Bloggang.com : NiToRiA : ชะนีหนีเที่ยว Ciao ITALIA PART 2 : Tuscany One Day Trip

ชะนีหนีเที่ยว Ciao ITALIA PART 2 : Tuscany One Day Trip

ว่ากันต่อ ในส่วนของ Italy ในพาร์ท ชะนีหนีเที่ยว แบบไม่มีแพลน 5555

หลังจากที่มาถึง Florence และพยายามแพลนเที่ยวให้คุ้ม โดยเลือกที่ที่อยากไปมากๆก่อน เพราะไม่รู้จะได้มาอีกเมื่อไหร่...

สุดท้ายเปิดหาทัวร์แบบ One day trip จากแอป Get Your Guide
จนเลือกที่เหมาะกับตัวเองที่สุดและต้องเป็นวันพรุ่งนี้ด้วยนะ เพราะว่าดูจากอากาศแล้ว
พรุ่งนี้มีฝน ไม่ควรไป Cinque Terre (จุดหมายหลักอีกที่ของการมาครั้งนี้)

สรุปเลือก Tuscany one day trip ในราคา 53 euro ได้มั้ง
ตกเป็นเงินไทย 2570 บาท (ยอดที่ตัดบัตรเครดิต)
ซึ่งดูโปรแกรมแล้วแลดูคุ้ม ครบกับสิ่งที่ต้องการ

รายละเอียดทริปตามนี้

โดยจะเริ่มจาก ไปที่จุดนับพบแถวหน้าสถานีรถไฟ เพื่อขึ้นรถบัส
มันดีมากตรงที่เราทำตามขั้นตอนหลังจากที่แอปคอนเฟิร์มเรากลับมาได้เลย กดจากลิ้งค์ที่ให้มาก็เดินไปถึงจุดนัดพบ
แล้วก็เช็คชื่อรับสติ๊กเกอร์ เพื่อระบุว่าเราคือไปทัวร์ไหน แบบไหน

เราไปแบบ SI : Semi independent คือแบบที่ไปกับทัวร์แต่ไม่ต้องเดินตามเพื่อฟังไกด์บรรยายใดใด เดินได้อิสระ

วิวสวยนะ แต่บรรยากาศคืออึมครึงอยู่ เพราะฝนยังตกตลอดทางเลย
แต่ว่านั่งไปเพลินๆใช้เวลาราวๆชั่วโมงนึงก็มาถึง Siena แล้ว เมืองแรกที่เราจะไปวันนี้

แต่จอดรถไกลชิบหายยยยย
ต้องเดินจากที่จอดรถขึ้นเนินมาแล้วเข้าเขตหมู่บ้าน ซึ่งจริงๆก็ก็ดีนะ จะได้ไม่วุ่นวาย
แต่ไกด์สาวชั้นเดินเร็วมาก จนมีคนตะโกนว่า เดินช้าหน่อยได้มั้ย แม่ชั้นเดินไม่ไหว ตามไม่ทัน
(นึกว่ามีแค่กุที่รู้สึกว่านางเดินทนอยู่)

เริ่มเห้นบ้านเมือง ความโบราณใดใด

โดยเรามารวมตัวกันตรงนี้ซึ่งเคยเป็นสนามแข่งม้าในสมัยโบราณ อารมณ์เหมือนดู Gladiator น่ะซิส จากนั้นก็แยกย้าย ถึงเวลาค่อยมาเจอกัน

ด้วยความไม่ได้แพลนว่าจะไปไหนบ้าง ทางเดียวเลย Google แล้วกด Attractions
มันจะขึ้นจุดหลักๆที่ไม่ควรพลาด ก็แค่เลือกว่าจะไปไหน แล้วเดินตามโลด

และนี่จุดหมายแรก มองเห็นไกลๆ เป็นโบสถ์เก่าแก่ Basilica di San Dominico

ละคือ มันต้องลงเนินมาจากฝั่งตรงข้าม แล้วขึ้นไปบนเนินอีกที ช่างเป็นบททดสอบข้อเข้า ชั้นจริงๆ

ระหว่างนั้น มองย้อนกลับมา ก็จะเห็นความอลังของฝั่งที่เราเพิ่งจากมา สวยมาก

ถึงแว้ววว

ด้านใน ไม่มีอะไรหวือหวา แต่จากประวัติความเป็นมา ประวัติศาสตร์ที่นี่คือสถานที่สำคัญมากๆที่นึงเลย

ชั้นแอบนึกถึงหนังสยองขวัญที่ชอบดูจริงๆ กับมุมนี้

กล้องกุ๊กกู๋ของชะนี ไม่สามารถเก็บความอลังตรงหน้าได้หมด ของจริงคือสวยมาก ยิ่งใหญ่มากกก ดูขลังเนอะ

Duomo di Siena (มหาวิหารเซียน่า)

บรรยากาศชื้นๆ ฉ่ำๆ หลังในตก ทำให้อิตาลียิ่งดูโรแมนติกนะชั้นว่า
...เดี๋ยวนะชะนี มาคนเดียวค่ะ 5555

ใช่ค่ะ มันมาได้ 2 ทางเท่าที่เห็น คือที่กุพยายามปีนบันไดมาเมื่อกี้ กับทางนี้ ซึ่งแลดูน่าจะเป็นเส้นทางที่คนส่วนใหญ่ใช้ แต่ยังงัยซะก็ต้องปีนเนินข้างหน้านั่นอยู่ดี - -''

จะแพ้คุIยายคนข้างหน้านั่นได้ยังงัย ว่ามะ 55555
คนที่นี่ต้องแข็งแรงจริงๆนะ ทั้งเมืองก็คือขึ้นเนิน ลงเนิน อยู่อย่างงั้น ข้อเข่าต้องดีเบอร์ไหน

และแล้วเป้าหมายถัดไป โบสถ์ที่เห็นมาจากไกลๆอีกฝั่ง ชั้นเจอละค่ะ

ชั้นเจอโบสถ์ แต่ชั้นไม่เจอที่ขายตั๋ว

งงกับการหาที่ซื้อตั๋วเข้าโบสถ์มาก เดินไปตรงด้านข้างเพราะป้าย แต่ไม่ใช่จ้า

เดินไปกลับซอยนั้นอยู่ 2 รอบ ....สรุปอยู่ด้านข้างของอิคนบอกคือ ข้างของโบสถ์ทางซ้ายแบบด้านในเข้ามาหน่อย เป็นออฟฟิซตรงนั้น เดินเข้าไปบอกเค้าว่าซื้อตั๋วแบบไหน เพราะราคาต่างกัน ถ้าเข้าไปข้างในกว่านั้นจะแพงกว่า ซึ่ง ณ เวลานี้ ชะนีเหลือเวลาราวๆครึ่ง ชม.ก่อนเวลานัดเจอกับทัวร์เท่านั้น

ของจริงสวยมากกกกกกกกกกกก

รายละเอียดมากมายจริงๆ ภาพผนังว่าสวย ดูพื้นโมเสคนี่ก่อน แต่ละจุดมีเรื่องราวมีนัยยะไปหมดดด

ก็คือ ถ้าจะเข้าไปดูข้างในห้องนั้นก็ต้องจ่ายแพงกว่า ซึ่งแน่นอนชะนีมาแบบไม่มีข้อมูลว่าในนั้นมีอะไรอีก และที่สำคัญไม่มีเวลาแล้วจ้าาาา

กลับมาจุดนัดพบ คุณไกด์ลูกสาวกำลังตามหาชั้นพอดี 55555 ฉันนี่วิ่งหูตาเหลือกเลยจ้ะแม่ แบบที่ถนนลื่นหลังฝนเพิ่งหยุด 5555

จากนี้เราจะแวะไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน จากแพลนคือไร่ไวน์แห่งหนึ่ว เพราะที่นี่ อยุู่ในแคว้น Chianti ที่เป็นแหล่งผลิตไวน์ใหญ่อีกด้วย ระหว่างทางไปคือวิวสวยมากกก นี่ถ้าในวันที่อากาศดีๆจะขนาดไหน

ที่เรามาคือที่นี่

ก่อนเข้าไปเค้าก็ออกมาต้อนรับ พูดคุย ถามว่ามาจากไหนกันบ้าง ส่วนใหญ่คือจากเมกา แล้วก็ประเทศแถวยุโรปนั่นแหละ มีคนเอเชียอยู่ 2 กลุ่ม คือ คู่รักเกาหลี และชะนีจากไทยแลนนนนด์ !!! 5555

ด้านในมีส่วนขายสินค้าของไร่ แล้วก็มีส่วนจัดเลี้ยงที่รับนักท่องเที่ยวเยี่ยงเรา
เพราะในทริปนี้มีอาหารเที่ยงที่รวมถึงการชิมไวน์ด้วย
(เอ...ดอก ไม่ดื่มแต่เลือกทริปนี้ เปิดประสบการณ์ล้วนๆ 5555）

โดยเค้าจะให้เรากินกับ โพรชุตโต ที่เสิร์ฟกับขนมปังกรอบ แล้วก็มีไวน์ 4 แบบ ให้ลองมีทั้งไวน์แดงไวน์ขาว ที่เริ่มตั้งแต่เบาๆจนไปกัน Full body ไปเล้ยยยย

พอจานหลักก็เป็นอาหารง่ายๆ (แต่อิ่ม) อย่าง พาสต้ารากู แบบ italian homecook

แล้วก็ชิม Balsamic vinegar แบบต่างๆไปด้วย มีทั้งแบบธรรมดา แบบ reduction ที่ออกรสหวาน แล้วก็แบบเผ๊ดดดด แบบที่เพื่อนร่วมทริปข้างๆหน้าแดงก่ำไปหมด แถมยังดกไวน์ไป4 แก้ว แบบเกลี้ยงงง จนหันไปถามนางว่า เอาของชั้นมะ? 5555

ตบด้วยของหวาน ซึ่งตกเป็นของชะนีกะเด็กน้อยฝั่งตรงข้ามที่มากับพ่อแม่ซะส่วนใหญ่
มื้อนี้ถือว่าไม่แย่เลยแหละ อาหารอร่อยแบบไม่ต้องพยายาม แม้มันจะเหมือนเวลาเราไปทัวร์แล้วโดนยัดเยียดให้ไปกินร้านทัวร์ลง หรือแวะซื้อของตามช็อปที่มีคอนเนคชั่น แต่อันนี้ทุกคนโอเคและทำดีนะ แบบเนียนๆ 5555

จุดหมายต่อไปคือ เมือง San Gimingano (ซานจิมิญญาโน่ ออกเสียงราวๆนี้)
เป็นเมืองเก่าในยุคอัศวินหรือยุโรปยุคกลาง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ เลยถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการทัวร์ Tuscany เลยก็ว่าได้

ประมาณชั่วโมงนึงก็ถึงเมืองนี้ อากาศเริ่มโอเคขึน เริ่มมีแดด

จริงๆละแวกนี้คือจุดที่เรามักจะได้เห้นเวลาที่พูดถึง Tuscany ส่วนกล้องฉัน กับอากาศแบบนี้ก็ถ่ายได้แค่นี้แหละ อ๊อยยยยยยย

เดินต่อมาซักพักก็เข้าเขตเมืองเก่านี่แล้ว

เทอเห็นคนนั่นมั้ย - -'' แต่พอเดินไปซักพักก็จะเริ่มซาๆไป เพราะมีซอกซอย มีร้านรวงให้ได้หยุดดู

นี่คือของขึ้นชื่อที่นี่จ้า หมูป่า

นี่คือไฮไลท์ของเมืองนี้ Piazza della Cisterna ที่มีหอคอยนี่อยู่ เท่าที่อ่านเจอ เค้ามาเป็นการแสดงบารมีอย่างนึงของพวกขุนนาง พ่อค้าสมัยก่อน แข่งกันสูงว่างั้น แต่เหลืออยู่ไม่เยอะแล้วหลังจากยุคสงคราม

แล้วชะนีก็เจอสิ่งนึงดึงดูด

ซูม

น้อนนนนนนนนนน

อ้วงงงง นู๋ ลู๊กกกกกกก (เสียงสองก็มา 555)

ตามมาคุยกะคนสวยแห่ง Tuscany ค่ะ อ้อนด้วย ขนหนานุ่ม พุงก็นุ่ม 55555

วิวจากด้านบน มุมมองจริงๆคือสวย ธรรมชาติ อากาศ คือดีย์

มีรุ้งกินน้ำ มาโชว์ตัวด้วย รับแขกนะจ๊ะ

และเจ้าถิ่น

หล่อช่ะ

อาบแดดอุ่นๆตามประสาหนุ่มอิตาเลียน

อรั้ยยยยยยย

ปิดจ๊อปที่เมืองนี้ด้วย เจลาโต จ้า เค้าว่ามีร้านต้นตำรับที่นี่ แต่จำชื่อไม่ได้ เลยซื้อจากร้านที่เดาว่าใช่ 555555 เลือกกินรสที่ชื่ออะไรลืมไปละ แต่เป้นวานิลลาผสม saffron อร่อยดี

คราวนี้ต่อไปที่ Pisa (ปิซ่า) กัน
ที่ที่ไม่คิดจะไปเลยเหอะ เพราะพอนึกถึงอิตาลี ใครก็ต้องนึกถึงงหิเอนปิซ่า แปลว่ามันคือจุดเช็คอินโง่ๆ (ในความรู้สึก)

และแล้ว กุก็มากะเค้า 5555555555555

ของจริงก็คือไม่ได้ใหญ่โตอะไรจริงๆ

และได้เวลากลับไปรวมกลุ่มแล้วค่ะ นาทีนั้นเองเจอเพื่อนร่วมทริปคนเดียวที่จำได้ เฮียคนที่นั่งใกล้กันมาตลอด เพราะนางก็มาคนเดียวเหมือนกัน
นางหันมายิ้มๆ แนวดีใจเจอพวกเดียวกัน กลับนาทีสุดท้ายเหมือนกัน
แล้วก็ชวนเดินกลับด้วย ...นาทีนั้นนางหันมาถามว่า "Do u know where it is?" 555555
ซึ่งงงง............อยู่ไหนล่ะสู????!!! เมื่อคนหลง 2 คนอยู่ด้วยกัน

นางคือคนในรูปนี้

เดินกลับไปกลับมาลองผิดลองถูกซักพัก ไกด์โทหานาง เลยบอกให้เดินไปด้านข้างประตูทางเข้าที่มีซุเปอร์อยู่ รอดตายหวุดหวิด หันมามองกันแล้วยิ้มเจื่อนๆ ขำๆ

ขากลับก็เดินคุยกันไป ตามประสาคนหัวอกเดียวกัน มีการหันมาแนะนำตัวกัน (เมื่อหมดวัน)
เลยรู้ว่านางมาจาก สกอตแลนด์ เพื่อมาดูกีฬาที่แข่งที่อิตาลี จำไม่ได้ว่าอะไรแต่ไม่ใช่ฟุตบอล นางไม่ดูบอล (งงกะค สกอตที่ไม่ดูฟุตบอลอยู่)

วันนี้จบแบบระทึกหน่อยๆ แต่ก็สนุกดี
นั่งรถอีกชั่วโมงเดียวก็กลับเข้าไปถึง Florence แยกย้ายกับทุกคน ไม่ผิดหวังที่เลือกมาทริปแบบนี้

พอถึงที่พักก็คือหมดสภาพ ฝนก็ตก เลยไม่ไปไหนไกลละ กินข้าวมันร้านข้างๆที่เคยกินดีกว่า
วันนี้เหนื่อยเพลีย ปวดหัว จากอากาศฝนๆนี่จริงๆ เลยขอกินให้อิ่ม และตามด้วย Prosecco 1 แก้ว เอาให้สลบเหมือดไปเลย

วันนี้สปอยล์ตัวเอง กิน Ghocchi ชีส ที่มี Truffle หอมๆ กินคู่กับขนมปังคือ สวรรค์
มี Bake bean เป็น side dish ตามที่ waiter แนะนำ (เหมือนรู้ว่าชั้นชอบกินถั่ว)

ปิดจ๊อปการเที่ยวอิตาลีจริงจังคนเดียววันนี้ได้อย่างตายตาหลับ

พรุ่งนี้มีแพลนแล้ว CINQUE TERRE รอชั้นอยู่ ...เจอกันพรุ่งเน้
Ciao !!!!

Create Date : 19 กรกฎาคม 2566

Last Update : 29 กรกฎาคม 2566 14:16:16 น.

0 comments

Counter : 606 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณนายแว่นขยันเที่ยว