|
ทำอย่างไร...ถึงจะไม่มีทุกข์
เมื่อใดที่จิตเป็นกลาง เมื่อนั้นก็เห็นทางพ้นทุกข์ จิตที่เป็นกลางคือ จิตที่อยู่กับปัจจุบัน จิตที่เพ่งพินิจ ธรรมชาติที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ที่กำลังเกิดอยู่เฉพาะหน้า มองธรรมชาตินั้นด้วยสติ ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม คือรู้สึกทั้งกายและใจในขณะที่มันเกิดอยู่ ตามดูมัน อย่าแซงมัน หลวงพ่อชาท่านกล่าวว่า " ในเมื่อมีคนเขย่าต้นมะม่วงให้เรา เรามีหน้าที่ตามเก็บลูกมะม่วง" เมื่อจิตคิดสิ่งใด เรามีหน้าที่ดูความเป็นไปของจิต เมื่อจิตคิด เราตามดู ทำอยู่อย่างนี้ ไม่นานเราก็ เห็นจิต เห็นธรรม ใช้สติในการพิจารณา ศฺิล สมาธิ ปัญญา จะเกิดขึ้นพร้อมกันในขณะนั้น ถึงแม้ว่า เป็นเพียงศิล สมาธิ ปัญญา ของโลกียะ แต่ก็เป็นบาตรของโลกุตตระปัญญาในอนาคต จงอย่านึกตาม แต่ให้ดูตาม เมื่อนั้นธรรมชาติก็จะปรากฏ ทุกข์เกิดที่ใด ที่นั้นคือทางแห่งพระนิพาน ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
หลวงปู่ดุล กล่าวว่า
"จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์ จิตเห็นจิต เป็นมรรค ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ"
"กิเลสทั้งหมดเกิดรวมที่จิต ให้เพ่งมองดูที่จิต อันไหนเกิดก่อนให้ละอันนั้นก่อน"
[Webmaster-เป็นการปฏิบัติจิตตานุปัสสนาและเวทนานุปัสสนาในสติปัฏฐาน ๔ กล่าวคือ จิตหรือสติเห็นอาการของจิต(เจตสิก)ดัง ราคะ โทสะ โมหะ จิตฟุ้งซ่าน จิตหดหู่ ฯ. หรือจิตเห็นเวทนา กล่าวคือสติเห็นอันใดแล้ว ก็ละในสิ่งนั้น ๆ กล่าวคืออุเบกขาเสียนั่นเอง]
|
Create Date : 18 ตุลาคม 2554 |
Last Update : 18 ตุลาคม 2554 18:17:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 543 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
facebookฝากข้อความได้ครับ
|
หลับฝันดี
๑ หลับคืนนี้ฝันดีนะที่รัก...
หลับตาพักหลับตาฝันถึงวันใหม่...
หลับคืนนี้คนดีฝันถึงใคร...
รู้บ้างไหมฉันตั้งใจฝันถึงเธอ...
|
|
|
|
|
|
|
|