Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 มกราคม 2550
 
All Blogs
 

[6] : ตระกูลครอส

มือที่เหี่ยวย่นไปด้วยวัยสะท้านน้อย ๆ เมื่อปลายสายตัดการเชื่อมต่อในที่สุด ...สองวันแล้วที่ไม่มีข่าวคราวของหลานสาวคนใหม่ของเขา เว้นแต่เหตุการณ์รุนแรงที่นำไปสู่การลักพาตัวเธอกลางไชน่าทาวน์กลางวันแสก ๆ และโทรศัพท์ที่เขาเพิ่งวางสายลงไปหมาด ๆ

...ลักพาตัว....

เรื่องเกิดกลางที่ชุมนุมชนอย่างไชน่าทาวน์ แถมมีคนถูกยิงนอนจมกองเลือดอยู่กลางถนน ทำให้เกิดข่าวใหญ่ดังกระฉ่อนไปทั้งรัฐว่าทายาทสาวตระกูลครอสถูกลักพาตัว !

ทั้งตำรวจและนักสืบต่างพากันเดินเข้าเดินออกคฤหาสน์ตระกูลครอสเพื่อสืบหาพยานหลักฐานต่าง ๆ รวมถึงซักถามข้อมูลจากเขาหลายต่อหลายครั้ง

แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ารอการติดต่อมาจากนักลักพาตัว เมื่อเบาะแสทุกอย่างสะบั้นอยู่แค่เพียงพยานที่เห็นเหตุการณ์และบอดี้การ์ดที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่ในห้องไอซียู

จนกระทั่งวันนี้ที่มีการติดต่อมาถึงผู้เฒ่าเชน ครอสในที่สุด

...โทรศัพท์ขู่เรียกค่าไถ่....

ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับคนที่อยู่ในฐานะอย่างเชน ครอส เมื่อทุกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกต่างต้องเรียนรู้และระมัดระวังตัวจากภัยร้ายเหล่านี้ทุกขณะ เพราะถึงแม้เขาจะเพียรพยายามไม่สร้างศัตรูและหลีกเลี่ยงความรุนแรงเพียงใดก็ตาม แต่กลิ่นหอมหวนของเงินตรายังคงมีอำนาจมากพอที่จะดึงดูดตัวอันตรายจากทั่วโลกมายังตระกูลครอสได้ไม่ยากนัก

เรื่องแบบนี้ล่ะที่ทำให้รอบคฤหาสน์ตระกูลครอสต้องติดตั้งระบบป้องกันความปลอดภัยไว้แน่นหนา และว่าจ้างบอดี้การ์ดชั้นแนวหน้าด้วยราคาแสนแพง

แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ...

ลีเรน... หลานสาวจากแดนไกล... เด็กคนนั้นไม่เคยใช้ชีวิตที่ต้องระวังตัวทุกฝีก้าวมาก่อน จึงปล่อยให้ความประมาททำให้เกิดเรื่องครั้งนี้ขึ้นจนได้ !

ไม่สิ.. เขาจะโทษเธอก็ไม่ได้ ในเมื่อตัวเขาเองต่างหากที่ควรถูกตำหนิ....

ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่ามันอันตรายสำหรับเธอที่จะออกไปในที่สาธารณะพร้อมบอดี้การ์ดเพียงคนเดียวแบบนั้น แต่เขาก็ยังใจอ่อนอนุญาตให้เธอไปซื้อของกับโดโนแวนจนได้ เขานึกว่าการระแวดระวังของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ บวกกับฝีมือด้านศิลปะป้องกันตัวของเธอน่าจะเพียงพอที่เธอสามารถออกไปซื้อของได้อย่างสบายใจ

แต่จากคำบอกเล่าแสดงให้เห็นว่า นักลักพาตัวได้เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีเช่นกัน ...พวกมันไม่ลังเลเลยที่จะยิงโดโนแวนทันทีที่เห็น และยังมีการเตรียมยาสลบมาพร้อมสรรพ

รอยยิ้มขมปรากฏที่มุมปากของชายชรานิดหนึ่งเมื่อนึกถึงรายงานที่ระบุว่า หลานสาวของเขาต่อสู้ขัดขืนเต็มที่ก่อนจะถูกทำให้สลบก่อนพาตัวขึ้นรถจากไป

ยิ่งเธอทำให้พวกมันเจ็บเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อตัวเธอเองเท่านั้นในสถานการณ์แบบนี้ !

เสียงจากอีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ถูกบิดเบือนไปเสียจนฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ถ้อยคำห้วนสั้นยังคงบ่งบอกเจตนาได้ชัดเจน

พวกมันต้องการค่าไถ่สิบล้านเหรียญ !!

ไม่ถึงกับมากมายหากเทียบกับทรัพย์สมบัติของตระกูลครอส แต่อะไรบางอย่างบอกกับผู้เฒ่าเชน ครอส ว่านี่เป็นเพียงเงื่อนไขแรกของพวกมันเท่านั้น...

ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าหากเขายอมจ่ายตามที่พวกมันต้องการแล้ว เขาจะได้ตัวลีเรนกลับคืนมาอย่างปลอดภัย !

หลานสาวของเขา.... ผู้หญิงตัวเล็กบอบบางเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ… เปลือกนอกที่ตรงกันข้ามกับหนังสือรับรองฐานะของเธอว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะป้องกันตัวแบบจีน...

จะเป็นอย่างไรถ้าพวกมันไม่ได้หวังเพียงแค่เงินค่าไถ่...

จะเป็นอย่างไรหากพวกมันหวังเรือนร่างของเธอด้วย...

เขาคงได้แต่ภาวนาให้เธอรอดพ้นจากสิ่งเลวร้ายที่สุดที่พวกมันสามารถทำกับเธอได้เท่านั้น !


*-*-*-*-*-*-*


“คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ?”

เสียงทุ้มหนักของน้องชายทำให้ชายกลางคนหลุดจากภวังค์ความคิดของตนเอง หันกลับไปมองดวงตาที่มีวงสีทองคล้ายกับตัวเขาและคนอื่น ๆ ในครอบครัว

“ดูเหมือนท่านจะกระทบกระเทือนใจมากทีเดียว.... คงเป็นห่วงลีเรนมาก...”

เอริคยักไหล่นิดหนึ่ง เขาไม่เคยแสดงความชื่นชอบต่อผู้หญิงแปลกหน้าที่มาอ้างว่าเป็นลูกสาวของอเล็กซ์สักเท่าไหร่ ซึ่งทุกคนในบ้านต่างก็รู้กันดี แต่ขณะเดียวกันเขาก็ไม่เคยคัดค้านหลักฐานที่ผู้เป็นบิดานำมาแสดงให้ทุกคนได้เห็นในวันที่ท่านประกาศฐานะทายาทอีกคนหนึ่งของตระกูลครอสเช่นกัน

“เพิ่งมาได้ไม่นานเท่าไหร่ก็เกิดเรื่องเสียแล้ว ...มีข่าวอะไรเข้ามาบ้างไหม ?”

ชาร์ลมองหน้าน้องชายด้วยสายตาคมกริบ คิ้วขมวดมุ่นเมื่อพยักหน้า

“มีโทรศัพท์เข้ามาเรียกค่าไถ่เมื่อชั่วโมงที่แล้ว ...แล้วนี่แกไปอยู่ที่ไหนมา ? ฉันให้คนติดต่อหาแกตั้งแต่เมื่อวานซืนเพื่อให้เข้ามาพบคุณพ่อนะ...”

เอริคลอบยิ้มหยัน ...เขารู้จักพี่ชายของตัวเองดีพอที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่หรอกน่า...

“ผมก็มีงานของตัวเองที่ต้องดูแลนะพี่ ...อีกอย่างเมื่อวันก่อนนาตาชาไม่สบาย แถมลอเรนก็อยู่ระหว่างไปเยี่ยมครอบครัวที่ยุโรป ผมเลยต้องอยู่ดูแลลูกก่อน...”

หยุดเล็กน้อยจึงถามด้วยความสนใจ

“ว่าแต่ที่พี่ว่าเรียกค่าไถ่น่ะ... เป็นเงินเท่าไหร่หรือ ?”

ชาร์ลถอนใจยาวอย่างให้รู้ว่าแกล้งทำ ...เอริคมักจะสนใจเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เป็นอันดับแรกเสมอ

“สิบล้านเหรียญ....”

เอริคเบิกตากว้างกับจำนวนเงินที่ได้ยิน

“สิบล้าน ?! พวกมันจะบ้าหรือเปล่า ? ใครจะไปยอมจ่ายตั้งสิบล้านเหรียญ ?”

ชาร์ลเลิกคิ้วกับท่าทางไม่เห็นด้วยแบบออกนอกหน้าของอีกฝ่าย

“ตัวแกอาจไม่ยอมจ่าย ...แต่ถ้าเป็นคุณพ่อล่ะก็ไม่แน่...”

ผู้เป็นน้องชายหรี่ตามองคู่สนทนาอย่างสังหรณ์ใจ

“พี่หมายความว่ายังไง ?”

ชาร์ลยิ้มกระตุกแค่มุมปาก

“ก็หมายความว่าคุณพ่อสั่งให้ฉันเตรียมธนบัตรไม่เรียงหมายเลขเอาไว้แล้วน่ะสิ !”

เอริคส่ายหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตนเองได้ยิน

“ผมรู้หรอกนะว่าคุณพ่อหลงยายเด็กลีเรนมากเอาการอยู่ ...แต่ถึงขนาดยอมจ่ายสิบล้านเหรียญนี่ผมไม่อยากเชื่อ”

ฟังแล้วผู้เป็นพี่ชายกลับเป็นคนหัวเราะแบบไร้อารมณ์ขันโดยสิ้นเชิง

“หึ... แล้วแกคิดว่าใครกันที่ท่านแบ่งหุ้นของครอสโพรดักส์ให้ ? แถมยังมีส่วนแบ่งหนึ่งในสามของสมบัติทั้งหมดของครอสอีกด้วย ? กะแค่เศษเงินเล็กน้อยแค่นี้ท่านไม่ใส่ใจยู่แล้ว...”

แม้น้ำเสียงที่พูดจะราบเรียบ แต่คนเป็นน้องก็เคยคุ้นกันดีพอที่จะได้ยินแววเจ็บใจที่ซ่อนอยู่ ...แน่ล่ะ... หุ้นที่ทำให้อำนาจการบริหารของชาร์ลถูกลดทอนไปเกือบครึ่งนั่นไง...


ก็เป็นที่เข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างพี่น้องหรอกนะ กับความรู้สึกที่เหมือนกับมีคนแปลกหน้าเข้ามาชุบมือเปิบในสิ่งที่พวกเขาช่วยผู้เป็นบิดาก่อร่างสร้างตัวมาโดยตลอด ขณะที่อเล็กซ์นั้นกลับละทิ้งหน้าที่ของตนเองไปหมกตัวอยู่กลางป่าเขาในดินแดนห่างไกลแบบนั้น

หลายต่อหลายคนบอกว่าผู้เฒ่าเชน ครอส เป็นผู้มีความยุติธรรม แต่สำหรับเขาและชาร์ลแล้ว ...ถ้านี่ไม่เรียกว่าลำเอียง แล้วจะเรียกว่าอย่างไร ?

ตั้งแต่ยังเป็นเด็กที่อเล็กซ์เป็นลูกชายคนโปรด ...ทายาทคนโตของตระกูลครอสที่พร้อมทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติ ...ผลการเรียนที่เยี่ยมยอดตั้งแต่อนุบาลจนจบไฮสคูลทำให้อเล็กซ์เป็นที่รักใคร่โปรดปรานของผู้เป็นพ่อมาตลอด

หากแม้นพี่ชายคนโตของพวกเขาไม่หันเหความสนใจไปยังอาชีพแพทย์มากกว่าที่จะรับช่วงธุรกิจของตระกูลแล้วล่ะก็ อย่าหวังเลยว่าชาร์ลจะได้กุมบังเหียนของครอสโพรดักส์เหมือนทุกวันนี้

ใช่ว่าพวกเขาจะไม่รักพี่ชายคนโต หากแต่การตัดสินใจหันหลังให้กับตระกูลของอเล็กซ์ทำให้ภาระหน้าที่อันหนักอึ้งมาตกอยู่บนบ่าของพวกเขาทั้งสองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความฝันของลูกชายคนเล็กอย่างเขาที่จะได้ทำในสิ่งที่ตนปรารถนาก็เป็นอันต้องพับไป เมื่อผู้เป็นพ่อหันมาเข้มงวดเอาใจใส่กับลูกชายที่เหลืออยู่อีกสองคนเสียจนพวกเขาแทบกระดิกตัวไม่ได้

ไม่มีทางที่เชน ครอสจะยอมให้ลูกชายคนเล็กใช้ชีวิตลอยชายเป็นจิตรกรไส้แห้ง พอ ๆ กับที่เขาไม่ยอมรับอเล็กซ์ที่มุ่งมั่นจะเป็นแพทย์นั่นล่ะ

ทันทีที่เชนตัดขาดจากอเล็กซ์ เอริคก็รู้ได้ในทันทีว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรหากเขายังคงดึงดันมุ่งหน้าไปตามความฝันของตนเอง ...เขายอมรับว่าเขาไม่เข้มแข็งเหมือนอเล็กซ์

เขาไม่อาจตัดขาดจากความสะดวกสบายทั้งหลายในฐานะทายาทของตระกูลครอสได้....


ชาร์ลอาจแตกต่างออกไป ...เพราะพี่ชายคนรองของเขาพอใจที่จะรับช่วงดูแลธุรกิจของครอสโพรดักส์...

ตั้งแต่เล็กจนโตชาร์ลไม่เคยมีจุดหมายอื่นนอกจากการเดินตามรอยเท้าของพ่อเข้าสู่ธุรกิจของครอบครัว... เขากระตือรือร้นที่จะทำตามความต้องการของผู้เป็นพ่อมาตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ

ชาร์ลมีความสุขกับการได้เห็นบริษัทเติบโตก้าวหน้า เขารักการโต้เถียงในห้องประชุมของผู้ถือหุ้น ...บางครั้งเขายังเคยได้ยินสกาเล็ตบ่นถึงสามีว่า ชาร์ลรักบริษัทมากกว่าครอบครัวเสียอีก


หลายสิบปีที่ผ่านมาพวกเขาพี่น้องไม่ถึงกับเป็นเพื่อนรู้ใจกันและกัน แต่ก็ไม่ใช่พี่น้องที่ทำตัวห่างเหินแปลกหน้า ทั้งสองต่างยอมรับว่าเส้นทางชีวิตของพวกเขาถูกวาดไว้โดยผู้เป็นพ่อเมื่อนานมาแล้ว

เส้นทางที่หมิ่นเหม่คล้ายกับเดินเลียบอยู่บนขอบเหวสูงชัน ซึ่งหากแม้นก้าวออกนอกเส้นทางเพียงนิดเดียวก็อาจส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตได้

ทั้งเขาและชาร์ลไม่ต้องการถูกตัดขาดออกจากตระกูลเหมือนกับอเล็กซ์ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เสียงของผู้เฒ่าเชน ครอสมีอำนาจสูงสุดมาตลอดที่เขาจำความได้

แต่แล้วจู่ ๆ เด็กสาวลูกครึ่งที่มาจากประเทศจีนก็ปรากฏตัวขึ้น ก่อนที่พ่อของพวกเขาจะเรียกพวกเขาทั้งสองพี่น้องไปพบเพื่อบอกให้ทราบว่าอาจารย์สอนศิลปะป้องกันตัวคนใหม่ แท้จริงแล้วเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของพวกเขา

แม้วันเวลาอาจทำให้คนใจอ่อนลงได้ ...แต่ทั้งชาร์ลและเอริคต่างก็ไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ได้เห็นผู้เป็นพ่อของตนแสดงออกถึงความสำนึกผิดที่ได้ตัดขาดจากลูกชายคนโตจนอเล็กซ์ต้องไปจบชีวิตในต่างแดน

และไม่เคยคิดว่าพ่อของพวกเขาจะรับเด็กคนนั้นเข้ามาในตระกูลอย่างง่ายดาย พร้อมกับประกาศยกทรัพย์สินหนึ่งในสามให้กับเธอโดยไม่เคยถามความเห็นของลูกชายทั้งสองที่ยืนเคียงข้างท่านมาตลอดสักคำเดียว

หากวันนี้มีใครสักคนมาถามเขากับชาร์ลว่าคิดยังไงกับเด็กคนนั้นล่ะก็ ...พวกเขาคงตอบคำถามนั้นได้ยาก... ยากเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดมากนัก...


*-*-*-*-*-*-*


ผู้เฒ่าเชน ครอสชะงักการสนทนากับนายตำรวจเจ้าของคดี พลางหันหน้าไปทางประตูเมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก่อนที่ท่าทีเคร่งเครียดจะคลายลงเล็กน้อยเมื่อเห็นชัดตาว่าใครก้าวเข้ามาในห้องทั้งที่ไม่ได้เคาะประตู

“พวกแกเองหรือ ? ฉันเคยบอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าให้เคาะประตูก่อน ?”

สีหน้าของลูกชายคนรองดูจะเจื่อนไปเล็กน้อย ขณะที่ลูกชายคนเล็กของเขาดูไม่สะทกสะท้านสักเท่าไหร่

“ได้ยินว่ามีโทรศัพท์เรียกค่าไถ่เข้ามาแล้วหรือครับพ่อ ?”

ผู้เฒ่าเชน ครอสถอนหายใจยาว รู้ดีเกินกว่าจะตำหนิลูกชายของตนต่อหน้าคนนอกอย่างนายตำรวจเจ้าของคดีที่นั่งอยู่ด้านข้าง จึงตอบเพียงสั้น ๆ

“ใช่ ! พวกแกมานั่งก่อน ...ฉันกำลังคุยกับสารวัตรริชาร์ดสันพอดี...”

ชาร์ลและเอริคก้าวยาว ๆ ไปนั่งที่เก้าอี้ว่างตามคำสั่งของผู้เป็นพ่อ ด้วยต้องการจะฟังรายละเอียดของเรื่องให้เร็วที่สุดเช่นเดียวกัน


สารวัตรริชาร์ดสัน นายตำรวจเจ้าของคดีจับตามองชายกลางคนทั้งสองด้วยความสนใจตั้งแต่ที่พวกเขาก้าวเข้ามาในห้อง ทั้งที่เขาแวะมาที่คฤหาสน์ตระกูลครอสแล้วหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นทายาทตระกูลครอสทั้งสองคนอยู่พร้อมหน้ากัน โดยเฉพาะเอริคที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นเลยตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำคดีลักพาตัวเรียกค่าไถ่ แต่เมื่อคนที่ถูกลักพาตัวถูกระบุว่าจะได้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติหนึ่งในสามของทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลครอส ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูยุ่งยากขึ้นหลายเท่า

ทันทีที่เขาได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันและมีการลักพาตัวเกิดขึ้นกลางชุมชนอย่างไชน่าทาวน์ อาการปวดหัวตุบ ๆ ก็แวะเวียนมาเยือนเขาเกือบจะถาวร ก่อนที่อาการจะทรุดลงเมื่อฐานะของเหยื่อถูกระบุชัด

ลีเรน ครอส ...ทายาทสาวคนใหม่ของตระกูลมหาเศรษฐีครอส

มันเป็นการลักพาตัวที่เต็มไปด้วยพยานเห็นเหตุการณ์นับร้อย แต่กลับไม่มีใครให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากไปกว่าเห็นรถตู้สีขาวไม่มีทะเบียนคันหนึ่งแล่นมาจอด ก่อนจะฉุดร่างหญิงสาวที่เดินอยู่บนทางเท้าขึ้นไปบนรถ พร้อมกับร่างของบอดี้การ์ดประจำตัวเธอทรุดลงไปท่ามกลางกองเลือดแดงฉาน

พยานบางคนเห็นว่าเธอขัดขืนก่อนที่คนร้ายคนหนึ่งชักปืนขึ้นมายิงเธอ แต่เขาไม่ได้ยินเสียงเธอร้อง เห็นเพียงว่าร่างเธอทรุดลงกะทันหันก่อนที่ประตูรถจะถูกปิดลงจนไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ภายในรถได้อีก

...นั่นทำให้เขานึกสงสัยว่าเธอถูกยิงด้วยอะไรกันแน่ ...ไม่น่าจะใช่ปืนธรรมดา เพราะหากเธอถูกลูกกระสุนเข้าไปล่ะก็ เธอน่าจะยังมีแรงดิ้นรนมากกว่านั้น

ตอนแรกเขายังไม่แน่ใจนักว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเงียบตลอดสองวันมานี้ ซึ่งผิดไปจากพฤติกรรมการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ตามปกติ

หากแม้นภายในวันสองวันนี้ยังไม่มีโทรศัพท์จากผู้ลักพาตัวติดต่อเข้ามาอีกล่ะก็ ...สารวัตรริชาร์ดสันก็แทบจะแน่ใจได้ว่าคนที่จับตัวเธอไปไม่ได้มีเจตนาเรียกค่าไถ่ แต่น่าจะประสงค์ร้ายด้วยสาเหตุอื่น ๆ

ซึ่งมันจะยิ่งทำให้เขาทำงานได้ยากขึ้น เพราะหากเป็นเหตุผลอื่นใดนอกจากการเรียกค่าไถ่แล้วล่ะก็ ย่อมหมายถึงว่าการหาเบาะแสของคนร้ายยิ่งเป็นไปได้ยากขึ้นเท่านั้น

อย่างน้อยการเรียกค่าไถ่ ยังมีการติดต่อจากคนร้ายเข้ามาเพื่อให้เขาใช้เป็นแนวทางในการสืบหาต่อไป อีกทั้งยังเพิ่มความเป็นไปได้ที่เหยื่อจะยังมีชีวิตอยู่มากกว่าการถูกลักพาตัวด้วยสาเหตุอื่น ๆ

สารวัตรริชาร์ดสันหันไปทางเครื่องบันทึกเทปที่ใช้ดักฟังโทรศัพท์ทุกเครื่องภายในคฤหาสน์ครอสมาตั้งแต่เมื่อสองวันที่แล้ว ก่อนจะกดปุ่มเพื่อเล่นข้อความที่บันทึกไว้ซ้ำอีกครั้ง

“ฮัลโหล ครอสพูด...”

“เชน ครอส ?”

“ใช่ ...นั่นใครพูด ?”

“ถ้าไม่อยากให้หลานสาวของแกตาย เตรียมเงินสดสิบล้านเหรียญให้พร้อมภายในหกโมงเย็นพรุ่งนี้ !”

“แกเป็นใครน่ะ ? แล้วหลานสาวของฉันอยู่ที่ไหน ?”

“จำไว้ว่าแกมีเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง พรุ่งนี้ฉันจะโทรมาบอกสถานที่อีกครั้ง! ...........”

“ฮัลโหล ! ฮัลโหล !”

“..........”

เสียงสนทนายุติเพียงเท่านี้ เมื่อสัญญาณจากปลายทางถูกตัดลง นับรวมเวลาทั้งสิ้นแล้วยังไม่ถึงสิบห้าวินาทีด้วยซ้ำ ทำให้เครื่องตรวจสอบหมายเลขต้นทางไม่สามารถติดตามไปถึงเครื่องโทรศัพท์ที่คนร้ายใช้โทรมาได้

ที่พวกเขารู้ตอนนี้มีแค่ ต้นทางของสัญญาณอยู่ในเขตตะวันตกของประเทศเท่านั้น อาจอยู่ในรัฐนี้หรือรัฐใกล้เคียงก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น !

สีหน้าแววตาของชายตระกูลครอสทั้งสามคนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ดูเหมือนว่าทั้งสามจะห่วงใยต่อสวัสดิภาพของหลานสาวอย่างมาก ...แต่สำหรับสารวัตรริชาร์ดสันแล้ว... เขายังคงมีความสงสัยที่ไร้ข้อพิสูจน์อยู่อีกมากนัก




 

Create Date : 27 มกราคม 2550
10 comments
Last Update : 27 มกราคม 2550 16:44:21 น.
Counter : 911 Pageviews.

 

สนุก ทิ้งทวนให้ติดตามอีกแล้ว แง้ๆ
รีบๆมาอัพนะค่ะ

 

โดย: dek IP: 203.118.73.152 29 มกราคม 2550 18:24:39 น.  

 

เมื่อไหร่จะมาอัพอะ แง้แง้ อยากอ่าน

 

โดย: dek IP: 202.139.223.18 22 เมษายน 2550 0:22:48 น.  

 

ถึงจะผ่านมาครึ่งปีแล้ว ก็ยังรออยู่น้า

 

โดย: นภาพิสุทธิ์ IP: 58.136.119.16 30 กันยายน 2550 20:01:44 น.  

 

สนุกมากเลยคะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: unna_jung IP: 124.121.43.149 2 มีนาคม 2551 0:11:16 น.  

 

เมื่อไหร่จะมาอัพเน้อ

เฝ้ารอคอยด้วยความหวัง

 

โดย: <img src=http://www.bloggang.com/emo/emo34.gif> IP: 202.12.97.117 20 เมษายน 2551 16:23:41 น.  

 

เมื่อไหร่จะมาอัพซักทีน้อ
รออยู่น้า ><

 

โดย: Lin IP: 210.1.34.226 22 เมษายน 2551 14:42:03 น.  

 

เมื่อไหร่จะมาอัพอ่ะคะ ลืมเรื่องนี้ไปแล้วหรอ คิดถึงคนเขียนอ่ะค่ะ

 

โดย: เนม IP: 125.25.177.4 1 มิถุนายน 2551 14:19:49 น.  

 

up up up

 

โดย: ... IP: 202.12.97.117 27 กันยายน 2551 13:21:59 น.  

 

ผ่านมา 2 ปีแล้วนะคะ เค้ายังอยากอ่านอยู่น้า

 

โดย: นภาพิสุทธิ์ IP: 125.27.1.96 10 มีนาคม 2552 9:49:49 น.  

 

ผ่านมาสามปี ดิฉันก้ยังอยากอ่านอยู่อะคะ
สนุกมากๆๆ

 

โดย: นิวส์ IP: 124.121.139.207 9 มกราคม 2554 20:05:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


noOne
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แก้ไขระบบคอมพิวเตอร์เป็นงานหลัก
เขียนนิยายเป็นงานอดิเรกค่า
ชอบเล่นเกมส์ และอ่านหนังสือ
ว่าง ๆ ใครชอบไฟนอลแฟนตาซีแวะมาคุยกันได้ค่า
Friends' blogs
[Add noOne's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.