|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
7-11 จากมติชนสุดสัปดาห์
คอลัมน์ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ โดย หนุ่มเมืองจันทน์
เซเว่นอีเลฟเว่น
ทิ้งท้ายฉบับที่แล้วว่าจะเล่าเรื่องการ์ตูน "เซเว่นอีเลฟเว่น" ให้ฟัง
"เซเว่นอีเลฟเว่น" เป็นธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ของสหรัฐอเมริกาครับ
บริษัท โยคุเซเว่น ซื้อแฟรนไชส์ "เซเว่นอีเลฟเว่น" มาจากบริษัทเซาท์แลนด์
บริษัทนี้มีบริษัทอิโทโยคะโดผู้ประกอบการธุรกิจซุปเปอร์สโตร์อันดับที่ 17 ของญี่ปุ่นถือหุ้นอยู่ 50%
อีก 50% เป็นกลุ่มผู้บุกเบิกซึ่งเป็นพนักงานของ "อิโทโยคะ"
ในหนังสือ "CREATING MODERN CAPITALISM" ที่ใช้เป็นตำราเรียนของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด มีกรณีศึกษาทางธุรกิจของญี่ปุ่น 2 เรื่อง
เรื่องหนึ่ง คือ เรื่องของโตโยต้า
อีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องความสำเร็จของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ในญี่ปุ่น
น่าสงสัยใช่ไหมครับว่าทำไมธุรกิจที่ซื้อแฟรนไชส์มาจึงได้รับการยกย่องให้เป็นกรณีศึกษาของ "ฮาวาร์ด"
แค่ทำตามคัมภีร์ที่บริษัทแม่ส่งมา ไม่เห็นน่าสนใจตรงไหนเลย
ทีมผู้บุกเบิกของ "โยคุเซเว่น" ตอนแรกก็คงคิดแบบผม คิดว่าคงจะลงแรงไม่มาก
แต่ชีวิตจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเปิดคัมภีร์ที่บริษัทแม่ให้มากลับใช้การอะไรไม่ได้เลย
มันไม่เหมาะกับญี่ปุ่น
การซื้อแฟรนไชส์มาจึงเป็นเพียงแค่การซื้อป้ายร้าน 7-11 พร้อมกับระบบคอนวีเนียนสโตร์ที่เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 5 ทุ่มเท่านั้น
นอกจากนั้นทีมงานต้องเริ่มใหม่หมด
พื้นที่ของร้านแรกที่เปิดคือ 73 ตารางเมตร น้อยกว่าพื้นที่ร้านที่บริษัทแม่กำหนดไว้ถึงครึ่งหนึ่ง
ขนาดตู้แช่ตามคัมภีร์ก็ใหญ่กว่าพื้นที่ที่มีอยู่
เมื่อเกิด "ปัญหา" ทีมงานก็ต้องออกแบบตู้แช่ใหม่
เมื่อตู้แช่เล็ก บรรจุเครื่องดื่มได้น้อย แต่ถ้าปรับใหม่เพิ่มความสะดวกในการเติมเครื่องดื่มเข้าไป เรื่องขนาดของตู้แช่ก็ไม่ใช่ปัญหา
นั่นคือที่มาของความคิดสร้างสรรค์ "ตู้แช่" ที่เปิดได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
คนซื้อเปิดหยิบเครื่องดื่มด้านหน้า
พนักงานเติมเครื่องดื่มที่ด้านหลัง
นอกจากสะดวกแล้ว การเติมเครื่องดื่มด้านหลังตู้แช่ ทำให้เครื่องดื่มที่เย็นจะไหลลงมาใกล้มือคนซื้อ
แก้ปัญหาทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ผู้ซื้อก็จะได้เครื่องดื่มที่แช่เย็นแล้ว ส่วนคนขายก็สะดวกในการเติมเครื่องดื่ม
เพราะถ้าเปิดประตูด้านหน้าได้ด้านเดียว การเติมเครื่องดื่มนอกจากเกะกะคนซื้อแล้ว ตามหลักความสบายของคนทำงาน คงยากที่พนักงานจะเติมเครื่องดื่มขวดใหม่ไว้ด้าน
หลังเครื่องดื่มเก่าที่เย็น แล้ว
เขาจะเลือกความสะดวกด้วยการเติมขวดใหม่ไว้ด้านหน้า ดันขวดเก่าไปไว้ด้านหลัง
การออกแบบตู้แช่ที่เปิดได้ทั้ง 2 ด้าน จึงแก้ปัญหาทั้งหมดได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมาก
หลังจาก "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่ญี่ปุ่นเปิดไปได้แล้วพักหนึ่ง ทีมงานก็เริ่มพบปัญหาว่าจำนวนสินค้า 3,000 ชนิดมากเกินไปสำหรับขนาดของคอนวีเนียนสโตร์
สมัยนั้นยังไม่มีคอมพิวเตอร์
ทีมงานตัดสินใจตรวจสภาพคล่องของสินค้าด้วยมือ ทุกวันเขาต้องใช้เวลา 15 ชั่วโมงตรวจใบสั่งสินค้าและยอดขายสินค้าแต่ละชนิดของร้าน
ทำบัญชีอย่างละเอียดยิบ
และในที่สุดเขาก็ค้นพบ "ความลับ" จาก "ตัวเลข"
การทำธุรกิจเรื่อง "ตัวเลข" เป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือการตีความจาก "ตัวเลข"
ปัญหาของนักธุรกิจจำนวนไม่น้อยก็คือดูแต่ "ตัวเลข" แต่ไม่สามารถแปร "ตัวเลข" ให้เป็น "ข้อมูล" ได้
"คามาตะ" ที่อาสาตรวจสภาพคล่องของสินค้าได้พบข้อมูลที่คาดไม่ถึงจากระบบบัญชี
เขาพบว่านิตยสารรายสัปดาห์เมื่อวางจำหน่ายได้ 4 วันก็จะขายไม่ออก
เขาพบว่าผงซักฟอกขนาดใหญ่ขายไม่ออก แต่ขนาดเล็กขายดี
เขาพบว่าบะหมี่สำเร็จรูปแบบถ้วยขายดีกว่าแบบซอง ฯลฯ
และนั่นคือที่มาของข้อสรุปใหม่
"เราจะวางสินค้าแบบเดียวกับซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้ ลูกค้าของคอนวีเนียนสโตร์ต้องการสินค้าที่แตกต่างกันออกไป"
จากตัวเลขยอดขายสินค้าแต่ละประเภท นำมาสู่การตีความเรื่องพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า
และในที่สุดก็กลายมาเป็นแนวทางการบริหารชั้นวางสินค้า
"เซเว่นอีเลฟเว่น" ไม่ต้องมีสินค้าครบทุกยี่ห้อหรือทุกขนาดก็ได้ แต่สินค้าที่วางในร้านต้องเป็นสินค้าที่หมุนเวียนเร็ว
ใช้พื้นที่ที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
หรือเรื่องการขยายสาขาก็น่าสนใจ การติดต่อเปิดสาขาในทำเลที่ต้องการ เขาต้องเผชิญกับค่านิยมบางอย่างของคนญี่ปุ่น
สนใจรูปแบบธุรกิจ แต่ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อร้านเพราะเป็นชื่อเก่าแก่ตั้งแต่บรรพบุรุษ
กรณีนี้เหมือนกับเมืองไทย ตอนที่ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ติดต่อขอซื้ออาคารพาณิชย์เพื่อปรับปรุงเป็น "เซเว่นอีเลฟเว่น"
เขาต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องเจ้าของไม่ยอมขาย
และยังถือว่าการติดต่อซื้อคือการดูถูก
คิดว่าข้าไม่มีเงินหรืออย่างไร
ต่อมาเมื่อ "ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์" เข้ามาดูแลก็ได้ปรับระบบใหม่เปลี่ยนจาก "ซื้อ" มาเป็น "เช่า"
นอกจากไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่แล้ว ยังทำให้การเจรจากับเจ้าของง่ายขึ้น เพราะเจ้าของตึกไม่รู้สึกเสียหน้า
ทรัพย์สินยังเป็นของตัวเอง แต่ปล่อยให้คนอื่นเช่าระยะยาว
เรื่องบางเรื่องมันเป็นปัญหาแบบ "เส้นผมบังภูเขา"
เช่นเรื่อง ตู้แช่ หรือเรื่องเช่า-ซื้อ ฯลฯ
นิดเดียวจริงๆ
ในโลกธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จทางธุรกิจหรอกครับ
ไม่มี "ยาวิเศษ" หรือ "ยาครอบจักรวาล" ชนิดใดที่กินเม็ดเดียวแก้ได้ทุกโรค
กลยุทธ์สู่ความสำเร็จของนักธุรกิจหรือคนดังทั้งหลายมันเปรียบเสมือน "ตัวเลข"
เราต้องแปร "ตัวเลข" เป็น "ข้อมูล"
ต้องประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับตัวเราและสิ่งแวดล้อม
คนแบบไหน ควรใช้วิธีการแบบไหน
สิ่งแวดล้อมใด ควรปรับเปลี่ยนอย่างไร
การประยุกต์ใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมจึงเป็นเคล็ดลับแท้จริงของความสำเร็จ
"อมร" ตั้งคำถามกับ "สมชาย"
"ปัญหาเส้นผมบังภูเขามักเกิดขึ้นกับคนประเภทใด"
"คนคิดแต่ในกรอบ ไม่ยอมคิดนอกกรอบ" สมชายตอบ
"ไม่ใช่"
"คนที่ชอบคิดอะไรยากๆ"
"ไม่ใช่" อมรส่ายหน้า เขี่ยเส้นผม "สมชาย" เล่น แล้วเฉลย
"คนผมยาว"
Create Date : 04 สิงหาคม 2548 |
Last Update : 4 สิงหาคม 2548 14:35:17 น. |
|
1 comments
|
Counter : 836 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
ยุง บิน ชุม |
|
|
|
|
จนจบ พอถึงตอนท้ายหักมุมซะจนอดยิ้มไม่ได้