ประชุมผู้ปกครองครั้งเเรกในชั้นม.4(ญี่ปุ่น)กับการคาดไม่ถึง
หลังจากผลการสอบครั้งเเรกออกมาเเล้ว ทางโรงเรียนก็นัดประชุมผู้ปกครอง(เเม่) วันประชุมก็ขอหยุดงานภาคบ่าย วันนี้มีผู้ปกครองมาประชุมกัน21คนรวมตัวเราด้วย ห้องลูกมีนักเรียน40คน เเบ่งเป็นชาย25คน หญิ15คน ผู้ปกครองที่มาวันนี้ก็จะเป็นผู้ปกครองของเด็กผู้ชายเสียเยอะ เนื่องจากคะเเนนผลการสอบของห้องนี้เป็นอันดับบ๊วยของชั้นปี วันนี้หัวข้อที่พูดคุยกันก็คือการเรียนการดูหนังสือที่บ้านของเด็ก ผู้ปกครองที่มาวันนี้มีลูกทำกิจกรรมทุกคน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกีฬาเยอะ18คน มีดนตรี2คน มีวิชาการ(ฟิสิกส์+คณิตศาสตร์)1คน(ลูกเราเอง) ผู้ปกครองของเด็กชมรมกีฬาบอกว่าชมรมจะซ้อมหนัก เด็กกลับบ้านก็มีสภาพอิดโรย ทำอะไรไม่ได้ นอนเสียเยอะ หนังสือหนังหาไม่ได้อ่านไม่ได้ดู เหนื่อยขอนอนก่อน ผู้ปกครองบางคนคิดว่เป็นเฉพาะลูกตัวเองหรือเปล่าที่เป็นเเบบนี้ สรุปเป็นเหมือนกันหมด คือ นอนก่อนเเล้วค่อยตื่นมาทำกิจกรรมอย่างอื่น มาถึงตาเราต้องเล่าบ้างเเล้วว่าลูกกลับบ้านทำอะไรบ้าง พื้นฐานของลูกเป็นเด็กชอบเรียน ชมรมที่ต้องใช้กำลังต้องซ้อมมากจะไม่เข้า เนื่องจากจะกระทบกับเวลาดูหนังสือ จึงเลือกชมรมด้านวิชาการ กลับมาบ้านเเน่นอนต้องอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกลับการดูหนังสือ เรียกว่าเรียนไม่เก่งเเต่ขยันว่างั้นเถอะ เป็นเด็กชอบถาม อาจจะมีคำถามถามครูเยอะ ก็ต้องรบกวนครูด้วย ครูประจำชั้นก็หัวเราะ กับการคาดไม่ถึงที่ได้เจอมาคือ -เด็กส่วนใหญ่ไม่ได้ดูหนังสือหนังหา(ฟังจากที่เเม่ๆเล่าให้ฟัง) วันนี้มา21คน มีเด็กที่ขยันดูหนังสือเเค่คนเดียว(ลูกเรา) มิน่าคะเเนนมันถึงได้ออกมาบ๊วยเเบบนี้ เคยได้ยินหลายคนบอกว่าเด็กที่สอบเข้าโรงเรียนเทศบาล(รัฐ)ได้คือเด็กหัวดี เเต่เมื่อเข้าไปเรียน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยตั้งใจเรียน จะเล่นกันมาก พอมาฟังผู้ปกครองพูดวันนี้ก็เลยถึงบางอ้อ เข้าใจเเจ่มเเจ้ง -คะไดかだい【課題】หลายคนบ่นว่ามีเยอะ ตอนเเรกเราฟังคำนี้ไม่ออกว่ามันหมายถึงอะไร ทำไมไม่ได้ยินลูกบ่นถึงคำนี้ กลับมาบ้านถามลูก คะไดคืออะไร เห็นเเม่ๆเขาบอกครูว่าลูกบ่นว่ามีเยอะ ทำไม่ทัน ทำไมเเม่ไม่ได้ยินเธอบ่นบ้าง ลูกบอก คะไดคือการบ้าน เเบบฝึกหัด หนูทำได้ ทำทันจึงไม่บ่น (เพิ่งทราบเลยนะว่าคะไดก็คือการบ้าน เพราะปกติมักจะได้ยินเเต่คำว่าชุกุไดしゅくだい【宿題】 -ชินดะしんだ【死んだ】ตายคือคำตอบของเด็กที่ตอบเมื่อถูกผู้ปกครองถามว่าวันนี้ทำข้อสอบได้ไหม ช่วงนี้กำลังสอบกลางภาค ลูกกลับบ้านเร็ว คุณเเม่คนหนึ่งเล่าว่าเมื่อถามลูกว่าวันนี้ทำข้อสอบเป็นอย่างไร ลูกเขาตอบ ชินดะ ซึ่งก็ไม่ได้มีเเค่เด็กคนเดียวที่ตอบเเบบนี้ ชินดะก็คือทำข้อสอบไม่ได้ ยังไม่เคยได้ยินลูกพูดคำนี้ -Line ไลน์ ที่มีอยู่ในมือถือสมาร์ทโฟน กำลังสร้างปัญหาให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง คุณเเม่เหนื่อยใจมาก ลูกเอาเเต่เล่นไลน์ไม่ยอมดูหนังสือ ขอให้ครูประจำชั้นช่วยเตือน ถ้ายึดได้อยากให้ยึดไว้สัก3วัน ผู้ปกครองคนอื่นๆก็เเนะนำ คุณเเม่ต้องใจเเข็ง ถ้าห้ามไม่ได้ก็ให้บอกว่าโทรศัพท์นี้ของเเม่นะ เเม่จ่ายเงิน ให้เเม่กำหนดเวลา ถ้าลูกจะเล่นเเบบนี้ต้องหาเงินมาจ่ายเองนะ เเต่ดูท่าคงจะเเก้ยาก -เรียนพิเศษ รู้สึกว่าโรงเรียนนี้จะเเอนตี้การเรียนพิเศษ ครูบอกเเค่ตั้งใจเรียนในห้องก็สามารถสอบเข้ามหาลัยได้ สำหรับเราเเล้วยังกังขากับทางโรงเรียนมาก รอไว้มีประชุมผู้ปกครองตัวต่อตัวจะถามครูตรงๆว่าจริงเหรอ -ผู้ปกครองหลายคนบ่นว่าลูกไม่ค่อยเล่าเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนให้ฟังเเล้ว บางทีต้องถาม ถามมากๆลูกก็บอกอุรุไซうるさいก็คงประมาณเซ้าซี้น่ารำคราญ สำหรับลูกมักจะเล่าให้พ่อฟัง เพราะเเม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน พอประชุมผู้ปกครองเสร็จก็สำรวจห้องเรียนลูก เจอข้อความลูกที่เขียนเเปะกระดานดำไว้ เกี่ยวกับเรื่องเรียน อนาคต ลูกบอกว่าครูประจำชั้นให้เขียนทุกคนในวันที่ไปโรงเรียนวันเเรก ลูกเขียนว่า -วิชาที่ชอบ เคมี ฟิสิกส์ -วิชาที่ไม่ชอบ พละ(โดยเฉพาะว่ายน้ำกับยิมนาสติก) -อยากเรียนต่อมหาลัยในสายวิทย์เกี่ยวกับเคมี ฟิสิกส์ -อยากทำงานที่ใช้ความรู้ด้านเคมี ฟิสิกส์ ซึ่งก็เก็บเอาไว้มาดูว่าลูกจะทำได้ไหม หรือว่าจะเปลี่ยนใจไปชอบวิชาอื่น ด้านอื่น โต๊ะ เก้าอี้ ไม่ต่างจากชั้นประถม ม.ต้นเลย ห้องเรียนเล็กๆ ติดเเอร์ไว้ตั้ง3ตัว(เยอะเกินไปมัง) ตึกเรียนมีอยู่4ชั้น มีลิฟ์ทด้วย ก่อนเข้าเรียนไม่ได้ไปสำรวจโรงเรียน ก็เเปลกใจนิดหน่อยที่เห็นห้องเรียนมีเเอร์ ตึกมีลิฟ์ท เพราะเป็นโรงเรียนรัฐคิดว่าคงไม่ต่างจากโรงเรียนประถม ม.ต้นที่เจอมามากนัก คงจะอนาถา เเต่เห็นสอบเข้ายากก็เลยคิดว่าน่าจะมีอะไรดีอยู่ สภาพเเวดล้อม บรรยากาศในโรงเรียนน่าจะไม่น่าห่วงมากนัก มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกบอกเลิก6โมงเย็น ไม่ได้ทำงานตอนเย็นอยากเซอร์ไพส์ลูกไปรอรับลูกที่โรงเรียน เจอเด็กจูงมือออกมาเป็นคู่ๆก็มี (อ่า...โรงเรียนนี้ก็มีด้วยเหรอ เเต่ก็ยังดีที่เห็นไม่เยอะ) รอลูกอยู่นานสองนาน 1ทุ่มลูกยังไม่ออกมา โทรถามพ่อมันลูกกลับถึงบ้านหรือยัง พ่อมันบอกยัง นี่1ทุ่มเล้วนะ ลูกไปไหน ประตูโรงเรียนยังเปิดอยู่ ลูกน่าจะยังอยู่ในโรงเรียน ปรากฏว่าลูกออกมาเวลา1ทุ่ม10นาที เล่นเอาใจหายใจคว่ำ ลูกบอกทำเเลบฟิสิกส์กรังปรีเพิ่งเสร็จ เเม่เป็นห่วงเเทบเเย่ นึกว่าลูกเป็นอะไรไปเเล้ว เนื่องจากลูกยังไม่มีมือถือใช้ ก็เลยติดต่อลูกลำบากหน่อย เล่าเรื่องประชุมผู้ปกครองให้พ่อลูกฟังด้วย เเล้วก็กำชับลูกอีกทีว่าขอให้พยายามทำคะเเนนให้อยู่ในTop10ของชั้นปีให้ได้นะ เเม่รู้ว่ามันยาก เเต่ก็อยากให้ลูกทำให้ได้ いい勉強になりました!
Create Date : 11 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 14 มิถุนายน 2555 10:11:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2666 Pageviews. |
|
|