ่งตามปฏิมาลงไปยังชายหาด

คุณนิรวรรณมองตามสาวๆ ที่วิ่งลงไปเล่นน้ำ แล้วให้ยิ้มออกมา
“สาวๆ นี่พลังล้นเหลือจริงๆ” คุณนิรวรรณพูดออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านพัก

ปัญญาที่นั่งเล่นอยู่ตรงเก้าอี้ตรงระเบียงหน้าบ้านพัก หันมองมาทางคุณนิรวรรณที่กำลังเดินตรงมาหาเค้า
“แหม คุณปุ่นไม่ลงไปเล่นน้ำกับสาวๆ หรือคะ” คุณนิรวรรณกล่าวสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อเดินมายืนข้างๆ ปัญญา
“มีอะไรรึป่าวครับพี่น้อย” ปัญญาหันมอง และทักทายคนที่กำลังยืนข้างๆ เค้า
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่แค่จะมาบอกตารางกิจกรรมให้ทราบ พอดีพี่เห็นสาวๆ เค้าลงไปเล่นน้ำกัน คุณปุ่นไม่ลงไปเล่นด้วยหรือคะ” คุณนิรวรรณนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ชายหนุ่ม

“ไม่ละครับ แดดยังร้อนอยู่เลย” ปัญญาขยับแว่นตาเล็กน้อย แล้วหันมาส่งยิ้มให้คุณนิรวรรณ
“แหม หนุ่มๆ กับกลัวแดด แต่สาวๆ ไม่กลัวกันเลยนะคะ” คุณนิรวรรณพูดแกมแซวชายหนุ่ม
“พวกนั้นเค้าอยากเล่นน้ำกันมานานแล้วครับ” ปัญญามองกลับลงไปยังชายหาดตรงจุดที่สาวๆ กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
“อืม แล้วนี่คุณณุ กับน้องปลาจะมาถึงกี่โมงคะ” คุณนิรวรรณกล่าวซักถามถึงพิษณุ และพาสนา
“เมื่อสักครู่คุณณุโทรมาบอกว่า อีกไม่เกิน ครึ่งชั่วโมง คงมาถึงครับ” ปัญญาตอบสีหน้ายิ้มๆ
“ดีจังค่ะ....นี่ก็แสดงว่าน้องปลาไม่ได้เป็นอะไรมากใช่มั้ยคะ” คุณนิรวรรณมีอาการเป็นห่วงพาสนาจนเห็นได้ชัด
“ครับ เห็นว่ามีไข้นิดหน่อย กับอ่อนเพลีย คงเพราะทำงานติดต่อกันหลายวันหน่ะครับ” ปัญญาตอบสีหน้าเรียบ
“ค่ะ....งั้นพี่ไปก่อนนะคะ จะไปแจ้งตารางกิจกรรมกับแผนกการตลาดเค้าสักหน่อย” คุณนิรวรรณลุกขึ้นจากเก้าอี้ พร้อมกล่าวลา
“ครับพี่” ปัญญายิ้มให้สาวหัวหน้าแผนกบัญชี

เมื่อคุณนิรวรรณเดินออกไปจากระเบียง ปัญญาจึงเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้...........สองตาภายใต้แว่นตาดำที่สวมใส่ กำลังจ้องมองไปยังกลุ่มสาวๆ ที่เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
.
.
.
รถยนต์สีดำ ได้เลี้ยวตามป้ายบอกทาง......

เปลือกตาที่หลับสนิท ค่อยๆ เปิดขึ้น ทำให้เห็นดวงตาคู่สวยที่ได้หลับพักผ่อนไปเป็นระยะเวลานานพอสมควร
“ถึงไหนแล้ว พี่ณุ...” น้ำเสียงแห้งๆ ของหญิงสาวร้องถามขึ้น
“ถึงระยองแล้วจ๊ะ นี่ก็กำลังจะเข้าไปรีสอร์ทที่พวกเราพักกัน” พิษณุหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม
“อืมมม....ปลาหลับไปนานมั้ยเนี่ยะ” พาสนาขยับตัวให้นั่งตรง ก่อนจะมองไปรอบๆ
“ก็ตั้งแต่กรุงเทพฯ จนถึงระยองนี่ นานมั้ยล่ะ” ชายหนุ่มกล่าวถามน้ำเสียงขำๆ
“นานแฮะ” พาสนาพยักหน้าเบาๆ.....

หญิงสาวยกมือขึ้นเพื่อจะมาขยี้ตาของเธอ แต่แล้ว..........เธอจึงรู้ว่ามือของเธอโดนคนข้างๆ กุมเอาไว้

เมื่อพาสนาขยับมือของเธอ พิษณุจึงปล่อยมือของเค้า แล้วพามันกลับมายังตำแหน่งที่มันควรจะอยู่แต่แรก

พาสนาไม่ได้พูดอะไร เธอมองไปทางนอกหน้าต่างรถ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี........ใบหน้าของเธอมันร้อนวูบๆ อีกแล้ว

พิษณุเองก็ได้แต่นั่งเงียบ........เค้าไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไง เธอจะว่าเค้ามั้ย เธอจะโกรธเค้ารึป่าว

พาสนามองเห็นเสื้อที่คลุมตัวเธออยู่.........หญิงสาวมองกลับไปยังใบหน้าของคนข้างๆ

“พี่ณุ...” พาสนาเรียกชื่อเค้าเบาๆ
“หืมม” พิษณุขานรับ แต่ชายหนุ่มกลับไม่กล้าหันมองสบตาคนข้างๆ
“ขอบคุณนะ สำหรับเสื้อ” พาสนากล่าวขอบคุณชายหนุ่ม ก่อนที่จะทำท่าหยิบเสื้อส่งคืนให้เค้า
“ปลาใส่ไปก่อนเถอะนะ แอร์มันเย็น เดี๋ยวจะไม่สบายอีก” พิษณุใช้มือของเค้าจับเสื้อเอาไว้ที่เดิม
“.....แต่ปลาไม่เป็นอะไรแล้ว” พาสนายังคงดื้อ ที่จะเถียงกลับ
“เชื่อพี่ซิ........เดี๋ยวค่อยคืนตอนถึงรีสอร์ทก็ได้” พิษณุพูดยิ้มๆ แต่เค้าก็ยังคงไม่กล้าหันหน้ามองมาทางเธอ
“อืมมม......” พาสนาฟังชายหนุ่มแล้วต้องให้พยักหน้ารับเบาๆ


รถยนต์แล่นผ่านป้ายบอกทางป้ายสุดท้าย ก่อนที่จะมาจอดสนิท ตรงหน้าบ้านพักที่ปัญญาได้บอกเอาไว้.....
“ที่นี่หรือพี่ณุ” พาสนามองไปยังบ้านพักสามหลังข้างหน้า
“อืมม...”พิษณุพยักหน้าตอบ แล้วชายหนุ่มก็จัดการหยิบกระเป๋าของเค้า และของพาสนาออกมาจากรถ

พาสนาเปิดประตูรถ และก้าวลงมา..........เธอมองไปยังชายหาดกว้าง ที่มีน้ำทะเลสีฟ้าสวยเบื้องหน้า
“สวยจังเลย” พาสนาพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง
“ปะ.......” พิษณุจัดการกดล็อครถเรียบร้อย ก่อนที่จะสะพายกระเป๋าสองใบเดินนำพาสนาเข้าไปยังบ้านพัก


“อ้าว มากันแล้วหรอคะ.......” คุณนิรวรรณที่กำลังเดินแจ้งตารางกิจกรรมตามบ้านพักหันมองมาเห็นทั้งสองคนที่กำลังเดินเข้ามายังบริเวณบ้านพัก
“สวัสดีครับพี่น้อย” พิษณุกล่าวทักทายคุณนิรวรรณ
“สวัสดีฮะพี่น้อย” พาสนาเองก็กล่าวทักทายเช่นกัน
“เป็นไงบ้างคะน้องปลา ไม่สบายดีขึ้นรึยัง” คุณนิรวรรณรีบเข้าไปหาพาสนาแล้วซักถามอาการด้วยความเป็นห่วง
“ปลาไม่เป็นไรแล้วฮะ....พี่ณุก็ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ดูซิพี่น้อยเลยเป็นห่วงปลาเลย” พาสนาหันไปพูดต่อว่าพิษณุก่อนจะหันมายิ้มให้คุณนิรวรรณ
“โธ่ อย่าไปว่าคุณณุเลยค่ะ” คุณนิรวรรณรีบแก้ตัวแทนพิษณุ
“มาค่ะ ไปบ้านพักของน้องปลากัน” คุณนิรวรรณ รีบจูงพาสนาเดินตรงไปยังบ้านพัก
พาสนายิ้มให้สาวหัวหน้าแผนกบัญชีก่อนที่จะโดนอีกฝ่ายจูงมือเดินไปทางบ้านพัก ส่วนพิษณุได้แต่ยิ้มและเติมตามไปติดๆ



“มากันแล้วหรือครับ” ปัญญาที่นั่งอยู่ระเบียงบ้านพัก หันมองมายังคนทั้งสามที่กำลังเดินขึ้นบันไดบ้านพัก
“ครับ” พิษณุพยักหน้าตอบพร้อมยิ้มให้ปัญญา
“น้องปลาเป็นไงบ้าง” ปัญญาลุกขึ้นแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าพาสนา ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“ดีขึ้นมากแล้วพี่ปุ่น ปลาไม่เป็นอะไรมากหรอก” พาสนาตอบยิ้มๆ
“ดีแล้ว......พี่ว่าปลาไปนั่งพักก่อนดีกว่า” ไม่พูดเปล่า ปัญญารีบพาพาสนาไปนั่งที่เก้าอี้ ทำเอาทั้งพิษณุ และคุณนิรวรรณต่างก็มองตาม
“ปลาไม่เป็นอะไรแล้วนะพี่ปุ่น” พาสนาย้ำกับชายหนุ่ม ที่เห็นว่าเค้าดูท่าทางจะเป็นห่วงเธอจนเกินพอดี
“เอาน่า เป็นคนป่วยไม่ควรดื้อนะ” ปัญญายังมีท่าทางห่วงพาสนาไม่น้อย
“แหม คุณปุ่นคะ พี่ชักจะอิจฉาน้องปลาแล้วนะคะ” คุณนิรวรรณพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ผมเอากระเป๋าไปเก็บก่อนนะครับ” พิษณุเลือกที่จะเอากระเป๋าของเค้า และพาสนาเข้าไปเก็บในห้องพัก
“ห้องของผู้หญิงเค้าอยู่ทางซ้ายนะครับ ส่วนของเราอยู่ทางขวา” ปัญญาหันมาบอกทางกับพิษณุ
พิษณุหันมายิ้มบางๆ ให้กับปัญญา แล้วสายตาของเค้าก็มองเลยไปทางพาสนาที่นั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้

พาสนาหันมองมาสบตากับพิษณุเพียงชั่วครู่.......แล้วเธอก็หันมองไปทางชายหาด พิษณุจึงเดินเข้าไปเก็บกระเป๋า.......




โดย: kokoo_129 วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:17:57:30 น.  

 
“อ้าว พี่ปลามาถึงแล้วหรือคะ” การ์ตูนที่ขึ้นมาจากทะเล รีบร้องทักเมื่อเห็นพาสนา
“น้องตูน...ไปเล่นน้ำมากันหรอ” พาสนาหันมองมาทางการ์ตูน แล้วยิ้มให้เด็กสาว
“ค่ะ ไปเล่นกับพี่เม พี่ตุ้ม และก็พี่พร” การ์ตูนตอบน้ำเสียงสดใส
“เดี๋ยวตูนไปอาบน้ำก่อนนะคะ” การ์ตูนเดินไปทางห้องพักหญิง โดยมีเมราณี และพรพรรณเดินตามมาติดๆ
“น้องปลา มาถึงแล้วหรือคะ พี่พรคิดถึงนะรู้มั้ย” พรพรรณกล่าวทักทายพาสนาพร้อมกับยิ้มให้เธอ
“พี่พร น้องเม” พาสนาทักทายสองสาว
“เสียดายจัง พี่ปลามาช้าไปนิด ไม่งั้นได้เล่นน้ำกับเมแล้ว” เมราณีพูดพร้อมยิ้มหวาน
“นั่นซิ เสียดายเหมือนกัน” พาสนาพยักหน้าตอบพร้อมยิ้ม

“ไปอาบน้ำกันเถอะ เดี๋ยวจะได้ไปบ้านสันทนาการ” คุณนิรวรรณกล่าวกับสองสาว
“งั้นเดี๋ยวเมมาคุยด้วยใหม่นะคะพี่ปลา” เมราณีพูดจบก็จูงมือพรพรรณเดินเข้าไปยังห้องพัก
“อ้าว แล้วตุ้มไปไหนละเนี่ยะ” พาสนามองหาปฏิมา
“ฉันอยู่นี่” เสียงปฏิมาดังขึ้น พาสนาจึงหันมองไปทางต้นเสาของบันไดบ้านพัก........หญิงสาวมาดเซอร์ยืนอยู่ตรงนั้น
รอยน้ำที่หยดลงพื้นแสดงให้เห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้นานแล้ว

“ไปยืนทำอะไรตรงนั้นหะตุ้ม” พาสนามองเพื่อนรัก แล้วต้องให้ถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร” ปฏิมาตอบน้ำเสียงเรียบก่อนจะเดินขึ้นมาบนบ้านพัก
“ไม่ไปอาบน้ำ...เดี๋ยวได้เป็นหวัดอีกคน” ปัญญามองหญิงสาวเพียงชั่วครู่ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เรื่องของตุ้ม” ปฏิมาสวนกลับทันควัน ก่อนจะเดินตรงรี่ไปยังห้องพักหญิง
ปัญญามองตามสาวเซอร์แสนแสบ แล้วให้ส่ายหน้าเบาๆ

พาสนามองอาการของคนทั้งสอง ก็ให้เดาว่าทั้งคู่คงมีเรื่องทะเลาะกันอีกตามเคย


“คนหลายใจ.....ไม่รักก็ไม่ต้องยุ่งซิ.....” ปฏิมาพูดบ่นพึมพำระหว่างเดินไปยังห้องพัก จนเธอต้องไปชนกับใครอีกคน
“อ้าวน้องตุ้มเป็นอะไรรึป่าว” พิษณุจ้องหน้าของสาวเซอร์ แล้วต้องซักถามด้วยความสงสัย
“พี่ณุ............ตุ้มไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” ปฏิมาเงยหน้ามองคนที่เธอเดินชน
“เป็นอะไรรึป่าว ตาแดงๆ” พิษณุมองที่ดวงตาของหญิงสาวแล้วให้รู้สึกสงสัย
“เอออ......คงเพราะโดนน้ำทะเลค่ะ ตุ้มไม่เป็นอะไรหรอกพี่ณุ” ปฏิมายกมือขึ้นจับดวงตาของเธอ แล้วต้องให้รีบตอบคำถามของชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“อ้อ ครับ” พิษณุฟังคำตอบแล้วก็พยักหน้าเข้าใจ
“ตุ้มขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนนะคะ” ปฏิมารีบเดินเลี่ยงเข้าห้องพักทันที
พิษณุมองตามสาวเซอร์ แล้วจึงหันเดินไปทางระเบียงของบ้านพัก....


“อย่าร้องนะปฏิมา........ก็แค่ผู้ชายหลายใจ” ปฏิมาบอกกับตัวเองเบาๆ ขณะที่เดินก้มหน้างุดเข้าไปยังห้องพัก
“อ้าว น้องตุ้ม มาแล้วหรอ....นึกว่าจะไม่ยอมขึ้นมาแล้ว เห็นยืนอยู่ตรงนั้นตั้งนาน” พรพรรณร้องทักเมื่อเห็นปฏิมาเดินเข้ามาในห้อง
“นั่นซิคะ เมก็ยังสงสัยว่าพี่ตุ้มไปยืนตรงนั้นทำไมตั้งนาน” เมราณีเองก็ถามด้วยความสงสัย
ปฏิมาไม่ตอบคำถามของสองสาว เธอคว้าเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไปเข้าห้องน้ำข้างนอกห้อง........


เมื่อประตูห้องน้ำปิดลง ..........สายน้ำจากฝักบัวไหลลงมากระทบกับร่างที่ยืนนิ่งอยู่
“คนบ้า........คนไม่จริงใจ........” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่น
.
.
.
การ์ตูน เมราณี และพรพรรณจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่เสร็จเรียบร้อย ก็ออกมานั่งคุยกับคนอื่นๆ ที่ระเบียงบ้าน........
“อ้าว แล้วน้องตุ้มไปไหนละคะ” คุณนิรวรรณมองไปรอบๆ แล้วต้องให้ร้องหาปฏิมาที่ยังไม่ออกมาพร้อมกับคนอื่นๆ
“ยังอาบน้ำอยู่เลยค่ะ” เมราณีตอบ
“อาบน้ำ....นานจังนะคะ” คุณนิรวรรณทำหน้าสงสัย
“นั่นซิคะ อาบนานมากเลย ขนาดเม กับพี่พรอาบเสร็จแล้ว พี่ตุ้มยังไม่ออกมาจากห้องอาบน้ำเลย” เมราณีพยักหน้าหงึกหงัก
“แปลกจัง จะขัดอะไรของเค้านะ” คุณนิรวรรณเลิกคิ้วด้วยความอยากรู้
“คงไม่มีอะไรให้ขัดมากหรอกครับ คนลีลาเยอะก็อย่างนี้เอง” ปัญญาพูดน้ำเสียงนิ่ง เล่นเอาทุกคนต่างก็งงตามๆ กัน
“ไปกันเถอะค่ะ ได้เวลาแล้ว” คุณนิรวรรณมองดูนาฬิกาข้อมือ ที่แจ้งเวลาว่า ตอนนี้ใกล้บ่าย 2 เต็มที
“แล้วตุ้มละ” พาสนาพูดถึงเพื่อนของเธอ
“เดี๋ยวก็ตามไปค่ะพี่ปลา เพราะพี่ตุ้มรู้ว่าต้องไปที่บ้านกลางตอนบ่าย2” การ์ตูนพูดยิ้มๆ
“อืมม.....” พาสนาพยักหน้ารับเบาๆ
แล้วทุกคนต่างก็พากันเดินทางไปยังบ้านกลาง หรือบ้านสันทนาการที่มีไว้สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ของ การมาสัมมนานาครั้งนี้


ปัญญาลุกขึ้นและทำท่าจะเดินตามคนในกลุ่ม แต่แล้วชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจ ..........เค้ายืนนิ่ง แล้วหันมองไปทางห้องพักภายในบ้าน

แอ๊ดดดด!!!!!!!!!~

ประตูห้องพักหญิงเปิดออก หญิงสาวที่อยู่ข้างใน เดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่เอาไว้เช็ดผมของเธอ
“ช้าจริงนะ” เสียงทุ้มดังขึ้น ทำให้ปฏิมาต้องสะดุ้งและหันมอง

เมื่อเห็นว่าใครกำลังยืนรอเธออยู่ ปฏิมาก็ทำเชิดหน้า และเดินผ่านโดยไม่สนใจ
“ฮัดเช้ยยยยยยยย!!!!~” แต่เพียงก้าวได้ไม่กี่ก้าว หญิงสาวก็ต้องจามออกมา
“เห็นมั้ย เป็นหวัดละซิ” ปัญญายังคงพูดต่อ
“เรื่องของตุ้ม” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง
"เป็นอะไร งอนอะไรอีก" ปัญญาคว้ามือของหญิงสาวเอาไว้


ปฏิมามองมือของเธอที่ตอนนี้ถูกปัญญาจับเอาไว้........เธอเงยหน้ามองหน้าชายหนุ่ม แล้วหญิงสาวก็สะบัดมือเธอออกจากมือของอีกฝ่าย
"อย่ามายุ่งกับตุ้ม..." น้ำเสียงเย็นชาของเธอทำเอาชายหนุ่มรู้สึกอึ้งไปเหมือนกัน


ปฏิมาเดินออกจากบ้านพัก โดยไม่ยอมหันกลับมองมาทางชายหนุ่มเลยสักนิด การกระทำของเธอทำเอาผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังต้องตกอยู่ในอาการของความไม่เข้าใจ


ปัญญามองตามหญิงสาวมาดเซอร์.........มีอะไรบางอยู่ในดวงตาของเธอ แต่มันคืออะไรกัน.........



“อ้าว ปลาเป็นไงบ้าง สบายดีแล้วหรอ” จุลติกล่าวทักทายลูกน้องคนเก่งของตน
“สวัสดีฮะคุณจุล ปลาสบายดีมากแล้วฮะ” พาสนายิ้มให้เจ้านายของเธอ
“อืม ถ้าไม่ไหวยังไงก็ไปพักนะ ผมไม่ซีเรียสกับสัมมนาครั้งนี้หรอก แค่อยากให้ทุกคนมาสนุก พักผ่อนกันมากกว่า” จุลติกล่าวกับลูกน้องของเค้า
“ขอบคุณมากฮะ” พาสนากล่าวขอบคุณเจ้านายของเธอ
“แล้วงานเป็นยังไงบ้างคุณณุ” จุลติหันไปซักถามถึงโปรแจ๊คที่น้ำตกก้อหลวง
“เรียบร้อยดีครับ” พิษณุตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ผมก็ถามไปอย่างนั้นเอง น้องอ้อย เออ......คุณอ้อยเค้าโทรมาบอกกับผมแล้วว่าพวกคุณทำงานได้เก่งมากๆ” จุลติกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” พิษณุพูดเชิงถ่อมตนกับเจ้านายของเค้า
“จริงๆ คุณอ้อยโทรมาชมเปาะเชียวนะ” จุลติยังคงหน้าบานไม่หุบ
“อ้าว แล้วตุ้มไปไหนละ” จุลติมองกลุ่มพนักงานของตนเอง ก็ต้องถามหาพนักงานจอมซ่าส์ประจำออฟฟิศ
“มาโน้นแล้วค่ะ” คุณนิรวรรณมองไปทางบ้านพัก ก็เห็นปฏิมากำลังเดินตรงมา ตามมาด้วยปัญญาที่เดินอยู่ห่างๆ
“ไงตุ้ม เล่นน้ำสนุกเลยหรือหึ” จุลติกล่าวทักทายลูกน้องของเค้า
“คุณจุล....แหม มาทะเลทั้งทีไม่ให้เล่นน้ำก็ไม่เรียกว่ามาทะเลซิคะ” ปฏิมาตอบสีหน้ายิ้มๆ
“เชื่อๆ ผมเห็นพวกคุณเล่นน้ำกันน่าสนุก ผมยังนึกอยากลงไปเล่นด้วยเลย” จุลติกล่าวยิ้มๆ
“แหม แล้วทำไมไม่ลงไปเล่นด้วยกันละคะ” ปฏิมารีบตอบสวนกลับทันที
“นี่ยายตุ้ม” คุณนิรวรรณรีบพูดกระซิบเตือนปฏิมาที่พูดจาเล่นหัวกับเจ้านาย
“คุณน้อย วันนี้เรามาสนุกกัน อย่าซีเรียสหน่ะ” จุลติกล่าวน้ำเสียงนิ่มกับพนักงานของเค้า
“เอาละๆ ปะ เริ่มกิจกรรมกันดีกว่า” จุลติเห็นว่าทุกคนมากันครบแล้ว จึงเริ่มดำเนินกิจกรรมที่เตรียมเอาไว้


ในการมาสัมมนาในครั้งนี้ จุดประสงค์หลักจริงๆ ก็คือพาพนักงานของบริษัทฯ มาตากอากาศ สร้างความรู้สึกที่ดี ผ่อนคลายจากงานที่ทำหนักมาทั้งปี และเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างเจ้านาย กับลูกน้อง และระหว่างพนักงานด้วยกัน


โปรแกรมแรกของวันนี้ มีการประชุม พูดคุยถึงการดำเนินงานมาตลอดทั้งปี ผลงานที่เกิดขึ้น และแนวทางในการดำเนินงานของปีนี้.........นอกจากนั้น ยังเป็นการพูดคุยสร้างความเข้าใจ และความสำคัญของแผนกต่างๆ ที่มีต่อกัน กิจกรรมช่วงบ่ายของวันนี้ออกจะเป็นทางการสักนิด เพราะจุลติเห็นว่า ควรเน้นเรื่องวิชาการก่อน แล้วค่อยปล่อยพนักงานให้สนุกตามอัธยาศัย.......


เมื่อจบโปรแกรมช่วงบ่าย......ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงเย็น ซึ่งเป็นการรับประทานอาหารด้วยกันของพนักงาน........มื้อเย็นของวันนี้เป็นปาร์ตี้บาบีคิว.....อาหารทะเลมากมายได้ถูกจัดเตรียมไว้ และเตาสำหรับปิ้ง ย่าง อีก 2 เตา




โดย: kokoo_129 วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:17:58:03 น.  

 
“ว้าว......มีแต่ของน่ากินๆ ทั้งนั้นเลย” การ์ตูนเดินเข้าไปมองอาหารบนโต๊ะใกล้ๆ
“นั่นซิ มีของทะเลสดๆ ทั้งนั้นเลย” พรพรรณเองก็มองของที่อยู่บนโต๊ะ แล้วเกิดอารมณ์นึกสนุกกับการได้ทานอาหารเย็นของวันนี้
“ขอให้ทุกคนสนุกกับอาหารมื้อนี้นะครับ” จุลติกล่าวกับพนักงานทุกคน ก่อนจะให้ทุกคนแยกย้ายกันไปสนุกกับปาร์ตี้ของเย็นนี้
“ปลา....นั่งนี่นะ เดี๋ยวพี่เอาอาหารมาให้” พิษณุบอกกับพาสนาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใต้ต้นหูกวางหน้าบ้านกลาง
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ณุ เดี๋ยวปลาทำเอง” พาสนากล่าวปฏิเสธด้วยเกรงใจที่ชายหนุ่มต้องมาเทคแคร์เธอ
“อย่าดื้อซิ...เดี๋ยวพี่ทำให้นะ” พิษณุจ้องหญิงสาวด้วยแววตาตำหนินิดๆ พาสนามองดูคนที่หวังดีกับเธอเสมอมา แล้วต้องยอมใจอ่อน
“อืมม” พาสนาพยักหน้าเบาๆ ให้ชายหนุ่ม
พิษณุยิ้มให้หญิงสาว ก่อนจะเดินไปทางโต๊ะอาหาร และเลือกอาหารที่เค้ารู้ว่าพาสนาชอบ ไปจัดการปิ้งให้เธอ


“อ้าว ไม่ทานข้าวหรือปลา” จุลติเดินเข้ามาทักลูกน้องของเค้า
“อ้อ พี่ณุกำลังทำให้ฮะ” พาสนาตอบจุลติ
จุลติหันไปมองพิษณุที่กำลังยืนปิ้งอาหารกับกลุ่มพนักงานคนอื่นๆ แล้วให้ยิ้มออกมา

“คุณณุนี่ ท่าทางจะห่วงปลาดีนะ....” จุลติพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าพิษณุออกจะห่วงใยพาสนามากพอสมควร
“ไม่หรอกฮะ ก็เราเป็น.........พี่น้องกัน” น้ำเสียงพาสนาดูจะแผ่วเบาลงช่วงท้ายประโยค
จุลติฟังคำตอบจากหญิงสาว แล้วให้ยิ้มบางๆ ออกมา..........เค้ามองกลับไปทางพิษณุอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าพิษณุกำลังเดินกลับมา จุลติจึงเดินไปทางโต๊ะอื่นแทน


“อ้าว คุณจุลไปไหนแล้ว” พิษณุถามพาสนาเมื่อมาถึงโต๊ะ
“ไม่รู้ซิ คงไปคุยกับพนักงานคนอื่น” พาสนาตอบสีหน้าเรียบเฉย
“อืมม...อ๊ะ นี่ปลาชอบไม่ใช่หรือ กุ้ง กับปู” พิษณุจัดการแกะกุ้งเผา แล้วส่งให้หญิงสาว
“พี่ณุ ปลาแกะเองได้” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม ก่อนจะรับกุ้งที่พิษณุแกะให้
“วันนี้ปลาไม่สบาย....อยู่เฉยๆ ดีกว่านะ” พิษณุยังคงทำโน้น ทำนี่ให้หญิงสาวต่อ
พาสนานั่งมองชายหนุ่มข้างๆ ที่คอยทำโน้น ทำนี่บริการเธอไม่หยุด


“พี่ณุ.........” พาสนาเรียกชายหนุ่มน้ำเสียงเบาๆ
“หืมมม” พิษณุเงยหน้าจากกุ้งในมือ แล้วมองไปยังเจ้าของเสียงที่เรียกเค้า
“ขอบคุณมากนะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณในไมตรีอันดีที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้สม่ำเสมอ
“หึ....อ๊ะ ทานซะ เดี๋ยวจะได้ทานยา” พิษณุยิ้มบางๆ ออกมา แล้วส่งกุ้งในมือให้กับหญิงสาว
พาสนายิ้มให้ชายหนุ่ม แล้วรับกุ้งมาจากเค้า......


ในเวลานี้ หากเป็นเวลาอื่น ทั้งคู่คงได้รับคำแซวมากมายจากกลุ่มพนักงานด้วยกัน แต่เวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจกับอาหารมื้อนี้จนลืมที่จะสังเกตคนคู่นี้


“พี่พร กุ้งตุ้มสุกรึยัง” ปฏิมาที่เดินไปหยิบปูเพื่อนำมาเผา รีบร้องถามพรพรรณ
“สุกแล้วจ๊ะ” พรพรรณตอบยิ้มๆ
“อ้าว แล้วไหนอ่ะ” ปฏิมาขมวดคิ้ว มองไปรอบๆ เตาก็ไม่พบกุ้งของเธอ
“โน้น..............คุณปุ่นยกไปที่โต๊ะให้แล้ว” พรพรรณพยักหน้าไปทางโต๊ะที่ปัญญากำลังนั่งอยู่
“เชอะ” ปฏิมาทำหน้าเบ้เมื่อมองเห็นชายหนุ่มซึ่งกำลังนั่งมองมาทางเธอเช่นกัน
“เรื่องอะไรมาเอาของเค้าไป” หญิงสาวบ่นอุบอิบ ก่อนจะทำการพลิกปูที่วางอยู่บนเตา
“น้องตุ้มไปทานซิ เห็นบ่นว่าหิวตั้งแต่อยู่บนรถ” พรพรรณบอกกับปฏิมา
“อ้าว แล้วพี่พรละ” ปฏิมาร้องถามแม่บ้านประจำออฟฟิศ
“เดี๋ยวพี่ปิ้งปูให้ก่อนค่ะ พี่ยังไม่หิว เมื่อกี้กินน้ำทะเลเยอะไปหน่อย” พรพรรณตอบสีหน้ายิ้มๆ
“แต่.........” ปฏิมาขมวดคิ้วแล้วมองไปทางโต๊ะอีกครั้ง ซึ่งก็ยังคงมีแต่ปัญญาที่นั่งอยู่
“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่ตามไป” พรพรรณคะยั้นคะยอให้ปฏิมากลับไปนั่งทานอาหารที่โต๊ะ
“พี่ตุ้มไปทานก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพวกเราตามไป” การ์ตูนเดินเข้ามายืนข้างๆ พรพรรณ
“อืมม” ปฏิมาทนเสียงรบเร้าของสาวๆ ไม่ไหว เธอจึงยอมเดินไปที่โต๊ะ
หญิงสาวเดินมานั่งที่โต๊ะ แล้วหยิบกุ้งในจานเพื่อแกะทาน........ปัญญายังคงนั่งนิ่งไม่พูดอะไร

ปฏิมาเองก็ทำเป็นไม่สนใจชายหนุ่มเช่นกัน.......


“สงสัยคู่นั้นจะทะเลาะกันแน่ๆ เลยนะคะพี่พร” เมราณีมองไปที่โต๊ะ ซึ่งปัญญา และปฏิมานั่งอยู่ แล้วหันมากระซิบกระซาบกับพรพรรณ
“นั่นซิ ตูนเห็นพวกพี่เค้าทำหน้าบูดใส่กันตั้งแต่เช้าแล้ว” การ์ตูนเองแม้จะเป็นเป็นเพียงนักศึกษาฝึกหัดที่ไม่ค่อยประสีประสาอะไรกับเรื่องแบบนี้ยังมองคนทั้งคู่ออก
“พี่ก็ว่างั้นละ เห็นน้องตุ้มแขวะคุณปุ่นหลายทีล่ะ” พรพรรณเองก็มองดูคู่นี้อยู่ห่างๆ เหมือนกัน
“งั้นเรามาช่วยกันทำให้พวกเค้าคืนดีกันมั้ยคะ” เมราณีพูดยิ้มๆ
“เอาแค่คืนดีเองหรอจ๊ะ” พรพรรณเองก็พอจะเดาอะไรๆ ออกอยู่บ้าง
“เอางั้นเลยหรือคะพี่” เมราณีถามสีหน้ายิ้มๆ
“พวกพี่คุยอะไรกันคะ ตูนไม่เห็นเข้าใจ” การ์ตูนเอง ที่รู้เพียงแต่ว่า คนคู่นั้นตึงๆ ต่อกัน แต่เรื่องที่สองสาวกำลังคิดอยู่นั้นเธอกลับไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด
“น้องตูนเป็นกองเชียร์ก็พอจ๊ะ” เมราณีหันมาพูดยิ้มๆ กับสาวน้อยการ์ตูน
“ใช่จ๊ะ เด็กน้อยต้องดูอยู่ห่างๆ” พรพรรณเองก็หันมาพูดยิ้มๆ กับการ์ตูน
“เมละอยากแกล้งจริงๆ พวกปากไม่ตรงกับใจเนี่ยะ” เมราณีมองไปทางปฏิมา แล้วยิ้มออกมา
“เอาเลยน้องเม” พรพรรณเองก็พูดยุไม่หยุด
แล้วทั้งสามสาวก็เดินตรงไปที่โต๊ะอาหารที่มีปฏิมา และปัญญานั่งอยู่


“พี่ปุ่นคะ ไม่ทานอะไรสักหน่อยหรือคะ” เมราณีเดินมานั่งข้างๆ ปัญญา
“อ้อ พี่ยังไม่หิวเลย” ปัญญาตอบหญิงสาว ก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาดื่ม
“ไม่หิวยังไงก็ต้องทานสักหน่อยนะคะคุณปุ่น ขืนดื่มตอนท้องว่างๆ เดี๋ยวได้เมากันพอดี” พรพรรณบอกกับชายหนุ่มพร้อมส่งยิ้มให้
“ไม่เป็นไรมั้งครับ ผมก็ดื่มนิดหน่อยเอง” ปัญญามองที่แก้วในมือ แล้วหันไปตอบพรพรรณ
“เชอะ.......ขอให้เมาหัวทิ่มหัวตำ” ปฏิมาพูดพึมพำเบาๆ พร้อมกับมองค้อนๆ ใส่ปัญญา
เมราณีแอบชำเลืองมองปฏิมาแล้วให้อดอมยิ้มออกมาไม่ได้

เมื่อเห็นว่าปฏิมามีท่าทางกระเง้ากระงอดต่อปัญญามากขนาดนี้ เมราณีจึงเริ่มแผนการของเธอทันที
“พี่ปุ่นคะ........” เมราณีหันมาพูดจากเสียงหวานกับปัญญา
“หืมม” ปัญญาหันขานรับหญิงสาวข้างๆ
“นี่ค่ะ เมแกะกุ้งให้นะคะ” เมราณีส่งกุ้งตัวสวยที่เพิ่งแกะเสร็จใหม่ๆ ส่งให้ปัญญา
“ขอบคุณครับ แต่น้องเมทานเถอะ” ปัญญายิ้มรับไมตรี แต่ก็กล่าวปฏิเสธ
“นะทานนะคะ เมอุตส่าห์แกะให้” ไม่พูดเปล่า เมราณียกกุ้งในมือ ป้อนใส่ปากของชายหนุ่ม

เมื่อหญิงสาวบริการถึงขนาดนี้ แม้ว่าปัญญาจะยังไม่หิวแต่เค้าก็ต้องรับไมตรีจากเธอ ชายหนุ่มยอมอ้าปากทานกุ้งในมือของเมราณีอย่างเสียไม่ได้

ภาพนี้อยู่ในสายตาของปฏิมาโดยตลอด หญิงสาวกำส้อมในมือแน่น...........เสียงกัดฟันดังกรอดดังออกมาเบาๆ

“เป็นไงคะ อร่อยมั้ย” เมราณียังคงพูดจากเสียงอ้อนกับชายหนุ่มต่อ
“ครับ อร่อยครับ” ปัญญาพยักหน้าเบาๆ รับ


พรพรรณที่นั่งดูอยู่ แอบอมยิ้ม เมื่อเห็นสาวซ่าส์ในโต๊ะมีอาการผุดลุกผุดนั่ง ผิดจากปกติอย่างเห็นได้ชัด........เมราณีเองก็แอบชำเลืองมองปฏิมาเช่นกัน ยิ่งเห็นปฏิมามีอาการโต้ตอบ เธอก็ยิ่งอยากจะแกล้งหนักขึ้น

“พี่ปุ่นคะ........อันนี้ปูค่ะ อร่อยมากเลยนะ” เมราณีหยิบเนื้อปูส่งให้ปัญญา
“ครับขอบคุณน้องเมมากเลยนะ แต่จริงๆ พี่ทานเองก็ได้” ปัญญายิ้มบอกกับหญิงสาวอย่างเกรงใจ
“ไม่ได้ค่ะ ให้เมดูแลพี่ปุ่นเถอะนะคะ เพราะวันนี้ถ้าไม่ได้พี่ปุ่น เมคงล้มหน้าคะมำไปแล้ว” เมราณียิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็เรา.........” ปัญญาพูดไม่ทันจบ เมราณีก็เอามือของเธอแตะที่ริมฝีปากของเค้าไว้
“นะคะ ให้เมตอบแทนพี่ปุ่นนะคะ” เมราณียิ้มหวาน ส่งสายตาเยิ้มให้ชายหนุ่ม จนปัญญาต้องยิ้มบางๆ ออกมาด้วยอาการทำอะไรไม่ถูก

ยิ่งเห็น ยิ่งได้ยิน ยิ่งทำเอาปฏิมาแทบจะกระโดดเต้นผางๆ แต่เธอก็พยายามเก็บอาการไว้สุดฤทธิ์.........หญิงสาวทนกัดฟันก้มหน้าทานอาหารตรงหน้าให้หมดไวๆ เพื่อจะได้ไปจากตรงนี้

“สงสัยพี่ตุ้มจะหิวมากนะคะ ทานไม่หยุดเลย” การ์ตูนหันไปมองปฏิมา แล้วกล่าวทัก
“อืมมม” ปฏิมาเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอฉายแววดุส่งไปยังปัญญา แล้วจึงพยักหน้าตอบให้การ์ตูน
“ค่อยๆ ทานก็ได้น้องตุ้ม เดี๋ยวติดคอกันพอดี” พรพรรณรู้สึกขำกับท่าทางของปฏิมา แต่ก็ต้องพยายามเก็บอารมณ์เอาไว้

ยิ่งเห็นอาการของปฏิมาที่แสดงออกมา ยิ่งทำให้ทุกคนมั่นใจว่า หญิงสาวรู้สึกพิเศษกับปัญญาจริงๆ เมราณี หันไปพยักหน้ากับพรพรรณแบบรู้กัน ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ปัญญาต่อ

“พี่ปุ่นคะ เดี๋ยวทานอาหารเสร็จแล้ว เราไปเดินเล่นที่ชายหาดกันมั้ยคะ อาการดีๆ แบบนี้ ได้ไปเดินดูดาวด้วยกันคงดีนะคะ” เมราณีพูดกับชายหนุ่มน้ำเสียงหวานน่าฟัง
“น้องเมอยากเดินดูดาวหรือครับ” ปัญญาถามหญิงสาว
“ค่ะ” เมราณียิ้มหวานตอบ
“งั้นได้ครับ” ปัญญาพยักหน้ารับ แล้วก็เหลือบชำเลืองมองไปทางปฏิมาที่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารโดยไม่ปริปากสักคำ

หญิงสาวทานอาหารในจานหมดเกลี้ยง แล้วรีบลุกจากโต๊ะทันที...
“อ้าวน้องตุ้มจะไปไหนคะ” พรพรรณรีบร้องถามปฏิมาที่กำลังลุกเดินจากโต๊ะ
“ตุ้มอิ่มแล้ว ตุ้มอยากนอน” ปฏิมาตอบเสร็จก็รีบเดินออกจากโต๊ะ อาการของหญิงสาว ทำเอาทุกคนต่างพากันอมยิ้ม




โดย: kokoo_129 วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:17:58:32 น.  

 
ปัญญายกแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นดื่มด้วยสีหน้านิ่งเรียบ..........ชายหนุ่มมองตามหญิงสาวมาดเซอร์ที่เดินตุ้บป่องๆ ไปทางบ้านพัก แต่ก็ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากปากของเค้า

หลังจากอาหารมื้อค่ำเสร็จสิ้นลง เหล่าพนักงานต่างพากันออกไปเดินเล่นบ้าง นั่งคุยกันบ้าง และมีกิจกรรมยามว่างเล่นกันบ้าง

เมราณี พรพรรณ และการ์ตูน นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่แถวระเบียงหน้าบ้านพัก..........
“พี่พรคะ เมว่าเมดูไม่ผิดนะคะ.........” เมราณีวิเคราะห์ถึงสิ่งที่เห็นเมื่อช่วงอาหารค่ำ
“พี่ก็ว่าพี่เห็นเหมือนกัน” พรพรรณพยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยกับเมราณี
“พี่ๆ คุยอะไรกันคะ ตูนไม่เห็นเข้าใจ ไหนว่าจะทำให้พี่สองคนนั้นดีกัน แล้วไหงเห็นเค้ายิ่งทำหน้าบึ่งใส่กันหนักกว่าเดิมอ่ะ” การ์ตูนทำสีหน้างุนงงกับพี่ๆ ทั้งสองของเธอ
“ตูนรอดูแล้วกันจ๊ะ” เมราณีหันมาพูดยิ้มๆ กับการ์ตูน
“บอกก่อนไม่ได้หรือคะ” การ์ตูนซักถามด้วยสีหน้าที่ผูกปมยุ่งบนใบหน้า
“ไม่ได้จ๊ะ เดี๋ยวไม่สนุก” เมราณีพูดยิ้มๆ
.
.
.
ปัญญา เปลี่ยนที่นั่งดื่ม มานั่งตรงมุมที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน............ชายหนุ่มนั่งมองท้องทะเลยามค่ำคืน อยู่เพียงลำพัง
“พี่ปุ่นคะ.......” เมราณีเดินตรงมาหาปัญญา
“ว่าไงจ๊ะน้องเม” ปัญญาหันมาตอบหญิงสาว
“ไปเดินเล่นกันเถอะค่ะ” เมราณีกล่าวชักชวนชายหนุ่มพร้อมยิ้มหวาน
“แต่พี่...........” ปัญญาไม่อยากเดินเล่นสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากขัดใจเมราณี
“นะคะพี่ปุ่น” เมราณียังคงเซ้าซี้

เมื่อโดนหญิงสาวรบเร้าขอให้ไปเดินเล่นเป็นเพื่อน ปัญญาจึงยอมลุกและออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนเมราณี........
“หืมม พี่ปุ่นดื่มจัดนะคะเนี่ยะ” เมราณีร้องออกมาเมื่อปัญญาเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอ
“นิดหน่อยเอง” ปัญญายิ้มให้หญิงสาว ก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ในมือขึ้นดื่ม
“ดื่มหนักๆ ระวังสุขภาพนะคะ” เมราณียังคงชวนปัญญาพูดคุยไปเรื่อยๆ ระหว่างเดินไปตามแนวหาดทราย


คืนนี้เป็นคืนเดือนเสี้ยว....พระจันทร์เป็นเสี้ยววงสวยสะดุดตา.........เหล่าดวงดาราต่างออกมาเล่นแสงกระพริบ ระยิบระยับ.....เมราณีเดินเรียบชายหาดเคียงคู่ไปกับปัญญา...


แม้ว่าหญิงสาวข้างๆ มีหน้าตาน่ารักหมดจดสักเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้ปัญญาเผลอใจเคลิ้มตามไปได้ ชายหนุ่มให้ความสนใจกับกระป๋องเบียร์ในมือมากกว่าให้ความสนใจหญิงสาวข้างๆ


เมราณีชำเลืองมองดูชายหนุ่มข้างๆ แล้วให้อดอมยิ้มออกมาไม่ได้
.
.
.
การ์ตูนและพรพรรณนั่งคุยกันที่ระเบียงหน้าบ้านพัก ซึ่งมีปฏิมาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ไม่ไกลกันนัก
“นี่พี่พรคะ พี่เมหายไปไหนคะ” การ์ตูนร้องถามพรพรรณ ถึงเมราณี
“อ้อ น้องเมหรือจ๊ะ เค้า.........” พรพรรณตอบยิ้มๆ ก่อนจะชำเลืองมองไปทางปฏิมาที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
“รู้สึกน้องเม จะไปเดินเล่นชมแสงเดือน อาบแสงจันทร์กับคุณปุ่นกันสองต่อสองที่ริมทะเลโน้นหน่ะจ๊ะ” พรพรรณจงใจตอบการ์ตูนด้วยน้ำเสียงที่เธอมั่นใจว่าดังพอที่ปฏิมาจะได้ยินถนัดสองหู


และจริงอย่างที่แม่บ้านคนขยันคาดไว้ ปฏิมาได้ยินทุกคำพูดระหว่างพรพรรณ และการ์ตูนเป็นอย่างดี......หญิงสาวขาดสมาธิจากหนังสือในมือ สองหูของเธอเฝ้ารอฟังคนทั้งคู่พูดคุยกัน


“อ้าว แล้วทำไมไม่เห็นชวนเราไปด้วยละคะพี่พร” การ์ตูนยังคงซักถามด้วยความไม่เข้าใจ
“โธ่ น้องตูนคะ จะไปเป็น ก.ข.ค. เค้าทำไมกัน” พรพรรณพูดจบก็แอบอมยิ้ม
“ก.ข.ค. หมายความว่าไงคะพี่พร” การ์ตูนยังคงซักถามไม่หยุด
“ก็ ......นี่ฟังแล้วห้ามบอกใครนะคะ” พรพรรณแกล้งทำเป็นกระซิบกระซาบกับการ์ตูน แต่เสียงเธอก็ยังทำให้ปฏิมาได้ยินอยู่ดี


ปฏิมาเอียงหูรอฟังคำของพรพรรณอย่างตั้งใจ
“น้องเมเค้ามาบอกกับพี่ค่ะว่า เค้าชอบคุณปุ่น และว่าคืนนี้จะสารภาพรักกับคุณปุ่นค่ะ” พรพรรณพูดจบแค่นั้น ปฏิมาที่รอฟังอยู่ถึงกับตกตะลึง


หญิงสาวปิดหนังสือในมืออย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะรีบลุกพรวดพราดเดินไปในห้องพักทันที พรพรรณมองตามหลังปฏิมาด้วยสีหน้ายิ้มกรุ้มกริ่ม.......เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้


ปฏิมาเดินเข้ามาในห้องพัก หญิงสาวขมวดคิ้วแน่น สองมือกุมกันไว้ ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน......เธอเดินวนไปมาในห้องอยู่หลายรอบ ก่อนจะตัดสินใจมองไปที่เตียง ซึ่งมีพาสนานอนพักอยู่


“ปลา.....ปลา.....” ปฎิมาร้องเรียกพาสนาที่กำลังนอนพักอยู่ในห้อง
“หืมม มีอะไรตุ้ม” พาสนาลืมตามองเพื่อนรักที่เข้ามาหาเธอ
“ออกไปเดินเล่นกัน” ปฏิมาร้องบอกพาสนา
“ออกไปเดินเล่น....ดึกๆ แบบนี้นี่นะ” พาสนามองออกไปนอกหน้าต่าง บรรยากาศข้างนอกมีเพียงแสงไฟจากบ้านพักส่องแสงเพียงสลัวๆ เท่านั้น
“อืม นะ....” ปฏิมารีบเข้ามาฉุดมือพาสนาให้ลุกจากที่นอน
“อะไรกันตุ้ม...เดี๋ยวๆ” พาสนาตกใจที่ปฏิมามาลากเธอจากที่นอน ไม่ว่าเธอจะทักท้วงยังไง ปฏิมาก็ไม่ยอมฟัง หญิงสาวมาดเซอร์รีบลากเพื่อนรักจากที่นอน แล้วเดินออกจากบ้านพักอย่างรีบร้อน


ปฏิมาลากพาสนาเดินตรงรี่ลงไปยังชายหาด.....แม้หญิงสาวจะมีความหวาดระแวงในบรรยากาศมืดๆ แบบนี้ แต่ในเวลานี้ความกลัวต่างๆ มันกลับหายไปหมดสิ้น.....


ปฏิมามองไปรอบๆ หาด ก่อนจะเดินดุ่ยๆ ไปทางส่วนที่เป็นหาดส่วนตัวที่เธอเห็นเมื่อช่วงกลางวัน......พาสนาเดินตามเพื่อนรักจนเหนื่อยหอบ


“ตุ้ม....เดี๋ยวตุ้ม...แกจะรีบไปไหน” พาสนาร้องถามปฏิมา
“ปลาแกเดินเร็วๆ หน่อยซิ” ปฏิมาหันมาทำเสียงหงุดหงิดใส่เพื่อนรัก

ด้วยเพราะพาสนายังมีไข้อยู่ จึงทำให้เธอเหนื่อยง่าย........หญิงสาวทรุดนั่งลงกับพื้นทราย....
“เป็นอะไรวะปลา แกนั่งทำไม” ปฏิมาร้องโวยวายเมื่อเห็นพาสนานั่งลงไปกองกับพื้น
“ฉันป่วยอยู่นะตุ้ม แกลากฉันมา แกยังจะมาว่าฉันอีกหรอ” พาสนาเองก็รู้สึกหงุดหงิดที่โดนปฏิมาลากออกมาจากบ้านพัก และมาต่อว่าอีก

ปฏิมาขมวดคิ้วยุ่งมองพาสนา.......เธอหันรีหันขวาง มองไปทางชายหาด แล้วมองมายังเพื่อนรัก
“โธ่เว้ย.........” ปฏิมาร้องออกมาอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะเดินมาพยุงพาสนาให้ลุกขึ้น

สาวเซอร์พาพาสนาไปนั่งที่เขือนหินที่ทางรีสอร์ทได้จัดทำไว้กันน้ำพัดทรายขึ้นมากองพื้นที่รีสอร์ท ก่อนจะเดินไปทางชายหาดอีกครั้ง
“ตุ้มแกจะไปไหน” พาสนาร้องเรียกเพื่อนรักอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าปฏิมามีท่าทีรีบร้อน
“แกนั่งอยู่นั่นละปลา เดี๋ยวฉันมา” ปฏิมาไม่ได้ตอบคำถามอะไร เธอบอกกับพาสนาแค่นั้น แล้วก็รีบวิ่งออกไปยังชายหาด
“อะไรของมันเนี่ยะ” พาสนามองเพื่อนของเธอหายไปกับความมืด ด้วยความไม่เข้าใจ

ปฏิมาวิ่งมาตามชายหาด ด้วยความรู้สึกร้อนรนใจพิกล เธอพยายามเพ่งสายตามองไปรอบๆ เพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง
.
.
.
เมราณีเดินเรียบชายหาดมากับปัญญาอย่างช้าๆ.......หญิงสาวหันหลังมองไปตามทางที่เดินมา.........แล้วเธอก็ต้องยิ้มออกมา
“พี่ปุ่นคะ....” เมราณีร้องเรียกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ครับ” ปัญญาหันมาขานรับ
“อืมม.........เมมีอะไรจะบอกค่ะ” เมราณียิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
“อะไรหรือครับน้องเม” ปัญญาเลิกคิ้วมองหญิงสาวด้วยความสงสัย
“อืม....พี่ปุ่นก้มมาซิคะ” เมราณีพูดน้ำเสียงหวานน่าฟัง
“หืมมม มีอะไรรึป่าว” ปัญญายังคงไม่เข้าใจในตัวสาวน้อยตรงหน้า
“นะคะ ก้มมาซิ เมมีไรจะบอกพี่ปุ่น” เมราณียังคงร้องขอให้ชายหนุ่มก้มหน้าหาเธอ
ปัญญายิ้มบางๆ ออกมา ก่อนจะยอมก้มหน้าลงตามคำขอของสาวสวย




โดย: kokoo_129 วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:17:59:00 น.  

 
เมื่อชายหนุ่มยอมก้มลงตามคำขอ เมราณีก็รีบเข้าไปกระซิบบอกอะไรบางอย่างกับเค้า............ปัญญาเลิกตามองสาวสวยตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่เชื่อ........แต่เมราณีกลับยิ้มหวาน และพยักหน้าให้เค้าอีกครั้ง


“เชื่อเมนะคะพี่ปุ่น......” เมราณีบอกกับชายหนุ่มพร้อมยิ้มกว้าง ก่อนจะหันมองไปทางที่เดินมาด้วยกันอีกครั้ง
“โชคดีนะคะพี่ปุ่น” เมราณีหันมาบอกกับชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะเดินหายไปในความมืด
ปัญญายังคงยืนนิ่งอยู่กับที่....หลังจากที่ได้ฟังอะไรบางอย่างจากเมราณี


ปฏิมาที่เดินมาตามชายหาด เห็นภาพที่เมราณีกับปัญญาเมื่อสักครู่........หญิงสาวขมวดคิ้วแน่น แล้วรีบเดินตรงดิ่งมาทางปัญญา
“พี่ปุ่น” ปฏิมาเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงดังฟังชัด

ปัญญาที่ยืนอึ้งกับคำพูดของเมราณีเมื่อสักครู่ หันมองเจ้าของเสียงที่ตอนนี้มายืนประจันหน้ากับเค้า
“ตุ้ม........” ปัญญาเรียกชื่อหญิงสาวตรงหน้า


เพี้ยะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!~

เสียงฝ่ามือของปฏิมากระทบกับใบหน้าของปัญญาอย่างจัง..........หน้าของชายหนุ่มหันไปตามแรงที่โดนตบ.......

“พี่ปุ่นทำแบบนี้ได้ยังไงกัน........” ปฏิมายังโวยวายใส่ปัญญาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความโกรธเต็มที่
“อะไรกันตุ้ม มาตบหน้าพี่ทำไม” ปัญญาหันกลับมาถามหญิงสาวด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่ปุ่นทำกับตุ้มแบบนี้ได้ยังไง....” ปฏิมายังคงร้องถามคำถามเดิม
“อะไรกันพี่ไม่เข้าใจ” ปัญญารู้สึกงุนงงอย่างหนัก เค้าจ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกมึนไปหมด
“พี่ปุ่น...ทำกับตุ้ม ได้ยังไง” ปฏิมายังคงร้องถาม คำถามซ้ำๆ แต่น้ำเสียงของเธอเบาลง น้ำตาหยดใสไหลออกมาจากดวงตาของเธอ


น้ำตาใสๆ ค่อยไหลออกจากดวงตาคมของสาวเซอร์......มันไหลร่วงลงมากระทบกับแก้มของเธอ
“ตุ้ม....” ปัญญาตกตะลึงกับภาพตรงหน้า
“พี่ปุ่นใจร้าย.....พี่ปุ่นใจร้ายที่สุด” ปฏิมาต่อว่าต่อขานชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยน้ำเสียงที่สะอื้น
“.....” ปัญญายังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าปฏิมาเป็นอะไร แต่เค้าก็ทนไม่ได้ที่เห็นผู้หญิงตรงหน้าต้องเสียน้ำตา ชายหนุ่มเอื้อมมือหมายจะปาดน้ำตาที่แก้มให้เธอ


แต่ปฏิมากลับปัดมือชายหนุ่มอย่างแรง
“ตุ้มเกลียดพี่ปุ่น.........ได้ยินมั้ยว่าตุ้มเกลียดพี่ปุ่น” ปฏิมาตะโกนเสียงดังใส่หน้าชายหนุ่ม ก่อนจะหันหลังให้เค้าเพื่อจะวิ่งออกมาจากตรงนั้น
“เดี๋ยวซิตุ้ม” ปัญญารีบคว้าตัวหญิงสาวเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอหนีเค้าไป......
“เกิดอะไรขึ้น มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนซิ” ปัญญาซักถามเรื่องราวกับหญิงสาวด้วยความงุนงงที่มี
“ปล่อยตุ้ม.........ปล่อยยยย” ปฏิมาดิ้นสะบัดตัวให้หลุดจากการโดนเกาะกุมจากชายหนุ่ม


ปัญญาเห็นว่าขืนปล่อยให้ปฏิมาดิ้นแบบนี้ต่อไป เค้าคงจับเธอไว้ไม่อยู่..........ชายหนุ่มรวบตัวหญิงสาวเอาไว้ด้วยอ้อมแขนจนแน่น
“ปล่อยตุ้ม.....ปล่อยยย” ปฏิมายังคงร้องโวยวายไม่หยุด
“มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน ตุ้มเป็นอะไร” ปัญญาซักถามหญิงสาวในอ้อมแขนของเค้า เพราะเค้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเธอโกรธอะไร
“ตุ้มเกลียดพี่ปุ่น.....ได้ยินมั้ยว่าตุ้มเกลียด” ปฏิมาหันมาตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มอีกครั้ง......น้ำตาของเธอยังไม่ยอมหยุดไหล

ปัญญาจ้องหน้าหญิงสาวด้วยแววตาปวดร้าว คำพูดที่เธอตะโกนใส่เค้า มันทำให้เค้ารู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก
“ตุ้มพูดอะไร รู้ตัวรึป่าว” ปัญญาพยายามสงบอารมณ์ถามหญิงสาวอีกครั้ง
“ตุ้มเกลียดพี่ปุ่น ชัดมั้ย............. ตุ้มเกลียดพี่ปุ่น” ปฏิมาพูดย้ำคำเดิม ด้วยน้ำตานองหน้า


ปัญญาจ้องดวงตาของหญิงสาว ดวงตาที่มันฟ้องให้รู้ว่าสิ่งที่เธอพูด มันตรงข้ามกันกับสิ่งที่อยู่ในใจเธอ
“แต่พี่รักตุ้มนะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็กระชับอ้อมกอดของเค้าแน่นขึ้น ก่อนจะก้มหน้าลง และจูบเธอ.......


ปฏิมาดิ้นพรวดๆ ในแขนของปัญญาอยู่พักใหญ่..........แล้วเธอก็ต้องหมดฤทธิ์ลง.........สองมือที่ดันเค้าอยู่ กลับเปลี่ยนเป็นกอดเค้าไว้แน่น.....กว่าปัญญาจะยอมถอนจุมพิตครั้งนี้ ก็ทำเอาปฏิมาแทบหมดสติ เพราะขาดอากาศหายใจ

“พี่รักตุ้มนะครับ” ปัญญาบอกกับหญิงสาวชัดๆ อีกครั้ง จนทำเอาอีกฝ่ายอึ้งแทบไม่เชื่อหู
“พี่ปุ่น” ปฏิมาจ้องหน้าชาหนุ่ม ด้วยอาการเหมือนคนตกอยู่ในห้วงแห่งฝัน
“แล้วตุ้มละ” ปัญญาถามกลับพร้อมกับยิ้มให้เธอ

ปฏิมากระพริบตาถี่........แก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูจัดขึ้นจนเกือบแดง..........หญิงสาวรู้สึกหายใจติดขัด มันมึนไปหมด........
“ตุ้มรักพี่มั้ย” ปัญญายังคงซักถามหาคำตอบจากฝ่ายหญิง
“ตุ้ม......ตุ้ม.......” ปฏิมามีอาการพูดตะกุกตะกักไม่เป็นภาษา
“ไม่เป็นไร ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร แต่พี่รู้.....” ปัญญายิ้มออกมาบางๆ
“รู้.....พี่ปุ่นรู้อะไร” ปฏิมาเงยหน้าถามชายหนุ่มอย่างสงสัย
“พี่รู้ว่า ตุ้มรักพี่” ปัญญาพูดจบก็ยิ้มหวานให้หญิงสาว ปฏิมาถึงกับอาการหน้าแดงจัด.....เธอรู้สึกทำอะไรไม่ถูก มันเป็นอาการที่บอกไม่ถูก
“ใคร......ใครรักพี่ปุ่น” ปฏิมาหลบตาชายหนุ่มพัลวัน เพราะกลัวว่าหากจ้องตาเค้าเธอก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดอย่างแน่นอน
“พี่รู้หมดแล้ว.....เมื่อกี้น้องเม....” ยังไม่ทันที่ปัญญาจะพูดจบ ปฏิมาหันมองชายหนุ่มตาขวางทันที ที่ได้ยินเชื่อของเมราณีหลุดจากปากเค้า
“ออกไป.......” ปฏิมาออกแรงดันชายหนุ่มออกจากตัวเธอ
“อะไรกันอีกละตุ้ม” ปัญญาเซถอยหลัง2 ก้าว ก่อนจะหันมองหญิงสาวด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่ปุ่นมีน้องเมแล้ว มายุ่งกับตุ้มทำไม....ผู้ชายหลายใจ” ปฏิมาตะโกนเสียงดังใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะสะบัดหน้าใส่เค้า
“ไปกันใหญ่แล้ว” ปัญญาคว้ามือปฏิมาเอาไว้
“ปล่อยตุ้มเลยนะ คนเจ้าชู้ คนหลายใจ” ปฏิมาพยายามแกะมือปัญญาออกจากมือของเธอ แต่ชายหนุ่มกลับดึงเธอเข้าหาเค้า
“ตุ้มพูดอะไร ใครรักใคร” ปัญญาซักถามปฎิมาด้วยความสงสัย
“ก็ใครละ ที่เมื่อกี้หอมกัน.....ใช่ซิตุ้มมันไม่ดี ไม่น่ารักเหมือนน้องเมนิ” ปฏิมาพูดน้ำเสียงประชดประชัน
“หึ....เรื่องนี้เอง” ปัญญายิ้มขำๆ ออกมา พร้อมจ้องหน้าปฏิมาอย่างเอ็นดู
“อย่ามาหัวเราะตุ้มนะ ตุ้มมันโง่......โง่ที่ไปรักคนเจ้าชู้” ปฏิมาแผดเสียงด้วยความโมโห
“แน่...........รักใครนะ” ปัญญายิ้มกริ่มเมื่อหญิงสาวหลุดออกมา
“อุ้ย!!!~ ปฏิมารีบยกมือปิดปากของเธอทันที นี่เธอหลุดบอกรักเค้าได้ยังไงกัน
“ไหน พูดให้พี่ชื่นใจอีกทีซิ” ปัญญาดึงปฏิมามากอดไว้แน่น
“พูดอะไร ใครพูดอะไร” ปฏิมายังคงปากแข็งไม่ยอมพูด
“ไม่พูดแน่นะ” ปัญญายิ้มกริ่มมองหน้าปฏิมา
“ไม่.......” ปฏิมาส่ายหน้าไปมา ไม่ยอมพูด
“งั้น..........” ชายหนุ่มก้มลงจูบหญิงสาวอีกครั้ง.........แต่ครั้งนี้ดูอบอุ่น และอ่อนโยนกว่าครั้งก่อนมากมายนัก
ปฏิมารับรู้ถึงความรัก ความรู้สึกที่ปัญญามีต่อเธอ............


ปัญญาค่อยๆ ถอนริมฝีปากของเค้าออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาว พร้อมกับยิ้มให้เธอ........
“จะพูดมั้ย” ชายหนุ่มกระซิบถามน้ำเสียงนุ่มนวล
“หึ.....” ปฏิมายังคงส่ายหน้าปฏิเสธอีก


ปัญญายิ้มออกมา ก่อนจะก้มลงจูบหญิงสาวอีกครั้ง............อีกครั้ง............และอีกครั้ง
.
.
.
เมราณี พรพรรณ และการ์ตูน ต่างก็เดินหัวเราะคิกคักเดินขึ้นบ้านพัก อย่างอารมณ์ดี

พิษณุเดินออกมาจากในบ้านจึงซักถามสามสาว
“พี่พรครับ เห็นปลารึป่าวครับ” พิษณุถามพรพรรณเมื่อเค้าตามหาตัวพาสนาไม่เจอ
“อ้อ น้องปลาหรือคะ.........เอ เมื่อกี้พี่เห็นน้องตุ้มพาน้องปลาออกไปที่ชายหาดหน่ะค่ะ” พรพรรณตอบพิษณุด้วยสีหน้ายิ้มแก้มปริ
“อะไรนะครับ ปลาไปชายหาดหรือครับ” พิษณุถามย้ำ
“ค่ะ....” พรพรรณพยักหน้ายืนยัน
“แย่จริง ยิ่งไม่สบายอยู่ ยังจะออกไปตากลมอีก” พิษณุบ่นอุบด้วยท่าทีที่ไม่ชอบใจนัก ก่อนจะเดินลงจากบ้านพักไปยังชายหาด
สามสาวมองตามพิษณุ แล้วหันมองหน้ากันทำตาปริบๆ



พิษณุเดินลงมายังชายหาดของรีสอร์ท.........ชายหนุ่มมองไปรอบๆ ด้วยอาการร้อนรนใจ
“ปลา....................” พิษณุตะโกนร้องเรียกชื่อหญิงสาว และออกเดินตาหาเธอ
“ปลา ได้ยินเสียงพี่มั้ย .............ปลา” พิษณุยังคงตะโกนร้องเรียกเรื่อยๆ
“พี่ณุ........” พาสนาที่นั่งอยู่ตรงเขื่อนของรีสอร์ทขานรับเสียงที่ร้องเรียกชื่อเธอ
“ปลา...........” พิษณุ หันมองตามเสียงขานรับ เค้าก็พบกับพาสนาที่นั่งอยู่ตรงเขื่อนหิน.....ชายหนุ่มรีบวิ่งไปหาหญิงสาว
“พี่ณุมาทำอะไร” พาสนาร้องถามชายหนุ่ม ที่เห็นเค้ามาร้องเรียกหาเธอ
“พี่ต่างหากที่ต้องถามปลา......ว่ามาทำอะไรตรงนี้” พิษณุขมวดคิ้วมองพาสนา
“ก็พอดี ปลาออกมาดูทะเลหน่ะ” พาสนาตอบยิ้มๆ
“ดูทะเล!!!~” พิษณุพูดน้ำเสียงขุ่น
“อืมม....ทะเลตอนกลางคืนสวยออก” พาสนาตอบสีหน้ายิ้มๆ
“ปลา ทำอย่างนี้ได้ไงกันหน่ะ หะ” พิษณุขมวดคิ้ว ร้องถามหญิงสาวเสียงดุขึ้น จนพาสนาต้องหุบยิ้มลง แล้วหันมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
“อะไรกันละพี่ณุ” พาสนาจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจว่าเค้ามาดุเธอทำไมกัน
“ไปกลับเข้าบ้าน” พิษณุไม่อธิบายอะไร เค้าจับมือพาสนา แล้วดึงให้เธอลุกเดินตามเค้ากลับบ้านพัก
“อะไรกันพี่ณุ ปล่อยปลานะ” พาสนาสะบัดมือชายหนุ่มออก เธอไม่ชอบที่เค้าทำแบบนี้กับเธอ ทำเหมือนว่าเธอได้ทำอะไรผิดมามากมาย
“อย่าดื้อซิปลา” พิษณุหันมองหน้าหญิงสาว
“ปลาดื้อหรอ........พี่ณุหน่ะซิบ้า อยู่ดีๆ มาดุปลา มาลากปลา พี่ณุเห็นปลาเป็นอะไร” พาสนาไม่ชอบใจกับการกระทำของชายหนุ่ม เธอไม่ยอมกลับไปกับเค้าง่ายๆ
“พี่บอกให้กลับเข้าไปในบ้านไงปลา” พิษณุ เริ่มเสียงเข้มขึ้น
“ไม่กลับ......ปลาไม่กลับ”พาสนาดื้อเพ่งไม่ยอมกลับ
“ปลาจะดื้อกับพี่ใช่มั้ย” พิษณุถามหญิงสาวน้ำเสียงดุ
“ก็ปลาไม่กลับ พี่ณุอยากกลับก็กลับไปคนเดียวแล้วกัน” พาสนาหมุนตัวแล้วเดินกลับไปนั่งที่เขื่อนเช่นเดิม
พิษณุยืนมองสาวแสนดื้อ ด้วยอาการหงุดหงิดใจ..........เค้าไม่อยากให้เธอมานั่งตากลมแบบนี้ แต่ทำไมเธอต้องมาดื้อกับเค้าด้วย


“ปลา พี่บอกให้กลับไง” พิษณุเดินเข้ามาคว้ามือพาสนาอีกครั้ง
“แอ๊ะพี่ณุ.........ปลาบอกว่าไม่กลับไง ฟังไม่เข้าใจหรือไง” พาสนาสะบัดมือพิษณุออก พร้อมกับพูดเสียงเขียวใส่เค้า
“ปลา.......” พิษณุ พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ เค้าเรียกชื่อหญิงสาวอีกครั้ง
“ไม่กลับ ยังไงปลาก็ไม่กลับ” พาสนายังคงย้ำ และไม่ยอมกลับไปกับพิษณุ
“ไม่กลับใช่มั้ย...” พิษณุเหลืออดกับความดื้อของหญิงสาว.....ชายหนุ่มตรงเข้ามาหาเธอ
“พี่ณุจะทำอะไร” พาสนาร้องโวยวายด้วยความตกใจ ที่จู่ๆ พิษณุก็ตรงเข้ามาอุ้มเธอขึ้น
“ปล่อยปลานะ พี่ณุ...........พี่ณุ.........” พาสนาร้องเสียงหลง พร้อมกับดิ้นไปมา ขณะที่โดนพิษณุแบกขึ้นไหล่
“ดื้อนัก.......ต้องเจอแบบนี้” พิษณุพูดจบก็แบกพาสนากลับบ้านพัก
“ปล่อยปลาลงนะพี่ณุ ปล่อย....” พาสนาร้องออกมา พร้อมกับดิ้นไปมาเพื่อให้พิษณุปล่อยเธอลง
“อย่าดิ้นซิ” พิษณุบอกกับหญิงสาวเสียงเข้ม เพราะตอนนี้เธอดิ้นไม่ยอมหยุด
“พี่ณุก็ปล่อยปลาลงซิ” พาสนายังคงร้องโวยวายไม่หยุด
“ไม่ล่ะ ปลาดื้อกับพี่ก่อน” พิษณุยังคงไม่ยอมวางพาสนาลง

หญิงสาวที่โดนแบกอยู่ แม้จะไม่ค่อยสบายอยู่ก็จริง แต่เมื่อโดนชายหนุ่มทำแบบนี้ เธอก็ไม่ยอมเช่นกัน พาสนารวบรวมแรงทั้งหมดที่มีดิ้นสุดแรงเกิด.......เพราะเธอดิ้นมากนี่เอง จึงทำให้พิษณุที่กำลังแบกอยู่อยู่เสียหลัก

ทั้งคู่ล้มลงกับพื้นทราย........ร่างหญิงสาวกระเด็นร่วงลงไปกองกับพื้น.........
“โอ้ยยยย” พาสนาร้องออกมาเมื่อตัวเธอล่วงลงกับพื้นทรายขาว
“ปลา......” พิษณุที่ล้มเช่นกัน รีบลุกขึ้นมาดูพาสนาด้วยความเป็นห่วง
“ปล่อยนะ.......ไม่ต้องมายุ่งเลย......โอ้ยยย” แม้จะเจ็บอยู่ แต่หญิงสาวก็ยังคงมีฤทธิ์มีเดช

“โอ้ยยย .....” พาสนาจับแขน จับขาตัวเอง แล้วร้องโอดโอยไม่หยุด
“ไหนมาให้พี่ดูซิ” พิษณุจับแขนพาสนามาดูว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนรึป่าว
“ปลาบอกว่าอย่ามายุ่งไง.....” พาสนายังคงทำเสียงงอแงใส่ชายหนุ่ม
“ไม่เอาน่าปลา....อย่างอแงซิ” พิษณุพูดเสียงตำหนิหญิงสาว
“ก็ใครละ ทำปลาเจ็บอ่ะ” พาสนาขมวดคิ้วต่อว่าชายหนุ่ม
“...........” พิษณุจ้องหน้าหญิงสาว ซึ่งตอนนี้มันตูมหงิกอย่างมาก
“พี่ขอโทษ......อย่าโกรธพี่เลยนะ” พิษณุกล่าวคำขอโทษพาสนาเมื่อรู้ว่าเค้าทำเธอโกรธอย่างมาก
“ไม่ต้องมาขอโทษเลย.......ทำเค้าเจ็บแล้วมาขอโทษหรอ” พาสนาบ่นเสียงกระเง้ากระงอด กระปอดกระแปดใส่ชายหนุ่ม
“แล้วจะให้พี่ทำไง ถึงจะหายโกรธละ” พิษณุร้องถามด้วยสีหน้าอ้อนวอน
“กลัวปลาโกรธ แล้วมาทำแบบนี้กับปลาทำไม” พาสนามองหน้าชายหนุ่ม ใบหน้าของเธอยังคงหงิกตูมอยู่
“ก็พี่...........” พิษณุนิ่งเงียบลง..........จริงซิ ทำไมเค้าถึงได้อารมณ์เสียขนาดนี้ แค่พาสนาออกมานั่งดูทะเลแค่นี้เองนินา
“..............” พาสนาจ้องหน้าชายหนุ่มเพื่อรอฟังคำตอบจากเค้า

“พี่เป็นห่วงปลา......ปลายังไม่หายดี แล้วมานั่งตากลม ตากน้ำค้างแบบนี้......” พิษณุตอบน้ำเสียงอ่อยๆ
“แล้วทำไมไม่บอกปลาดีๆ ทำไมต้องมาดุปลาด้วย” พาสนาโต้กลับ
“พี่รู้ว่าพี่ผิด.........พี่ขอโทษ........” พิษณุบอกกับหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาสำนึกผิด
พาสนาจ้องมองชายหนุ่ม เธอมองเข้าไปในดวงตาของเค้า ที่มันกำลังบอกให้เธอรู้ว่าทุกอย่างที่เค้าทำ เป็นเพราะเค้าห่วงใยเธอ

ใบหน้าที่หงิกตูม เริ่มกลับสภาพปรกติ
“หายโกรธพี่นะคะ..........” พิษณุถามหญิงสาวน้ำเสียงอ้อนๆ
“จริงๆ เลยนะพี่ณุเนี่ยะ........” พาสนาทนใจอ่อนกับคำขอร้องน้ำเสียงอ้อนๆ ไม่ไหว เธอมองชายหนุ่ม แล้วต้องหลุดยิ้มออกมา

พิษณุเห็นพาสนายิ้มออกมาให้เค้า ชายหนุ่มยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“ปลาหายโกรธพี่แล้วใช่มั้ย” พิษณุร้องถามด้วยอาการดีใจอย่างชัดเจน
“อืมม แต่คราวหน้าถ้าพี่ณุทำแบบนี้อีก ปลาไม่หายโกรธง่ายๆ แน่ๆ” พาสนาพยักหน้าให้ชายหนุ่ม แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะพูดขู่เค้าไว้เช่นกัน

พิษณุยิ้มกว้างอย่างดีใจ...........เค้าจับมือพาสนามากุมไว้ แล้วยิ้มให้เธอ
“ปะ.......กลับเข้าบ้านกัน ปลาไม่ค่อยสบาย ตากลมนานๆ ไม่ดีนะคะ” พิษณุบอกกับพาสนาจบก็จัดการพาเธอลุกขึ้น


พาสนาลุกขึ้นยืน แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อร่างของเธอลอยขึ้นจากพื้นทราย …….ชายหนุ่มใช้สองมือของเค้าช้อนร่างของหญิงสาวขึ้นมาอย่างนุ่มนวล
“พี่ณุทำอะไรอีก” พาสนาขมวดคิ้วร้องถามชายหนุ่ม
“ปลาไม่สบาย........พี่อุ้มไปดีกว่านะ” พิษณุยิ้มให้พาสนา แล้วก้าวเดินไปข้างหน้า
“แต่..........” พาสนาคิดจะโต้เถียง แต่ดูเหมือนพิษณุไม่ได้สนใจกับคำโต้ของเธอ หญิงสาวจึงนิ่งเงียบลง
พิษณุอุ้มพาสนาเดินกลับไปยังบ้านพัก ด้วยสีหน้ายิ้มละไมอย่างอารมณ์ดี........




โดย: kokoo_129 วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:17:59:29 น.  

 
ชายหนุ่มอุ้มสาวห้าวแสนดื้อ เดินตรงมายังบ้านพัก.........แต่พอถึงบริเวณหน้าบ้านพัก พาสนาก็รีบร้องบอกพิษณุทันที
“พี่ณุ...” พาสนาเรียกชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“หืมม” พิษณุก้มมองสาวที่เค้ากำลังอุ้มอยู่
“ปล่อยปลาลงเถอะ...” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม ด้วยสีหน้าอายๆ
“ทำไมละ” พิษณุถามยิ้มๆ
“นะ ปล่อยปลาเถอะ” พูดจบพาสนาก็หันมองไปทางหน้าบ้านพัก

พิษณุรู้ว่าพาสนารู้สึกเช่นไร หากคนในบ้านเห็นว่าเค้าอุ้มเธอเข้าไป ทุกคนคงล้อเธอแน่ๆ...........พิษณุยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูในตัวสาวคนที่เค้ากำลังอุ้มอยู่

“นะพี่ณุ ปล่อยปลาลงนะ” พาสนาหันมาพูดน้ำเสียงอ้อนๆ กับชายหนุ่ม
“จ๊ะ....” พิษณุยิ้มหวานให้หญิงสาว ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยเธอลง
“ขอบคุณนะ พี่ณุ...” พาสนากล่าวกับชายหนุ่ม เมื่อเค้ายอมปล่อยเธอลงอย่างเข้าใจ
“ปะ........” พิษณุคว้ามือหญิงสาวมาจับ แล้วจูงเธอเดินเข้าไปในบ้านพัก......

เมื่อชายหนุ่มมาส่งเธอถึงหน้าห้องพัก พาสนาก็รีบดึงมือเธอออกจากมือเค้า .....
“เอออ.......” พาสนาหันมองมาทางพิษณุ
“ปลา เข้าไปนอนก่อนนะ” พาสนาบอกกับชายหนุ่ม น้ำเสียงแผ่วเบา
“อืมม” พิษณุยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า


เมื่อกล่าวลาเรียบร้อย พาสนาก็เดินเข้าไปในห้องพักของเธอ.........แต่ก่อนที่เธอจะปิดประตูห้อง พิษณุก็ดึงประตูเอาไว้
“ปลา........” ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

พาสนาเงยหน้ามองชายหนุ่ม เพื่อรอฟังว่าเค้ากำลังจะพูดอะไรกับเธอ
“อย่าลืมกินยา นอนห่มผ้านะ” พิษณุบอกกับหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“อืมม” พาสนาพยักหน้า พร้อมกับยิ้มให้เค้า
“ปลา..........” พิษณุยังคงเรียกพาสนาเอาไว้อีกครั้ง
“หืมมม” พาสนาเลิกคิ้วมองชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มให้เค้า
“เอออ..............พี่ไปนะ” พิษณุมีท่าทางอ้ำอึ้งอยู่ชั่วครู่ แล้วก็ต้องเดินออกไปเสียดื้อๆ

พาสนามองชายหนุ่มที่เดินจากไปด้วยสีหน้างงนิดๆ แต่เธอก็ยังคงยิ้มออกมา ก่อนจะปิดประตูห้อง

ภายในห้องพัก สามสาวกำลังนอนคุยกันสนุกสนาน……เมื่อพาสนาเดินเข้าไป ทุกคนจึงหันมองมาทางเธอเป็นตาเดียวกัน


“อ้าว ทำไมมองปลากันแบบนั้นละ” พาสนาที่เดินเข้ามาในห้อง มองสามสาวแล้วต้องให้เกิดความสงสัย
“พี่ณุออกไปตามหาพี่ปลา.........เจอกันรึป่าวค่ะ” การ์ตูนกล่าวถามอย่างอยากรู้
พาสนานิ่งเงียบชั่วครู่เมื่อได้ยินคำถามจากสาวน้อยการ์ตูน...........

“น้องตูนนี่ ถามได้.......ต้องเจออยู่แล้วใช่มั้ยน้องปลา” พรพรรณหันมาถามยิ้มๆ เอากับพาสนา
“เอออ.......ห้าววว.......ปลาง่วงจัง ขอตัวไปนอนก่อนนะฮะ” พาสนาไม่ยอมตอบคำถามของพรพรรณ เธอรีบล้มตัวลงบนเตียงของเธอ ท่ามกลางความสงสัยของสามสาว
“มาถึงก็นอนเลยนะคะพี่ปลา” เมราณีเองก็มองพาสนาอย่างจับพิรุจ
“พี่ง่วงก่อนออกไปอีก นี่ถ้าไอ้ตุ้มไม่มาลากพี่ออกไป ป่านนี้พี่หลับไปนานแล้ว” พาสนาตอบคำถามเมราณีก่อนจะหลับตาลง
“อืม ว่าแต่.............ไม่รู้ตอนนี้พี่ตุ้มเป็นไงบ้างนะคะ” การ์ตูนพูดขึ้น แล้วพาสนาก็ต้องผงกหัวขึ้นมาทันที
“เอออ แล้วตุ้มมันยังไม่กลับมาอีกหรอฮะพี่พร.......” พาสนาเพิ่งนึกได้ว่าเพื่อนของเธอหายไปพักใหญ่แล้ว
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะพี่ปลา........พี่ตุ้มเค้าปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์” เมราณีพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้กับพรพรรณ
“หมายความว่าไง น้องเม” พาสนายังคงไม่เข้าใจความหมายของเมราณี และพรพรรณ
“คือว่า.........” เมราณียิ้มกว้าง แล้วลุกมานั่งที่เตียงของพาสนา ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวให้สาวห้าวฟัง
.
.
.
ปัญญาเดินจูงมือปฏิมาเดินลัดเลาะมาตามชายหาด.......ใบหน้าของหญิงสาวมันเต็มไปด้วยความเขินอายอย่างเห็นได้ชัด ปัญญาเอาแต่เดินยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“พี่ปุ่น.....ตุ้มถามอะไรหน่อยได้มั้ย” ปฏิมาพูดขึ้นขณะที่กำลังเดินเคียงข้างมากับปัญญา
“หืมม ถามอะไร” ปัญญาทำท่าพร้อมจะตอบทุกคำถามจากหญิงสาว
“เมื่อกี้ พี่ปุ่นกับ............น้องเม” ปฏิมายังคงคาใจกับภาพที่เธอเห็น
“อ้อ” ปัญญาหันมองหญิงสาวข้างๆ แล้วยิ้มชอบใจ
“เมื่อกี้น้องเมเค้ามาบอกพี่........” ปัญญาพูดสีหน้ายิ้มๆ.......ปฏิมานิ่งเงียบเพื่อรอฟัง
“น้องเมเค้าบอกพี่ว่า........ตุ้มรักพี่” ปัญญาหยุดเดิน แล้วมองหญิงสาวข้างๆ

“ตุ้ม...” ชายหนุ่มเรียกชื่อสาวซ่าส์ข้างๆ เค้า
“ฮะ...คะ” ปฏิมาขานรับด้วยอาการตกใจนิดๆ
ปัญญาจ้องหน้าหญิงสาว แล้วยิ้มหวานออกมา

“บอกให้พี่ฟังชัดๆ ให้ชื่นใจอีกสักครั้งได้มั้ย” ปัญญาร้องถามหญิงสาวด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
ปฏิมาเงยหน้ามองหน้าชายหนุ่มตรงหน้า.......แล้วหญิงสาวก็ต้องหลบสายตาของเค้า

“คือ.......” ปฏิมามีอาการอึกอัก อ้ำอึ้ง แก้มของเธอมันเป็นสีชมพูสุกปลั่ง
“ว่าไง บอกพี่ให้ได้ยินอีกสักครั้งนะ” ปัญญาก้มลงกระซิบถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเว้าวอน
“เอออออ.......” ปฏิมา เงยหน้ามองหน้าของชายหนุ่มที่ยื่นเข้ามาใกล้ๆ หน้าของเธอ
“หืมม” ปัญญาทำเสียงในลำคอ อย่างรอคอยฟังหญิงสาว
“คือตุ้ม...........ตุ้ม............” ปฏิมายังคงอ้ำอึ้งไม่ยอมพูด


ปัญญายิ้มกริ่มออกมา ก่อนจะโอบเอวหญิงสาวเอาไว้..........ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แก้มของปฏิมา จนจมูกของเค้าแทบจะประชิดกับแก้มของเธอ

ปฏิมาเอียงหน้าหลบจมูกที่ซุกซนของปัญญา........
“พี่ปุ่นทำอะไร.....เดี๋ยวใครๆ ก็มาเห็นกันหมด” ปฏิมามองไปรอบๆ ซึ่งตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า
“ถ้าไม่ยอมบอกพี่ พี่ก็จะหอมให้ชื่นใจแทน” ปัญญายิ้มกริ่ม ส่งสายตาเจ้าชู้ยักษ์ใส่ปฏิมา จนหญิงสาวรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้า
“คนขี้โกง” ปฏิมาพูดน้ำเสียงกระงอดใส่ชายหนุ่ม
“ว่าไงละ จะบอกหรือว่าให้พี่หอม” ปัญญายังคงเป็นต่อ
“บ้า.....” ปฏิมารู้สึกเขินอย่างมาก เธอใช้มือของเธอทุบที่อกชายหนุ่มเบาๆ
“หึหึหึ....” ปัญญาหัวเราะเบาๆ ในลำคออย่างเอ็นดูหญิงสาว


ปฏิมามองชายหนุ่มค้อนๆ ก่อนจะพูดกระซิบบอกเค้าเบาๆ ที่ข้างหู
“ตุ้มรักพี่ปุ่นนะคะ” ปฏิมากระซิบบอกกับชายหนุ่มเบาๆ ก่อนจะรีบเดินหนีกลับขึ้นไปยังบ้านพัก ด้วยอาการอายสุดๆ
ปัญญายืนมองหญิงสาวด้วยสีหน้ายิ้มอย่างมีความสุข





โดย: kokoo_129 วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:17:59:59 น.  

 
ปฏิมาเดินเข้ามาในห้องพัก ซึ่งเธอก็ต้องพบกับสายตาทั้งสี่คู่ ที่จ้องมาทางเธอเพียงคนเดียว.......หญิงสาวหยุดยืนตรงหน้าประตูเพียงชั่วครู่ ก่อนจะตีหน้าบูดๆ มาทางเมราณี
“น้องเม..!!!~” ปฏิมาเรียกเมราณีที่นั่งยิ้มหน้าบานด้วยน้ำเสียงสูง
“ว่าไงคะพี่ตุ้ม” เมราณีตอบสีหน้ายิ้มๆ
“น้องเมทำกับพี่อย่างนี้ได้ยังไงกัน........พี่พร น้องตูนก็ด้วย” ปฏิมาเดินเข้ามากลางห้อง พร้อมกับออกอาการฮึดฮัดใส่ทุกคน
“เมไปทำอะไรหรือคะพี่ตุ้ม...” เมราณีแกล้งตีหน้าไม่รู้เรื่องอะไรที่ปฏิมากำลังมาโวยใส่เธอ
“นั่นซิน้องตุ้ม พี่ไปทำอะไรคะ มาถึงก็มาโวยวายใส่พี่เนี่ยะ” พรพรรณเองก็แกล้งซักถามคืนด้วยสีหน้าที่ไม่รู้ไม่ชี้
“ก็น้องเม กับพี่พร วางแผนหลอกตุ้ม” ปฏิมาขมวดคิ้วมองหน้าสองสาว
“หลอก.....เมไปหลอกอะไรคะพี่ตุ้ม” เมราณียังคงถามกลับหน้าตาเฉย
“ก็หลอกให้พี่ไปหาพี่ปุ่นไง” ปฏิมาพูดจบก็รีบยกมือปิดปากตัวเอง...
“อันแน่....แอบไปหาพี่ปุ่นมาหรือคะพี่ตุ้ม” เมราณีพูดพร้อมกับยิ้มกริ่มมองปฏิมา

“เออออ........” ปฏิมามองสายตาของทุกคนในห้องด้วยความรู้สึกเหมือนผู้ร้ายที่กำลังโดนจับได้

“ว่าไงคะ ไปเดินกินลม ชมจันทร์กับคุณปุ่นมา สนุกมั้ย” พรพรรณแกล้งถาม จนทำเอาปฏิมาหน้าแดงจัดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“พี่พร...!!!~ “ ปฏิมาเรียกชื่อคนที่แซวเธอด้วยเสียงสูง ใบหน้าแดงจัด
“เอ....แกไปเดินกินลม ชมจันทร์ หรือว่า...ไปทำอะไรกันแน่วะไอ้ตุ้ม หน้าแกถึงแดงขนาดนี้หะ” พาสนาที่เห็นอาการของเพื่อนก็ถึงกลับแกล้งถามแซวๆ
ปฏิมาหันมองไปทางพาสนาแล้วต้องรีบยกมือปิดแก้มของเธอ


“แกก็อีกคนไอ้ปลา..........แกละตัวดี” ปฏิมารีบโวยกลบเกลื่อนอาการหน้าแดงของเธอ
“ฉันไปทำอะไรแกหะ ตุ้ม” พาสนาเลิกคิ้วถามเพื่อนรัก
“ก็แก.........ก็แกทิ้งฉัน” ปฏิมาทำเสียงตะกุกตะกัก และโยนความผิดให้พาสนาเสียงดื้อๆ
“เฮ้ย...!!!~ แกนั่นละที่ทิ้งฉันไอ้ตุ้ม..........ฉันก็ว่าแล้วว่าทำไมแกรีบขนาดนั้น ลากฉันไปด้วย แล้วทิ้งฉันไว้ซะเฉยๆ” พาสนาจ้องหน้าเพื่อนรัก และบรรยายถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดเมื่อสักครู่
“ก็ฉัน.....ก็....” ปฏิมามีอาการพูดไม่ออก เมื่อทุกอย่างที่พาสนาพูดเป็นความจริง
“ก็เพราะพี่ตุ้มหึงพี่ปุ่นไงคะพี่ปลา..........เลยต้องรีบ” เมราณีตอบแทนปฏิมา พร้อมกับยิ้มขำๆ
“น้องเม…!!!” ปฏิมาหันมองไปทางเมราณี แล้วต้องให้อยากจะหายไปจากตรงนี้เสียให้ได้
“เอาน่าน้องตุ้ม ไหนๆ พวกเราก็รู้กันหมดแล้ว จะอายไปทำไมกันคะ” พรพรรณเดินตรงมาหาปฏิมาพร้อมรับจับแขนหญิงสาว
“ว่าแต่..........เกิดอะไรขึ้นบ้างคะ บอกรักคุณปุ่นไปรึยัง” พรพรรณกระซิบถามปฏิมาด้วยสีหน้ายิ้มๆ
คำถามของพรพรรณทำเอาปฏิมาหน้าร้อนวูบทันที


“พี่พร........ตุ้มไม่คุยด้วยแล้ว” ปฏิมารีบเดินหนีพรพรรณ แล้วหายเข้าไปในห้องน้ำ
ทั้งสี่สาวต่างมองตามหลังปฏิมา จนประตูห้องน้ำปิด แล้วทุกคนก็ต้องหันมองหน้ากัน ก่อนจะปล่อยหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน

ปฏิมาที่อยู่ในห้องน้ำ เอาแต่ยกมือจับแก้มของเธอ..........ตอนนี้ทุกคนรู้หมดแล้วว่าเธอกับปัญญามีอะไรต่อกัน.........แล้วนี่เธอมิโดนพวกนี้ล้อไปอีกนานหรอกหรือนี่

ยิ่งคิด ปฏิมาก็ยิ่งรู้สึกใบหน้าร้อนชาไปหมด
.
.
.
ปัญญาเดินยิ้มกริ่มกลับเข้ามายังบ้านพัก....

ชายหนุ่มเห็นพิษณุกำลังนั่งเงียบๆ อยู่ที่เก้าอี้ ตรงระเบียงบ้านพัก
“คุณณุยังไม่เข้านอนอีกหรือครับ” ปัญญาเดินเข้าไปทักทายพิษณุ
“อ้อ คุณปุ่น......ยังหรอกครับ” พิษณุหันมาตอบปัญญา
“คิดอะไรอยู่หรือครับ” ปัญญากล่าวถาม ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัว
“ไม่มีอะไรครับ แค่.............นั่งตากลม ดูทะเล” พิษณุตอบน้ำเสียงเรียบนิ่ง ชายหนุ่มมองไปทางผืนท้องน้ำที่มืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากเรือประมงอยู่ไกลๆ 2-3 ดวง

ปัญญามองดูพิษณุ แล้วให้ยิ้มบางๆ ออกมา............
“ผู้หญิงบางคน เราก็ต้องใช้ความอดทนที่จะรอ.....รอให้เธอยอมรับใจตัวเองนะครับ” ปัญญาพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันมองพิษณุ
“....” พิษณุหันมองกลับมาที่ปัญญา ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าปัญญาหมายถึงอะไร
“แต่บางที.........ถ้าเรามัวแต่รอ เราอาจไม่มีโอกาสได้พูดให้เค้ารู้ก็ได้นะครับ” ปัญญาพูดจบก็ลุกขึ้น แล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ

พิษณุฟังสิ่งที่ปัญญาพูด แล้วให้รู้สึกแปลกๆ เค้ามองไปทางท้องทะเลที่มืดสนิทอีกครั้ง
“ถ้าบอกได้ง่ายๆ ก็คงไม่ทุกข์แบบนี้.....” ชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะหลับตาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้


แม้ว่าปัญญาและพิษณุจะร่วมงานกันได้ไม่นาน.........แต่เพราะเป็นผู้ชายที่มีความคิด และนิสัยที่คล้ายๆ กัน จึงทำให้ปัญญาพอจะมองออกว่าพิษณุกำลังรู้สึกอะไร และสนใจใครอยู่


ชายหนุ่มได้แต่อมยิ้ม.....คนที่พิษณุกำลังจ้องมองอยู่เอง ก็กำลังเฝ้ารอวันที่จะพบกับความสุข เหมือนกับที่เค้ากำลังพบอยู่ในเวลานี้ กับปฏิมา....ชายหนุ่มก็ได้แต่รอ รอให้คู่นั้นมีความสุขอย่างเค้าบ้าง
.
.
.


โดย: kokoo_129 วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:18:00:28 น.  

 
แสงแดดส่องผ่านทิวมะพร้าว และใบสน


ทุกคนต่างออกมา ออกกำลังกายตามตารางที่จัดเอาไว้ โปรแกรมของวันนี้คือการประชุมในช่วงเช้า และการเล่นเกมเพื่อสานสัมพันธ์กันระหว่างแผนก เกมที่คุณนิรวรรณจัดขึ้นในวันนี้ล้วนแล้วถูกอก ถูกใจพนักงานทั้งสิ้น โดยเฉพาะเกม ชื่อกล้วยแต่ไม่กล้วย


ทุกคนต่างอยู่ในชุดเตรียมพร้อมเต็มที่.......ทั้งสี่แผนกต่างก็อยู่ในชุดพร้อมรบเพื่อคว้าชัยชนะ


ปฏิมายืนยิ้มชอบใจเมื่อมองไปทางเรือกล้วย ที่จะใช้ในการแข่งขันของเกมนี้
“ปลา....” พิษณุเรียกสาวข้างๆ
“หืมม” พาสนาหันมองมาตามเสียงเรียก
“พี่ว่าปลาไปนั่งพักดีกว่านะ” พิษณุบอกกับพาสนาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ทำไมละพี่ณุ” พาสนาร้องถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ปลาไม่สบายอยู่ พี่ไม่อยากให้ปลาลงเล่นน้ำเลย” พิษณุบอกกับหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงในตัวเธอ
“โธ่........ปลาสบายดีแล้ว เห็นมั้ย แข็งแรงออก” พาสนายกแขนชูทั้งสองข้าง เพื่อให้ชายหนุ่มเห็นว่าเธอสบายดีแล้ว
“สบายดี หรือว่าอยากเล่นน้ำกันแน่” พิษณุรู้ทันสาวห้าวแสนดื้อ
“....เบื่อจริงรู้ทันเรื่อย” พาสนาทำปากจู๋บ่นอุบอิบ

พิษณุมองหน้าหญิงสาวแล้วให้อดยิ้มไม่ได้
“เอาละๆ พี่ให้เล่นก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกไม่ดีเมื่อไหร่ต้องเลิกนะ” พิษณุเองก็ไม่อยากขัดใจพาสนานัก เพราะเค้ารู้ว่าพาสนาอยากเล่นน้ำทะเลจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
“จ้า...” พิษณุยิ้มกว้างทันทีที่พิษณุพูดจบ

พิษณุยืนมองดูหญิงสาวที่แสดงอาการชอบอกชอบใจด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูในตัวเธอ...



**************************************





โดย: kokoo_129 วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:18:01:20 น.  

 
ไม่เห็นมาโพสต่อเลยอ่ะ รออ่านอยู่นะ


โดย: ฟ้าใส IP: 210.1.4.226 วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:14:31:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.