<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
7 ธันวาคม 2552
 

"คนกับสัตว์ป่วย"

"คนกับสัตว์ป่วย"

โดย ปริญญากร วรวรรณ




สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ

4 พฤศจิกายน พ.ศ.2552

11.45 นาฬิกา

ปรีชา ใต้เมืองปาก ชายหนุ่มวัย 23 ปี สถานภาพคนงานรายวันของสถานีวิจัยสัตว์ป่า เดินเข้ามาขอลาหัวหน้าเพื่อกลับไปทำธุระที่บ้าน

" จะกลับมาตอนเย็นๆ ครับ" เขาบอกกับหัวหน้าสายฝนซึ่งตกมาตั้งแต่เมื่อวานยังตกพรำๆ ลมหนาวเคลื่อนเข้ามาครอบคลุมผืนป่าแล้ว ทำให้อุณหภูมิลดต่ำ

ปรีชาเป็นคนงานใหม่เพิ่งเข้ามาทำงานไม่ถึงปี เป็นชายหนุ่มที่เงียบขรึม ไม่เคยขาดงาน ไม่เคยขัดไม่ว่าใครจะให้ช่วยงานอะไร

เมื่ออยู่ในป่า ในฐานะที่อาวุโสน้อยสุดเขาจึงมักโดนรุ่นพี่ใช้ทำโน่นทำนี่ ทำกับข้าว ล้างจาน ฯลฯ

ปรีชา ไม่เคยเกี่ยงงอน

วันนี้เป็นครั้งแรกที่ ปรีชา ไม่ได้ทำอย่างที่พูดเขา ไม่ได้กลับมาในตอนเย็นๆ อย่างที่บอกกับหัวหน้า

ปรีชา ไม่กลับมาสถานีอีกเลย...ตลอดกาล

19.35 นาฬิกา

เสียงมอเตอร์ไซค์ดังสนั่น และแล่นอย่างเร็วมาจอดหน้าบ้านพักหัวหน้าสถานี สมโภชน์ ดวงจันทราศิริ

เสียงตะโกนเรียกหัวหน้าดังเอะอะ

สม ศักดิ์ แทนฟัก ลงจากรถมอเตอร์ไซค์ แจ้งหัวหน้าว่าให้ลงไปดูปรีชา เพราะถูกช้างทำร้าย อยู่บริเวณเชิงเนินก่อนขึ้นเขาใกล้ๆ กับมอเตอร์ไซค์ที่ล้มขวางถนน

สภาพที่เห็น ปรีชา มีบาดแผลที่ขาซ้าย กระดูกโผล่หาห้อยร่องแร่ง มุมปากมีเลือดไหลซึม

"ผมถูกช้างเตะครับ" ปรีชามีสติดีบอกอาการระหว่างทางสู่โรงพยาบาลลานสัก เขาบอกกับ ยิ่งบุญ ผู้ช่วยว่าหายใจไม่สะดวก

สมโภชน์ เร่งทำเวลาแต่กระนั้นก็ต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมงจึงถึงโรงพยาบาล

" หายใจไม่ได้ครับ" ปรีชา บอกหมอ เขาถูกยกขึ้นนอนบนเตียง และแน่นิ่งไป หมอและพยาบาลพยายามปั๊มหัวใจอย่างเต็มที่ แต่ก็ยื้อเอาชีวิตของปรีชาไว้ไม่ได้

หมอเดินออกมาบอกด้วยสีหน้าผิดหวัง

ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงห้องฉุกเฉินไร้ลมหายใจ

ภาพของเขาค่อยๆ พร่าเลือนเพราะหยาดน้ำตา

ขณะภาพ สัตว์ป่วยตัวหนึ่ง ยิ่งชัดเจน

"ผมขี่รถมาคันหน้า ลุงวันชัยอยู่ตรงกลาง ส่วนปรีชานั่นขี่ปิดท้ายครับ" สมศักดิ์ เล่าเหตุการณ์

"ผมเห็นมีไม้ไผ่กองอยู่บนทาง ยังชะลอรถและบอกสองคนนั่นว่าให้ระวังๆ เพราะอาจจะเจอช้างและสงสัยว่าจะเป็นไอ้ด้วน"

ไอ้ ด้วนที่เขาหมายถึงคือ ช้างสีดอร่างทะมึน และเป็นที่รู้จักดีว่า เมื่อไหร่ที่พบเจอคนมันจะพุ่งตรงเข้าใส่ สองปีก่อน มันทำร้ายคนเก็บเห็ดจนเสียชีวิต เรารู้ดีว่า ความหงุดหงิดขี้โมโหของไอ้ด้วน เกิดมาจากโดนเสียงประทัดขับไล่ และมันเคยปะทะกับคนที่เข้ามาเก็บหาของป่าเสมอ

การเดินทางเข้า-ออก หรือเข้าไปติดตามสัญญาณ สัตว์ป่า ของพวกเราต้องระมัดระวัง อย่างเต็มที่

โดยเฉพาะในฤดูนี้ ฤดูกาลที่มีคนมากมายเข้ามาเก็บหาเห็ด

"พอเลี้ยวโค้ง ผมก็เห็นมันยืนอยู่กลางทาง" สมศักดิ์เล่าต่อ "อยู่ห่างไม่ถึง 2 เมตรครับ"

ด้วยความมีประสบการณ์เขาทิ้งรถ และกลิ้งตัวลงข้างทาง พลางตะโกนบอกเพื่อนที่ตามข้างหลังไม่ให้เข้ามา

วันชัยหยุดรถและรีบวิ่งไปหลังกอไผ่ ไอ้ด้วนตรงเข้าหา ปรีชา ซึ่งช้าเกินไปเขาพยายามไต่ขึ้นทางด้านขวามือซึ่งเป็นผาชัน

"ช้างมันเอางวงดึงขาปรีชาและเอาตัวเขาลงมาเตะและทำอะไรอีก ผมก็มองไม่เห็นเพราะมืด" วันชัย ผู้อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์เล่า

ช้างเดินจากไปพลางหักไม้ลงมากองไว้บนทาง

ช้างเดินจากไปโดยอาจไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าได้ทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่งไม่มีโอกาสได้เห็น แสงอรุณรุ่งของวันพรุ่งนี้

ตั้งแต่ ช่วงสิ้นเดือนตุลาคมจนกระทั่งถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนฤดูกาลสายฝนเบาบาง พร้อมๆ กับอากาศเย็นเข้ามาแทนที่ ถึงแม้ว่าบนเส้นทางจะมีสภาพของร่องลึก โคลนเละๆ และน้ำเจิ่งนอง

สายลมแรงพัดยอดไม้ไหวเอน กลางวัน แสงแดดจัดจ้าน ดวงจันทร์ขึ้น 14-15 ค่ำ สว่างนวล

เป็นเวลาที่ผืนป่าคึกคักอีกระลอก ดูเหมือนว่า เห็ดโคลนซึ่งหมดชุดไปแล้วกลับงอกขึ้นมาอีก

มอเตอร์ ไซค์นับร้อยคันจอดเรียงราย คนสะพายตะกร้าเดินเป็นกลุ่มๆ เกือบทุกเส้นทางในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จัดเจ้าหน้าที่ คอยเฝ้าดู แต่คล้ายกับว่าจำนวนคนที่มุ่งหน้าเข้าป่าจะมากมายเกินกว่าจะผลักดันออกไปได้ หมด

ขณะอยู่บนสันเขา เสียงปัง! ปัง! จากประทัดลูกกลมดังต่อเนื่อง

การขับไล่สัตว์ป่าให้ออกไปพ้นบริเวณด้วยวิธีนี้คือสิ่งธรรมดา

และเป็นเหตุให้บรรดาสัตว์ป่าธรรมดาๆ กลายเป็นสัตว์ป่วย หงุดหงิดขี้โมโห ก็คล้ายจะเป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน

"ช่วงที่ออกใหม่ๆ นั่น บางคนเข้ามาหาขายได้วันละร่วมๆ หมื่นบาทเลยล่ะ" คนเก็บเห็ดคนหนึ่งเล่าให้ฟัง

แม้แต่ในวันที่ราคาต่ำสุด เห็ดโคนก็ขายได้ ไม่น้อยกว่ากิโลละ 100 บาท

ตลอดทั้งฤดูแห่งเห็ด แน่นอนว่านี้คือสิ่งที่มูลค่ามหาศาลเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พูดได้ว่านี่คือ บ้านแห่งสุดท้ายของสัตว์ป่า

แต่กระนั้นพวกมันก็ถูกรุกไล่จนหมดสิ้นหนทาง

ไม่มีสัตว์ป่าที่เตลิดหนีเสียงประทัดอีกแล้ว

มีเพียงสัตว์ป่วยที่พร้อมจะโจมตีคนผู้เข้าใกล้ในยุคสมัยหนึ่ง เมื่อพบกับคำถามที่ไม่มีคำตอบ

เรามักว่ากันว่าบางที คำตอบมันอยู่ในสายลม

แต่เรื่องราวระหว่าง "คนกับสัตว์ป่าที่ป่วยเพราะถูกรุกไล่กระทั่งจนมุม"

บางทีเราอาจหาคำตอบไม่พบ

แม้แต่ในสายลม

หน้า 8

//www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01way03151152§ionid=0137&day=2009-11-15


Create Date : 07 ธันวาคม 2552
Last Update : 7 ธันวาคม 2552 11:24:07 น. 0 comments
Counter : 461 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

ยุง บิน ชุม
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ยุง บิน ชุม's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com