Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
24 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
มาดูวิธี จัดการกับ เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ หลังน้ำท่วมบ้านกัน

เครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้า

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

กำจัดเชื้อรา เชื้อโรค กลิ่นอับ หลังน้ำท่วม

ดูแลเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า หลังน้ำลด

ดูแลเฟอร์นิเจอร์ ประเภทต่างๆ หลังน้ำท่วม

ซ่อมแซมบ้าน หลังน้ำท่วม

เครื่องครัวเป็นสิ่งที่ต้องเน้นเป็นพิเศษเพราะสำคัญกับการกินอยู่ โดยพวกเครื่องครัวที่เป็นเครื่องแก้ว, เครื่องกระเบื้อง, พลาสติก, เมลามีน โดยเฉพาะแก้วน้ำและจานชามใส่อาหาร

ให้ผสมคลอรีน 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำร้อน 1 แกลลอน ใส่ลงในภาชนะแล้วนำสิ่งของเหล่านั้นแช่เอาไว้อย่างน้อย 10 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อต่าง ๆ

จากนั้นนำขึ้นจากน้ำไปพึ่งแดดให้แห้ง 1 รอบ ก่อนนำกลับมาทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานอีกครั้งหนึ่ง ที่สำคัญอย่าใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง แต่ควรทิ้งให้ถ้วยจานเหล่านั้นแห้งเอง

ส่วนเครื่องครัวที่เป็นเครื่องเงิน, เครื่องโลหะต่าง ๆ เช่น ช้อน, ส้อม, มีด, หม้อ, กระทะ ไม่ควรใช้คลอรีนเนื่องจากอาจทำปฏิกิริยากับโลหะหลาย ๆ ชนิดจะทำให้สีเปลี่ยนไป แนะนำให้นำไปต้มในน้ำเดือดอย่างน้อยเป็นเวลา 10 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อ แล้วใช้น้ำยาทำความสะอาดที่สามารถฆ่าเชื้อได้แช่ไว้ ที่สำคัญน้ำยาที่ใช้จะต้องไม่เป็นอันตรายต่อคน เช่น ห้ามใช้โซดาไฟ กรณีที่เป็นเครื่องครัวขอแนะนำให้ใช้น้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของสารชีวภาพเอนไซม์ ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรคและไม่เป็นอันตราย แล้วนำมาทำความสะอาดอีกครั้งหลังจากการต้มในน้ำร้อน

สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนที่จะนำกลับไปใช้งาน

มิฉะนั้นอาจเกิดไฟฟ้าชอร์ตเอาได้ หรืออาจก่อความเสียหายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า

การทำความสะอาด, การขจัดคราบสกปรก และการกำจัดกลิ่นของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น วิทยุ, โทรทัศน์, เครื่องซักผ้า, เครื่องล้างจาน, เครื่องดูดฝุ่น ฯลฯ เราอาจทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องได้เอง

แต่จำเป็นต้องให้ช่างมาตรวจเช็กดูข้างใน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการต่อสายดินเพื่อป้องกันไฟดูด ไฟชอร์ต เมื่อถูกน้ำท่วมไปแล้วอาจมีสิ่งสกปรกหรือโคลนเข้าไปอุดตันอาจทำให้สายดินไม่สามารถทำงานได้ ควรจะให้ช่างมาตรวจเช็กก่อนการใช้งาน มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายได้

นอกจากนั้น ยังมีสิ่งของเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่อาจต้องทำความสะอาดด้วย เช่น สิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าต้องรีบนำมาซักทำความสะอาดฆ่าเชื้อโดยเร็วก่อนที่จะขึ้นรา ให้ซักด้วยน้ำร้อน แล้วตากแดดให้แห้ง

หนังสือเปียก

สำหรับเอกสารสำคัญ, ภาพถ่าย, และหนังสือที่เปียกน้ำ ในขั้นแรกให้ล้างเอาสิ่งสกปรกออกอย่างระมัดระวัง แล้วเก็บใส่ไว้ในถุงพลาสติก จากนั้นให้นำไปแช่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นชนิดที่เป็นแบบไม่มีน้ำแข็งเกาะ เพื่อป้องกันการขึ้นรา และเมื่อมีเวลาที่จะทำความสะอาดให้นำออกมาจากตู้เย็นให้ละลาย แล้วค่อยปล่อยให้แห้งอย่างช้า ๆ บางครั้งการทำความสะอาดของเหล่านี้อาจต้องใช้คนที่เป็นมืออาชีพเช่นกัน

และยังมีของหลายสิ่งที่เมื่อแช่อยู่ในน้ำแล้ว ไม่คุ้มค่าความเสี่ยงในการนำกลับมาใช้งาน ควรตัดใจกำจัดทิ้งไป เช่น ที่นอนฟูก, หมอน, ของเล่นเด็กตุ๊กตา ฯลฯ ที่สำคัญโปรดกรุณาอย่านำไปบริจาคให้ผู้ด้อยโอกาส เพราะจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว

ทั้งหมดนี้คือสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งทำหลังจากน้ำลด เพื่อให้บ้านกลับคืนสภาพให้เร็วที่สุด หรือใครที่อยากจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ก็ถือโอกาสนี้ทำได้เลย...

เฟอร์นิเจอร์ไม้

นายพิริยะ บุญกิตติวัฒนา กรรมการผู้จัดการกลุ่มโรงงานในเครือบริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้หากทำจากไม้จริง (solid wood) ให้ทำความสะอาดคราบสกปรก ตะไคร่น้ำ โดยใช้แปรงขนอ่อนชุบด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน จากนั้นเช็ดให้แห้ง และวางไว้ในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อไม้คลายความชื้นออกไป ห้ามนำเฟอร์นิเจอร์ไม้ตากแดดโดยเด็ดขาด เพราะไม้อาจแตกหรือคดงอได้

เมื่อความชื้นหมดแล้ว อาจใช้สีหรือแล็กเกอร์ทาเพิ่มเติม เพื่อความเงางามขึ้นก็ได้ (วิธีการทดสอบความชื้นแบบง่าย ๆ ใช้แผ่นพลาสติกขนาดพอประมาณ ใช้เทปกาวแปะติดผิวบนเฟอร์นิเจอร์ ทิ้งไว้ 1-2 วัน สังเกตหากมีไอน้ำขึ้นที่พลาสติกแสดงว่ายังคงมีความชื้นหลงเหลืออยู่) หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากชิ้นไม้อัด (particle board) ในกรณีที่โดนความชื้นจากน้ำเพียงเล็กน้อยอาจนำมาวางในที่ร่มเพื่อไล่ความชื้น หากกังวลเรื่องการเกิดเชื้อราหรือกลิ่นอับ อาจใช้ Nonoclean by Nanoyo ฉีดพ่นเพื่อลดการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับชื้นต่าง ๆ แต่หากน้ำปริมาณมากท่วมเฟอร์นิเจอร์เป็นเวลานานไม้จะบวมและยุ่ย เสียความแข็งแรง แนะนำว่าควรต้องทิ้งไป

เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากโลหะ

โลหะมีทั้งประเภทที่เป็นสนิม เหล็ก, ทองแดง, ทองเหลือง เป็นต้น และประเภทปลอดสนิม เช่น สเตนเลส อะลูมิเนียม หากถูกความชื้นสูงหรือแช่น้ำเป็นเวลานานจะทำให้เกิดสนิมหรือเป็นคราบหมองได้ วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือใช้แปรงขนนุ่มขัดสนิมออก โดยอาจใช้น้ำยาขัดสนิมเพื่อทุ่นแรงในการขัดถูได้ดีกว่าเช็ดล้างทำความสะอาด อย่าให้มีรอยเปื้อนค้างอยู่

จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้ง เมื่อแห้งสนิทดีแล้ว ป้องกันการเกิดสนิมอีกขั้นด้วยการทาสีทับ ซึ่งจะช่วยทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูใหม่ขึ้น หากเป็นโลหะประเภท

สเตนเลสซึ่งปลอดสนิมใช้แค่แปรงขนนุ่มชุบด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดทำความสะอาด สำหรับบานพับ ลูกบิด และรูกุญแจ ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากโลหะให้เช็ดให้แห้งสนิท ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมด ใช้พวกน้ำยาหล่อลื่นชโลมตามจุดรอยต่อและรูต่าง ๆ ให้ทั่ว ห้ามใช้จาระบีหรือพวกขี้ผึ้งทา เพราะจะทำให้ความชื้นระเหยออกไม่ได้จะทำให้ฝังอยู่ข้างในและจะเป็นปัญหาในภายหลัง

เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนัง

ใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เทลงบนแปรงขนนุ่มหรือผ้าที่เปียกหมาด ๆ ทำให้เกิดฟองเล็กน้อย นำไปเช็ดถูเครื่องหนังที่ต้องการทำความสะอาด โดยอย่าให้เปียกน้ำมากเกินไป เช็ดฟองสบู่ออก ด้วยผ้าที่เปียกหมาด ๆ อีกผืน จากนั้นใช้ผ้าขนหนูแห้งเช็ดอีกครั้ง และอาจใช้น้ำยา แวกซ์ หรือครีมบำรุงรักษาเพิ่มความเงางามอีกครั้ง ไม่ควรนำเฟอร์นิเจอร์หนังไปตากแดดเพราะอาจทำให้หนังแตกและสีซีดจางได้

เฟอร์นิเจอร์ที่มีส่วนประกอบของผ้า

หากโดนน้ำขังเป็นเวลานาน ๆ จะสกปรกมีคราบเลอะ อาจก่อให้เกิดเชื้อโรคสะสมและมีกลิ่นเหม็นอับ

หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถแกะมาทำความสะอาดได้ก็สามารถนำออกมาล้างน้ำทำความสะอาด และตากให้แห้งสนิท ถ้าเป็นแบบสำเร็จรูปที่ไม่สามารถแกะมาได้ควรทิ้งในทันที เพราะหากนำมาใช้จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และมีผลเสียต่อสุขภาพของผู้ใช้งานได้

แต่ในกรณีที่เกิดรอยเปื้อนเพียงเล็กน้อยอาจหาผ้ามาหุ้มใหม่ได้ และหากต้องการยับยั้งการเกิดเชื้อราและลดกลิ่นอับของผ้า อาจใช้ Nonoclean by Nanoyo ฉีดพ่นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวได้


Create Date : 24 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2554 22:03:43 น. 0 comments
Counter : 455 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

JitJai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add JitJai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.