
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
"ผาตาม็อก" มิตรภาพ น้ำใจ ในความทรงจำ ๑ (จุดเริ่มต้นของมิตร)
การเดินทางแห่งมิตรภาพได้เริ่มขึ้น ณ โรงเรียนชายแดนแถบจังหวัดศรีษะเกษ ในครั้งนี้พวกเราได้รับมิตรไมตรีที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใด จากท่านผู้ใหญ่ที่เคารพ และพี่ๆ คุณครูที่น่ารัก ที่ช่วยเหลือเทคแคร์อย่างอบอุ่น การเดินทางครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากไม่พบมิตรที่มากด้วยน้ำใจเช่นนี้ พวกเราทุกๆคนขอขอบพระคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ก่อนเริ่มเดินทางพวกเราก็ได้เสบียงอาหารมื้อใหญ่รองท้อง เมนูในวันนั้นประกอบไปด้วย ส้มตำไทย-ปูปลาร้า , ข้าวเหนียว , ข้าวปุ้น ,ข้าวเปล่า ,ปลาเผา-ปลานึ่งมะนาว ,ผัดผักน้ำมันหอย , ต้มแซ่บเลิศรส ,เนื้อทอด-ย่าง ,แหนมทำเองไม้เล็กกะทัดรัด (ขนาดเท่านิ้วโป้งโดยประมาณ) พร้อมทั้งของหวานและผลไม้นานาชนิด ตัวฉันเองชิมและทานทุกอย่างเลยค่ะ แซบอีหลี อย่าบอกใครเชียว ต้องขอยกนิ้วให้แม่ครัวแสนสวย (แต่มีอายุแล้ว) รสชาติทุกจานนัวกลมกล่อม ได้รสแห่งอาหารอีสานแท้จริง เขียนไปเขียนมาน้ำลายจะไหลเสียเองแล้ว หลังจากรองท้องกันเรียบร้อยพวกเราก็ใช้เวลาเตรียมตัวอีกประมาณ 10 นาที ก็ออกเดินทางด้วยรถกระบะแบบบรรจุเต็มที่นั่งด้านทั้ง 2 คัน (สงสารรถจังเลยมีแต่คนตัวบิ๊กๆ) แต่คันที่ฉันนั่งจะต้องแวะไปเติมน้ำมันก่อนอีกคันจึงต้องล่วงหน้าไป โดยเรามีจุดนัดพบก่อนที่จะขึ้นทางตัดใหม่ภายในเวลาไม่เกิน 20 นาที และแล้วล้อก็หมุนพาพวกเราไปข้างหน้า หลังจากเสียเวลาเติมน้ำมันไม่นาน พวกเราก็รีบเดินทางไปยังจุดนัดพบให้ไวที่สุด เพื่อคนที่รอจะได้ลดความกังวลลงไปด้วย ออกจากปั๊มไม่นานฝนก็โปรยลงมา ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ทัศนวิสัยไม่ดีเลย บังเอิญสายตาก็ไปเห็นไฟท้ายรถของพวกเราที่ล่วงหน้ามาก่อน พี่ที่นั่งอยู่ด้านหน้า ก็เอ่ยด้วยความดีใจว่า เขารอพวกเรา พร้อมกันนั้นเสียงพี่จากรถอีกคันก็ตะโกนออกมาว่า เป็นห่วงไปพร้อมกันดีกว่า ได้เวลาเดินทางต่อแล้วล่ะเส้นทางช่วงนี้ยังเป็นถนนดำ (ลาดยางมะตอย) สองข้างทางเป็นต้นไม้นานาพันธุ์ขึ้นสลับกันไป แถมแซมด้วยต้นหญ้าดอกหญ้าอย่างสวยเก๋ ขับรถต่อมาอีกไม่นาน(ในความรู้สึกฉัน) ก็ถึงเส้นทางที่ถูกตัดใหม่ ที่จะนำพวกเราไปสู่ด่าน เส้นทางนี้ลาดชัน มีโค้งอยู่หลายโค้งเนื่องจากเส้นทางนี้ตัดเลาะริมเขานั่นเอง ถนนถูกปูไปด้วยลูกรังสีแดง ตอนนี้ฝนดูจะซาลงไป ทำให้ผิวถนนชัดยิ่งขึ้น เมื่อกวาดตามองออกไปพวกเราก็ตื่นตาตื่นใจกับวิวมุมสูงของอ่างเก็บน้ำ ละม้ายกับทะเลสาบทีเดียวประกอบกับธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยป่าอันอุดมสมบูรณ์ พวกเราผ่านช่วงโค้งพร้อมกับความหวาดเสียวนิดๆ ก็ใช้เวลาเพียงอีกไม่นาน พวกเราก็พบกับทางเรียบอีกครั้ง พร้อมกับธรรมชาติที่หนาทึบไปด้วยแมกไม้ ฝนหยุดแล้วแดดเริ่มจ้าเป็นลำดับ เราอยู่ในเขตป่าแล้วล่ะ ข้างหน้าก็มีเพียงถนนที่ต้องการ ให้เราไปถึงที่หมาย ด้วยทางที่เรียบสบาย ประกอบกับความเร็วของรถก็นำพวกเรามาถึงด่าน(ด่านตรวจคนเข้าเมือง) ที่ด่านนี้มีข้อห้ามว่า ไม่สามารถนำรถชนิดใดข้ามได้นอกจากได้รับอนุญาตเท่านั้น ผู้ที่จะผ่านได้ต้องมีใบอนุญาตผ่านแดน เมื่อมาถึงด่านยังไม่ทันได้เที่ยวเลยรุ่นพี่ผู้ชาย 3 คนแกเกิดปวดเบาขึ้นมากะทันหัน แถวนั้นไม่มีห้องสุขาเสียด้วย งานนี้ก็เลยชวนกันไปยิงกระต่ายในป่าละเมาะเลยที่จอดรถเล็กน้อย ระหว่างนั้นอาจารย์(ท่านผู้ใหญ่ที่นับถือ) ซึ่งท่านเป็นคนในพื้นที่ก็เล่าว่า บริเวณป่าที่เราจอดรถนั้นเป็นที่ฝังศพทหารเชลยที่ถูกฆ่านับร้อย จากสงครามเผ่าพันธุ์ พวกเราได้ฟังแล้วรู้สึกหดหู่ปนสยองแทน 3 หนุ่มไปด้วย กว่าสามหนุ่มจะกลับมา อาจารย์ก็เล่าจบพอดี(พวกเราที่ได้ฟังสัญญาว่าให้ถึงผาตาม็อกก่อนจะต้องเล่าให้พวกเขาฟัง) แล้วอาจารย์ทั้งสองท่านก็บอกให้พวกเรารอสักครู่ ท่านขอไปเจรจาผ่านแดนก่อน เพียงแป๊บเดียวก็มีพี่ทหารมาบอกให้พวกเราขับรถเข้าไปด้านใน และอนุญาตให้พวกเราทั้งหมดพร้อมทั้งรถเพื่อนยากผ่านแดนได้โดยไม่ต้องใช้เอกสารใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอนุญาตให้ผ่านแดนเป็นกรณีพิเศษ ด่านนี้มีอยู่ 2 ชั้น ชั้นแรกเหมือนกับในหนังที่พวกเราเห็นกันเป็นป้อมเล็กๆ ปลูกแบบเพิงหมาแหงน และมีไม้ไผ่กั้นด่าน ขับรถเข้ามาประมาณ 500 เมตร ก็จะพบกับด่านที่ 2 ซึ่งก็คือ ตม. นั่นเอง ลักษณะเป็นอาคารที่ถูกปลูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำการอย่างถาวร แต่ ก็ดูสะดวกในการรื้อถอนด้วยเช่นกัน ด่านนี้มีทหารแบกปืนเข้าเวรกันตามปกติ แต่สิ่งสำคัญในดินแดนนี้ คือ มิตรภาพ สามพยางค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่เปิดทางให้พวกเราเข้ามาอย่างสะดวกฉันท์มิตรจะพึงมีให้กัน ที่ตม.นี้พวกเราทำความรู้จักกับทหารด้วยคำว่าสวัสดี และรอยยิ้ม ที่จะขาดเสียไม่ได้ พวกเขาก็ยิ้มตอบเราด้วยไมตรีจิตเช่นเดียวกันพร้อมทั้งอวยพรให้พวกเราโชคดี แถมยังได้ไกด์เพิ่มอีกหนึ่งท่าน ท่านเป็นผู้กองมีความสัมพันธ์สนิทสนมเป็นอันดีกับอาจารย์ทั้งสองท่าน ร่วมเดินทางไปกับเราด้วยเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เ มื่อได้สมาชิกร่วมเดินทางเพิ่มเช่นนี้แล้วความครึกครื้นย่อมเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา หนุ่มๆในคณะที่มีมากกว่า สาวๆ ก็เฮกันไปนั่งที่กระบะท้าย ไม่กลัวร้อนกันเลยแบบเอามันส์ไว้ก่อน สาวๆที่นั่งด้านหน้าก็ขอสละหมวกทีมให้กันร้อน แม้จะช่วยไม่ได้มากก็ตาม(แดดตอนนี้จ้ามาก) พวกเราพร้อมแล้วกับการเยี่ยมเยียนผาตาม็อกเอ้า...โชเฟอร์...ลุย!!!
เมื่อเราเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางที่จะพาเราไปยังจุดหมายนั้น ธรรมชาติก็ดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะสองข้างทางนั้นเป็นป่าทึบ มองไม่เห็นสิ่งใดเลยนอกจากต้นไม้ใหญ่ที่สูงชะลูด ต้นหญ้าที่ขึ้นสูงท่วมหัว มีเสียงนกร้องให้ได้ยินแว่วๆแต่กลับไม่เห็นตัว ช่องถนนที่ตัดผ่านดูจะเป็นเหมือนกรอบกำหนดให้วิ่งเพียงเส้นเดียวเท่านั้น ไม่ต้องมีป้ายห้ามแซง หรือระวังรถสวนให้วุ่นวายเฉกเช่นเมืองศิวิไลซ์ เพราะทุกคนต่างเข้าใจดีว่า ถ้าออกนอกลู่นอกทางล่ะก็ได้ไปเกิดใหม่ทันที(ซึ่งคงไม่มีใครอยาก) แต่เพื่อความไม่ประมาทเจ้าหน้าที่เขาก็กั้นทั้งสองข้างทางด้วยเส้นเชือกตลอดแนว ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านรวมถึงผู้ที่ใช้เส้นทางนี้ในการสัญจรนั่นเอง ปลอดภัยจากอะไรน่ะหรือขอเฉลยค่ะ ก็เจ้าลูกเหล็กทั้งหลายที่จำศีลอยู่ใต้พื้นดินกระจายเต็มอาณาบริเวณแถบนั้นทั้งหมด ซึ่งหลงเหลือจากการเก็บกู้ และยังมีประสิทธิภาพพร้อมทำงานทุกเมื่อหากมีสิ่งแปลกปลอมไปในรัศมีทำลาย ตามผลมุ่งหมายทางทหารที่จัดเตรียมไว้เมื่อครั้งแผ่นดินนี้ยังระอุไปด้วยไอสงคราม เครื่องหมายเตือนอันตรายที่เห็นได้ชัดในระยะสายตา คือรูปหัวกะโหลกที่ไขว้ทับด้วยเครื่องหมายกากบาทสีแดงสด สังเกตได้ชัดเป็นระยะทีเดียว ทุกคนรู้สึกหนาวๆร้อนๆตามกัน เส้นทางช่วงนี้เป็นถนนดิน ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อบ้าง ได้บริหารเอวกันไป ได้เหงื่อกันเป็นแถบไม่รู้ว่าเพราะความกลัวในใจหรือเปล่า เมื่อผ่านช่วงนี้มาได้ก็มาพบกับสุสานของท่านผู้นำเขมรแดง นายพลพอลพต สุสานของท่านไม่ได้โรยด้วยดอกไม้ ไม่ยิ่งใหญ่เหมือนผู้นำอื่นๆ ไม่มีแท่นบูชา ลักษณะที่เห็นเป็นแท่นซีเมนต์ที่ถูกก่ออย่างไม่ประณีตนัก ใช้เป็นแท่นฌาปนกิจของท่านนายพลผู้ล่วงลับ แท่นนี้ดูเก่าสะท้อนความหลังที่น่าเศร้าเป็นอย่างดี เพราะบัดนี้มันเต็มไปด้วยมอส ตะไคร่น้ำ ขึ้นจับจนเขียวกลมกลืน ไปกับสีของป่ารอบๆ ที่ดูจะขัดว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ตรงที่แท่นนี้สถิตอยู่บนเนินดิน ทำให้ดู เด่นชัดในสายตาขึ้นว่าประวัติศาสตร์ได้เกิดขึ้นที่นี่ (ท่านถูกฌาปนกิจโดยมีเพียงลูกน้องคนสนิทเพียงไม่กี่คนตามคำบอกเล่าของพี่ทหาร) หลังจากเลยที่ส่วนตัวของนายพลมาแล้ว ไม่นานเราก็ได้พบจุดหมาย ผาตาม็อก
บรรยากาศของผาตาม็อกจะเป็นเช่นไรฉันเองคงต้องเล่าความประทับใจในตอนหน้า เพราะดูจะมีเรื่องมากมาย เรื่องราวในตอนนี้ไม่มีภาพประกอบต้องอาศัยปิ้งปลาเองจ้า ฝีมือไม่ถึงอาจทำให้เพื่อนๆต้องใช้จินตนาการสูงนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนมีความสุขจ้า

Create Date : 15 กันยายน 2549 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2549 0:41:31 น. |
|
41 comments
|
Counter : 781 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: random-4 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:20:58:29 น. |
|
โดย: Due_n IP: 203.155.224.152 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:21:37:27 น. |
|
โดย: ชีพชีวิน IP: 124.120.120.95 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:22:09:20 น. |
|
โดย: the Vicky วันที่: 16 กันยายน 2549 เวลา:5:21:46 น. |
|
โดย: oreocream วันที่: 16 กันยายน 2549 เวลา:9:50:48 น. |
|
โดย: วรา (แฟนไท ) วันที่: 16 กันยายน 2549 เวลา:15:17:00 น. |
|
โดย: ชีพชีวิน วันที่: 16 กันยายน 2549 เวลา:23:54:43 น. |
|
โดย: ก่าแป๊ง วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:11:51:49 น. |
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:12:31:56 น. |
|
โดย: the Vicky วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:16:26:54 น. |
|
โดย: opleee วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:18:52:57 น. |
|
โดย: ชีพชีวิน IP: 124.120.114.240 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:18:53:07 น. |
|
โดย: ชีพชีวิน IP: 124.120.115.47 วันที่: 18 กันยายน 2549 เวลา:6:00:52 น. |
|
โดย: rebel วันที่: 18 กันยายน 2549 เวลา:7:42:33 น. |
|
โดย: icebridy วันที่: 18 กันยายน 2549 เวลา:19:50:40 น. |
|
โดย: tpipe วันที่: 18 กันยายน 2549 เวลา:20:10:07 น. |
|
โดย: Due_n วันที่: 18 กันยายน 2549 เวลา:21:48:59 น. |
|
โดย: ปลายฟากฟ้า วันที่: 19 กันยายน 2549 เวลา:3:41:40 น. |
|
โดย: ชีพชีวิน วันที่: 19 กันยายน 2549 เวลา:9:49:30 น. |
|
โดย: 304 คอนแวนต์ (304 คอนแวนต์ ) วันที่: 19 กันยายน 2549 เวลา:11:36:00 น. |
|
โดย: the Vicky วันที่: 20 กันยายน 2549 เวลา:1:43:07 น. |
|
โดย: ชีพชีวิน IP: 124.120.114.2 วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:9:40:33 น. |
|
โดย: N_BEE810 วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:0:54:55 น. |
|
โดย: 304 คอนแวนต์ (304 คอนแวนต์ ) วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:8:48:34 น. |
|
โดย: muris IP: 58.64.107.38 วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:12:19:28 น. |
|
โดย: the Vicky วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:15:03:29 น. |
|
โดย: ชีพชีวิน วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:22:24:21 น. |
|
โดย: the Vicky วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:0:07:40 น. |
|
โดย: ก่าแป๊ง วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:10:35:29 น. |
|
โดย: lampke (lampke ) วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:16:44:51 น. |
|
โดย: เอ (away ) วันที่: 29 กันยายน 2549 เวลา:5:34:13 น. |
|
โดย: kengCAD วันที่: 29 กันยายน 2549 เวลา:13:37:36 น. |
|
โดย: the Vicky วันที่: 30 กันยายน 2549 เวลา:6:31:27 น. |
|
โดย: the Vicky วันที่: 30 กันยายน 2549 เวลา:17:40:39 น. |
|
โดย: ชีพชีวิน วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:0:44:23 น. |
|
| |
|
ชีพชีวิน |
 |
|
 |
|
มิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญกับทุกคนเป็นอย่างยิ่งค่ะเพราะทำให้เราอิ่มใจ บางทีก็ทำให้ท้องอิ่มด้วย 555++
มีความสุขกับคืนวันศุกร์นะคะ