|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ระบบประกันสังคมและประกันสุขภาพ
ระบบประกันสังคมและประกันสุขภาพ 14 OCTOBER 2009
ระบบประกันสังคมและประกันสุขภาพ
■ ระบบประกันสังคมคืออะไร ◉ ระบบที่ให้ความคุ้มครองเมื่อเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต ว่างงาน หรือ เกษียณอายุ โดยพนักงาน ผู้ว่าจ้าง และรัฐบาลแบ่งภาระในการชำระเบี้ยประกัน
■ แรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะสามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคมใดบ้าง ◉ พนักงาน หรือคนงานบริษัท จะสามารถได้รับการคุ้มครองจากระบบประกัน สุขภาพพนักงาน และประกันเงินบำนาญสวัสดิการสำหรับพนักงาน นอกจากนี้ยังมีประกันค่าชดเชยอุบัติเหตุคนงาน ซึ่งครอบคลุมอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่าง การทำงาน และประกันอาชีพซึ่งคุ้มครองกรณีว่างงาน ◉ พนักงานอิสระ พนักงานที่เกี่ยวกับการเกษตรกรรม และบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ได้ถูก คุ้มครองโดยระบบประกันในข้างต้น จะสามารถขอรับความคุ้มครอง จากประกัน สุขภาพแห่งชาติ และประกันเงินบำนาญแห่งชาติได้
■ ระบบประกันสุขภาพพนักงานหรือคนงานบริษัทคืออะไร ◉ ระบบที่ให้ผลประโยชน์ในการบำบัดรักษาทางการแพทย์ และค่าคุ้มครองอื่นๆ แก่พนักงานหรือคนงาน และสมาชิกครอบครัวในกรณีที่ป่วย หรือได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการทำงาน หรือการให้กำเนิดบุตร ทำอย่างไรจึงจะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันนี้ ❖ ผู้ว่าจ้างหรือนายจ้าง มีหน้าที่รับผิดชอบทำประกันให้แก่พนักงาน หรือ คนงานโดยนายจ้างจะต้องทำประกันให้กับพนักงานทุกคน ยกเว้น พนักงานชั่วคราว หรือพนักงานรายวัน สำหรับกรณีของกิจการส่วนตัวที่มี พนักงานน้อยกว่า 5 คน ผู้ว่าจ้างหรือนายจ้างสามารถเข้าระบบประกันนี้ ได้ถ้าขอสมัครโดยมีเสียงของพนักงานที่เห็นด้วยเกินครึ่งหนึ่ง พร้อมทั้งการได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการจ่ายค่าเบี้ยประกัน ❖อัตราเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ทำประกันแต่ละคน และภาระใน การจ่ายเบี้ยประกันจะถูกแบ่งในจำนวนเท่าๆ กันระหว่างผู้ว่าจ้างและ พนักงาน ผู้มีประกันจะได้รับความคุ้มครองอย่างไรบ้าง ❖ ในกรณีที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ให้แสดงบัตรประกันสุขภาพแก่ทาง โรงพยาบาล โดยผู้มีประกันจะชำระ 30% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด (เงื่อนไขนี้รวมถึงสมาชิกของครอบครัวที่มีรายชื่อปรากฎอยู่บนใบประกันนั้นๆ) ❖ สำนักงานประกันสังคมในเขตพื้นที่ของกิจการนั้นๆ จะเป็นผู้จัดการด้าน ธุรกิจ เกี่ยวกับการจ่ายค่าประกัน ยกเว้นในส่วนที่รับผิดชอบโดยสมาคม ประกันสุขภาพ
■ ระบบประกันเงินบำนาญสวัสดิการคืออะไร ◉ เป็นระบบที่ให้การคุ้มครองแก่พนักงานหรือคนงาน สำหรับการยังชีพ ในช่วงบั้นปลายของชีวิต นอกจากนี้ยังรวมถึงความคุ้มครองสำหรับการยังชีพของพนักงานหรือคนงานที่ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจาก การได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย หรือสำหรับการยังชีพของคนในครอบครัวของ พนักงานหรือคนงานที่เสียชีวิต โดยมีขั้นตอนการสมัคร และการชำระเบี้ยประกัน รายละเอียดเหมือนระบบ ประกันสุขภาพพนักงานหรือคนงาน พนักงานหรือคนงานชาวต่างชาติที่เข้าร่วมระบบประกันนี้แล้ว หากเดินทางกลับประเทศจะต้องทำอย่างไร ❖ ชาวต่างชาติใน 4 กลุ่มต่อไปนี้จะสามารถแจ้งขอรับเงินคืนได้ (โดยต้องแจ้ง ภายใน 2 ปี นับจากวันที่เดินทางออกจากญี่ปุ่น) ① ชาวต่างชาติที่ไม่ใช่พลเมืองญี่ปุ่น ② ชาวต่างชาติที่เป็นสมาชิกของระบบประกันเงินบำนาญสวัสดิการมาก กว่า 6 เดือน ③ ชาวต่างชาติที่ไม่มีที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น ④ ชาวต่างชาติที่ไม่เคยได้รับบำนาญในประเทศญี่ปุ่น ขั้นตอนการขอรับเงินคืน ต้องทำอย่างไร และจะได้รับคืนในอัตราเท่าใด ❖ ขอแบบฟอร์มขอรับเงินคืนได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศหรือที่ว่าการประจำเมือง หรือเขต/อำเภอ โดยกรอกข้อความและส่งไปยังที่อยู่ตามที่เขียนไว้ด้านหลังของแบบฟอร์ม ❖ สำหรับบุคคลที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญสามารถคำนวณเงินชำระคืนได้ดังนี้: เงินที่จะได้รับจากการขอคืนประกันบำนาญจำนวนจะอยู่ในระหว่าง 0.4 ถึง 2.4 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ทั้งนี้ขึ้นกับระยะเวลาที่ทำประกัน ของผู้สมัคร
■ ระบบประกันค่าชดเชยอุบัติเหตุของพนักงานหรือคนงานคืออะไร ◉ ตามกฎหมายมาตรฐานแรงงานพนักงานมีสิทธิได้รับค่าชดเชยการบำบัดรักษาทางการแพทย์ หรือขาดงานเนื่องจากการป่วยหรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจาก การทำงาน นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อช่วยพนักงานใน กรณีที่ี่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนผู้ว่าจ้างไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยเต็มจำนวนแก่คนงานที่ได้รับอุบัติเหตุ ทำอย่างไรจึงจะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันนี้ ❖ ตามข้อกฎหมายแล้ว นายจ้างทุกรายที่มีพนักงานมากกว่า 1 คน รวมทั้ง พนักงานนอกเวลา และพนักงานทำงานพิเศษจะต้องจัดทำประกันค่าชดเชยอุบัติเหตุให้กับพนักงานทุกคน หากนายจ้างปฏิเสธการทำประกันให้ สามารถเรียกร้องเพื่อรับสิทธินี้ได้ ใครเป็นผู้รับผิดชอบการจ่ายค่าเบี้ยประกัน ❖ ผู้ว่าจ้างหรือนายจ้าง จะต้องรับผิดชอบชำระเบี้ยประกันที่เกี่ยวข้องเต็ม จำนวน ผู้มีประกันจะได้รับความคุ้มครองอย่างไรบ้าง ❖ พนักงานหรือคนงานมีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยได้หลายรายการหากได้รับ บาดเจ็บหรือป่วยระหว่างเวลาทำงาน หรือได้รับอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางไปยังสถานที่ทำงาน (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน ตรวจสอบมาตรฐานแรงงานที่อยู่ใกล้เคียง)
■ ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติคืออะไร ◉ คือระบบประกันที่สร้างขึ้นเพื่อให้ความคุ้มครองในยามป่วยหรือได้รับบาดเจ็บสำหรับประชาชนบุคคลทั่วไป หรือผู้ที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพพนักงานหรือคนงานข้างต้นได้ ทำอย่างไร คนต่างชาติจึงจะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันนี้ ❖ จะต้องยื่นขอทำรวมเป็นหลังคาเรือนที่แผนกประกันของที่ว่าการประจำ เมือง หรือเขต/อำเภอ โดยใบประกันจะถูกออกให้ 1 ใบต่อ 1 หลังคาเรือน เท่านั้น และมีเงื่อนไขในการสมัครดังนี้ 1. ลงทะเบียนชาวต่างชาติเรียบร้อยแล้ว 2. อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเกินกว่า 1 ปี ถ้าพำนักอยู่ในที่อยู่อาศัยปัจจุบันน้อยกว่า 1 ปี ต้องได้รับการรับรองว่าอยู่อาศัยในญี่ปุ่นเกินกว่า 1 ปี ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการจ่ายค่าเบี้ยประกัน ❖ จำนวนค่าเบี้ยประกันจะถูกกำหนดจากปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น อัตรา ของเมืองหรือเขต/อำเภอที่อาศัยอยู่ จำนวนสมาชิกในครอบครัว และ รายได้ของครอบครัวของปีที่ผ่านมา สำหรับในกรณีที่อาศัยอยู่คนเดียว และไม่มีรายได้ ก็จะเสียค่าเบี้ยประกันประมาณ 10,000-20,000 เยน ต่อปี (สำหรับนักศึกษาอาจจะสามารถขอรับส่วนลดได้จำนวนหนึ่ง) ซึ่งการ จ่ายเงินค่าเบี้ยประกันสามารถทำได้โดยจ่ายที่ที่ว่าการประจำเมืองหรือ เขต/อำเภอหรือจ่ายโดยหักผ่านบัญชีธนาคารก็ได้ ผู้มีประกันจะได้รับความคุ้มครองอย่างไรบ้าง ❖ เมื่อเป็นสมาชิกของระบบประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว ผู้มีประกันจะจ่าย เพียง 30% ของค่ารักษาพยาบาล (แต่มีบางกรณีที่ไม่สามารถใช้ประกัน สุขภาพได้ ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง)
■ ระบบประกันเงินบำนาญแห่งชาติคืออะไร ◉ เป็นระบบประกันเงินบำนาญสำหรับพนักงานหรือคนงานที่ไม่มีสิทธิทำประกันเงินบำนาญ สวัสดิการพนักงานข้างต้นได้ ซึ่งระบบนี้จะมีลักษณะเช่นเดียวกับ ระบบประกันเงินบำนาญพนักงาน หรือคนงาน แต่การได้รับเงินคืนจะแตกต่าง ไปคือ จำนวนเงินที่ได้รับคืนบางส่วนของระบบนี้ จะขึ้นอยู่กับจำนวนเดือนที่ได้ชำระเบี้ยประกันเงินบำนาญแห่งชาติ
■ ไม่มีวีซ่า ไม่มีประกันสุขภาพ สามารถฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลได้หรือไม่ ◉ โอกาสที่จะถูกปฏิเสธนั้นมีสูง แต่ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลหรือคลินิกแต่ละแห่ง จะพิจารณา
■ ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรประมาณเท่าใด ◉ โดยทั่วไปประมาณ 300,000-400,000 เยน ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลหรือ คลินิก
■ การทำประกัน ◉ ผู้ที่อยู่ในญี่ปุ่นอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โอกาสที่จะไม่สามารถทำประกันได้ มีค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่ผู้ที่ไม่ได้จดทะเบียนคนต่างชาติมากกว่า 1 ปี และไม่มีวีซ่า จะไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้ สำหรับรายละเอียดให้สอบถามที่ว่าการ เขต/อำเภอที่ท่านพำนักอยู่ ◉ มีบริษัทประกันของเอกชนที่รับบริการประกันสุขภาพ ควบคู่ไปกับการประกัน ชีวิต ซึ่งจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดกับผู้ที่ไม่มีวีซ่า และมีค่าใช่จ่ายและเบี้ยประกันที่สูง กว่าการทำประกันของรัฐบาล ผู้ยื่นขอทำประกันกับบริษัทเอกชนต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1. พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น 2. จดทะเบียนคนต่างชาติที่สำนักงานทะเบียนเขตหรืออำเภอที่ตนพำนักอยู่ 3. ผู้ที่ประสงค์พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่นตลอดชีวิต 4. สามารถอ่านและเข้าใจ สัญญาประกันที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ได้ 5. ต้องไม่ถือวีซ่านักเรียนนักศึกษาและผู้ฝึกงาน
■ ได้รับบาดเจ็บระหว่างการทำงาน ต้องการได้ค่าชดเชย ควรทำอย่างไร ◉ แจ้งให้นายจ้างทราบ เนื่องจากนายจ้างมีความรับผิดชอบในการทำประกันให้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถขอคำปรึกษาจากสำนักงานแรงงานไทยในญี่ปุ่น ☎ 03- 5423-6656 เวลาทำการ 09.00-12.00 น. และ 13.30-17.00 น. ◉ สำหรับกรณีไม่มีวีซ่า ไม่มีประกัน ควรปรึกษาขอความเห็นใจจากนายจ้างเพื่อ ดูแลรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและหลังจากนั้น ควรเรียกร้องสิทธิให้นายจ้าง จัดทำประกันสุขภาพให้ ◉ เงินชดเชยที่ลูกจ้างได้รับการคุ้มครองจากประกันอุบัติเหตุจากการทำงานมี 3 ส่วน คือ 1. เงินค่ารักษาพยาบาล 2. เงินชดเชยขณะหยุดงานเพื่อพักรักษาตัว จะได้รับในอัตราประมาณ 80 % ของค่าจ้างเฉลี่ย นับตั้งแต่วันที่ 4 ที่หยุดงานไปรักษาตัว 3. เงินทดแทนกรณีที่สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ เช่น นิ้วขาด หรือขาขาด เป็นต้น
■ สามีทำงานอยู่ในญี่ปุ่น ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตโดยเกิดอุบัติเหตุระหว่างการ ทำงาน ภรรยาจะได้รับเงินทดแทนอะไรบ้างหรือไม่ ◉ กรณีลูกจ้างถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงาน นายจ้างจะต้องจ่ายเงินทดแทน ให้แก่ทายาทเป็นจำนวนเงินเท่ากับอัตราค่าจ้างเฉลี่ยจำนวน 1,000 วัน และต้อง จ่ายค่าทำศพให้ผู้จัดการศพเท่ากับอัตราค่าจ้างเฉลี่ยจำนวน 60 วัน ยกเว้นว่าได้มีการจ่ายเงินทดแทนตามกฎหมายมาตรฐานแรงงานหรือกฎหมายอื่นแล้ว โดยมีการเรียงลำดับทายาทดังนี้ คู่สมรสที่อยู่กินฉันสามี/ภรรยา ถ้ามิได้จดทะเบียนสมรส ต้องพิสูจน์ได้ว่า อยู่กินด้วยกันจริง (กรณีของสามีต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป) บิดามารดา (ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป) บุตรที่มีอายุไม่ครบ 18 ปี ปู่ย่าตายายที่มีอายุเกิน 60 ปี
ที่มา //www.thaiembassy.jp
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2554 15:51:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1229 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Dubai United Arab Emirates
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
2001 เข้าเรียนที่ และอาศัยอยู่ Tokyo,Japan. 2008 นักเรียนภาษา1 ปีในRoma,Italy. 2009 กลับมาทำงานที่ญี่ปุ่น 2011 ติดตาม ผบ.ทบ.(ผู้บัญชาการที่บ้าน) มาอยู่ Dubai จ้า แต่ไปๆมาๆ Dubai และ Japan ในฐานะ PR คร่า
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ลอกเลียนแบบ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความรวมทั้งภาพถ่ายในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของบล็อก หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
|
|
|
|
|
|
|
|