ความจริงในความรัก - A man overtime falls in love with the woman he is attracted to, and a woman overtime becomes more attracted to the man she loves. ผู้ชายมักจะตกหลุมรักคนที่เค้าหลงเสน่ห์ และผู้หญิงจะหลงเสน่ห์คนที่เธอตกหลุมรัก
- Friendship is love minus sex and plus reason. Love is friendship plus sex and minus reason. มิตรภาพคือ ความรัก ลบด้วย เซ็กซ์ และบวกเอาเหตุผลเพิ่มเข้าไป ส่วนรักคือ มิตรภาพบวกด้วยเซ็กซ์ และลบเอาเหตุผลออก
- To love is nothing. To be loved is something. To love and be loved is everything!! การได้รักเป็นเรื่องขี้ผง การถูกรักเป็น "บางอย่าง" ทีเดียว ส่วนการได้รักและการถูกรักเป็นทุกอย่าง (ว้าว)
- You may only be one person to the world but you may also be the world to one person. คุณอาจจะเป็นแค่ "คน ๆ หนึ่ง" ในโลกใบนี้ แต่คุณอาจจะเป็น "โลกทั้งใบ" ของคนคนหนึ่งก็ได้
- Friendship often ends in love, but love in friendship- never. มิตรภาพมักจะจบลงด้วยความรัก แต่ความรักไม่มีวันจบลงด้วยมิตรภาพ
- You know when you love someone when you want them to be happy even if their happiness means that you're not part of it. (อันนี้ต้องขอบอกว่าโปรดมากค่ะ) คุณรู้ว่า คุณรักเค้าก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้เค้ามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นจะหมายความถึงการที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน
ต่อภาค . 2 - Love looks not with the eyes, but with the mind. ความรักนั้น เห็นไม่ได้ด้วยตา แต่ด้วยใจ
- Love is like standing in the wet cement. The longer you stay, the harder it is to leave. And you can never go without leaving your shoes behind. ความรักก็เหมือนซีเมนต์เปียก ๆ ยิ่งคุณอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งติดหนึบ จากไปไม่ได้เท่านั้น และคุณจะไม่มีวันจากมาได้เลย โดยที่ไม่ได้ทิ้งรองเท้าไว้ข้างหลัง
- Don't marry a person you can live with, marry somebody you can't live without. จงอย่าแต่งงานกับคนที่คุณ "อยู่ด้วยได้" จงแต่งงานกับคนที่คุณ "ขาดไม่ได้"
- Don't rely on the past to create the future, rely on the future to erase the past. อย่าวางใจใช้อดีตเป็นตัวสร้างอนาคต แต่จงใช้อนาคตเป็นตัวลบอดีตทิ้งไป
- Love will die if held too tightly; love will fly if held too lightly. รักจะเฉาตายถ้ายึดไว้แน่นเกินไป และรักจะโบยบินไปถ้ายึดไว้หย่อนเกินไป
- If you love someone tell them, don't wait or else you will lose the chance. ถ้าคุณรักใคร บอกเค้าซะ อย่ารีรออยู่เลย ไม่งั้นคุณจะเสียโอกาสนะ
- It only takes a second to say "I love you", but it will take a lifetime to show you how much. ใช้เวลาแค่เพียงชั่ววินาทีในการบอกว่า "ชั้นรักเธอ" แต่ใช้เวลาตลอดชีวิตในการแสดงให้เห็นว่า รักมากเพียงไร
- Love, is like water, we take it for granted. Thus, when it is gone, it becomes crucial. ความรักก็เหมือนน้ำ เรามักจะเห็นมันเป็นของตาย ต่อเมื่อ มันหมดไปแล้ว นั่นละ ... มันจะกลายเป็นสิ่งจำเป็น
- True love is like ghosts, which everyone talks about but few have seen. รักแท้ก็เหมือนกับปีศาจ ทุกคนพูดถึง แต่มีคนน้อยมากที่ได้เห็นว่าเป็นอย่างไร
- The essential sadness is to go through life without loving. But it would be almost equally sad to leave this world without ever telling those you loved that you love them. ความเศร้าที่สำคัญคือการชีวิตโดยปราศจากความรัก แต่มันคงจะเศร้าเกือบจะพอ ๆ กันที่จะจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้บอกคนที่คุณรักว่า คุณรักพวกเค้า"
ต่อภาค . 3 - A man falls in love through his eyes, a woman through her ears. ผู้ชายตกหลุมรักทางตา แต่ผู้หญิงน่ะ ตกหลุมรักทางหู
- The way to love anything is to realize that it might be lost. หนทางที่จะรักสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็คือ การตระหนักสิ่งนั้น ๆ อาจจะสูญหายได้
- The perfect marriage begins when each partner believes they got better than they deserve. การแต่งงานที่สมบูรณ์แบบเริ่มขึ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างคิดว่า พวกเค้าได้รับสิ่งที่ดีเกินกว่าที่ตัวเองสมควรได้รับ
- When a young man complains that a young woman has no heart, it is pretty sure that she has his. เวลาที่หนุ่มน้อยโอดควรญว่า สาวน้อยนางนั้นไม่มีหัวใจ ค่อนข้างแน่ใจได้เลยว่า สาวน้อยนั้นน่ะ ... มีหัวใจของหนุ่มคนนั้นอยู่ในกำมือ
- Kindness in words creates confidence, kindness in thinking creates profoundness, kindness in giving creates love. วาจาที่กรุณาจะสร้างความเชื่อมั่น จิตใจที่กรุณาจะสร้างความลึกซึ้งของจิตใจ และการให้ที่กรุณาจะก่อให้เกิดรัก
- To love is to risk not being loved in return. To hope is to risk pain. To try is to risk failure, but risk must be taken, because the greatest hazard in life is to risk nothing. การที่ได้รักคือการเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับความรักเป็นการตอบแทน การตั้งความหวังคือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด การพยายามคือการเสี่ยงกับความล้มเหลว แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ การไม่เสี่ยงอะไรเลย
- When loving someone...never regret what you do...only regret what you didn't do. เวลารักใคร ... อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณได้กระทำ จงเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้กระทำ
- Gravity cannot be held responsible for people falling in love. เวลาคนตกหลุมรักน่ะ ... โทษแรงโน้มถ่วงไม่ได้ จริงมั้ยล่ะ (ต้องโทษคนขุดหลุม)
There is a story of a woman Who always kept her feelings towards her friend Until the day he got married, she decided to tell him the truth And he felt that it's a good joke for his wedding มีเรื่องเล่าของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรักเพื่อนของเธอแต่ได้เพียงเก็บความรู้สึกเอาไว้ จนกระทั่งวันที่เขาแต่งงาน เธอก็ตัดสินใจบอกความจริงกับเขา ...แต่เขากลับคิดว่าเป็นเพียงเรื่องตลกสำหรับวันแต่งงานของเขา...
There is a story of a man Who has never told his wife how much he loves her Until the day she passed away Until now, he keeps sending flowers to her grave everyday With thousand kisses on the card saying "I love you" Would she be able to know? และยังมีเรื่องเล่าของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่เคยบอกภรรยาว่าเขารักเธอมากแค่ไหน จนกระทั่งเธอตายจากไป ถึงบัดนี้ เขายังคงวางดอกไม้ไว้ที่หลุมศพของเธอทุกวัน พร้อมกับรอยจูบนับพันบนการ์ดที่เขียนว่า "ผมรักคุณ" ...เธอจะมีโอกาสได้รับรู้ไหม...
You know when you love someone when you want them to be happy even if their happiness means that you're not part of it. (อันนี้ต้องขอบอกว่าโปรดมากค่ะ) คุณรู้ว่า คุณรักเค้าก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้เค้ามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นจะหมายความถึงการที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน
หมูอ้วนเคยได้อ่านประโยคที่คล้ายๆ กับประโยคนี้จาก blog ImmYJang และท่องมันได้จนขึ้นใจ "คุณจะรู้ว่า...คุณรักใครสักคน เมื่อคุณรู้ว่าเขาคือคนที่คุณต้องการให้เขามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้น จะหมายถึงความสุขที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน"
...จบละค่ะ นิทานของอิ๋ว เล่นเอาเมื่อยมือไปหมด อิ๋วก็ไม่รู้ว่าที่เล่ามานี่มัน จะตรงกับ open up your mind รึป่าว แต่ว่าอยากเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ เพราะไม่ว่าเราจะเป็นใคร สุดท้ายการเป็นตัวเองก็ดีที่สุดค่ะ...อิอิ (ขอโทษนะคะ พี่รีฟที่ขอเวลาพี่อ่านแค่ 20 นาทีแล้วจะเม้นท์ให้ แต่นี่น่าจะปาเข้าไปชั่วโมงกว่าได้ละค่ะ แหะๆๆ แต่ก็เม้นท์ให้ตามสัญญาแล้วนะคะ)
***มีข้อความนึงที่เคยส่งให้พี่อ่านแล้ว ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าจะเข้ากันกะบทความพี่มั้ย แต่อิ๋วก็อยากพิมพ์อีกนั่นแหละ แหะ ๆ แบบว่าขอฝากทิ้งท้ายนิดนึงน่ะค่ะ อิอิ "If you have made mistakes, even serious ones, there is always another chance for you. What we call foilure is not the folling down but the staying down." ^o^
miss you barif homealone in hanoi. ha-gha, i don't say goodnight to my bestfriend and my very bestbrother is you----. barif. and you this week.how are you? missed me? i know nobody to say goodnight to you so very nice than me.kiki. misssssssssssssss you so my bestfriend.
somebody here so far : สิ่งที่ N(นามสมมุติ อิอิ)ทำ รีฟคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามวิถีชีวิตของมุสลิมแล้วล่ะครับ ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดที่จะต้องตัดสินใจแบบนั้น แต่ N ก็คงรู้ว่า หาก N เลือกอีกทางก็คงมีคนที่เจ็บปวดเพิ่มขึ้น แล้วก็คงไม่เป็นผลดีในระยะยาว มีคนเคยบอกและเตือนว่า คุณคิดดีแล้วเหรอที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับใครสักคนที่คุณเพิ่งรู้จักไม่นานหรือไม่กี่ปี โดยที่คุณต้องเดินสวนทางกับความรู้สึกของคนที่ดูแลและเลี้ยงดูคุณมาตลอดทั้งชีวิต....ถ้าเลือกได้รีฟคิดว่า บนหนทางข้างหน้าที่เราจะมุ่งไป น่าจะมีความรักที่ลงตัว ที่ทุกๆคนเดินจับมือไปพร้อมกันได้โดยไม่ต้องทิ้งใครไว้เบื้องหลัง...อดเปรี้ยวไว้กินหวานนะครับN(อิอิ) เมื่อวันนั้นมาถึง แล้ว N จะรู้สึกภูมิใจที่ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและรักษาคนที่รักเรามากที่สุดในชีวิตให้อยู่กับเราได้ตลอดไป ขอบคุณที่แวะเวียนมาคอมเม้นต์ไว้หลายครั้งด้วยชื่อและเวลาที่แตกต่างกันไป ขอให้มีความสุขและสมหวังจ๊ะ N(ที่ใช้ชื่อย่อเพราะจำไม่ได้ว่าเจ้าตัวต้องการเปิดเผยนามรึเปล่า)
jane CandyShop : คอมเม้นต์นี้มากจากเวียดนาม ขนาดไปเที่ยวที่นั่นยังใจดีมาช่วยคอมเม้นต์อีกนะเจน ขอบใจมากๆ
I am just fine^^ : เจ้าของบล็อกไม่ยุ่งหรอกจ๊ะ แต่อารมณ์ศิลปินไม่มาจุติ เลยยังไม่ได้อัพบล็อกสักที แต่ก็เข้ามาอ่านๆๆๆๆๆเกือบทุกวันเลย อย่างน้อยๆก็ชอบเข้ามาฟังเพลงสัก 1 รอบตอนเช้าๆล่ะนะ
Times make me strong and getting older. Times make me smile and cry. Times make me know who love me. Times make me feel I am not only one here. Times make me know you. Times say I need to say thank you to you.
"Thank you very much"
โดย: somebody here so far IP: 124.157.246.100 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:15:12:06 น.
Just the time that said I feel good with somebody that I can't tell him. But......I love to keep my secret with me, I think this is the best think, make me always smile. eiei
โดย: somebody here so far IP: 124.157.245.250 วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:15:25:50 น.
ไหนๆก็เป็นคนแรกที่เม้นแล้วก็เป็นคนสุดท้ายด้วยซะเลย(ถ้าไม่มีคนเม้นต่อนะ) ทีแรกที่พี่รีฟบอกพิมว่า "พี่รีฟจะไม่เขียนอะไรอีกแล้ว หลังจากพิมตอบ พี่รีฟจะปิดบลอค" ว๊า นึกว่าจะลาไปบวชซะอีก บลอคใหม่เขียนเสร็จเร็วๆนะคะ พิมว่าต้องมีคนรออ่านหลายคนแน่ๆ ไม่ใช่พิมคนเดียวหรอก ส่วนoper up your mind พิมชอบ BG มากๆ สวยดีเห็นแล้วอยากไปเที่ยวทะเลจริงๆ เพลงนี้ก็เพราะค่ะ พิมฟังตั้งหลายรอบแล้วยังไม่รู้สึกเบื่อเลย จำที่พี่รีฟบอกพิมได้ว่าเพลงนี้ทำให้พี่รีฟมีกำลังใจเสมอ แต่ไม่เข้าใจว่าเกี่ยวกับเลข 214 ยังไง
somebody here so far : ทางนี้ก็ต้องขอขอบคุณมากๆเช่นกันนะ แวะมาตั้งหลายครั้งแนะ ขอบคุณมากๆเลยจ๊ะ "นิดน้อย" แบรีฟเองก็มีความลับที่อยากเก็บไว้ในส่วนลึกๆของหัวใจ จะได้เก็บฝันนั้นไว้กับตัวเองได้นานๆ
it's hard to getting sleep on my bed so just come here, then hope the nice song will help me to have da sweet dream. ^^ Hope somebody who made this blog have a nice dream too naka.
โดย: somebody here so far IP: 61.19.65.117 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:44:15 น.
Da thousand times to get tired, but just once here that no one all da times to get anything. Thankz.
โดย: somebody here so far IP: 61.19.65.86 วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:52:07 น.
...H a p p y B o x... ความสุขมีอยู่รอบๆตัวเรา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นมันหรือเปล่า บางครั้ง...เรารู้สึกว่าความสุขหายไป บางคราว...เราก็รู้สึกว่าความสุขอยู่กับเรา นั่นแสดงว่าความสุขของเราไม่คงที่ Happy Box ก็คือกล่องจัดเก็บความสุขของคุณให้เข้าที่ ไม่ให้หนีหายไปไหน คิดถึงเมื่อไหร่ อยากได้เมื่อไหร่ ก็เปิดออกมาใช้ได้ทุกเวลา......
หลังจากที่รออ่านนานมาก ก็เสร็จสักทีนะพี่รีฟขรา เรื่องที่พี่รีฟเขียนเนี่ยพี่รีฟกะพูดให้ฟังบ่อยๆนะ ในร้านหนังสือ บางทีพิมยังเลยเอาไปทำตามเลยอย่างวิธีคิดของโธมัส (เพราะทำข้อสอบตกบ่อย แป่วว) แต่มีสารพัดมองโลกในแง่ดีนะ ที่อาจารย์พิมสอนไว้
ถ้าโดนแม่ดุแต่เช้าตรู่ ให้คิดซะว่าแม่ยังรักและห่วงใย โห...ทราบซึ้งมากเลย อีกอย่างนึงในคำบ่นของแม่ต้องมีอะไรแน่ๆเลยไม่งั้นแม่ไม่บ่นซ้ำๆ เดิมๆอย่างนี้หรอก เอิ๊กๆๆๆๆๆๆ
และอาจารย์ก็บอกอีกอย่างเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ แล้วรู้สึกประหม่าให้คิดว่า ฉันคือราชสีห์ผู้สง่างาม นั่นไงยีราฟ(คนสูง) นู้นไงฮิปโป (อิอิ) เดี๋ยวก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาเองแหละ (จิงป่าวเนี่ย หุหุ)