Chinese & English Language Teacher

โจโฉ ณ ลาดปลาเค้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




งานเขียนทุกชิ้นใน Blog นี้ได้รับความคุ้มครองตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก แก้ไข ดัดแปลง หรือกระทำการอื่นใดในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้รับอนุญาต

A brief introduction about myself

Hi, everyone! My name is Joe, and I’ve created this blog in order to share my academic interests as well as personal life activities with whoever that comes across.

Strange as it may seem, my life is based on staying current with continuing education to keep my passion alive. Consequently, after earning my BA in English and MA in Translation and Interpretation, I decided to pursue my second master’s degree in Applied Linguistics (English Language Teaching). Upon the completion of my second MA studies, I intended to continue my education towards obtaining a PhD in the same field; afterwards, which would allow me to further refine my language teaching and research skills.

To become a better researcher in language studies, I’ve been actively concentrating on literature review related to my research interests. My main areas of interest include translation pedagogy, academic discourse analysis, and phonetics & pragmatics in second language acquisition. I’m also particularly interested in/ in love with English as a Lingua Franca, World Englishes, and English language teaching (ELT).

please don’t hesitate to contact me via Line ID: LFLCenter should you have any questions, ideas, or suggestions.
ติวเข้มภาษาอังกฤษและภาษาจีนกลางเพื่อการสื่อสาร (พูด ฟัง อ่าน เขียน) + หลักสูตรการแปลอังกฤษ-ไทย/ไทย-อังกฤษ (ข่าวสารคดี วรรณกรรม ธุรกิจ กฎหมาย) + Academic Writing + เตรียมสอบ O-NET GAT PAT7.4 HSK CU-TEP TU-GET TOEIC TOEFL IELTS และเตรียมสอบป.โท ด้านการสอนภาษาอังกฤษและการแปล โดยล่ามสามภาษา + พี่ติวเตอร์ปริญญาโท สาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ (การสอนภาษาอังกฤษ) + อักษรศาสตรมหาบัณฑิต (การแปลและการล่าม) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Line: LFLCenter (ทดลองเรียนฟรีทุกหลักสูตร!)
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add โจโฉ ณ ลาดปลาเค้า's blog to your web]
Links
 

 
แนวทางการเตรียมตัวสอบคัดเลือกเข้าเรียนป.โท หลักสูตรการแปล จุฬาฯ

แนวทางการเตรียมตัวสอบคัดเลือกเข้าเรียนป.โท หลักสูตรการแปล จุฬาฯ

มีเพื่อนๆหลังไมค์+อีเมลถามกันมามาก วันนี้เลยตั้งใจจะเขียนแปะไว้ในนี้ซะทีเดียว เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจคนอื่นๆ ด้วย

ข้อสอบมีทั้งหมด 3 วิชา ได้แก่

1. วิชาทักษะภาษาไทย เวลาสอบ 1.5 ชั่วโมง ข้อสอบประมาณ 7 หน้า (ต้องบริหารเวลาให้ดีๆ) เป็นการทดสอบการใช้คำ สำนวน เครื่องหมายวรรคตอนของภาษาไทยที่ถูกต้องตามบริบทและหลักภาษา คำหรือรูปแบบประโยคไหนผิดก็ให้ปรับแก้ใหม่ให้เป็นภาษาไทยที่ถูกต้องสละสลวยเป็นธรรมชาติ ส่วนหลังเป็นการวิเคราะห์วัจนลีลาทางภาษาโดยให้อ่านบทความประมาณ 1.5 กระดาษ A4 แล้วเขียนวิเคราะห์วิจารณ์ในรูปแบบการเขียนเรียงความว่าผู้เขียนให้ภาษาระดับใด มีทัศนคติแบบไหน เรามีความคิดเห็นประการใดต่อบทความบ้าง

การเตรียมตัว แนะนำให้อ่านหนังสือ “ทักษะการเขียนภาษาไทย” ของอาจารย์ดวงใจ ไทยอุบุญ และ “ภาษาไทยสำหรับงานเขียนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ของอาจารย์มงคล เดชนครินทร์ (สำนักพิมพ์จุฬาฯทั้ง 2 เล่ม)

2. ข้อสอบภาษาอังกฤษ..พักสอบจากข้อสอบภาษาไทยประมาณครึ่งชั่วโมง เอ่อ อันนี้ขอบอกไว้เลยว่า ตัวใครตัวมันจ้า 55+ (ล้อเล่น) จำได้ว่าตั้งแต่สอบข้อสอบภาษาอังกฤษมายังไม่เคยทำข้อสอบยากขนาดนี้เลยอ่ะ ศัพท์ที่เอามาออกสอบSentence completion ระดับ GRE…มั่วแหลก (แนะนำว่าไม่ต้องเตรียม 55+) Cloze test ต้องเติมคำเอง ส่วนไวยากรณ์ก็เป็น Error Identification ซึ่งถ้ามองจริงๆ 2 ส่วนนี้ก็ไม่ได้ยากมาก ถ้าเตรียมตัวโดยการหัดทำข้อสอบแนวสอบเข้าป.โท โดยการอ่าน Passage ข้อสอบสอบเข้า ป.โทหรือ TOEFL ฉบับ Paper-based เยอะๆเพราะเนื้อหาแนวเดียวกันเลย โดย Cloze test จะเป็นบทความทางวิชาการ ส่วน Error ก็เหมือนกับข้อสอบ CU-TEP แต่ยากกว่านิดหน่อย หมั่นทำข้อสอบแนวนี้เยอะๆก็จะได้เอง (แนะนำให้ทำวันละ 20-30 ข้อ เอาไว้ใช้สอบ CU-TEP พร้อมกันไปเลย) ส่วนอีกครึ่งหลังเป็นข้อสอบการอ่านและเขียนอธิบาย...ขอบอกว่ายาวและยากมาก...ดีที่ใช้ลูกเล่นโดยการเขียนตอบกว้างๆให้อ่านดูกลางๆไม่ฟันธงคำตอบไปทางใดทางหนึ่ง (ก็มันเยอะ อ่านไม่ทัน เวลาใกล้หมด 55+) ตรงนี้ผมคิดว่าเขาคงต้องการดูการจับประเด็น วิธีการเรียบเรียงเขียนนำเสนอภาษาอังกฤษ ดูไวยากรณ์การใช้คำศัพท์ และสไตล์การเขียนของเรามากกว่าว่าโอเคไหม

การเตรียมตัวนอกจากหัดทำข้อสอบ CU-TEP หรือข้อสอบภาษาอังกฤษเตรียมสอป.โทเยอะๆตุนเอาไว้แล้ว แนะนำให้อ่านข่าว สารคดี ภาษาอังกฤษให้มากๆ ซึ่งหาได้จากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ สารคดีออนไลน์ หรือจากรีดเดอร์ไดเจส อ่านแล้วหัดสรุปความ หรือ paraphrase ประโยคให้เป็นภาษาของเราเอง ทำทุกวันวันละเรื่องก็ได้ รับรองจะได้มั่นใจและไม่ลนมากเวลาสอบ

3. ข้อสอบการแปล...ให้เวลา 2 ชั่วโมง ห้ามเอาพจนานุกรมเข้าห้องสอบ (ดีนะมีพักกินข้าวกลางวัน ไม่งั้นตายแน่ หุหุ) เป็นการแปลอังกฤษเป็นภาษาไทย ทดสอบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ และการเขียนเรียบเรียงเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องสละสลวย อ่านเข้าใจง่าย ได้ความหมายไม่ขาดไม่เกิน...ฉะนั้นการเตรียมตัวคือ หมั่นหาข่าวจากหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ นวนิยายหรือเรื่องสั้นมาอ่านๆๆ+แปลๆๆๆไว้เลยตั้งแต่วันนี้ให้ชินมือ วิธีการเตรียมในส่วนนี้อาจลองหาบทแปลดีๆมาอ่านเทียบกับต้นฉบับว่าเขาแปลกันยังไง เช่น งานแปลบทความของรีเดอร์ไดเจส หรืองานแปลนวนิยายดีๆ (หาเอาเอง) นอกจากนี้หนังสือหลักการแปลที่มีขายตามร้านหนังสือก็เป็นการเรียนรู้แนวทางลัดเพิ่มเติมอีกวิธีหนึ่งว่ามีหลักการแปลอะไรยังไงบ้าง ที่จะแนะนำมีหลายเล่ม ถ้ามุ่งมั่นตั้งใจจะเรียนให้ได้ก็ซื้อไว้ทั้งหมดแล้วไล่อ่านอาทิตย์ละเล่มก็ได้

เล่มที่อยากแนะนำคือ

1. การแปลเบื้อต้น ของอาจารย์ทิพา เทพอัครพงค์ สำนักพิมพ์จุฬาฯ
2. การแปลขั้นสูง ของอาจารย์สุพรรณี ปิ่นมณี สำนักพิมพ์จุฬาฯ
3. แปลได้ แปลดี (ทักษะการแปลสำหรับผู้เรียนในมหาวิทยาลัย) ของอาจารย์สุพรรณีเหมือนกัน สำนักพิมพ์จุฬาฯ
4. หลักการแปล ของอาจารย์สัญฉวี สายบัว สำนักพิมพ์ มธ. (เล่มนี้ถือว่าคลาสสิกเพราะพิมพ์เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้)
5. หลักการแปล ของอาจารย์สิทธา พินิชภูวดล สำนักพิมพ์นานมี เล่มนี้ก็ดีมาก ตอนนี้อาจหาซื้อยาก ลองไปดูที่สำนักพิมพ์นานมีที่สุขุมวิทน่าจะมี...
6. คู่มือสอนแปล ของอาจารย์วรนาถ วิมลเฉลา สำนักพิมพ์จุฬาฯ เล่มนี้ดีมากๆๆๆๆๆๆ แนะนำอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ไม่มีพิมพ์ขายแล้ว ให้บุกไปที่ห้องสมุดกลางจุฬาฯ ถ่ายเอกสารเก็บไว้อ่านได้เลย

นอกจากเล่มหลักๆพวกนี้ก็ยังมีที่ไม่วางขายตามท้องตลาด เช่น การแปลวรรณกรรม กับ หลักการแปลและเทคนิค หาซื้อได้ที่ห้องใกล้ๆห้องสมุดคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯนะครับ

ส่วนเล่มอื่นๆก็แล้วแต่ความชอบครับ บางเล่มผมว่าหนักวิชาการไปนิส บางเล่มก็อ่อนวิชาการไปหน่อยเพราะไม่มีการอ้างอิงที่ดีนัก

การสอบแปลนั้นอยากจะบอกว่า ไม่ได้ง่ายไปซะทีเดียวเพราะมักมีศัพท์ภาษาอังกฤษยากๆ ตั้งหลายคำที่ไม่รู้ถึงความหมายชัดเจนเต็มร้อยถึงแม้เราจะใช้ปริบทเดาแล้วก็ตาม วิธีการก็คือ อย่าเว้นช่องว่างหรือเขียนคำภาษาอังกฤษที่แปลไม่ได้ลงไปอย่างเด็ดขาด (เห็นคนอื่นที่ทำไม่ได้ชอบทำกัน) แต่จงแปลให้กลมกลืนเป็นภาษาไทยที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายๆ ไหลลื่นไว้ก่อน คำไหนแปลไม่ได้ให้ข้ามไปเลย เอาเฉพาะใจความหลัก อย่าแปลตรงตัวประโยคต่อประโยคมากจนเกินไป ให้หลุดจากการแปลเรียง S+V+Obj ที่ละคำจากภาษาอังกฤษเพราะจะทำให้อ่านไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้ควรต้องอ่านก่อนหลายๆรอบให้เข้าใจ อย่าเพิ่มรีบแปลเด็ดขาด จับประเด็นใจความหลักให้ได้แล้วค่อยลงมือเรียบเรียงเป็นภาษาไทย

การสอบแปลนี้ บอกตรงๆ ว่าทักษะภาษาไทยสำคัญยิ่งกว่าภาษาอังกฤษซะอีกเพราะระดับความยากของภาษาที่เอามาให้แปลส่วนตัวผมว่าไม่ได้ยากมาก คนมีความรู้ภาษาอังกฤษระดับกลางค่อนสูงก็น่าจะพออ่านเข้าใจ จับประเด็นได้ไม่ยาก แต่ที่ยากกว่าคือการเรียบเรียงเป็นภาษาไทยที่ดี ดังนั้นทางแก้คือต้องอ่านข่าว สารคดี นิยาย เรื่องสั้นภาษาไทยตุนไว้มากๆ เพื่อสร้างรูปแบบการเขียนภาษาไทยที่ดีให้กับตัวเอง

ข้อสอบการแปลของจุฬาฯ ค่อนข้างมาราธอน เช้า 3 บ่าย 2 ฉะนั้นคนที่ไม่ได้เตรียมตัวมาดี หรือพื้นฐานต้นทุนความรู้ภาษาอ่อนรับรองจะสติแตก+เหนื่อยล้าได้ง่ายๆ บางคนบอกว่าแค่ข้อสอบภาษาไทยช่วงแรกก็มึนหนีกลับบ้านแล้ว ดังนั้นควรต้องกินให้อิ่มนอนให้หลับเป็นนิสัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนวันสอบ และการเตรียมตัวอ่านหนังสือควรเป็นไปอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ (อย่างต่ำวันละ 2-3 ชั่วโมง) เพื่อสร้างความอดทน และภูมิคุ้มกันอาการอ่อนล้าในช่วงเวลาสอบ

ส่วนการสอบสัมภาษณ์คิดว่าไม่ได้ยากอะไร เพราะเพียงแค่เราแสดงจุดยืนและความมั่นใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส (ตอบไม่ตรงคำถาม ตื่นเต้นบ้างก็ไม่เป็นไร) อย่างผมเองบอกเลยว่าจริงๆไม่ได้อยากเป็นนักแปลอาชีพ แต่สนใจในศาสตร์การแปลและการสอนภาษา คิดว่าจบไปอยากเป็นอาจารย์สอนหนังสือ งานที่สนใจแปลเป็นพวกเกี่ยวกับการเรียนการสอนภาษาล้วนๆ โดนอาจารย์ถามต้อน จนตอบไม่ได้ดังใจไปหลายคำถาม แต่ยังรอดมาได้ แหะๆ

สรุปสั้นๆคือ ถ้าเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือพอสมควร ชอบขีดๆเขียนๆ + ภาษาอังกฤษดีระดับหนึ่งอยู่แล้ว การสอบเข้าสาขานี้ก็ไม่น่ายากเกินเอื้อม...แต่ด้วยความไม่ประมาท อีกทั้งการสอบเข้าสาขาการแปลนี้การแข่งขันค่อนข้างสูง คนเก่งๆมาสอบก็เยอะจึงควรเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ ดีที่ที่สุด บางคนคิดว่ากว่าจะสอบอีกทีก็ปลายปี(ประมาณกลางเดือนธันวา) แต่จริงๆไม่นานเอาซะเลย...เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ดีที่สุด

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบน้าาา


Create Date : 18 ตุลาคม 2552
Last Update : 3 ตุลาคม 2555 20:27:14 น. 7 comments
Counter : 11557 Pageviews.

 
โหอยากเข้าจุฬาเหมือนกัน โดยเฉพาะครุศิลป์ แต่อ่อนภาษา ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ก็เรียนอังกฤษทางการแพทย์ เลย ไม่ได้แบบทั่วไป


โดย: nuchock วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:19:42:32 น.  

 
เปิดมาตกใจหมด หน้าblogเหมือนกันเลย
เราก็อยากเรียนป.โทอักษรเหมือนกันแหละ


โดย: มาฮิกัน ชกีซิก วันที่: 18 ตุลาคม 2552 เวลา:23:49:51 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน ติว


โดย: swkt (tewtor ) วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:0:14:31 น.  

 
วิเคราะห์ข้อสอบ CU-TEP part Writing ?

จะมีลักษณะเป็น ERROR Correction ทั้งหมดมี 30 ข้อ ให้เวลา 30 นาที ซึ่งเวลา 30 นาทีนั้นเป็นเวลาที่ไม่เยอะเลยค่ะ ซึ่งอยากให้พิจารณาและทำข้อสอบโดยรวมให้ครบก่อน ถ้ามีเวลาเหลือข้อไหนไม่แน่ใจก็ถึงย้อนกลับมาพิจารณาอีกครั้งค่ะ อย่าประมาทว่าข้อสอบมีตัวหนังสือที่น้อยและมีเวลาทำตั้ง 30 นาที ในความจริง 30 นาทีนี่ไม่ยากเลย ขอให้บริหารจัดการเวลาให้ดีด้วย และหลักในการทำข้อสอบส่วนนี้จะต้องพิจารณาความถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ และขอให้ทำข้อสอบในส่วนนี้ด้วยความรอบครอบด้วยค่ะ

อ่านการวิเคราะห์เต็มๆโดย Pornpan Academy
//www.vcharkarn.com/varticle/43270


โดย: izephyr888 วันที่: 21 มกราคม 2555 เวลา:13:11:57 น.  

 
you're actually a just right webmaster. The website loading pace is amazing. It sort of feels that you are doing any distinctive trick. In addition, The contents are masterpiece. you have done a great job on this matter!
snapbacks for cheap //www.alteollc.com/requirements.html


โดย: snapbacks for cheap IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:17:22:54 น.  

 
ขอบคุณสำหรับแนวการสอบนะคะ หนูอยากเรียนการแปลที่นี้มาก จะลองอ่านเองก่อน ถ้าไม่ไหวคงต้องรบกวนไปขอติวกับพี่


โดย: พลอย IP: 14.207.40.100 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:0:03:35 น.  

 
ใช้เวลาเตรียมตัวนานไหมครับ


โดย: Anantavijaya IP: 171.96.91.231 วันที่: 19 เมษายน 2563 เวลา:8:55:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.