Group Blog
 
 
มกราคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 มกราคม 2548
 
All Blogs
 
[1] : ลีเรน


ลีเรนเปิดเปลือกตาของตัวเองด้วยความมึนงง รู้สึกได้ถึงความผิดปกติในการพยายามจะลืมตาของตนอย่างยากลำบากแต่รอบข้างยังคงลางเลือน ก่อนที่สติรับรู้จะตามมาในไม่ช้า

เธอถูกลักพาตัว ! เพื่อเรียกค่าไถ่หรือไม่ก็เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดสักอย่างหนึ่งที่ลีเรนยังไม่ทราบ รู้แต่ว่ามันเป็นความโง่เง่าและเผลอเรออย่างไม่น่าเชื่อหลังจากที่ถูกเตือนเป็นร้อย ๆ ครั้งให้ระวังความปลอดภัยของตัวเองเมื่อเธอก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลครอส โดยมีภาพข่าวงานเลี้ยงเปิดตัวเธออย่างเป็นทางการลงในหน้าหนังสือพิมพ์ระดับโลกหลายฉบับ

อาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นเธอเป็นเพียงครูสอนศิลปะการต่อสู้แบบจีนที่ถูกจ้างให้เดินทางข้ามทวีปมาสอนเหล่าบอดี้การ์ดประจำตัวของตระกูลครอสก็เป็นได้ เธอไม่เคยมีความสำคัญ ไม่มีเงินมหาศาล และไม่มีแรงจูงใจใด ๆ ต่อพวกนักลักพาตัว จนกระทั่งลีเรนได้ทราบว่าพ่อชาวอังกฤษของเธอที่ตายไปตั้งแต่เธอยังเล็กคือลูกชายคนโตของเจ้าของบ้านที่หายสาปสูญไปเพราะความขัดแย้งในครอบครัวได้เกือบสามสิบปีมาแล้ว



ผู้เฒ่าเชน ครอสสะดุดตาในวงสีทองรอบม่านตาสีน้ำตาลเข้มของเธอซึ่งเป็นลักษณะของคนในตระกูลทันทีที่ได้พบครูสอนศิลปะการต่อสู้คนใหม่ของเหล่าองครักษ์ประจำตัว รวมถึงสีหน้าท่าทางที่เกือบจะถอดแบบจากลูกชายที่เขาไม่ต้องการ ดังนั้นชายชราจึงเริ่มทำการตรวจสอบภูมิหลังของเธอโดยละเอียดอย่างเงียบ ๆ เพื่อจะพบว่าลูกชายหัวดื้อไม่รักดีของเขาคนนั้นหันหลังจากกองมรดกมหาศาลเพื่อไปเป็นหมอในดินแดนห่างไกลอย่างที่เขาต้องการ และตายไปตั้งแต่ยี่สิบปีก่อนนั้นในเมืองจีน

พ่อของเธอไม่เคยพูดถึงครอบครัวที่เขาจากมา และนั่นทำให้แม่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับภูมิหลังของสามีมากกว่าเรื่องที่เขาคือชายแสนดีที่มุ่งมั่นและเสียสละเพื่อคนในถิ่นทุรกันดารอย่างเมืองที่แม่อยู่ กับความคาดหวังให้ลูกสาวของพวกเขาได้ร่ำเรียนสูง ๆ แบบที่พ่อของเขาเป็น นั่นทำให้ลีเรนก็ไม่รู้เช่นกันว่าเธอยังมีญาติในดินแดนที่ห่างไกลอีกซีกโลกหนึ่งด้วย

ลีเรนคือลูกสาวคนเดียวของคุณหมออเล็กซ์ ครอส ที่ใช้ชีวิตในจีนแผ่นดินใหญ่มาเกือบชั่วชีวิต

แม้เธอจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วเพราะบิดาของเธอ แต่ความจริงแล้วตระกูลทางมารดาของเธอมีชื่อเสียงในประเทศจีนเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ และการฝึกฝนอย่างหนักจากคุณตาของเธอก็ทำให้ลีเรนก้าวขึ้นเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการป้องกันตัวตั้งแต่เธอยังเป็นวัยรุ่น

ในเวลาเดียวกันการมีพ่อเป็นแพทย์สมัยใหม่ที่สนใจวิชาแพทย์โบราณของจีนทำให้เธอได้รู้จักกับผู้มีความรู้หลายคนที่ยังคงเอ็นดูและให้การฝึกสอนกับเธอต่อมาแม้ว่าพ่อของเธอจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหิมะถล่มตอนเธอเจ็ดขวบ และนั่นทำให้เธอมีความรู้พอที่จะเปิดรับการรักษาด้วยศิลปะการฝังเข็มแบบโบราณ
แม่และครอบครัวที่เหลืออยู่ในเมืองจีนของลีเรนเสียชีวิตด้วยโรคระบาดเมื่อตอนที่เธอเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในปักกิ่ง ทำให้เธอต้องดิ้นรนเลี้ยงชีพเพียงลำพังตั้งแต่อายุยังไม่ครบยี่สิบปีดีนักด้วยการรับสอนศิลปะมวยจีนและการรักษาโรคด้วยการฝังเข็มโดยไม่ถูกกฏหมายสักเท่าไหร่

นั่นทำให้หลังจากจบมหาวิทยาลัยเธอก็ย้ายมาอยู่เซี่ยงไฮ้ เปิดโรงเรียนสอนศิลปะมวยจีนของเธอเอง และเลิกรับรักษาผู้ป่วยเป็นการถาวร โดยหันมาทุ่มเทเพียงด้านเดียวเท่านั้น เพื่อสร้างชื่อให้กับโรงเรียน ลีเรนต้องชนะเลิศในการจัดแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของรัฐบาลให้ได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง และเข้าร่วมการประลองเพื่อรักษาชื่อเสียงเป็นระยะ ไม่อย่างนั้นโรงเรียนสอนศิลปะมวยจีนของเธอก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ

ชื่อเสียงที่เกิดขึ้นนี้เองที่ทำให้ตระกูลครอสว่าจ้างเธอให้เดินทางมาไกลถึงฟลอริด้าเพื่อเป็นครูฝึกสอนให้คนของเขา ความจริงแล้วลีเรนคิดว่าเธอคงเป็นคนเดียวในกลุ่มคนที่เหมาะสมซึ่งยอมจากบ้านเกิดเมืองนอนมาไกลถึงเพียงนี้มากกว่า ซึ่งถ้าไม่เป็นเพราะเลือดตะวันตกในตัวเธอแล้ว ลีเรนก็คงไม่รับค่าจ้างมหาศาลแล้วเดินทางมาอเมริกาเหมือนกัน



ทันทีที่ผู้เฒ่าเชน ครอส แน่ใจว่าสาวน้อยลูกครึ่งจีน-อเมริกัน คือหลานสาวคนหนึ่งของเขาที่ไม่เคยพบกันมาก่อน ชายชราก็ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องทั้งหมดให้เธอรู้ และยืนกรานที่จะมอบทรัพย์สินมรดกส่วนที่พ่อของเธอควรจะได้รับให้กับเธอซึ่งเป็นทายาท

ไม่มีประโยชน์ใด ๆ ที่จะคัดค้าน เอกสารต่าง ๆ ถูกเตรียมอย่างรวดเร็วและรัดกุมโดยไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวปฏิเสธ แต่สิ่งที่ทำให้ลีเรนต้องยอมรับในสิ่งที่เขายืนกรานจะให้ก็คือความรักและความเสียใจอันลึกล้ำที่มองเห็นได้ในแววตาของชายชราผู้เป็นปู่แท้ ๆ ของเธอเอง ดังนั้นโลกจึงได้รู้ว่าเธอคือหลานสาวคนโตของตระกูลเก่าแก่จากยุโรปที่ยังคงร่ำรวยมหาศาลแห่งนี้

สามเดือนที่ผ่านมาลีเรนได้ใช้ชีวิตที่สะดวกสบายในคฤหาสน์ตระกูลครอสกับคุณปู่ โดยมีญาติ ๆ จำนวนไม่น้อยที่แวะมาเยี่ยมเยียนทำความรู้จัก โดยเฉพาะหลังจากงานเลี้ยงเปิดตัวที่คุณปู่จัดให้เมื่อสองอาทิตย์ก่อน สำหรับคนที่ไม่เคยอยู่นิ่งเฉยอย่างลีเรนแล้ว ชีวิตหรูหราสะดวกสบายที่คุณปู่พยายามจะชดเชยให้กับเธอค่อนข้างน่าอึดอัด ท่านไม่ยอมให้เธอฝึกสอนพวกบอดี้การ์ดต่อ แต่กลับสั่งให้บรรดาบอดี้การ์ดเหล่านั้นคอยตามคุ้มครองเธอทุกฝีก้าว

น่าเสียดายที่การเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะป้องกันตัวของเธอไม่ได้ทำให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรับมือพวกเรียกค่าไถ่ด้วย หรือไม่ก็เป็นเพราะความประมาทและความอวดดีแบบโง่ ๆ ของเธอเอง สำหรับลีเรนแล้วการที่คุณปู่สั่งให้บรรดาลูกศิษย์ของเธอมาคุ้มครองเธอเองเป็นเรื่องน่าขบขันและเหมือนจะดูถูกมากกว่าอย่างอื่น แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะต่อรองให้มีผู้ติดตามเธอเพียงคนเดียว ซึ่งท่านก็ยอมรับโดยไม่เต็มใจนัก

เห็นได้ชัดว่าเธอประเมินความสามารถของคนร้ายในทวีปนี้ต่ำเกินไป และเรียนรู้เกี่ยวกับการต่อสู้แบบสกปรกไม่เพียงพอ บ่ายนี้เธอเกิดอยากดื่มชาอูหลงแบบเดียวกับที่เธอดื่มในจีนซึ่งหาซื้อได้ในไชน่าทาวน์เพียงแห่งเดียวเท่านั้น จึงออกจากบ้านมาพร้อมกับบอดี้การ์ดที่ได้รับการเลือกแล้วของเธอตามปกติ ไม่รู้มาก่อนว่าชายสามคนกำลังรอจังหวะที่เธอก้าวออกจากห้างสรรพสินค้าในไชน่าทาวน์โดยการซุ่มรอเงียบ ๆ

พวกเขาเลือกที่จะแล่นรถตู้มาขวางหน้าแล้วฉุดเธอขึ้นรถอย่างรวดเร็ว แต่ลีเรนขัดขืนอย่างมีประสิทธิภาพ จำได้ว่าเธอชกเข้าเต็มหน้าของหนึ่งในสองของคนร้ายจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นและเรียกเลือดจำนวนมากจากใบหน้าใต้ถุงคลุม ถีบเข้าเต็มแรงที่ช่องท้องของชายคนนั้นและเกือบหนีลงจากรถได้สำเร็จ

ในการต่อสู้มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอต้องระวังเป็นพิเศษ นั่นคือปืนในมือของชายเหล่านั้น แต่ดูเหมือนชายคนที่สองที่เป็นกำลังเสริมจะรู้จักเธอดีกว่าที่คิด เขาไม่พยายามเข้าประชิดตัว แต่อาศัยจังหวะใช้ปืนลูกดอกยิงใส่เธอหนึ่งนัด ซึ่งฤทธิ์ยาสลบอย่างแรงเป็นผลให้เธอต้องยุติการขัดขืนในที่สุด

บอดี้การ์ดของเธอโชคไม่ดีนัก เขาไวพอที่จะชักปืนออกมายิงหนึ่งในคนร้ายบาดเจ็บ แต่ก่อนที่ลีเรนจะหมดสติไปเธอเห็นเขาเป็นฝ่ายถูกยิงคว่ำอยู่กับถนน แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อเกราะกันกระสุนเป็นประจำ แต่มันก็ไม่ได้ปกป้องขาและไหล่ที่ถูกกระสุนจนเลือดสาดกระจาย เสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงมก่อนที่เธอจะจมลงสู่ความมืดมิด



มาถึงเวลานี้เธอคงหวังให้คนช่วยได้ยาก หญิงสาวสำรวจตัวเองอย่างระมัดระวัง ไม่สนใจแก้มซ้ายและช่องท้องที่เจ็บระบมด้วยฝีมือของผู้ลักพาตัว แต่พยายามตรวจสอบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากแค่ไหนต่างหาก

โชคยังเข้าข้างเธอ พวกมันขังเธอไว้ในห้องแคบ ๆ ที่ค่อนข้างอับชื้นตามลำพัง มีแสงสว่างเพียงน้อยนิดจากดวงจันทร์ลอดมาจากหน้าต่างขนาดเล็กสูงเหนือพื้นขึ้นไปกว่าเจ็ดฟุตทำให้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว มือทั้งสองของเธอถูกใส่กุญแจมือไพล่หลังล่ามอยู่กับท่อน้ำเก่าที่ยังแข็งแรง ขาทั้งสองมีเชือกมัดไว้แน่นหนา แต่เสื้อผ้าเครื่องประดับต่าง ๆ ของเธอยังคงอยู่ในที่เดิมของมันเป็นปกติเพียงแค่สกปรกและยุ่งเหยิงจากการลากเธอเข้ามาขังไว้ที่นี่

หูของลีเรนเงี่ยฟังเสียงรอบข้างอย่างตั้งใจ พลางพยายามควบคุมหัวใจที่เต้นถี่เร็วของตัวเองให้สงบลง มือที่สวมกุญแจของเธอมีระยะเคลื่อนไหวได้มากพอที่จะคลำไปที่กำไลข้อมือข้างซ้าย มีเพียงไม่กี่คนที่จะรู้ว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อบรรจุโลหะพิเศษชุดหนึ่งที่ลีเรนได้ศึกษามาจากหนึ่งในบรรดาบอดี้การ์ดเก่าแก่ของคุณปู่ในระยะเวลาสั้น ๆ สามเดือนที่ผ่านมานี้เอง

ด้วยความระมัดระวังและพยายามอย่างยิ่ง หญิงสาวก็สามารถดึงลวดโลหะสองชิ้นออกมาจากกำไลโดยไม่มีเสียง และขยับสอดมันเข้าสู่ช่องกุญแจด้วยความยากลำบาก แต่ไม่ถึงห้านาทีหลังจากนั้นลีเรนก็ได้ยินเสียงกริกเบา ๆ ก่อนที่มือของเธอจะกลับมาเป็นอิสระอีกครั้งหนึ่ง

ในไม่ช้าเธอก็จัดการกับเชือกที่มัดข้อเท้าได้เรียบร้อย ขาของเธอถูกเชือกบาดนิดหน่อย แต่เลือดก็เริ่มแห้งกรังแล้วแสดงว่าเธอตกอยู่ในมือของพวกมันเป็นเวลานานพอสมควร

หญิงสาวจัดการเก็บอุปกรณ์สำคัญของเธอคืนที่เดิมก่อนจะใช้ฝีเท้าที่เงียบที่สุดย่องเข้าไปแนบหูกับประตูเพื่อฟังเสียงด้านนอกก่อนจะพบว่ามีช่องแตกเล็ก ๆ ให้เธอมองลอดออกไปได้ในมุมแคบ ๆ มีเสียงชายอย่างน้อยสามคนกำลังบ่นพึมพัมไม่ดังนัก การสนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความเจ็บปวดที่ได้รับจากเธอและจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับหลังจากงานนี้สำเร็จ เสียงปลอบใจเพื่อนร่วมงานถึงเงินจำนวนมหาศาลที่จะได้รับภายในเวลาอันใกล้

เห็นได้ชัดว่าการเรียกค่าไถ่เกิดขึ้นแล้ว และคุณปู่ของเธอคงยอมรับคำข่มขู่นั้น ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่างเรื่องก็จะจบลงโดยคนร้ายได้รับเงินมหาศาลโดยไม่แน่นักว่าเธอจะรอดชีวิต

ชายสองคนยืนอยู่ในมุมที่เธอมองเห็นหน้าเขาได้ค่อนข้างชัด ….พวกเขาเป็นคนแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จัก หนึ่งในสองมีผ้าพันแผลที่ไหล่ขวา ซึ่งน่าจะเป็นคนที่ถูกบอดี้การ์ดของเธอยิง

อีกคนหนึ่งนั้นเธอมองไม่เห็นเขา แต่จำเสียงแหบ ๆ นั้นได้ไม่ยาก ความแปลกใจมาเยือนก่อนที่ความแค้นเคืองจะมาแทนที่เมื่อลีเรนจำได้ว่าผู้ร้ายคนที่สามคือหนึ่งในบรรดาบอดี้การ์ดที่คุณปู่ของเธอจ้างเพิ่มเร็ว ๆ นี้เอง ถ้าจำไม่ผิดเขาคงจะชื่อลูเธอร์อะไรสักอย่างนี่ล่ะ

หญิงสาวกำหมัดแน่นด้วยความรู้สึกอยากทำร้ายคน ก่อนจะหยุดตัวเองให้ทบทวนความเป็นไปได้ ชายที่ลักพาเธอมามีอาวุธในมือครบชุด และเห็นได้ชัดว่าชำนาญการต่อสู้ ในขณะที่เธอยังมีอาการวิงเวียนจากยาสลบและตาลายเป็นพัก ๆ ไม่ฉลาดแน่ถ้าเธอจะออกไปเผชิญหน้ากับพวกมันในฐานะเสียเปรียบแบบนี้

คุณตาสอนให้เธอรู้จักการต่อสู้แต่ไม่ได้บอกให้เธอเป็นคนโง่ที่บ้าดีเดือด ทางเลือกเดียวที่เหมาะสมเวลานี้ก็คือการหนี เธอต้องออกไปจากที่นี่ก่อนที่พวกมันจะรู้ตัวและมองหาความช่วยเหลือ

ลีเรนหันกลับมาพิจารณาหน้าต่างบานเดียวในห้องที่เหลืออยู่ ในสายตาของคนทั่วไปมันอยู่สูงมาก ทั้งเล็กและแคบจนไม่มีวี่แววของทางออกจากห้องนี้ได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง

แต่ในสายตาของลีเรนแล้ว นี่คือทางรอดของเธอ จากการประเมินชั้นแรกมันน่าจะกว้างพอที่คนตัวเล็กอย่างเธอจะลอดข้ามไปได้อย่างฉิวเฉียด ปัญหาคือความสูงที่เกินมือเอื้อม เธออาจกระโดดเพื่อเกาะขอบหน้าต่างไว้แล้วโหนตัวขึ้นไปได้ แต่ต้องไม่ทำเสียงดังแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นชายสามคนด้านนอกจะต้องรู้ตัวแน่

ด้วยความระมัดระวัง ลีเรนสามารถใช้ทักษะที่เธอมีอยู่กระโดดโหนตัวขึ้นไปเกาะขอบหน้าต่างไว้ได้โดยไร้เสียง ก่อนใช้เท้าปีนผนังขึ้นไปทรงตัวบนขอบหน้าต่างราวกับแมวตัวใหญ่ แต่เมื่อเธอลอดศีรษะออกไปสำรวจทางด้านนอกเธอก็ต้องขมวดคิ้วให้กับตัวเอง

สถานที่ที่เธออยู่ตอนนี้เป็นโกดังร้างที่ติดทะเล ด้านที่เธอโผล่ออกมานี้เป็นด้านที่ติดกับถนนแคบ ๆ ทอดตรงไปยังท่าเรือที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ใต้หน้าต่างตรงที่เธออยู่กลับกองไว้ด้วยซากลังเก่า ๆ ที่เริ่มผุจนทำให้เกือบจะแน่ใจได้ว่าเธอจะทำให้เกิดเสียงดังเมื่อตกลงไปบนซากลังเหล่านั้น

ดวงตาสีน้ำตาลแกมทองของเธอกวาดไปรอบเพื่อหาทางหนีทีไล่ ทางออกไปสู่ถนนใหญ่ต้องอ้อมผ่านหน้าประตูโกดังซึ่งคนพวกนั้นอาจดักรอเธอได้ทันถ้าได้ยินเสียงผิดปกติ ดังนั้นเธอต้องหนีไปทางด้านท่าเรือซึ่งจอดไว้ด้วยเรือยอร์ชหรูหราจำนวนมาก ถึงแม้จะไม่มีคนอยู่แถวนั้น แต่ถ้าโชคดีเธอจะหาที่ซ่อนได้ไม่ยากซึ่งพวกนั้นจะไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไปค้นหาเธอในที่ซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวของบรรดาเศรษฐีแน่ เพราะอาจมีสัญญาณกันขโมยดังขึ้นได้ทุกเมื่อ

ลีเรนพยายามไม่คิดถึงทางที่เลวร้ายที่สุด เธอไม่แน่ใจว่าพรรคพวกอีกสองคนของลูเธอร์จะมีฝีมือแค่ไหน แต่รู้ว่าตัวของลูเธอร์เองนั้นเป็นนักแม่นปืนคนหนึ่งทีเดียว พวกเขาอาจหาเธอให้พบแล้วยิงเธอทิ้งเสียก่อนที่จะมีใครมาเห็นก็ได้ เพราะมันออกจะบั่นทอนความกล้าหาญของเธอมากไปหน่อย

หูของหญิงสาวได้ยินเสียงกุกกักที่นอกประตูดังขึ้น เสียงของชายคนหนึ่งบอกว่าจะเข้ามาดูความเรียบร้อยของเหยื่อเรียกค่าไถ่เสียหน่อย …เธอไม่มีเวลาคิดมากกว่านี้แล้ว..

หญิงสาวใช้ความคล่องตัวเท่าที่เธอมีส่งตัวเองลอดออกไปทางหน้าต่างโดยเอาเท้าออกไปก่อนหัว เธอไม่อยากเสี่ยงน๊อคตัวเองจนหมดสติในตอนตกถึงพื้น แต่การทิ้งตัวลงไปยังซากลังไม้เก่า ๆ พวกนั้นก็ไม่ปลอดภัยเสียทีเดียว

ลังไม้เก่านั้นผุกว่าที่จะรับน้ำหนักเธอได้โดยไม่ทรุดตัวลงไป และทำให้เกิดเสียงดังอย่างที่คิดไว้ ค่อนข้างโชคร้ายที่มันทำให้ลีเรนทรงตัวได้ไม่ดีพอจนข้อเท้าข้างขวาของเธอพลิกทันทีที่ลงถึงพื้น

หญิงสาวครางเสียงหนักด้วยความเจ็บปวด แต่อย่างน้อยเธอก็พอมีเวลา ลีเรนฉวยโอกาสที่คนพวกนั้นเอะอะโวยวายอยู่ในโกดังเก่า พยายามลากสังขารตัวเองวิ่งไปทางท่าเรืออย่างสุดกำลัง ข้อเท้าขวาที่พลิกทำให้หญิงสาวไม่เร็วเท่าที่เธอต้องการ แต่ความมืดก็ช่วยให้การหนีมีโอกาสสำเร็จสูงกว่าที่คิด ลมหายใจของเธอเริ่มหอบด้วยความเจ็บปวดเมื่อไปถึงเรือลำแรก ทว่าชายที่ไล่ตามเธอมาจะต้องเห็นในทันทีว่าเธอเข้าไปหลบอยู่ตรงไหน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเลย

เสียงฝีเท้าดังกระชั้นมาจากด้านหลังจนทำให้ลีเรนรู้ว่าตัวเองกำลังเข้าตาจน เธอลดฝีเท้าจากวิ่งเป็นเดินเร็ว ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง และเลือกที่จะวกไปตามทางเลี้ยวที่ทำให้เรือซึ่งจอดสงบอยู่เป็นเสมือนกำบังให้กับเธอ ทั้งจากสายตาค้นหาและลูกปืนที่อาจถูกส่งมาหยุดการเคลื่อนไหวของเธอได้

แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเธอในวันนี้ พวกมันตามเธอมาทันก่อนที่จะถึงกลุ่มของเรือยอร์ชหรูหราเหล่านั้น และเมื่อลีเรนหันไปมองก็ทันเห็นว่าหนึ่งในนั้นถือปืนในมือและกำลังเล็งมาทางเธออย่างไม่ลังเล หญิงสาวแยกไม่ออกว่ามันเป็นปืนจริงหรือว่าปืนลูกดอกเหมือนกับที่เธอถูกยิงมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เธอก็ไม่อยากเสี่ยง

บนสะพานแคบ ๆ ไม่มีที่ให้หลบมากนัก เธอตัดสินใจหมอบลงกับพื้นอย่างรวดเร็วก่อนจะกลิ้งไปด้านข้างเพื่อลงไปในน้ำเย็นเฉียบ พยายามใช้มือทั้งสองและขาซ้ายที่ยังดีอยู่ของเธอดำลงไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงสบถอย่างหัวเสียของพวกที่ตามเธอมา ไม่มีเวลาให้ลังเลใจ ลีเรนเลือกที่จะไม่ว่ายกลับเข้าฝั่งเพราะนั่นคือสิ่งที่พวกมันคาดว่าเธอน่าจะทำ แต่แหวกว่ายตรงไปยังกลุ่มเรือที่จอดอยู่เรียงรายแทน

ด้วยสภาพร่างกายที่ค่อนข้างแย่ ทำให้อากาศในปอดของเธอหมดลงเร็วกว่าปกติ ลีเรนพยายามกลั้นหายใจให้นานที่สุดโดยไม่โผล่ขึ้นไปหายใจเหนือน้ำจนกว่าจะอยู่ในมุมที่ปลอดภัยพอด้วยความยากลำบาก เธอสอดส่ายสายตาไปรอบข้างอย่างรวดเร็ว พยายามควบคุมตัวเองให้มั่นคงโดยไม่ยอมให้สติแตกไปกับเรื่องที่เจอ แล้วจึงเลือกเรือลำที่เธอน่าจะหลบซ่อนได้ในที่สุด

มันคือเรือบลูดราก้อน ตัวเรือค่อนข้างกว้างใหญ่แสดงให้เห็นถึงฐานะของเจ้าของเรือ แต่บันไดข้างเรืออยู่ในระดับค่อนข้างต่ำจึงง่ายต่อการที่เธอจะปีนขึ้นไปบนเรือมากกว่าลำอื่น ๆ

ตอนนี้มือของหญิงสาวเริ่มสั่น เธอทรุดตัวลงหมอบแนบบันไดทางลงเคบินของเรืออย่างเงียบงัน ไม่มีเวลาให้เธอใช้ความสามารถเปิดเข้าไปซ่อนในเคบินได้ทันแล้ว เงาของชายสองคนพร้อมกับเสียงสบถเบา ๆ ติดตามมาถึงในเวลาอันรวดเร็ว และเริ่มการค้นหาอย่างระมัดระวัง พวกเขาเลือกเรือสองสามลำที่กว้างขวางและมีมุมมืดให้สำรวจมากมาย แล้วเคลื่อนใกล้เข้ามาทีละน้อย เหมือนแน่ใจว่าเธอต้องซ่อนอยู่ในบริเวณนี้

ชายอีกคนไม่ได้ตามมาด้วย ท่าทางเขาจะแยกไปดักอยู่ทางริมฝั่งเผื่อว่าเธอจะเลือกว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งทางด้านนั้นกระมัง

ลีเรนทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อีกครั้ง รู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่พาตัวเองมาอยู่ในมุมอับ ถ้าเธอไปหลบตรงกราบเรือเธอก็อาจหนีลงน้ำได้ แม้ว่าน้ำเย็นเฉียบของฤดูใบไม้ร่วงจะไม่น่าพิสมัยเลยก็ตาม แต่มันคงดีกว่าการตกไปอยู่ในมือของคนพวกนั้นแน่

และแล้วก็เหมือนสวรรค์ช่วย หนึ่งในชายสามคนนั้นก้าวขึ้นไปบนเรือที่ติดสัญญาณกันขโมยอย่างไม่ได้ตั้งใจ เสียงกรีดร้องของอุปกรณ์ทันสมัยทำให้มีแสงไฟฉายกราดมาจากริมฝั่ง และชายทั้งสามต้องล่าถอยพร้อมกับเสียงสบถอย่างหัวเสียที่สุด โดยที่ลีเรนถอนใจอย่างโล่งอกเฮือกใหญ่

ไม่ถึงห้านาทีลีเรนก็เห็นยามฝั่งคนหนึ่งถือไฟฉายมาฉายกราดตรวจตราเรือลำที่ส่งเสียงดัง ก่อนจะเดินเข้าไปปิดสัญญาณเมื่อไม่เห็นสิ่งผิดปกติใด ๆ อีก

ลีเรนปล่อยให้เขาเดินกลับไปโดยไม่คิดจะเรียกอีกฝ่ายให้ช่วยเหลือ ยามฝั่งเพียงคนเดียวคงจะตายเพราะกระสุนปืนของพวกนั้นก่อนที่เธอจะได้ออกไปพ้นท่าเรือเสียอีก มีทางเดียวที่เธอจะรอดผ่านคืนนี้นั่นคือซ่อนตัวจนกว่าจะเช้า รอให้ผู้คนเดินพลุกพล่านแล้วนั่นล่ะถึงจะปลอดภัยพอที่จะออกจากที่ซ่อนได้

ขาข้างที่พลิกของเธอเริ่มปวดร้าวจากการฝืนใช้งาน ไม่นับใบหน้าฟกช้ำและกล้ามเนื้อท้องที่ปวดระบม เรี่ยวแรงในยามคับขันของลีเรนเริ่มถดถอยจนรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้าที่เกาะกุมทุกเส้นประสาท

ลีเรนไม่กล้าเสี่ยงบุกเข้าไปในเคบินเรือ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเรือยอร์ชลำไหน ๆ ก็มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดี การขึ้นมาบนเรืออาจไม่กระตุ้นให้มันทำงาน แต่ถ้าเธอแตะต้องล๊อกประตูใด ๆ ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้มันดังขึ้นมา และแน่ใจได้เลยว่าชายที่ตามล่าตัวเธออยู่จะมาถึงอย่างรวดเร็ว

เธอทำได้เพียงแค่เลือกมุมที่น่าจะปลอดภัยที่สุดซ่อนตัว เธอต้องเลือกบริเวณที่สามารถมองเห็นคนที่ขึ้นมาบนเรือได้อย่างชัดเจนโดยที่ผู้มามองไม่เห็นเธอ เผื่อว่าพวกนั้นจะหามาถึงที่นี่เธอจะได้มีเวลาพอรับมือได้สักเล็กน้อย และพบว่าตรงใต้บันไดส่วนที่อยู่หน้าทางลงเคบินด้านล่างกองไว้ด้วยผ้าใบหยาบ ๆ ที่คลุมลังเครื่องดื่มอยู่

เมื่อเลื่อนลังเครื่องดื่มออกห่างจากกันอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงแล้ว ลีเรนก็ได้ที่ซ่อนตัวแคบ ๆ ระหว่างลังเหล่านั้น ซึ่งเมื่อคลุมด้วยผ้าใบที่เธอขยับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ใครจะรู้ว่ามีคนซ่อนอยู่ที่ตรงนี้ นอกจากจะใช้เวลาค้นหาอย่างจริงจัง ที่เหลือนอกจากนั้นคงต้องฝากไว้กับโชคชะตาแล้ว

หญิงสาวเบิกตาโพลงในความมืด พยายามเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายนอก เธอค่อนข้างจะปลอดภัยแล้วตอนนี้ กล้ามเนื้อของลีเรนเริ่มผ่อนคลายจากความตึงเครียดที่ต้องเผชิญตลอดช่วงเย็นของวัน บวกกับฤทธิ์ยาสลบที่ยังส่งผลกดประสาทและอาการบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ร่างกายของหญิงสาวเรียกร้องการพักผ่อนมากกว่าที่เธอคิดไว้ เนื้อตัวเธอสั่นสะท้านด้วยความหนาวและเปียกชุ่มด้วยน้ำทะเล ลีเรนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ในที่สุดเธอก็ไม่อาจฝืนลืมตาไว้ได้ สติสัมปชัญญะของเธอหลุดลอยไปดื้อ ๆ ท่ามกลางเสียงคลื่นลมที่ดังสม่ำเสมอ



Create Date : 19 มกราคม 2548
Last Update : 19 มกราคม 2548 0:00:25 น. 3 comments
Counter : 271 Pageviews.

 


มาเยี่ยมนะคะ




โดย: รักดี วันที่: 19 มกราคม 2548 เวลา:19:35:56 น.  

 
กำลังสนุกอยู่เลยค่ะ รีบๆมาลงต่อเน่อ ^^


โดย: blvan IP: 61.91.137.148 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:16:37:04 น.  

 
ดีใจที่ลิขิตรัก...อัพมี 4 ตอน สักที ตอนที่ 5 อัพปีหน้าหรือเปล่า(ล้อเล่นนะ)ได้ลงแดงอีกรอบแน่ เรื่องนี้ก็สนุก เรื่องเปลวไฟก็สนุกมาก ชอบมากเลย


โดย: คนเดิมในดวงใจ IP: 203.172.107.112 วันที่: 20 สิงหาคม 2549 เวลา:6:56:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

noOne
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แก้ไขระบบคอมพิวเตอร์เป็นงานหลัก
เขียนนิยายเป็นงานอดิเรกค่า
ชอบเล่นเกมส์ และอ่านหนังสือ
ว่าง ๆ ใครชอบไฟนอลแฟนตาซีแวะมาคุยกันได้ค่า
Friends' blogs
[Add noOne's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.