งานเขียนทุกชิ้นใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก แก้ไข ดัดแปลง หรือกระทำการอื่นใดในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้รับอนุญาต
A brief introduction about myself
Hi, everyone! My name is Joe, and Ive created this blog in order to share my academic interests as well as personal life activities with whoever that comes across.
Strange as it may seem, my life is based on staying current with continuing education to keep my passion alive. Consequently, after earning my BA in English and MA in Translation and Interpretation, I decided to pursue my second masters degree in Applied Linguistics (English Language Teaching). Upon the completion of my second MA studies, I intended to continue my education towards obtaining a PhD in the same field; afterwards, which would allow me to further refine my language teaching and research skills.
To become a better researcher in language studies, Ive been actively concentrating on literature review related to my research interests. My main areas of interest include translation pedagogy, academic discourse analysis, and phonetics & pragmatics in second language acquisition. Im also particularly interested in/ in love with English as a Lingua Franca, World Englishes, and English language teaching (ELT).
please dont hesitate to contact me via Line ID: LFLCenter should you have any questions, ideas, or suggestions.
ด้วยเหตุผลที่สังคมโลกมีความต้องการในการพึ่งพา และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางระหว่างกันดังกล่าว ทำให้ภาษาอังกฤษไม่เพียงมีสถานะภาพเป็นภาษาโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นภาษาของอำนาจที่ผลักดันให้เกิดช่องทาง และกลไกทางจักรวรรดินิยมที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดระเบียบโลกผ่านศิลปะวิทยาการต่างๆของประเทศเจ้าของภาษา พร้อมทั้งปลูกฝังตั้งแต่ในเรื่องของความรู้สึกนึกคิด ความเชื่อ ค่านิยมทางสังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนแนวทางในการใช้ชีวิตแบบเจ้าของภาษาให้แก่ผู้เรียนอย่างไม่รู้ตัว ดังที่เราจะเห็นได้จากแนวทางการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ (Teaching of English as a Foreign Language) หรือแนวทางการสอนภาษาอังกฤษให้แก่ผู้พูดภาษาอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา (Teaching English to Speakers of Other Languages) ซึ่งแนวทางกลวิธีในการการสอนภาษาเหล่านี้ล้วนแต่กำหนดให้มีเจ้าของภาษาเป็นแบบอย่างที่ผูกขาด เนื้อหาการเรียนการสอนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้ชีวิต และแนวคิดทางวัฒนธรรมอย่างของเจ้าของภาษา เป้าหมายสูงสุดในการเรียน คือ การมุ่งเน้นให้ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษตามแบบอย่างมาตรฐานเจ้าของภาษาทุกประการ (ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร, 2551: 388-389) ถึงแม้ว่าผู้สอนจะเป็นเจ้าของภาษาหรือไม่ก็ตาม
ภาษาอังกฤษในฐานะภาษานานาชาติ (English as an International Language) มีแนวคิดทฤษฎีที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการสอนที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับตัวเจ้าของภาษาเป็นหลัก กล่าวคือมีพื้นฐานความคิดที่ว่าเจ้าของภาษาอังกฤษที่แท้จริงหาใช่ผู้ที่เกิดและเติบโตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่เท่านั้น แต่เป็นผู้ใดก็ตามที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารระหว่างกันกับคนในโลก โดยผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันนั้นอาจมีภาษาแม่เป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษก็ได้ หรือพูดให้ชัดเจนก็คือ ในปัจจุบันจำนวนผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษที่มีภาษาอื่นเป็นภาษาแม่นั้นมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่หลายเท่าตัว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากและฝืนธรรมชาติความเป็นจริงที่จะให้ผู้เรียนทั่วโลกสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เหมือนอย่างผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่โดยการเรียนอยู่ในประเทศของตน
Campbell, D. et al. (1983). English in International Settings: Problems and Their Causes. In Reading in EIL. Larry E. Smith, ed. Oxford: Pergarnon.
Kachru, Braj B. and Nelson, C.L. (1996). World Englishes. in Sociolinguistics and Language Teaching. Sandra.L. Mckay and Nancy H. Hornberger, eds. Cambridge: Cambridge University Press.
McKay, Sandra L. (2002). Teaching English as an International Language: Rethinking Goals and Approaches. Oxford University Press.
Modiano, Marko. (2001). Linguistic Imperialism, Cultural Integrity, and EIL. ELT Journal. 55(4).
"เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกันยิ่งๆขึ้นไป อันเป็นจุดหมายปลายทางที่แท้จริงของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในฐานะภาษานานาชาติเพื่อคนทั้งโลกอย่างแท้จริง"
ผมไม่ได้สนภาษาอังกฤษในแง่ที่ว่านั้นเลย แต่มองเห็นว่าในปัจจุบันถ้าไม่รู้ภาษาอังกฤษขั้นใช้การได้แล้วจะเสียเปรียบมาก โดยเฉพาะการอ่าน เพราะแหล่วความรู้ต่างๆอยู่บนอินเตอร์เน็ตเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่ใช้ภาษาไทย
ทำอย่างไรละครับที่จะให้เด็กไทยสนใจภาษาอังกฤษจนใช้การได้โดยที่ไม่ต้องเรียนเมืองนอกเมืองนาหรอก