jimkong
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




jimkong อ่านว่า จิ้มก้อง
เป็นชื่อ [อดีต] ป้าหมาแก่ที่บ้าน
ไทยหลังอาน ใจโหด หน้าเหี้ยม
ฉลาด ดื้อ และน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jimkong's blog to your web]
Links
 

 

เก็บตกหนังปี ๒๕๕๐ (๑)

(ไม่ตามลำดับ)



Clerks II: The Passion of the Clerks
แล้ว Jay & Silent Bob ก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ทุกองค์ประกอบตามแบบฉบับของ Kevin Smith ยังอยู่ครบถ้วน
ดูแล้วก็ยังปลื้มเหมือนเดิม
ขาประจำที่ติดตามกันมาคงไม่พลาด




Simon

Simon เป็นหนังเนเธอแลนด์ตั้งแต่ปี 2004 แต่เพิ่งเข้าฉายบ้านเรา (ที่ House) ปี 2007 นี่เอง

ชีวิตของนักศึกษาทันตแพทย์ที่เป็นเกย์อย่างคามีลเปลี่ยนแปลงไป เมื่อถูกซีมงเก็บไปรักษาพยาบาลที่บ้านหลังจากเขาถูกรถของซีมงชน…ซีมงเป็นพ่อค้ายา เป็นเพลย์บอยขวัญใจสาวๆ ทุกวัย เป็นคนมีเสน่ห์ที่ใครอยู่ใกล้ก็อดรักไม่ได้ เขามีลูกกับอดีตเมียชาวไทยซึ่งถึงเลิกรากันไปแล้วก็ยังติดต่อกันอยู่เป็นปกติ เมื่อเก็บคามีลมาแล้ว ซีมงก็ดูแลเป็นอย่างดี จับรวมอยู่ในกลุ่มก้อนเดียวกัน ไปไหนไปกัน กระทั่งพาไปเมืองไทยด้วยกัน...คามีลแยกตัวจากชีวิตของซีมงเพราะเหตุการณ์ที่ทำให้เขารับตัวเองไม่ได้

เมื่อผ่านไปหลายปี ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง คามีลก็ยังบังเอิญถูกซีมงเฉี่ยวอีกจนได้ ทั้งคู่ได้มีโอกาสมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง เจอกันคราวนี้ซีมงดูสุขภาพไม่ดีนัก มารู้กันทีหลังว่าเขาเป็นมะเร็งในระยะหวังผลยากแล้ว...เหมือนการรวมตัวของคนสนิทของซีมงอีกครั้งเพื่อให้เขาเผชิญกับวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างมีความสุข

...สำหรับเราชีวิตเป็นเรื่องมีค่านะฮะ เลยไม่เข้าใจอารมณ์ของคนที่เลือกความตายมากกว่าการมีชีวิตอยู่ แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าอยู่แบบไร้พลังชีวิต การเลือกความตายอาจเป็นสิ่งที่ดีกว่าก็ได้...ดูแล้วก็สงสัยอย่างแรงว่า ที่เนเธอแลนด์ “เรื่องนั้น” เป็นเรื่องที่กฎหมายอนุญาตจริงๆ ละหรือ?...ดูแล้วก็นึกไปว่า ถ้า รามอน ซัมเปโดร จาก the Sea Inside มาอยู่เนเธอร์แลนด์ คงไม่ต้องยืดเยื้อขนาดนั้น



the Bridge

หนังสารคดีเกี่ยวกับการที่คนเลือกจะมากระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตายที่สะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก - สะพาน Golden Gate - งานนี้ทีมงานใช้เวลา “สังเกตการณ์” อยู่ปีนึงเต็มๆ ตั้งกล้องเพื่อรอถ่ายเหตุการณ์จริง ไปสัมภาษณ์คนใกล้ชิดของคนที่ฆ่าตัวตาย สัมภาษณ์คนที่คิดฆ่าตัวตาย ถึงสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งสัมภาษณ์คนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

ดูแล้วหดหู่และปวดใจที่เห็นคนมาฆ่าตัวตายต่อนหน้าต่อตา แม้หนังจะไม่ได้เจาะๆ เน้นๆ ภาพวินาทีนั้นจังๆ ก็เถอะ...จากการถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ พบว่าในปี 2005 มีคนฆ่าตัวตาย “สำเร็จ” 24 ราย และมีที่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเอาไว้ได้อีกจำนวนหนึ่ง

ออกมาจากโรงหนังด้วยอารมณ์สีเทาเข้ม



Pleasure Factory

เป็นหนังที่เรามอบตำแหน่งน่าเบื่อสุดๆ ในรอบหลายปีนี้ให้เลย ...คิดว่าหลับไปหลายวูบ
เรื่องราว (เหมือนจะน่าสนใจ) เกี่ยวกับแวดวงค้าประเวณีในย่านถนนเกลัง ของสิงคโปร์ เหตุการณ์ก็เกี่ยวกับพวกขายประเวณี แนวกามโลกีย์นี่แหละ เห็นกันจะ-จะ เต็มๆ ตา แต่!!! ดูแล้วไม่มีอารมณ์ร่วมอย่างแรงอ่ะ ไม่เข้าทางเราเล้ยยย (- -)" กลับรู้สึกว่าที่หนังมันออกมาแบบนี้เพราะผู้กำกับอยากเห็นผู้ชายหน้าตาดี (บ้างไม่ดีบ้าง) มาเปลือยๆ โชว์ๆ แสดงการร่วมเพศให้เห็น...แค่นั้นรึเปล่า? หนำซ้ำผู้หญิงในเรื่องนี้หน้าตาบึ๋ยๆๆๆๆ อย่างแรงอ่ะ เห็นในเรื่องชมกันจังว่าหน้าตาดี เอ่อ...จริงเหรอ ไอ้เรื่องความงามนี่มัน subjective จริงๆ เลยนะเนี่ย เพราะเราว่าสอบตกหมดทุกคนว่ะ มีหน้าตาพอผ่านอยู่คนนึง ก็ดันให้อารมณ์ไปทางแนวสาวประเภทสองซะอีก

...ไม่เข้าทางเราอย่างยิ่ง (-*-)


Lions for Lambs

หนังใหม่ของ โรเบิร์ต เรดฟอร์ด
เล่นประเด็นที่ดูจะฮิตๆ ในแวดวงฮอลลีวู้ดช่วงนี้ คือ อเมริกาทำถูกหรือไม่ที่ส่งกำลังไป “รักษาความสงบ” ในประเทศอื่น (ก่อนหน้านี้ที่ได้ดูคือ the Kingdom – ชื่อเหมือนเฟอร์นิเจอร์เหล็กเนอะ ^^’) ลุงเรดฟอร์ดเลือกนำเสนอเรื่องราวจากสามมุมมอง -
1) วุฒิสมาชิกที่เอาเหตุการณ์แบบนี้มาเป็นฐานสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง vs นักข่าวที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความจริง กับการขาย 2) เด็กหนุ่มกับความฝันบริสุทธิ์ สงครามจะนำผลที่ดีมาสู่ชีวิต โดยมีข้อแม้ว่า-ถ้าพวกเขารอดชีวิตกลับมาได้นะ 3) อาจารย์สอนวิชารัฐศาสตร์ที่พยายามกล่อมให้นักศึกษาหนุ่มที่เคยดูดีมีอนาคตและความคิดกลับมาเข้าห้องเรียนอีกครั้ง

หนังเต็มไปด้วยบทสนทนา (ใครชอบหนังแอคชั่นตู้มๆ ควรจะผ่านเรื่องนี้ไป แล้วไปดู the Kingdom แทน) ดูแล้วคันๆ เจ็บๆ และแอบฮาๆ ดี แต่เราว่าหนังไปไม่สุดว่ะ น่าจะได้มากกว่านี้...ถึงแม้หนังจะดูกระทบกระเทียบและต่อต้านบุช แต่มันน่าจะมีอะไรที่แหลมคมกว่านี้นะ



Michael Clayton
ก่อนอื่นขอกรี๊ดน้าจ๊อดขวัญใจเราก่อน – กรี๊ดดดดด เท่มั่กๆ ค่า (^^)


ไมเคิล เคลย์ตัน (น้าจ๊อด) อดีตอัยการที่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นทนาย ทำงานเป็นนานก็ยังไม่ได้เป็นหุ้นส่วน แต่เป็นที่ปรึกษาพิเศษในฐานะ “the Fixer” มีปัญหาปรึกษาน้าจ๊อด เอ๊ย! น้ามิกกี้ ช่วยได้เสมอ ไมเคิล เคลย์ตัน ถูกเรียกตัวให้ไปจัดการกับปัญหาที่ อาเธอร์ อีเดนส์ (ทอม วิลกินสัน) หนึ่งในหุ้นส่วนใหญ่
ซึ่งรับดูแลคดี U-North บริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การเกษตรที่มีปัญหากับเกษตรกรยืดเยื้อมาหลายปี แต่อาเธอร์เกิดอาการสติแตกแก้ผ้ากลางห้องประชุมขึ้นมา

...เริ่มต้นที่อาเธอร์ แต่เมื่อไมเคิลเข้ามาจัดการกับปัญหานี้เขาก็พบว่ามันเหมือนจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา

หนังแม่งเจ๋งว่ะ! เราชอบ! จริงๆ ทุกองค์ประกอบมันก็ธรรมดาๆ นั่นแหละ แต่ด้วยบท จังหวะ นักแสดง ทำให้อะไรๆ มันดูดีขึ้นมาเห็นๆ แม้ว่าช่วงต้นๆ หนังจะหนืดมากกกกก แต่มันก็เป็นการปูเรื่องก่อนที่จะค่อยๆ ขมวดเขม็งเกลียวจนจบได้สาแก่ใจผู้ชมในที่สุด

เราว่าข้อดีอย่างหนึ่งของเรื่องนี้คือ ทุกตัวละครมันเป็นมนุษย์ เป็นกลมๆ ไม่ได้แบนไร้มิติ...ทนายที่ดูเจนจัดเจ๋งๆ อย่างไมเคิล เคลย์ตัน ก็มีจุดอ่อนเรื่องชีวิตครอบครัว เรื่องการพนัน, ผู้บริหารหญิงของยูนอร์ธที่ต่อหน้าคนอื่นดูเจ๋งสุดๆ ก็มีมุมที่ขาดความมั่นใจ ย้ำคิดย้ำทำ...อันนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้ โทนี่ กิลรอย ที่ควบทั้งตำแหน่งผู้กำกับและเขียนบท ซึ่งเราว่าดูจากผลงานที่ผ่านมาแล้ว ก็สมควรคาดหวังว่าเขาจะแน่นละนะ แล้วเขาก็ทำได้ซะด้วยสิ

สำหรับเรื่องนี้กำกับเป็นครั้งแรก เอาคะแนนเต็มไปเลยฮะ (^^)V

อ้อ! ตอนไปดู ไมเคิล เคลย์ตัน ผ่าน house แล้วอยากจะแวะอุ้มสแตนด์ Lust, Caution กลับบ้าน – มีเฮียแฟนเราอยู่เต็มๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะพยายามแอ๊บแต่งแก่ก็เหอะ ยังกรี๊ดอยู่ดีฮ่ะ



Bee Movie

animation จาก Dreamworks SKG ที่เป็นราวกับ เจอรี่ ไซน์เฟลด์ โชว์ เพราะเขามีบทบาทไปซะทุกส่วนของหนัง

Barry B. Benson ผึ้งหนุ่มเพิ่งจบการศึกษา และต่อจากนี้จะเป็นวัยทำงาน ผึ้งทุกตัวต้องเลือกงานที่จะทำ...ซึ่งต้องทำไปตลอดชีวิต แบรี่ตัดสินใจยังไม่ได้ แต่เขาคิดว่าอยากออกไปดูโลกภายนอกรังบ้าง เมื่อมีโอกาสติดออกไปกับฝูงบินเก็บน้ำผึ้ง จึงได้พบว่าโลกนี้กว้างใหญ่นัก ยังมีอะไรให้เขาได้ทำความรู้จักอีกเพียบ

เราไปดูด้วยความไม่คาดหวัง แต่เพราะถูกดึงดูดด้วยบรรดาชื่อของนักแสดงที่มาให้เสียง ทั้งไซน์เฟลด์เอง เรเน่ เซลวีเกอร์, แมทธิว บรอเดอริก, จอห์น กู๊ดแมน, เคธี เบทส์, แบรี่ เลวินสัน, ออปราห์ วินฟรีย์ ฯลฯ รวมไปถึงพวกที่มาให้เสียงเป็นตัวเองอย่าง สติง (มุขโคตรฮา), เรย์ ลีอ็อตต้า (เล่นไม่เลิกกับมุขน้ำผึ้ง) และคน (เสียง) สำคัญที่โผล่ออกมาแค่นิดเดียวแต่ขโมยหนังทั้งเรื่องไปได้คือ Mooseblood ที่ให้เสียงโดย คริส ร็อค ฮาได้ใจมากๆ ฮ่ะ

เพราะความไม่คาดหวังนี่แหละ ดูแล้วปรากฏว่า...ชอบบบบบบ!!!!! เกินความคาดหมายมากๆ แม้ว่าเนื้อเรื่องของ Cliché หน่อย แต่ก็สนุกอย่างยิ่ง



เมล์นรก หมวยยกล้อ
ผลงานล่าสุดของ เรียว กิติกร
ยังวิพากษ์สังคมได้เจ็บๆ คันๆ เหมือนเคย
คราวนี้ผ่านสังคมจำลองเล็กๆ บนรถเมล์ (ปิดตาย) ที่ใครๆ ก็ระเบิดอารมณ์ใส่กัน



Hannibal Rising

หลังจากที่ฮอลลีวู้ดเล่นกับ ดอกเตอร์ ฮันนิบาล เล็คเตอร์ มาหลายครั้ง (Manhuner/RedDragon, the Silence of the Lambs, Hannibal) คราวนี้กลับไปยังปฐมเหตุว่าอะไรทำให้เลคเตอร์มีพฤติกรรมเยี่ยงนั้น จิตใจได้รับความกระทบกระเทือนมามาก ความเจ็บแค้นมีมาก เลยทำอะไรๆ ได้ไร้หัวใจและเลือดเย็นอย่างที่รู้ๆ กัน…วิปริตมาตั้งแต่วัยหนุ่ม มีโอกาสเมื่อไหร่ไม่มีปล่อยให้หลุดมือไป ถ้าเทียบกับช่วงเวลาหลังๆ จะเห็นได้ว่าเลคเตอร์นิ่งและปราณีขึ้นเยอะแล้ว (- -)”

ภาคนี้ถึงจะโหด แต่ดูสร้างสรรรค์ ช่างสรรหาวิธีมาปลิดชีวิตดีนะฮะ เลยดูไม่น่าขยะแขยงผะอืดผะอมเท่า Hannibal อ่ะ อีกอย่างคงเพราะหน้าใสๆ ของฮันนิบาลด้วยแหละ...น้องกัสปาร์ด์ อูลิเอล หล่อเสียจนนึกไม่ออกว่าจะกลายไปเป็นท่านเซอร์แอนโทนี่ ได้อย่างไร...ฮ่า...



National Treasure: Book of Secrets

หนังแอคชั่นป๊อปคอร์นดาราดังคับคั่ง นอกจากเจ้าเก่าอย่าง นิโคลัส เคจ แล้ว ยังประกอบด้วย จอห์น วอยก์, เฮเลน มิเรน (โปรเฟสเซอร์มักกอนนากัลป์ แห่ง ฮ่าหรี โพตถ่ะ), เอ๊ด แฮริส (ยังติดตากับบท แจ๊คสัน พอลล็อก อยู่เลย) คนที่ออกมาแล้วอิฉันถึงกับเหวอสุดๆ คือ ฮาร์วี่ ไคเทล ไม่คิดว่าลุงแกจะโผล่มาในเรื่องนี้เลยนะฮะ (^^)

เรื่องนี้ดูเพลินๆ แบบกรุณาอย่าคิดตามหรือหาเหตุผล แล้วจะมีความสุข อ้อ! เราชอบมุข ราลีห์ กับหนังสือของเขานะ เจ็บๆ จุกๆ ดี

ดูจนจบ เห็นเครดิตท้ายเรื่องแล้วแปลกใจที่ผู้กำกับคือ Jon Turteltaub เพราะเราติดภาพเขาจากหนังที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจมากกว่าหนังแนวนี้

สรุปว่าดูไปประหลาดใจไปกับนักแสดงและผู้กำกับเนี่ยแหละค่ะ...ฮ่า...




 

Create Date : 02 มกราคม 2551
7 comments
Last Update : 2 มกราคม 2551 18:46:20 น.
Counter : 1200 Pageviews.

 

สวัสดีปีใหม่ครับผม
.......................
โอ้ว นี่แค่ "บทที่ 1" ก็มีหนังคุ้นหน้าคุ้นตากันเพียบ ทั้งหมดในบทนี้ ผมได้
ดูแค่เรื่อง อับลนิบาล แค่เรื่องเดียว ดูแล้วก็คิดๆ เหมือนๆกับหลายคนนะฮะ
ที่ว่า หนังภาคใหม่ของจุดเริ่มต้น ของ ตร.ฮัลนิบาล มันดูอ่อน และ้เด็กเหมือน
กับตัวละคร เลยล่ะครับ .......

 

โดย: haro_haro 3 มกราคม 2551 11:06:30 น.  

 

simon ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ แต่ The Bridge นี่หดหู่จริงๆ

 

โดย: renton_renton 7 มกราคม 2551 17:29:30 น.  

 

The Bridge ชอบมาก Michael Clayton เป็นหนังขึ้นโรงขึ้นศาลแค่ไม่กี่เรื่องนะครับ ที่เล่นวิธีนี้ นอกนั้นใช้ทฤษฎีสมคบคิดหมดสมัยนี้

 

โดย: yuttipung 12 มกราคม 2551 22:05:42 น.  

 

---

 

โดย: เหมียวหล่อ (myth ) 27 มกราคม 2551 2:27:15 น.  

 

เพชรชอบหนังเรี่องเมล์นรกหมวยยกล้อ
มาก

 

โดย: เพชร IP: 118.172.156.56 3 กรกฎาคม 2551 15:21:35 น.  

 

ชอบเรี่องเมล์นรกหมวยยกล้อ

 

โดย: เพชร IP: 118.172.156.56 3 กรกฎาคม 2551 15:25:57 น.  

 

ชอบเรี่องเมลืนรกหมวยยกล้อ

 

โดย: เพชร IP: 118.172.156.56 3 กรกฎาคม 2551 15:27:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.