การทำใบขับขี่ในญี่ปุ่น

ใบขับขี่ญี่ปุ่น

การทำใบขับขี่ญี่ปุ่น

สำหรับผู้ที่ต้องการจะขับรถในญี่ปุ่น คุณสามารถทำใบขับขี่สากลจากเมืองไทย (อายุการใช้งาน 1 ปี) แล้วนำมาใช้ที่ญี่ปุ่นนี้ได้ แต่จะใช้ได้แค่เพียงปีเดียวเท่านั้น อันนี้เป็นกฎหมายของที่นี่ แม้ว่าคุณจะกลับไปที่เมืองไทยแล้วต่ออายุใบขับขี่สากลแล้วก็ไม่สามารถนำมาใช้ที่นี่ (อย่างถูกกฎหมาย) เว้นเสียแต่ว่าคุณต้องอยู่ในเมืองไทยก่อนอย่างน้อย 3 เดือนก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง ฉะนั้นในปีที่ 2 หากคุณยังอยู่ในญี่ปุ่นแน่นอนว่าไม่มีทางเลือกใดๆ เพื่อให้ถูกกฎหมายในการขับรถนอกจากทำใบขับขี่ญี่ปุ่น

เราไปสอบทำใบขับขี่ที่ชิบะ เพราะว่าใกล้บ้านที่สุด การสอบทำใบขับขี่ที่นี่ก็เหมือนกับที่ไทยและที่อื่นๆ คือต้องสอบข้อเขียนและสอบขับรถ เอกสารที่ต้องเตรียมก็มี หนังสือเดินทาง บัตรต่างด้าว ใบขับขี่จากไทยพร้อมสำเนาแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตไทย รูปถ่าย และค่าสอบประมาณสามพันกว่าเยนในการสอบครั้งแรก หากคุณสอบข้อเขียนผ่าน แต่สอบขับรถในครั้งแรกไม่ผ่าน ครั้งต่อๆ ไปจะเสียค่าธรรมเนียมการสอบขับรถ 2,400 เยนต่อครั้ง

สำหรับการสอบนั้นคิดว่าคงเหมือนกันทุกที่ไม่ว่าจะเป็นชิบะ โตเกียว หรือที่อื่นๆ ในการสอบข้อเขียนนั้นไม่ยากจะเป็น sense ในการขับรถง่ายๆ เช่น คำถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์จราจร เครื่องหมายต่างๆ ซึ่งก็จะมีข้อสอบเป็นภาษาไทยให้ด้วย (สำหรับคนไทยในข้อสอบจะมี 3 ภาษาถ้าจำไม่ผิด คือ ญี่ปุ่น ไทย และอังกฤษ) แต่อันนี้ต้องระวังให้ดีเพราะเค้าจะแปลจากภาษาญี่ปุ่นแล้วเขียนให้เป็นภาษาไทย ซึ่งตอนทำข้อสอบอ่านแล้วก็งงๆ บ้างเพราะประโยคที่ใช้จะแปลกๆ แล้ววันที่ไปสอบยังเจอข้อสอบที่แปลผิดอีกต่างหาก ผิดแบบความหมายผิดไปเลย เช่นพิมพ์ตกคำว่า "ไม่" ในคำถาม ซึ่งพอดีเราอ่านคำถามภาษาอังกฤษควบไปด้วย แล้วก็ถามคนคุมสอบเค้าก็บอกว่าให้ยึดเอาภาษาอังกฤษเป็นหลัก (พอดีเราอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก) ข้อสอบจริงๆ ไม่ยาก เป็นข้อสอบเลือกคำตอบ มี 10 ข้อ (ถ้าจำไม่ผิด) เค้าจะให้เวลาสอบ 10 นาที ซึ่งเสร็จทันอยู่แล้ว และเป็นข้อสอบที่เค้าจะสุ่มมาให้จึงคิดว่าแต่ละครั้งก็คงไม่เหมือนกัน

พอสอบข้อเขียนผ่าน ก็เป็นการสอบขับรถ ขอบอกว่าสอบขับรถที่นี่เว่อร์มากกกกกกก โดยตอนกรอกใบคำร้องของสอบขับขี่ เค้าจะให้เลือกว่าจะขับแบบออโต้ หรือไม่ออโต้ (manual) ถ้าคุณเลือกออโต้หากสอบขับรถผ่าน คุณก็จะได้ใบขับขี่ใช้ขับรถแบบออโต้เท่านั้น ถ้าคุณเลือกแบบไม่ออโต้ก็เช่นกัน จะได้ใบขับขี่ใช้ขับแบบไม่ออโต้เท่านั้น ตัวเราแม้ว่าจะขับรถอยู่แล้วตอนอยู่ที่กรุงเทพฯ สอบครั้งแรกนี่็ตก เป็นอะไรที่ไม่คาดฝันมาก่อนเลย แต่เพื่อนญี่ปุ่นก็บอกไว้เหมือนกันว่าครั้งแรกตกกันทุกคนแหละ ขนาดคนญี่ปุ่นเองน้อยมากที่จะมาสอบทำใบขับขี่ ส่วนมากแล้วจะไปเรียนขับรถตามโรงเรียนสอนขับรถที่ได้ใบรับรอง เรียนให้ได้ครบตามชั่วโมงที่กำหนดแล้วเค้าก็สามารถทำใบขับขี่ได้เลยไม่ต้องสอบ แต่ค่าเรียนนี่สิ ได้ยินมาว่าเป็นแสนเยนเลย (แพงโคตร)

สอบขับรถวันแรก เจ้าหน้าที่เค้าก็อธิบายว่าต้องขับยังไงบ้าง เราเองฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่องเลย ก็โชคดีที่คนสอบด้วยแปลเป็นอังกฤษให้ฟังแบบงูๆ ปลาๆ ก็เอาวะ รู้เรื่องแค่ไหนก็แค่นั้น สอบครั้งแรกนี้ตก เพราะไม่ได้หยุดที่ทางคนข้ามเมื่อมีเครื่องหมายหยุด (ป้ายจะเป็นพื้นแดงตัวหนังสือสีขาวว่า "โทมาริ") เราว่าเราหยุดแล้วนะ คนคุมสอบบอกไม่ได้ อันนั้นไม่ใช่หยุด คือ หยุดที่นี่ต้องหยุดจริงๆ หยุดแบบจะมีจังหวะนึงที่รถจะกระตุกจึกเล็กน้อย นั่นแหละเค้าเรียกว่าหยุด โอ้เวรกรรม ฉะนั้นสอบครั้งแรกจึงตกด้วยประการฉะนี้

หลังจากสอบตกขับรถคุณต้องรอเดือนนึง ถึงจะไปสอบขับใหม่ได้ (อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะเราขอเค้าสอบอาทิตย์ต่อไปเลยเค้าไม่ให้ เค้าให้มาสอบอีกทีเดือนหน้า) สอบครั้งที่สองนี้ถามเพื่อนญี่ปุ่นเค้าก็ช่วยหาในอินเทอร์เนตถึง trick ต่างๆ ว่า เวลาสอบต้องทำอย่างไรบ้าง ขอเล่าคร่าวๆ ละกันนะ เช่น เวลาเลี้ยวซ้ายต้องปิดช่องว่างระหว่างรถกับฟุตปาธให้มากที่สุด เพื่อกันไม่ให้มอเตอร์ไซค์แทรกรถเราเข้ามาได้ แล้วก็หากเป็นการเลี้ยวซ้าย เราดูจากกระจกหูช้างและกระจกในรถไม่พอ ต้องหันหน้าไปดูด้วย (โคตรเว่อร์เลย แต่ก็ดี เพื่อความปลอดภัย) แต่ไอ้ที่ต้องปิดช่องว่างทางซ้ายระหว่างรถและฟุตบาตนี่สิ ในชีวิตจริงเวลาขับรถที่นี่ไม่เห็นมีใครเค้าทำเลย

เวลาเจอป้ายหยุด (โทมาริ) ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นบ่อยมากตรงทางม้าลายคุณต้องหยุดจริงๆ หยุดแบบให้รถเจอจังหวะจึก นั่นแหละหยุด นี่อีกเหมือนกันในชีวิตจริงขับรถ คนที่นี่ก็ไม่ค่อยเห็นทำกันเลย

เวลาเจอทางม้าลายที่ไม่มีป้ายบอกให้หยุด ไม่ต้องหยุด แค่ชะลอก็พอ เพราะถ้าคุณหยุดก็จะถูกตัดคะแนนเช่นกัน

เวลาขับต้องขับเลนทางซ้ายเสมอ หากมีของกีดขวางด้านหน้าให้เปิดไฟเพื่อเปลี่ยนเลนไปทางขวา แล้วเมื่อผ่านสิ่งกีดขวางแล้วต้องกลับมาเลนซ้ายเสมอ (แต่ตอนสอบพอพ้นสิ่งกีดขวางทางซ้ายไปแล้ว เราจะต้องเลี้ยวขวา เพราะฉะนั้นอยู่เลนขวาได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนมาเลนซ้าย ไม่อย่างนั้นเห็นเค้าว่ากันว่าจะโดนหักคะแนน)

แล้วตอนสอบต้องสอบเลี้ยวทางแคบด้วย โคตรแคบเลย แล้วเค้าจะมีไม้พลองกันข้างหน้า (ห้อยลงมาจากไม้ที่แขวน) ไว้ เราห้ามขับเฉี่ยวไม้นั้นเด็ดขาด เราสอบตกครั้งที่สอง ก็เพราะไปเฉี่ยวเจ้าไม้พลองนี้เข้า ถ้าคุณรู้สึกว่าขับไม่ผ่านเค้าอนุญาตให้ถอยหลังได้ 1 ครั้งโดยไม่หักคะแนน (ตอนสอบก็ลืมว่าถอยหลังได้ ดันทุรังคิดว่าผ่าน เลยตกครั้งที่สองตามระเบียบ) ... เสียฟรีๆ ไปอีก 2,400 เยน

สอบครั้งที่สามหลังจากนั้นมาอีก 1 เดือน ครั้งนี้คิดในใจยังไงก็ต้องเอาให้ผ่าน เพราะก็รู้เทคนิคมาพอสมควรแล้ว เปลืองเงินด้วย สุดท้ายก็ผ่านสมใจ เบ็ดเสร็จเสียไปประมาณ เกือบหมื่นเยนได้ โดยครั้งสุดท้ายพอสอบผ่านจะต้องเสียอีก 1,680 เยน (คาดว่าคงเป็นค่าออกใบขับขี่)

เรื่องสอบใบขับขี่ญี่ปุ่นสำหรับผู้มีใบขับขี่ต่างชาติ เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นที่คุมสอบเค้าบอกว่าเป็นการสอบที่ง่ายที่สุดแล้ว โดยใช้สนามสอบ (ทาง) ที่ง่ายที่สุด แต่เราก็ได้ยินมาว่าบางคนสอบแล้วตั้ง 5 -6 ครั้งก็ยังไม่ผ่าน สำหรับคนญี่ปุ่นยากกว่านี้เยอะ จะต้องสอบหลายอย่างมาก บางคนสอบเป็น 10 ครั้งก็ยังไม่ผ่าน

ฉะนั้นก่อนสอบก็ลองถามๆ คนอื่นที่เคยสอบแล้วก็น่าจะช่วยได้มากถึงเทคนิคต่างๆ ซึ่งแน่นอนเราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันเวลาขับรถหรอก

+++ คัดลอกข้อความมาจากเวป //www.img.cs.titech.ac.jp/~pramual/faq/waew/waew-driving-license.php ++++

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2553		1 comments
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2553 8:54:50 น.
Counter : 1748 Pageviews.
Share Tweet