อ๊ะ....อ๊ะ....อย่าแอบดูอย่างเดียวจิ เข้าไปทักทายกันที่ "หน้าเกริ่นนำ" หน่อยนะจ๊ะ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

Change to Happy Workplace by Happy 8

ปัจจุบัน การดำเนินชีวิตมีแต่การแข่งขันกันตลอดเวลา

สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้.....

คนส่วนใหญ่ต้องทำงานหนักมากขึ้น จนขาดการดูแลสุขภาพตนเอง

ขาดการเอื้ออาทรต่อคน และสังคมรอบข้าง

ขาดการใช้ชีวิตที่พอเพียง ตลอดจนมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น

อันจะนำไปสู่ปัญหาครอบครัว และปัญหาสังคม

สิ่งเหล่านี้ สะท้อนถึงการขาดคุณภาพชีวิตที่ดี หรือขาดความสุขในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสมกับตนเอง


องค์กร หรือสถานที่ทำงาน เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง ซึ่งคนส่วนใหญ่ ใช้ชีวิตกว่าครึ่งในที่ทำงาน

ดังนั้น องค์กรจึงเป็นสถานที่สร้างทั้งความสุข, โอกาส, ความสำเร็จ

รวมถึง คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทุกคนได้ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อม

จัดสวัสดิการ และกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์กรตามแนวทางขององค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace)




องค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace)

เป็น องค์กรที่มีกระบวนการพัฒนาคนในองค์กร อย่างมีเป้าหมาย และยุทธศาสตร์สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร

มุ่งเน้นให้พนักงานอยู่ร่วมกัน, ทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุข

สามารถผลิตสินค้า และบริการตามที่ลูกค้าต้องการด้วยความคิดสร้างสรรค์

จนเกิดเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง

และสามารถนำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนได้


ความสุข 8 ประการ (Happy 8) ที่ช่วยสร้างองค์กรแห่งความสุข แบ่งออกเป็น



1. Happy Body สุขภาพดี

การมีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ รู้จักใช้ชีวิต

ดูแลตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จัดสมดุลชีวิตให้ได้



2. Happy Heart น้ำใจงาม

การมีน้ำใจเอื้ออาทรต่อกันและกัน ระหว่างเพื่อนร่วมงาน รู้จักการช่วยเหลือแบ่งปันอย่างเหมาะสม



3. Happy Relax รู้จักการผ่อนคลาย

เข้าใจถึงทุกข์ในงาน ทุกข์ในชีวิต เพื่อบริหารทั้งสองอย่างให้ได้

รู้จักผ่อนคลายยามเหนื่อย รู้จักวิธีจัดการความเครียดของตนเอง



4. Happy Brain หาความรู้

พัฒนาตนเองไปสู่ความเป็นมืออาชีพและความมั่นคงก้าวหน้าในการทำงาน



5. Happy Soul มีคุณธรรม มีหิริโอตัปปะ หรือความละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำ

เป็นคนดี มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ ศรัทธาในศาสนาและมีศีลธรรมในการดำเนินชีวิต นำความสุขมาสู่องค์กร



6. Happy Money จัดการเงินเป็น

ใช้เงินเป็น มีเงิน รู้จักเก็บ รู้จักใช้ เป็นหนี้ให้พอดี มีชีวิตที่เหมาะสม

มีความสามารถในการจัดการรายได้และรายจ่ายของตนเองและครอบครัว



7. Happy Family มีครอบครัวดี

ทำหน้าที่ของตนเองในครอบครัวอย่างดี เป็นพ่อบ้าน เป็นแม่บ้าน

มีครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง ให้ความสำคัญกับครอบครัว ครอบครัวเป็นกำลังใจที่ดีในการทำงาน



8. Happy Society สังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กร

เมื่อเรามีความรัก ความสามัคคี เอื้อเฟื้อต่อสังคมที่ตนทำงานและพักอาศัย

สังคมและสภาพแวดล้อมก็จะดีไปด้วย





การเป็นองค์กรแห่งความสุขได้อย่างยั่งยืน ต้องมีนโยบาย และกิจกรรมในการพัฒนาบุคลากร

เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิต (สมดุลชีวิตทั้งชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว) อย่างชัดเจน เช่น

มีกิจกรรมพัฒนาสมอง, พัฒนาครอบครัว, พัฒนาคุณค่าในตัวพนักงานทุกคน

เพราะพนักงาน คือ ทรัพยากรสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรแห่งความสุข

คณะทำงานต้องมี HR Mind เพื่อบริหารคนในทีม มีใจที่จะดูแลคนทุกคนในองค์กร

ผู้บริหารต้องให้การสนับสนุนที่ดี หัวหน้างานขึ้นไปจนถึงผู้จัดการทุกคนต้องเป็นผู้ปฏิบัติกิจกรรม

และให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม


หากองค์กร เห็นความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อม และการบริหารจัดการองค์กร

ที่เอื้อต่อการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ

จนช่วยให้พนักงานดำเนินชีวิตได้อย่างสมดุล และเกิดเป็นองค์กรแห่งความสุข

สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน คือ พนักงานขององค์กรนั้นๆ

ย่อมร่วมมือกันผลิตผลงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

เพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่มีคุณภาพตามความต้องการของลูกค้า

จากนั้น ทั้งผลกำไร และศักยภาพการแข่งขันในโลกจะกลับคืนสู่องค์กร

ทำให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน





ที่มา จาก ; จดหมายข่าวรายเดือน สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ปีที่ 9 ฉบับที่ 111 มิถุนายน 2552


เช่นเคยครับ เข้ามาแล้ว อย่าลืมแวะทักทายกันบ้างนะครับ




 

Create Date : 31 กรกฎาคม 2552
0 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 7:49:49 น.
Counter : 954 Pageviews.


ko7vasan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




มี 2-3 เรื่อง ที่อยากจะขอบอกเล่าเก้าสิบกันไว้ก่อน


1.ภูมิปัญญาที่เห็นในนี้ มาจากประสบการณ์การทำงานส่วนตัว

ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับทฤษฎี ที่มีอยู่เป็นแนวทางในการศึกษาเท่านั้น


2.เพื่อป้องกันปัญหา ที่อาจจะเกิดขึ้นขอสงวนสิทธิ ในบทความ และภาพถ่ายทั้งหมด ที่มี

ถ้าผู้ใด จะนำไปเผยแผ่ขอให้ได้รับการอนุญาติ จากผมก่อน


3.การตอบปัญหา ทั้งหมด ที่มีขอให้เข้าใจนิดส์ส์ส์ส์ส์นึงว่า

ทางผม ไม่ได้เห็น,จับต้อง ชิ้นงาน หรือเฟอร์นิเจอร์

เพราะฉนั้น คำตอบที่ได้ไปพอใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาได้

แต่........ ต้องอาศัยการสังเกตุ การศึกษาของตนเองด้วยนะครับ

Google
Friends' blogs
[Add ko7vasan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.