4 nights in Bangkok on the reiver side at Millenium Hilton

เป็นสี่คืนที่ค่อนข้างประทับใจค่ะ โรงแรมตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตัวโรงแรมและห้องพัก ยังค่อนข้างใหม่อยู่ เพราะเพิ่งเปิดมาได้ประมาณ 3 ปีเศษ โรงแรมสวยทันสมัย พนักงานบริการดีและค่อนข้างเป็นกันเองโดยเฉพาะ พนักงานที่ executive lounge น่ารักมากๆ

ห้องที่พักเป็นห้อง executive plus suite ห้องกว้าง 67 ตารางเมตร มีห้องรับแขกและห้องน้ำสำหรับแขกแยกต่างหาก LCD TV 2 เครื่อง อ่างจากุซซี่ และมีสิทธิใช้เลาจ์บนชั้น 31ของทางโรงแรมฟรีด้วยค่ะ

ป้ายด้านหลังของโรงแรมด้านที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา



อย่างแรกเลยที่ไปถึง เจ้าหน้าที่รีเซฟชั่นจะพาไปที่มุมเช็คอินส่วนตัวที่อยู่ตรงล็อบบี้ ยื่นเอกสารต่างๆ ให้ แล้วไม่ต้องทำอะไรเลย กรอกแบบฟอร์มเช็คอินต่างๆ รีเซฟชั่นทำให้หมด รอไปที่ห้องอย่างเดียวค่ะ ระหว่างที่รอเช็คอิน มีน้ำสมุนไพรเย็นๆ มาให้ดื่ม ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำอะไร รู้แต่ว่าอร่อยดี



ก่อนขึ้นไปบนห้องพัก มาดูรอบๆ ตรงส่วนของล็อบบี้กันค่ะ









มุมเก๋ๆ อีกมุมตรงล็อบบี้ค่ะ



มองจากมุมนี้จะเห็นประตูทางเข้าโรงแรมค่ะ



แจกันดอกไม้จัดอย่างมีดีไซน์บนโต๊ะตรงส่วนของล็อบบี้



เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องรอให้ห้องเสร็จเรียบร้อยประมาณ 30 นาที และเชิญให้ไปรอที่เล้าจ์ มีขนม ของว่างและเครื่องดื่มให้เลือกตามชอบ



ขนมและของว่างที่เล้าจ์ จะเป็นชิ้นเล็ก ดูดีมีตระกูล เลือกหยิบเองได้ตามชอบ เครื่องดื่มตอนกลางวันจะเป็นชากาแฟ หรือน้ำผลไม้ ส่วนตอนค่ำๆ จะเป็นเครื่องดื่มค็อกเทลและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ จะมาใช้เล้าจ์เวลาไหนก็ได้ จะทานอาหารเช้าที่นี่ก็ได้ค่ะ ที่เห็นในรูปเป็นขนมที่เล้าจ์นะคะ ทุกวันจะไม่ซ้ำกันเลย



น้ำฝรั่งที่ทานกับของว่างและขนมค่ะ



ค็อกเทลที่ไปดื่มตอนค่ำๆ จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เป็นค็อกเทลแบบไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ อร่อยมากๆ



ของว่างตอนค่ำๆ ที่มีบริการพร้อมดริ๊งค์



Executive lounge อยู่บนชั้น 31 ค่ะ



ด้านนอกของเล้าจ์จะเป็นดาดฟ้า เห็นวิวกรุงเทพฯได้ชัดเจนจากมุมสูง





พอได้เวลา เจ้าหน้าที่ก็พาไปที่ห้องพักค่ะ ทางเดินไปห้องพักนะคะ ของจริงๆ ดูดีกว่านี้ ถ่ายรูปออกมาไม่เห็นรายละเอียดของการตกแต่งเท่าไหร่



มุมนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับประตูค่ะ พอเปิดเข้าไปก็จะเจอมุมนี้ก่อนเลย ตอนที่จองไม่ได้จองเตียงเสริมสำหรับเด็ก เพราะคิดว่านอนที่โซฟาตัวใหญ่และขอหมอนกับผ้าห่มเพิ่มได้ แต่เจ้าหน้าที่พาไปที่ห้องพักบอกจะให้คนนำเตียงมาให้ ไม่ชาร์จเพิ่ม เป็น complementary ของทางโรงแรมค่ะ.. ดีจัง



ผลไม้ต้อนรับ ที่เห็นทานหมดไปครึ่งแล้วค่ะ ส่วนนี้ไม่มีอะไรพิเศษมากนักแต่ก็ไม่ได้เน้นตรงนี้อะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว





ส่วนด้านนี้เป็นมุมห้องรับแขก มีโต๊ะทำงาน และห้องน้ำสำหรับห้องนี้โดยเฉพาะด้วย โซฟาสีแดงที่เห็น ของจริงตัวใหญ่กว่าในรูป นั่งสบายมากมายค่ะ



มุมทีวี ในห้องรับแขก



โซฟาตัวใหญ่ ใครมีเด็กไปด้วยใช้นอนเป็นเตียงได้เลยค่ะ ขนาดผู้ใหญ่อย่างเรายังเหยียดตัวเอนหลังได้สบาย





ห้องน้ำในส่วนของห้องรับแขก



น้ำดื่มคนละสองขวดทุกวัน



ภาพตกแต่งตรงผนังในห้องรับแขกค่ะ



ห้องนอนค่ะ เตียงคิงไซส์ กว้างใหญ่ นอนสองคนมีที่เหลือเฟือ ผ้าห่ม ที่นอนและหมอนก็นุ่ม นอนสบายมากๆ



ห้องน้ำตรงส่วนของห้องนอนค่ะ



ฝักบัวและ rain shower



อ่างจากุซซี่



ข้างของเครื่องใช้ในห้องน้ำ รูปนี้ถ่ายมาบางส่วนนะคะ จริงๆ มีเยอะกว่านี้



มีทุกอย่าง แปรงสีฟัน ยาสีฟันก็มีเตรียมไว้ให้ค่ะ



มองผ่านจากห้องนอนไปยังห้องรับแขก ทีวีในห้องนอนจะเล็กกว่าที่ห้องรับแขกนิดนึง



มองจากในห้องออกไปจะเห็น โรงแรม royal orchid sheraton อยู่ตรงข้ามพอดิบพอดี



วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากห้องพักตรงด้านห้องรับแขก



วิวจากห้องนอนค่ะ



ภายในห้องจะมีที่ให้จุดน้ำมันหอมแบบนี้ด้วย



สำหรับกลิ่นเลือกได้ค่ะ ว่าจะเอาธาตุไหนตามชอบ กดสั่งตรงปุ่ม magic ตรงโทรศัพท์ได้เลยค่ะ



พอสั่งไป รูมเมทก็จะนำขวดเล็กๆ ใส่น้ำมันหอมแบบนี้มาให้ค่ะ



ใครมีเด็กไปด้วย จะมีนมและคุ้กกี้ชิ้นเล็กๆ มาให้ดื่มทุกคืนก่อนนอนด้วยค่ะ



ตอนค่ำๆ รูมเมทจะนำใบรายงานอากาศและช็อกโกแล็ตชิ้นเล็กๆ มาวางไว้ให้ ส่วนหมอนเลือกได้ตามใจชอบด้วยค่ะ ถ้าเลือกแบบ spa ต้องจ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อย



ส่วนบนชั้น 4 จะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ ตอนขึ้นไปคนเยอะมากๆ หามุมว่างๆ ถ่ายแทบไม่มี



day bed ตรงสระว่ายน้ำ น่านอนเล่นดีมั้ยคะ



ตรงสระว่ายน้ำจะมีมุมนี้ด้วย



ส่วนของสปาจริงๆ ไม่ได้ถ่ายมานะคะ ถ่ายแต่ป้ายตอนผ่านไปที่ท่าเรือตอนค่ำๆ



ป้ายโรงแรมในตอนค่ำคืน จุดคบดูอลังการแบบนี้ทุกคืนค่ะ



ทางเดินไป Flow restaurant สำหรับบุฟเฟต์อาหารเช้าและค่ำ




ป้ายหน้า Flow restaurant ค่ะ



มาดูในส่วนของอาหารเช้ากันบ้างนะคะ ชอบส่วนนี้มากๆ เพลงที่เปิดก็เพราะด้วย ถ้านั่งด้านนอกจะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจนค่ะ



อีกมุม



มุมนี้ก็นั่งทานอาหรเช้าได้แบบเพลินๆ มีความรู้สึกได้ถึงความเป็น 5 ดาวของโรงแรมนี้



ถ้าใครไม่ชอบแบบ open air จะนั่งในห้องแอร์เย็นก็ได้

ส่วนนี้เป็นเป็นส่วนข้างในค่ะ

มุมนี้สำหรับใครที่มากันหลายๆ คน



โคมไฟสวย ดีไซน์เก๋ตรงที่ทานอาหารเช้า



บนโต๊ะอาหารเช้า



น้ำส้มที่นี่คั้นสด ใส่เหยือกแช่เย็นไว้แบบนี้



ไลน์อาหารเช้าค่ะ มุมนี้มุมชีส



ปลาแซลม่อนและปลารมควันต่างๆ



ซูชิสำหรับอาหารเช้าค่ะ



แกงแบบอินเดีย ตรงมุมอาหารอินเดียค่ะ



ไส้กรอกอ้วนๆ



ส่วนของขนมปังต่างๆ และเบเกอร์รี่



มุมเบเกอร์รี่ค่ะ



วัฟเฟิล ทำกันร้อนๆ ตรงนั้น จริงๆ มีซอส มีน้ำเชื่อมราดด้วยนะคะ แต่ไม่ได้ตักมา



มุมโยเกิร์ตมีให้เลือกมากมาย



ผลไม้จัดวางไว้แบบมีดีไซน์



จะสั่งเป็นน้ำผลไม้สดๆ แยกกากก็ได้ค่ะ น้ำแตงโมกับแคนตาลูป อร่อยสุดๆ



สลัดผักมื้อเช้า



บางส่วนที่ตักมาทานค่ะ





ไข่คนก็อร่อย หอมๆ มันๆ จานที่ใช้ตักอาหารก็เก๋ดี ทานมื้อเช้าที่นี่แล้วอิ่มจริงๆ สรุปแล้วไปพักที่นี่ค่อนข้างมีที่ติน้อย ส่วนใหญ่แล้วจะประทับใจ คิดว่าถ้ามีโอกาสจะกลับไปพักอีกแน่นอนค่ะ



ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนะคะ

Create Date : 11 กันยายน 2552		0 comments
Last Update : 12 กันยายน 2552 16:50:18 น.
Counter : 8072 Pageviews.
Share Tweet