2008 BKKfilmfest Bangkok Film Festival 2008 ดูหนังไปพอประมาณเพราะไม่ค่อยมีเวลา รวมๆ แล้วพอใจกับหนังปีนี้ ดูแล้วไม่รู้สึกว่า...มาได้ไง : ) ขอชมทีมงานที่พยายามทำ sub-title ภาษาไทยทุกเรื่อง แม้ว่าบางเรื่องจะเคาะได้ดีเลย์สุดๆ (5-6 ประโยคก็ตาม) หนังที่เลือกดูส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่คาดว่าจะถูกใจกับงานภาพ แล้วก็ไม่ผิดหวัง Rumba : สองสามีภรรยา ครูโรงเรียนประถมผู้หลงใหลการเต้น Rumba เป็นทีมเดียวกับที่ทำ L’Iceberg ทั้งสามคนยังอยู่กันครบ พูดน้อย แสดงมากเช่นเดิม แต่สีสันมากกว่า (เขียว แดง เหลือง น้ำเงิน จัดจ้าน!) เนียนและนิ่งกว่า เราชอบมากกว่า You, the Living : หนังมึนๆ ดูซึมเซาเจือความเพี้ยน ชอบอารมณ์แบบนี้ The Last Mistress : (แคทเธอรีน เบรญาต์) หนังเนื้อหาเน่า แต่จี๊ดใจอย่างแรง Autumn : เลือกดูเพราะคาดว่าจะภาพสวย แล้วก็เป็นไปตามคาด ภาพสวยมากกก สามารถจับทุกเฟรมมาใส่กรอบได้ เสียดายที่ภาพล้นจอทำให้ภาษาหนังขาดหายไป ตัวหนังช้าไปประมาณครึ่งจังหวะเสมอเลยน่าเบื่อไปนิด A Christmas Tale : หลับไปช่วงต้นเรื่อง ครอบครัวอลเวง จบได้อบอุ่นแบบเหวอๆ Up the Yangtze : ดีมาก ชอบมาก เขื่อนมา ชีวิตชาวบ้านตัวเล็กๆ ก็พังกันไป ต้องเสียสละให้ “ประเทศชาติ” ที่ไม่เคยได้หยิบยื่นอะไรให้พวกเขาเลย พ่อของแม่หนูคนนี้แววตาท่วมล้นไปด้วยความทุกข์จริงๆ Manufactured Landscapes : สารคดีผลงานของช่างภาพ EDWARD BURTYNSKY ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการทำเหมืองที่...ต้องเสียอะไรไปบ้างถึงได้เกิด landscape เช่นนั้นขึ้นมา, บรรยากาศในโรงงานอุตสาหกรรมในจีนทีคนมีจังหวะราวกับเครื่องจักร, การแยกชิ้นส่วนเรือสินค้าในจิตตากอง และอีกหลายๆ สถานที่ เรื่องนี้ควรดูเป็นชุดเดียวกับ แยงซี เพราะมีประเด็นคาบเกี่ยวกันอยู่ในสเกลที่โตกว่า...ความเจริญและการพัฒนาอุตสาหกรรมทำร้ายโลกไปแค่ไหนแล้ว? ภาพสวยงามมาก เปิดเรื่องลองเทคได้สุดๆ My Winnipeg : หนังบอกรักบ้านเกิด สไตล์เก่าแบบขาวดำมีเสียงบรรยายทับ ดูส่วนตัวมากๆ เก๋มากๆ ด้วย ชอบ Bird Song : หนังหยิบ “ประโยคเดียว” จากพระคัมภีร์มาขยายเป็นหนังเกือบสองชั่วโมงได้ เป็นหนังขาวดำและแทบจะไร้เสียง เราชอบว่ะ อารมณ์มันได้ แม้จะไม่รู้เรื่องพระคัมภีร์ก็ตาม เรื่องนี้มีคนเดินออกเป็นระยะ ที่ไม่ออกก็หลับก็จริงจังมาก What No One Knows : หนังลุ้นระทึกทำนองเดียวกับ Enemy of the State แต่จริงจังและหลอนกว่า ด้วยบรรยากาศซึมเซา ทึมๆ มึนๆ ของเดนมาร์กเองด้วย Lorna’s Silence : (ดาร์เดน) บรรยากาศหนังมันดูคุ้นๆ มาดูข้อมูลเลย อ๋อ...เพราะคือผู้กำกับเดียวกับ Rosetta (realistic และเหวี่ยงสุดขีด) หนังจบได้ยินจากหลายคนว่าปลื้ม ประทับใจ แต่เรารู้สึกเอ๋อๆ แฮะ 12 Lotus : melo-drama fantasy ชีวิตบัดซบจากสิงคโปร์ เป็นเรื่องเดียวในงานนี้ที่เราไม่ชอบว่ะ มันกึ่งๆ เกือบๆ ยังไงพิกล Serbis : หนังฮือฮาจากเมืองคานส์ เนื้อหาหลายเลเยอร์ เราดูแล้วเฉยๆ นะ แต่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเป็นประเด็น Let the Right One In : เด็กหญิงผีดูดเลือดกับเด็กชายที่ไม่มีใครเหลียวแล บรรยากาศโคตรดี หลอนและแรงไปกับ landscape ของสวีเดน เป็นหนังแวมไพร์ที่เดินตามขนบทุกประการ แต่ดูใหม่ไม่ Cliché Summer Hours : (โอลิวิเยร์ อัสซายาส) เวลาเปลี่ยน อะไรๆ ก็เปลี่ยน ดูแล้วแอบ in ไปกับงานศิลปะในหนัง Katyn : (อันเดรจ วาร์ด้า) ไม่รู้มาก่อนว่าคาทินมันคือทุ่งสังหาร ดูแล้วน้ำตาท่วมตลอดเรื่อง หนังสงครามกะเรานี่ไปกันไม่ได้จริงๆ ฮือฮือ 24 City : (เจี่ยจางเค่อ) mockumentary เมืองใหม่ที่สร้างบนพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ยักษ์ จัดเป็นกลุ่มเดียวกับ Up the Yangtze และ Manufactured Landscapes ได้เลย...ผลกระทบจากการพัฒนา mega-project   Create Date : 03 ตุลาคม 2551 2 comments Last Update : 3 ตุลาคม 2551 1:30:43 น. Counter : 1792 Pageviews. Share Tweet

นี่ขนาดไม่มีเวลาดูไปหลายเรื่องเลยนะฮะ   โดย: haro_haro 3 ตุลาคม 2551 11:27:59 น.

ดูเยอะกว่าผมอีกแฮะปีนี้ โดยส่วนตัวชอบหนังแบบ My Winnepeg มากครับ Lorna ผมชอบแฮะ เข้าทาง ส่วน Katyn แฟนผมยิ่งแล้วใหญ่ครับ ตอนคุยโทรศัพท์ถามผมว่าหนังเกี่ยวกับอะไร ผมบอกชื่อหนังเป็นชื่อป่า แกฟังเป็นปลาครับ ตอนดูจบ เธอถามผมทันทีว่า "ไหนปลาของเธอ !" 5555   โดย: yuttipung IP: 58.9.191.14 10 ตุลาคม 2551 11:10:13 น.