ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.50 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.78 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นโลกยังคงปรับฐานลงต่อเนื่อง หลังตัวเลข PMI เดือนก.ค. ของทั้งสหรัฐฯ และยุโรปอ่อนแอลง อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่ประกาศออกมาในช่วงนี้เริ่มต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นไทยผันผวน และมีความเสี่ยงทางลง เน้นหุ้นผลประกอบการและปันผลดี และคาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3% เน้นเก็งกำไร 8 หุ้นเด่น ได้แก่ TTW, CENTEL, BGH CFRESH, SRICHA, DTAC, RML, DCC

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ กลยุทธ์การลงทุน: เน้นเฉพาะหุ้นผลประกอบการ+ปันผลดี

แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนท่ามกลางความเสี่ยงทางลงแม้วานนี้ตลาดจะปิดฟื้นตัวขึ้นได้เล็กน้อย แต่ยังมองไม่น่าแข็งแรง โดยปราศจากปัจจัยผลักดันการฟื้นตัวอย่างจริงจัง ขณะที่ความเสี่ยงทางลงเรื่องวิกฤติหนี้ยุโรปยังปกคลุมตลาด ด้านปัจจัยภายในดูค่อนข้างทรงตัวโดยการประชุมกนง.ในวันนี้ คาดจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ระดับเดิม 3.00% จึงไม่น่าส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก ดังนั้น ภาพรวมตลาดน่าจะมีความผันผวนสูงท่ามกลางความเสี่ยงทางลง แต่แนวรับแถว 1181-1170 น่าจะยังพอไหว ทั้งนี้ เมื่อตลาดวิตกกันมาก ย่อมมีความคาดหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นศก. รอบใหม่ตามมาในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ

ใกล้จะมีการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น: ยังคงเน้นถือเฉพาะหุ้นที่คาดมีผลประกอบการดี หรือมีปันผลระหว่างกาลในเกณฑ์ดีรองรับ

แนวต้าน : 1192-1200 แนวรับ : 1181-1170

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25% : เงินสด 75%

ถือต่อในพอร์ต : CFRESH, SRICHA, DTAC

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ เก็งกำไรในเชิง “ตั้งรับ” มากขึ้น

แนวโน้มตลาด: ตลาดหุ้นโลกยังคงปรับฐานลงต่อเนื่อง หลังตัวเลข PMI เดือนก.ค. ของทั้งสหรัฐฯ และยุโรปอ่อนแอลง อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่ประกาศออกมาในช่วงนี้เริ่มต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมากังวลกับการชอลอตัวของการเติบโตเศรษฐกิจโลกอีกครั้งนอกจากนี้ตลาดยังกังวลกับการที่มูดี้ส์ปรับลดแนวโน้มเครดิตของเยอรมันเนเธอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กลงเป็นลบ อีกทั้งกังวลกับการที่กรีซอาจไม่ได้รับเงินช่วยเหลือระลอกต่อไปหาก Troika พบว่ากรีซไม่สามารถปฏิบัติตามแผนลดค่าใช้จ่ายได้ เราไม่พบการเปลี่ยนแปลงในเชิงปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตามโมเมนตัมของตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอ และความกังวลปัญหาหนี้ยุโรประลอกใหม่ จะทำให้ความอยากเสี่ยง (risk appetite) ของนักลงทุนปรับลงในช่วงสั้น ในภาพรวมของกลยุทธ์เรายังคงโฟกัสการเข้าซื้อรายตัว อย่างไรก็ตามลักษณะการเข้าซื้อมีแนวโน้มจะเป็นใน “เชิงตั้งรับ” มากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา และเลือกหุ้นที่เน้นปันผลระหว่างกาล หรือมองไปถึงภาพที่ดีของครึ่งปีหลังมากขึ้น สำหรับนักลงทุนเรารอจังหวะซื้อ และไม่รีบร้อนในการเพิ่มพอร์ตการลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน: SET Index คาดช่วงสั้นแกว่งตัวในกรอบ 1165-1205 (โดยประเมินความเสี่ยงในกรณีแย่ที่ 1150) ซึ่งดัชนีอาจจะเลือกแกว่งตัวเพื่อฟื้นตัว หรือเหวี่ยงลงต่อได้พอๆ กัน ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์จึงเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวที่มีประเด็นหรือวางกลยุทธ์ได้ง่าย หุ้นแนะนำวันนี้ TTW CENTEL BGH

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10%เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก โดยยังคงประเมิน downsideของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดยังอยู่ในช่วงแกว่งพักฐาน ซึ่งเป็นโอกาสเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้ออยู่!!!

กลยุทธ์: ตลาดปรับพักฐานลง เรายังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อต่อเนื่อง ส่วนหุ้นที่มีอยู่แล้วยังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอรอบรีบาวด์ ซึ่งเราคาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะดีดกลับขึ้นไปแถวจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1247 จุดเป็นอย่างน้อยให้ได้มองหาจังหวะขายทำกำไรเพื่อปรับพอร์ตในช่วงเดือน ส.ค.นี้ได้

หุ้นเด่นทางเทคนิค  RML, DCC, LOXLEY (SBL)

แนวโน้ม แม้ว่ารัฐบาลสเปนจะยังไม่ยืนยันการขอรับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ แต่ข่าวที่แคว้นต่างๆ ในสเปนเตรียมขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนก็ยังคงพุ่งสูงขึ้นด้วย รวมทั้งเริ่มมีสัญญาณว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป กำลังส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ ในสหรัฐเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงปรับตัวลงอยู่ ซึ่ง FSS คาดว่า SET จะยังอยู่ระหว่างการแกว่งตัวผันผวน และมีสิทธิที่จะปรับพักตัวลงต่อได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงก็ช่วยหนุนความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่จากประเทศต่างๆ ที่อาจจะมีออกตามมาได้ ซึ่งล่าสุดหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่เฟดใกล้ที่จะดำเนินมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานด้วย ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อสะสมในช่วงตลาดปรับลง เพื่อลุ้นโอกาสที่ SET จะรีบาวด์กลับขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นใหม่ๆ ดังกล่าว

แนวรับ  1183-1181, 1178-1170 จุด  แนวต้าน 1193-1195 , 1198-1205  จุด