|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เอ็นเนียแกรม (Enneagram)
คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ระหว่างบริหารคนกับบริหารเครื่องจักร
การบริหารคนเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายอย่างที่สุด แต่..........อยากจะบอกว่ามีสิ่งที่ยากกว่าการบริหารคน
นั่นคือการบริหารตน เพราะ คนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะพยายามควบคุมคนอื่น และอยากให้คนอื่นเป็นในแบบที่เราคิดเราต้องการ
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือหลายสิ่งหลายอย่างที่เราพูดหรือสั่งคนอื่นนั้น ตัวเราเองยังทำไม่ได้เลย
ถ้าเรายังสั่งตัวเองให้ทำไม่ได้แล้วจะไปสั่งให้ใครทำได้ล่ะ
มีนักจิตวิทยาและนักสังเกตพฤติกรรมคนมากมายที่พยายามจะอธิบายความแตกต่างของคน
ถึงความรู้สึกนึกคิดและความต้องการภายในลึกๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ร่วมด้วยช่วยกันทำประโยชน์ ไม่เกิดความขัดแย้งอันเนื่องมาจากความไม่เข้าใจในกันและกัน
เอ็นเนียแกรม (Enneagram) เป็นเครื่องมือชั้นเลิศสำหรับมืออาชีพ
ที่จะนำไปใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน และลูกน้อง
สำหรับคนไทย เอ็นเนียแกรม อาจเป็นเรื่องใหม่และไม่คุ้นหู
แต่สำหรับ ผู้สนใจศาสตร์เพื่อการเรียนรู้พัฒนาตนเอง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นแล้ว
เอ็นเนียแกรมกำลังเป็นที่สนใจและศึกษากันอย่างแพร่หลาย
ใครเลยจะรู้ว่าศาสตร์ที่ได้รับการสืบทอดและพัฒนามายาวนานนี้
จะสามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้ ให้เข้ากับสังคมปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้
โดยเฉพาะในการพัฒนาองค์กรและธุรกิจ
ตามหลักของ ENNEAGRAM แบ่งคนออกเป็นเก้าแบบ
แทนด้วยจุดเก้าจุดที่เรียงอยู่บนเส้นรอบวงของวงกลมด้วยระยะห่างที่เท่าๆกัน
แบบหนึ่ง ; นักปฏิรูป คนสมบูรณ์แบบ มีหลักการ มีระเบียบวินัยต่อตนเอง
เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์ มีจุดยืนที่แน่นอนในทุกๆ เรื่อง
ชอบวิพากษ์วิจารณ์ คาดหวังให้คนอื่นดีเหมือนๆกับตน
อยากเห็นสังคมดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ รักความยุติธรรม
บางทีดูเป็นคนแข็ง ไม่อรุ่มอร่วย จริงจังกับชีวิต
แบบสอง ; นักบุญ ผู้ช่วยเหลือ ดูแลเอาใจใส่ทุกข์สุขของคนรอบข้าง
คิดถึงปัญหาของคนอื่น มากกว่าปัญหาของตัวเอง พยายามทำตัวเป็นที่รักของคนอื่น ด้วยการให้
ยกย่อง "ความรัก" เหนือสิ่งอื่นใด บางทีก็ชอบกะเกณฑ์คนอื่น ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของคน
แบบสาม ; ผู้ชนะ ผู้ใฝ่สำเร็จ ปรับตัวเก่ง ทะเยอทะยาน เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง
มองเป้าหมายเป็นหลัก ทำงานเก่ง ใส่ใจภาพลักษณ์ บุคลิกภาพ และการแต่งตัว
ปกปิดความล้มเหลว โฆษณาตัวเอง
แบบสี่ ; ศิลปิน คนโรแมนติก มีความคิดสร้างสรรค์
ยกย่องจินตนาการ มีความถนัดทางศิลปะ ใจลอย ไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบัน
ค้นหาตัวเอง อยู่กับตัวเอง มีอารมณ์เศร้า ไม่หลอกตัวเอง
มองเห็นข้อเสียของตัวเองมากกว่าข้อดี ขาดความมั่นใจ
แบบห้า ; นักวิชาการ นักสังเกตการณ์
เป็นนักคิดมากกว่าปฏิบัติ นักประดิษฐ์ ช่างสังเกต และพยายามทำความเข้าใจสิ่งรอบตัว
หาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ ชอบงานที่ใช้ทักษะเฉพาะทาง
ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกตัดสิน ไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามเรื่องส่วนตัว
ขาดทักษะทางสังคม ไม่ชอบตารางเวลา ทำอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนใคร
แบบหก ; เพื่อนยาก นักปุจฉา มีศิลปะของการทำงานเป็นทีม
เป็นนักจัดการองค์กร หรือนักรณรงค์เพื่อสวัสดิภาพที่ดีขึ้นของชุมชน
สร้างมิตร สร้างความสามัคคี ชอบการพึ่งพาซึ่งกันและกัน
ตัดสินใจยาก เดาใจลำบาก เวลารู้สึกไม่ปลอดภัย จะกลายเป็นคนขี้ระแวง
แบบเจ็ด ; เจ้าสำราญ นักผจญภัย สนุกสนาน ร่าเริง
ชอบสังคม เฮไหน เฮนั่น แสวงหาประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิตอยู่เสมอ
ชอบทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน เก่งหลายเรื่อง
ชอบง่ายหน่ายเร็ว กระฉับกระเฉง อยู่ไม่นิ่ง
แบบแปด ; ผู้นำ ผู้ปกป้อง เด็ดขาด เชื่อมั่นในตัวเองสูง กล้าตัดสินใจ
มีลักษณะของผู้นำ ท้าทายอำนาจอื่นอย่างไม่กลัวเกรง ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ
ชอบควบคุมคนอื่น ใจนักเลง ให้ความคุ้มครองดูแลทุกข์สุขของคนที่ฟังและเชื่อมั่นในตัวเขา
แบบเก้า ; ผู้รักสงบ ผู้ประสานไมตรี รักสงบ นิยมธรรมชาติ
ไม่มีศัตรู ไม่ทะยานอยาก มองโลกในแง่ดี ไม่เครียดหรือวิตกกังวล ไม่เห็นด้วยก็ไม่คัดค้าน แต่จะไม่ทำ
ดูเชื่องช้า ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปเอง ไม่วางแผน ไม่เตรียมการ
ซ่อนปัญหาไว้ใต้พรม ดื้อเงียบ
ตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ทุกคน จะอธิบายได้ด้วยแบบใดแบบหนึ่งในเก้าแบบนี้
ซึ่งเป็นลักษณะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และอาจพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นหรือต่ำลงก็ได้ เมื่อโตขึ้น
แต่.............จะไม่มีวันเปลี่ยนไปจากแบบที่ตัวเองเป็นไปได้
ที่สำคัญคนแต่ละแบบ มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย เพียงแต่ว่าถ้าเราสามารถนำจุดเด่นมาใช้ให้เป็นประโยชน์
และควบคุมจุดด้อยไม่ให้สร้างปัญหา รวมถึงทำความเข้าใจในความแตกต่างของคนอื่นๆที่อาจมีลักษณะที่เหมือนหรือต่างไปจากเราแล้ว
ความสัมพันธ์ที่ดีและเข้าใจในกันและกัน จะช่วยนำพามาซึ่งความสุขความสำเร็จร่วมกัน
ที่มา จาก ; จดหมายข่าวรายเดือน สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ปีที่ 9 ฉบับที่ 100 กรกฎาคม 2551
เช่นเคยครับ เข้ามาแล้ว อย่าลืมแวะทักทายกันบ้างนะครับ
Create Date : 04 มีนาคม 2552 |
Last Update : 23 มีนาคม 2552 16:25:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 760 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|
|