Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2548
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
13 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 

รักแรกของเนโร (ตอนจบ)

Special Edition

In the Dream of Fire : เปลวไฟในสายลม

Nero's First Love : รักแรกของเนโร (ตอนจบ)




นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายระหว่างพวกเขาทั้งสอง ก่อนที่เฮเลน่าจะออกเดินทางกลับดินแดนแห่งหมอกตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมีเขามองส่งเงียบ ๆ

ค่ำคืนที่แสนอ่อนหวานครั้งนั้นยังคงประทับในใจของเนโรอยู่เสมอ ชายหนุ่มเคยวางแผนไว้ว่าจะไปเยี่ยมคู่หมั้นของเขาที่ทวีปใต้ แต่แล้วแผนทั้งหมดก็ต้องถูกพับไป เมื่อเกิดความไม่สงบขึ้นบนเกาะสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ

การก่อกบฎโดยขุนนางท้องถิ่นคนสำคัญทำให้กษัตริย์โอลด์ต้องเดินทางไปจัดการด้วยตนเอง และเขาในฐานะของผู้พิทักษ์กษัตริย์ย่อมต้องมีหน้าที่ติดตามไปโดยใกล้ชิด

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้ดินแดนแห่งหมอกปิดดินแดนของตนเองไปช่วงเวลาหนึ่งเช่นกัน …เป็นที่รู้กันในคนกลุ่มน้อยว่าชาวเทม่าชิงชังสงคราม และไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวด้วยไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม นั่นทำให้เนโรไม่อาจไปเยี่ยมเฮเลน่าได้เป็นเวลานานหลายปีเช่นนี้

แต่วันนี้ทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติ ความสงบกลับคืนมาสู่ประเทศแห่งเกาะอีกครั้ง พร้อมกับการติดต่อระหว่างดินแดนแห่งหมอกและประเทศแห่งเกาะที่เพิ่งกลับคืนมาเมื่อเดือนก่อน แสดงให้เห็นว่าเทม่าแน่ใจในความสงบสุขอย่างแน่นอนแล้ว


เนโรก้าวยาว ๆ ไปตามทางที่กษัตริย์ชี้ทางให้ด้วยความร้อนใจผิดจากปกติที่เป็นคนใจเย็นอยู่เสมอไปคนละทาง …รู้สึกได้ถึงความคิดถึงที่ผุดพลุ่งขึ้นมาจนแทบจะจุกอก…

อีกแค่ปีเดียวเขาก็จะมีอายุครบร้อยปีแล้วนะ …แต่ทำไมแค่คิดว่าจะได้พบหน้าเฮเลน่า หัวใจของเขากลับเต้นตึกตักแรงอยู่ในอกแบบนี้ได้ ?

ความปิติยินดี …ความกระหายที่จะได้พบหน้าเฮเลน่ากำลังบอกอะไรกับเขาอยู่ ?

หรือว่า…

หรือว่าเขารักเด็กคนนั้น ?

คนที่เติมเต็มหัวใจไหลลื่นของเขาด้วยความรักเสียจนล้นปรี่ไม่มีทางหนีไปทิศไหนได้อีก…

น่าแปลก…

เขารู้ตัวว่ารักเธอโดยไม่ยักกะตื่นเต้นแปลกใจอะไรเลยแฮะ

หรือว่าเขารู้ตัวเองมานานแล้ว แต่ไม่ยอมรับกันแน่ ?

กี่วันที่เขาคอยมองหาร่างบอบบาง ?

กี่คืนที่เขาคิดถึงเสียงหัวเราะแจ่มใส ?

วันเวลาที่เขาได้แต่นั่งเหม่อมองจันทร์ข้างขึ้นพลางถอนใจกำลังจะจบลงในวันนี้แล้ว …เพราะเฮเลน่ากลับมาแล้ว… กลับมาหาเขาที่นี่ !

นั่นไง ! นัยน์ตาแห่งเทม่ากำลังยืนอยู่ตรงนั้น…

ผู้หญิงอีกคนกำลังยืนคุยกับผู้ทรงอำนาจสูงสุดของดินแดนแห่งหมอกอยู่ …แต่ผมดำ… ไม่ใช่เฮเลน่าของเขา…

เธอไปอยู่ที่ไหนกันนะ ?


“นัยน์ตาแห่งเทม่า…”

เนโรไม่อยากจะเสียเวลา …เขาทักทายผู้ที่ยืนอยู่ออกไปดัง ๆ ด้วยความยินดีเป็นอันดับแรก เพราะถ้าใครจะรู้ว่าเฮเลน่าอยู่ที่ไหนล่ะก็ นัยน์ตาแห่งเทม่าน่าจะรู้เป็นคนแรกทีเดียว

ร่างสูงสง่าของชายเจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาลหันกลับมาทางเขาพร้อมรอยยิ้มที่ไม่แจ่มใสนัก

“เนโร…”

เนโรเห็นหญิงสาวที่หันหลังให้เขาสะดุ้งนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก

“ยินดีที่ได้พบท่านอีกครั้ง …หกปีมานี้ท่านแทบไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อยจริง ๆ…”

นัยน์ตาแห่งเทม่าพยักหน้านิด ๆ

“ท่านเองก็เช่นกัน…”

เนโรไม่เสียเวลาทักทายให้มากความไปกว่านั้น แต่เหลียวซ้ายแลขวาถามเอาดื้อ ๆ เลย

“ได้ยินว่าคู่หมั้นของข้ามากับท่านด้วยมิใช่หรือ ? แล้วนางไปไหนแล้วล่ะ ?”

นัยน์ตาแห่งเทม่าถอนใจออกมาสั้น ๆ มือข้างหนึ่งแตะไปบนไหล่ของหญิงสาวผมดำที่หันหลังให้เขาพลางกล่าว

“ข้าว่าให้เจ้าคุยกับเขาเองดีกว่านะ …ตามสบายล่ะเนโร…”


ทายาทเทพเจ้าเสือชะงักกึก …หมายความว่า….

ใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาที่หันกลับมาหาเขานั้นคุ้นตาเหลือเกิน… แต่…

ไม่มีเรือนผมสีเงินสะท้อนแสงจันทร์ที่คุ้นเคย ไม่มีดวงตาสีฟ้าใสที่แจ่มกระจ่างราวกับท้องฟ้าเหนือท้องทะเลอีกต่อไป !

ผมสีดำสนิทคลี่ยาวอ่อนช้อยถึงกลางหลัง ดวงตาที่เงยขึ้นสบกับเขาเป็นเฉดเดียวกับชายอีกคนที่เพิ่งเดินจากไป …สีดำสนิทของรัตติกาล !

“เฮเลน่า…”

เสียงของเนโรเปลี่ยนเป็นแหบแห้งอ่อนล้า พร้อมกับที่หยาดน้ำเอ่อคลอในดวงตาสีดำสนิทของหญิงสาวตรงหน้า

“ไม่ได้พบกันนานแล้วเนโร…”

ผมดำ…นัยน์ตาดำ… สัญลักษณ์ของนัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไป !

“เจ้า… ไม่จริง… นัยน์ตาแห่งเทม่า ?!”

เฮเลน่ารีบยิ้มส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่หรอก… ข้าไม่ใช่นัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไป…”

เนโรชะงักไปทันที ถามด้วยความพิศวง

“อ้าว… ก็ได้ข้ารู้มาว่านัยน์ตาแห่งเทม่าเลือกที่สีผมกับสีตาไงล่ะ ? แล้วเจ้า…”

เฮเลน่าปาดน้ำตาที่หางตาของตนเองทิ้งไป ก่อนจะยิ้มตอบ

“คนผมสีดำตาสีดำรุ่นเดียวกับข้ามีตั้งสองคน …พวกเขาพิจารณาแล้วอาเทลมีอำนาจที่แรงกล้ากว่าข้าหลายเท่า ดังนั้นคนที่จะเข้าพิธีสืบทอดตำแหน่งนัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไปในคืนเพ็ญเดือนหน้าจึงเป็นนาง ไม่ใช่ข้าแน่…”

เนโรไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีผู้มีคุณสมบัติเป็นนัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไปได้พร้อม ๆ กันถึงสองคนแบบนี้ แต่ก็แน่ใจได้ว่าเธอจะไม่โกหกเขาแน่ …รอยยิ้มสดใสจึงกลับคืนสู่ใบหน้าอีกครั้ง

“ใครจะเป็นนัยน์ตาแห่งเทม่าก็ช่างเถอะ …แค่ไม่ใช่เจ้าก็พอแล้ว…”

แววเศร้าหมองผ่านมาในดวงตาของหญิงสาวแว่บหนึ่ง ก่อนที่เธอจะยิ้มกว้างพลางพูด

“โบราณเขาถือกันว่าถ้ามีคนผมดำตาดำในดินแดนแห่งหมอกมากกว่าสองคนจะทำให้เกิดภัยพิบัติ ตอนนี้ข้าก็เลยกลับดินแดนแห่งหมอกไม่ได้อีกแล้วล่ะ …ไม่รู้ว่าคนแถวนี้จะยอมให้ข้ามาอยู่ด้วยหรือเปล่านี่สิปัญหาสำคัญ ?”

ความหมายแฝงในคำพูดของหญิงสาวทำให้เนโรหัวใจพองโตขึ้นอย่างบอกไม่ถูก นัยน์ตาสีเขียวมรกตของชายหนุ่มเป็นประกายวับพร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจสาว

“ก็ถ้าเจ้ากินไม่จุนักล่ะก็ ข้าจะยอมให้มาอาศัยที่บ้านข้าก็ได้… เจ้าจะว่าอย่างไรล่ะ ?”

เฮเลน่าทำท่าคิดอยู่นานจนใบหน้ายิ้ม ๆ ของเนโรเริ่มยิ้มไม่ออก ต้องส่งเสียงขู่

“ไม่รีบตัดสินใจเดี๋ยวข้าไปเสนอให้คนอื่นล่ะก็อย่ามาร้องไห้โฮทีหลังนะ…”

เท่านั้นล่ะหญิงสาวก็ทำตาโต ยกกำปั้นจะทุบอีกฝ่ายให้หนัก ๆ พลางร้อง

“จะไปเสนอใครอีก ? บอกมาเดี๋ยวนี้นะ !”

ข้อมือเล็กบางถูกมือใหญ่กุมเอาไว้ทันก่อนจะได้ประทุษร้ายร่างกายของเขา พร้อมทั้งแรงฉุดเบา ๆ ที่ดึงเอาร่างกลมกลึงของหญิงสาวเข้าไปแนบชิดจนรู้สึกได้ถึงหัวใจสองดวงที่เต้นแรงขึ้นกว่าเดิม

ใบหน้าคมคายของเนโรก้มลงแนบเข้ากับแก้มนวลแผ่วเบา มือใหญ่กดแนบแผ่นหลังของหญิงสาวให้ร่างบางแนบชิดอยู่กับอกพลางกระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

“ข้ายังจะไปเสนอให้ใครได้นอกจากเจ้าล่ะเฮเลน่า… ว่าไง… ไปไหม ?”

หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบที่ข้างหูจนกายสั่นสะท้านไปหมด หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากทรวงอกเอาง่าย ๆ ใบหน้าแดงก่ำร้อนผะผ่าว ได้แต่ส่งเสียงเบา ๆ ถาม

“แล้วท่านยังเก็บความรักของข้าเอาไว้กับตัวอยู่หรือเปล่าล่ะ ?”

เนโรกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ชนิดที่ไม่ต้องเป็นชาวเทม่าก็ฟังออกถึงความตั้งใจจริงนั้น

“แน่นอน… ต่อให้เจ้ามาทวงคืนเอาตอนนี้ข้าก็ไม่คืนให้แล้วล่ะนะ… จะยึดเอาไว้เป็นการถาวรเลยล่ะ !”

ชายหนุ่มหยุดหายใจเข้าลึก ๆ ครั้งหนึ่ง สูดเอากลิ่นหอมจาง ๆ จากเรือนผมของหญิงสาวเข้าสู่ปอดด้วยความชื่นใจ

อ้อมกอดแนบแน่นนั้นคลายออกเล็กน้อย จนเฮเลน่าต้องเงยหน้ามองด้วยความพิศวง ก่อนที่มือใหญ่ข้างหนึ่งจะแตะแผ่วเบามาที่คางของเธอพร้อมกับแววตาอ่อนโยนที่มองตรงเข้ามาในดวงตาของเธอ

“เจ้าเชื่อข้าหรือเปล่า ?”

เฮเลน่าคิดจะพยักหน้าแต่ก็ทำไม่ได้ จึงได้แต่ส่งยิ้มอ่อนหวานเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นสุดหัวใจไปให้คนตรงหน้า

“ข้าเชื่อใจท่านเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือวันไหน…”

มืออีกข้างหนึ่งไล้ไปตามใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่ใบหน้างามคมคายนั้นจะก้มลงมาอย่างมั่นใจ

หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างคาดไม่ถึงเมื่อริมฝีปากบางของชายหนุ่มประทับลงมาบนริมฝีปากนุ่มของเธอ ก่อนที่จะพริ้มตาลงเพื่อดื่มด่ำกับจุมพิตครั้งแรกจากชายคนรัก


จากสัมผัสแรกที่แผ่วเบาอ่อนโยนราวกับปีกของกามเทพ…

ก่อนจะหนักหน่วงขึ้นทีละนิดจนกลายเป็นจุมพิตดูดดื่มวาบหวามเสียจนเฮเลน่ารู้สึกเข่าอ่อนยวบ หากไม่มีแขนแข็งแรงกอดร่างเธอเอาไว้จนแนบแน่นอย่างนี้ เธอก็อาจลงไปกองอยู่กับพื้นเหมือนเนยเหลวที่หลอมละลายไปแล้วก็ได้

มือของหญิงสาวไต่ขึ้นไปคล้องอยู่กับคอของคู่หมั้นอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าแหงนเงยขึ้นรับสัมผัสจากชายคนรักอย่างเต็มใจ

เนโรวนเวียนจุมพิตใบหน้าของคู่หมั้นสาวจนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก เปลือกตาทั้งสองข้าง ปลายจมูกรั้น ๆ แก้มขาวนวลเนียน แล้วกลับมาประทับจูบดูดดื่มบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของอีกฝ่ายเป็นการปิดท้าย ก่อนถามย้ำด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“แล้วตกลงจะไปอยู่กับข้าหรือเปล่าล่ะ ?”

ดวงตาสีดำสนิทของเฮเลน่าคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ ที่ต้องกระพริบตาถี่ ๆ ไล่ด้วยความตื้นตันใจ ก่อนจะส่งเสียงหนักแน่น

“ไปสิ… ข้าจะไม่ไปอยู่ที่ไหนทั้งนั้นนอกจากข้างกายท่าน…”

เนโรยิ้มกว้างออกมาทันที …ร่างบางในอ้อมอกถูกยกขึ้นเหวี่ยงไปรอบ ๆ ด้วยท่าทางยินดีเหมือนกับเด็ก ๆ ก่อนจะรวบกลับเข้ามากอดไว้แนบอกอีกครั้งด้วยความหวงแหน

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปบอกนัยน์ตาแห่งเทม่ากับองค์กษัตริย์ตอนนี้เลยนะเฮเลน่า… ข้าใจร้อนไม่อยากจะรออีกแล้ว…”

ความปรีดาปราโมทย์ที่เฮเลน่าได้เห็นทำให้เธอดีใจจนแทบจะพูดไม่ออก ขณะเดียวกันความเจ็บปวดอันลึกล้ำในใจก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเช่นกัน…


ความสุขที่เธอโหยหามานาน…

คนรักที่เธอเฝ้าใฝ่ฝันถึงทุกวันคืน…

ได้มาอยู่ในมือเธอ… มายืนเคียงข้างเธอแล้วในวันนี้…

แต่ทำไมมันช่างกระชั้นสั้นเหลือเกิน ?

ไม่สิ !

เธอไม่มีเวลามาจมอยู่กับความอ่อนแอ

เวลาแห่งความสุขเท่าที่มี…

เธอจะคว้ามันเอาไว้ด้วยใจทั้งใจ…

ไม่ยอมให้สูญเปล่า …ไม่ปล่อยทิ้งให้ต้องมาเสียใจภายหลังแน่นอน !


คำอนุญาตจากกษัตริย์โอลด์และนัยน์ตาแห่งเทม่าถูกตอบกลับมาพร้อมกับคำอวยพร …ง่ายดายเสียจนน่าแปลกใจ… ทั้งที่ตอนแรกเนโรเตรียมตัวเผชิญหน้ากับคำคัดค้านเสียล่ะมากกว่า

แต่ความปิติยินดีที่เปี่ยมล้นทำให้เนโรไม่ฉุกใจคิดไปไกลกว่านั้น สำหรับเขาในตอนนี้ดูเหมือนความสนใจทั้งหมดจะไปรวมอยู่ที่หญิงสาวที่ข้างกายเพียงแห่งเดียวเท่านั้น


เนโรสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวเฮเลน่า …ไม่เฉพาะรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่เธอพูดน้อยลง ท่าทางเอาจริงเอาจังขึ้น ความหม่นหมองบางอย่างดูจะอยู่คู่กับเธอตลอดเวลายกเว้นแต่เพียงยามที่เขาอยู่เคียงข้างเธอ

ใบหน้าที่เคยขาวนวลเนียน สดใสไปด้วยเลือดฝาดของสาวน้อย บัดนี้กลับดูขาวซีดมากกว่าจะสดใสอิ่มเอิบ อาจเป็นเพราะเธอไปอยู่ในดินแดนที่มีแต่ความหนาวเย็นเป็นนิจก็เป็นได้ …เนโรได้แต่หวังว่าอากาศสดชื่นของเกาะเขตร้อนจะทำให้ผิวของเธอเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวากลับมาเหมือนเดิมได้อีกครั้งหนึ่ง

แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อยคือความรักมากมายที่เขามองเห็นในดวงตาสดใสคู่นั้น ดวงตาที่จับจ้องอยู่ที่เขาเพียงผู้เดียวไม่ว่าวันนี้หรือวันวาน

ห้องว่างที่เคยมีในบ้านของเขาถูกจัดให้เป็นห้องส่วนตัวของเฮเลน่าอย่างพิถีพิถัน …เฮเลน่าตื่นเช้ายิ่งกว่าเขาเสียอีก เธอจึงมักเป็นฝ่ายเข้ามาปลุกเขาในตอนเช้าของทุกวันเหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนนั้น

ขณะเดียวกันหน้าที่ประจำของเขาก็คือการส่งเธอเข้านอน พร้อมกับจุมพิตราตรีสวัสดิ์ที่อ่อนหวานนุ่มนวล

ในใจของเขารอคอยวันเวลาที่จะได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต …เมื่อวานเขาเข้าไปขอร้องให้องค์กษัตริย์หาฤกษ์ยามสำหรับงานแต่งงานเอาไว้แล้ว… เนโรได้แต่หวังว่ามันจะไม่นานจนเกินรอ


งานประจำของเขาที่จะต้องไปนอนเฝ้าที่ห้องบนพระราชวังก็ถูกงดไปชั่วคราว ด้วยเหตุผลว่าให้เขามีเวลาได้อยู่กับคู่หมั้นอย่างสบาย ๆ สักระยะก่อนจะกลับไปทำงาน …ระหว่างนี้ท่านพ่อของเขาจะกลับมาทำหน้าที่ผู้พิทักษ์กษัตริย์ให้ชั่วคราวก่อน…

แค่เพียงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ดูเหมือนชีวิตของเขาจะถูกเติมเต็มไปด้วยความรักและเสียงหัวเราะจนแทบล้นปรี่ กระทั่งฑูตของเกาะต่าง ๆ ที่มักได้เห็นแต่ใบหน้านิ่งเฉยของผู้พิทักษ์กษัตริย์ก็ได้มาเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทายาทเทพเจ้าเสือกันโดยทั่วหน้า


สามสัปดาห์แห่งความสุขผ่านไปเร็วราวกับภาพฝัน แต่เฮเลน่ารู้ตัวเองดีกว่านั้น …สายเลือดชาวเทม่าในกายเธอร่ำร้องอย่างแรงกล้าให้เธอพูดเรื่องทั้งหมดให้คู่หมั้นหนุ่มได้รับรู้เอาไว้โดยเร็ว

การไม่พูดในสิ่งที่ควรพูดก็แทบไม่ต่างกับการปกปิดหลอกลวงคนที่เธอรัก !

คงจะเป็นความสุขที่ได้เห็นบนใบหน้าอิ่มเอิบยินดีของเขาที่ทำให้เฮเลน่าอดทนนิ่งเงียบมาได้นานถึงเพียงนี้ และถ้าเธอปล่อยทิ้งเอาไว้ มันก็อาจกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายเขาอย่างรุนแรงจนไม่อาจให้อภัยได้ !

ดังนั้นเช้าวันนี้เธอจึงมานั่งรอเขาตื่นที่ข้างเตียงเร็วเป็นพิเศษ …เฝ้ามองใบหน้ายามหลับที่ดูอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาของเขาเนิ่นนาน…

ใบหน้าคมคายบนหมอนเริ่มพลิก… อีกประเดี๋ยวขนตาสีทองหนาเป็นแพนั้นก็จะขยับขึ้นลงสองสามครั้ง ก่อนที่เผยให้เห็นดวงตาสีเขียวมรกตดูง่วงงุนเหมือนทุกเช้า…

แววยิ้มจะปรากฏในดวงตาของเขาทันทีที่เห็นใบหน้าของเธอ ก่อนจะรั้งเธอลงไปจูบเบา ๆ อย่างอ่อนโยน…

ให้ตายสิ !

ทำไมเธอจึงไม่อาจฉวยความสุขเช่นนี้เอาไว้ให้นานเท่าที่จะนานได้… ทำไมเธอต้องทำลายทุกสิ่งทุกอย่างออกไปด้วยความจริงที่โหดร้ายด้วย !

ก็เพราะเธอเป็นชาวเทม่าน่ะสิ !

ชาวเทม่าไม่โกหกเด็ดขาด… ไม่ว่ากับตัวเองหรือคนอื่น…

การโกหกหลอกลวงจะทำลายชีวิตและวิญญาณของเธอได้รวดเร็วเสียยิ่งกว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่เสียอีก !


นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเฮเลน่าที่ไม่อยากเกิดมาเป็นชาวเทม่า !


ดวงตาสีเขียวกระพริบซ้ำอีกครั้งเมื่อเห็นภาพตรงหน้า …เฮเลน่ากำลังร้องไห้เงียบ ๆ อยู่ที่ข้างเตียงของเขา !

ไม่มีรอยยิ้มหวานที่รอรับยามเขาลืมตา แต่กลับมีหยาดน้ำตาและใบหน้าเศร้าหมองมาแทนที่

มันเกิดอะไรขึ้น !?


“เฮเลน่า ?”

น้ำเสียงห่วงใยที่เนโรใช้ยิ่งทำให้เธอกลั้นสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่ น้ำตาที่เก็บเอาไว้ตลอดวันเวลาที่ผ่านมาไหลรินอย่างสุดจะหักห้ามเอาไว้ได้

“เป็นอะไรไป ? ใครทำอะไรเจ้าหรือ ?”

จากห่วงใยกลายเป็นกระวนกระวายเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ร้องไห้ …ตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อนที่เขาดุว่าเธอเป็นครั้งแรกแล้ว เนโรก็ไม่เคยเห็นเฮเลน่ามีท่าทางอ่อนแอถึงเพียงนี้มาก่อนเลย

ชายหนุ่มดึงตัวเธอจากเก้าอี้ให้มานั่งข้างเขาบนเตียงอย่างใจร้อน พยายามใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อปลอบขวัญให้ผู้เป็นที่รัก

“ใจเย็น ๆ มีเรื่องอะไรก็บอกกับข้า …ข้าจะจัดการให้เจ้าทุกอย่าง… แต่อย่าร้องไห้แบบนี้เลยเฮเลน่า มันทำให้ข้าปวดหัวใจไปหมดแล้ว…”

เฮเลน่าพยายามกลั้นสะอื้นทีละน้อย ดวงตางามคลอไปด้วยหยาดน้ำเงยขึ้นมองใบหน้าที่ก้มมองลงมาด้วยความเป็นห่วง

“ข้ามี… มีบางเรื่องที่ต้องบอกท่าน…”

ความซีดเซียวของหญิงสาวดูจะมากขึ้นเป็นทวีคูณท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเช้า จนเนโรยิ่งกังวลใจ มือใหญ่รั้งใบหน้างามเข้ามาจูบซับน้ำตาพลางกระซิบถาม

“มีเรื่องอะไรก็ค่อย ๆ พูดให้ข้าฟังเถอะสาวน้อยของข้า…”

น้ำเสียงอ่อนหวานปลอบประโลมของเนโรทำให้เฮเลน่าใจเย็นกว่าเดิม หญิงสาวพิงซบอยู่ในอ้อมอกของคู่หมั้นเมื่อเริ่มพูดในสิ่งที่เธอจำเป็นต้องบอกเขา

“ข้ากำลังจะตาย…”


ให้เขาถูกฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ เนโรก็คงจะไม่ช็อคเท่ากับที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้จากปากของคู่หมั้นสาว …เธอกำลังจะตาย…

“ไม่จริง ! …ข้าไม่เชื่อ…”

น้ำเสียงพลุ่งพล่านของเนโรทำให้เฮเลน่าต้องคว้ามือของเขามายึดไว้ พลางย้ำอีกครั้ง

“จริง ! ชีวิตของข้าเหลืออีกไม่มากแล้ว …ด้วยอำนาจแห่งเนตรรัตติกาลที่ข้ามีทำให้ข้ารู้ตัวดี…”

เนโรส่ายหน้าไม่ยอมรับความจริง

“ไม่ ! ข้าไม่ยอม ! เจ้าป่วยตรงไหนหรือ ? ข้าจะรักษาเจ้าให้หายเอง …ทายาทเทพเจ้าเสืออย่างข้าเป็นทั้งผู้ฆ่าและผู้เยียวยา ข้ารู้จักเวทย์รักษา …ไม่มีทางที่ข้าจะยอมให้เจ้าตายไปต่อหน้าต่อตาแน่”

ในยามที่คู่หมั้นกำลังตกอยู่ในห้วงทุกข์ เฮเลน่าได้แต่ดำรงตนให้เข้มแข็งเข้าไว้ …หญิงสาวกุมมือใหญ่เอาไว้แน่น เรียกให้เขามองตาเธอ… ฟังเธอ…

“ไม่ใช่อาการป่วย… แต่เป็นชะตาของข้า… ทันทีที่ข้าผ่านพิธีชำระวิญญาณข้าก็ได้รู้ทุกสิ่ง …ในตอนแรกเริ่มพลังอำนาจของข้าแกร่งกล้ายิ่งนัก แรงกล้ายิ่งกว่าที่นัยน์ตาแห่งเทม่าคนใดจะเคยมีมาก่อน มันทำให้ข้าได้รู้ ได้เห็นในสิ่งที่ข้าเองก็ไม่อยากจะยอมรับ…”

ความจริงจังในน้ำเสียงของหญิงสาวทำให้เนโรได้แต่นิ่งฟัง

“ปกติแล้วพลังอำนาจจะแรงกล้าขึ้นเมื่อได้รับการฝึกฝน ยิ่งนานวันพลังอำนาจของนัยน์ตาแห่งเทม่าก็จะยิ่งเข้มแข็งทรงพลังขึ้นเรื่อย ๆ …แต่สำหรับข้าแล้วมันเป็นไปในทางกลับกัน อำนาจของข้าผุดขึ้นมาจากภายในแม้มิได้ฝึกฝน แต่มันกลับค่อย ๆ ลดลงไปทีละน้อยจนบัดนี้ข้าแทบไม่มีพลังอำนาจใด ๆ เหลืออยู่อีกแล้ว …อีกไม่นานเมื่อพลังเวทย์ของข้าหมดสิ้นลง พลังชีวิตของข้าก็จะถูกดึงออกไปใช้ในที่สุด”

เนโรขยับริมฝีปากอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะเปล่งเสียงออกมาได้

“ทำไม ?”

เฮเลน่าฝืนหัวเราะออกมาเบา ๆ

“เพราะนัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไปไม่ใช่ข้า…”

“แปลว่าถ้าเจ้าถูกเลือกให้เป็นนัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไป เจ้าก็ไม่ต้องตายใช่หรือไม่ ?”

“ก็คงทำนองนั้นล่ะ…”

ดวงตาสีเขียวมรกตของเนโรเปล่งประกายดุดันทันที …เฮเลน่ารู้สึกได้ถึงความเยียบเย็นน่าหวาดหวั่นที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของชายคนรักในยามโกรธแค้นจนไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้เป็นครั้งแรก

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะฆ่าคนที่ชื่ออาเทลนั่นเสีย ! ข้าไม่มีวันยอมให้เจ้าต้องตายหรอก !”

แม้เนตรรัตติกาลจะบอกธาตุแท้ของเนโรให้เธอได้รู้มานานแล้ว แต่การได้สัมผัสอีกด้านหนึ่งของเนโรผู้อ่อนโยนขี้เล่นทำให้เฮเลน่าเองก็ต้องตัวสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมได้

“เนโร… อย่าได้โกรธแค้นอาเทลเลย… อาเทลไม่ใช่คนเลือกให้เป็นแบบนี้ …นางไม่มีความผิดแม้แต่น้อย…”

แววตาของเนโรเปี่ยมไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งรัก ทั้งขุ่นเคือง ปนเปจนตัวเองก็ไม่อาจแยกแยะได้

“แต่ถ้าไม่มีนาง …เจ้าก็จะได้เป็นนัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไป แล้วก็ไม่ต้องตายด้วย…”

เฮเลน่าส่ายหน้าอย่างเศร้า ๆ

“ไม่หรอกเนโร ต่อให้ท่านฆ่านางในวันนี้ ข้าก็ไม่รอดอยู่ดี…”

เนโรส่ายหน้า เขาได้ยินความจริงในเสียงของเธอ ไม่มีทางใดที่จะเหนี่ยวรั้งเธอกลับคืนมาได้อย่างนั้นหรือ ?

“อย่างน้อยให้ข้าได้ลองดู…”

“ไม่มีประโยชน์หรอกเนโร… ความจริงแล้วที่ข้าตัดสินใจได้อย่างยากลำบากที่จะบอกเรื่องนี้ให้ท่านได้รู้ …ข้ากลัวว่าท่านจะเสียใจ กลัวท่านจะผิดหวัง …และยิ่งกลัวว่าท่านจะโกรธที่ข้าไม่อาจอยู่เป็นเพื่อนท่านให้นานกว่านี้ได้… ข้าอยากเห็นท่านยิ้ม อยากเห็นท่านหัวเราะอย่างมีความสุขไปนานแสนนาน…”

หัวใจของเนโรรับรู้ความรักอันลึกซึ้งในคำพูดของเธอ …เฮเลน่าไม่กลัวที่จะตาย แต่เธอกลัวเขาจะเสียใจต่างหาก…

น้ำตาของทายาทเทพเจ้าเสือที่ไม่เคยหลั่งไหลมาเกือบร้อยปีหยาดลงบนเรือนผมสีดำสนิทนั้นอย่างเงียบงัน

“เมื่อไหร่ ?”

เนโรรู้มากกว่าที่ใครจะรู้ …เขาเคยพบนัยน์ตาแห่งเทม่ามาแล้วถึงสองรุ่น ทั้งยังเข้าใจดีถึงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของอีกฝ่าย… ไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้กำหนดเวลาล่วงหน้า…

เฮเลน่านิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

“ไม่เกินวันเพ็ญที่จะมาถึง…”

เนโรนิ่งอึ้ง ก่อนจะครางแผ่วเบา

“พรุ่งนี้ ?”



นับจากนั้นมาเนโรได้แต่คอยเฝ้าอยู่ข้างกายเฮเลน่าตลอดทั้งวันไม่ยอมห่างไปไหน …ชายหนุ่มเงียบขรึมผิดไปจากเดิมเป็นคนละคน


วันนี้ทั้งวันเขาเห็นเธอซีดเซียวลงจากเดิมทีละน้อย กระทั่งตอนบ่ายก็ดูเหมือนเรี่ยวแรงของเธอแทบจะเหือดหายไปจนหมดสิ้น …จนยามพลบเฮเลน่าก็ได้แต่นอนอยู่แต่บนเตียง

ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้บอกใครอื่นให้ได้รู้ แต่กษ้ตริย์โอลด์ก็ยังคงเสด็จมาเยี่ยมพร้อมกับนัยน์ตาแห่งเทม่าและท่านพ่อของเขา

สายตาเห็นใจสามคู่จับจ้องมองคู่รักที่กำลังจะพลัดพรากอย่างเงียบงัน รู้ดีว่าไม่มีคำปลอบโยนใด ๆ ที่จะช่วยได้ในเวลาเช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่นิ่งเงียบ ก่อนจะกลับออกไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย


ชายหนุ่มแน่ใจว่านัยน์ตาแห่งเทม่าคนปัจจุบันรู้ทุกอย่างมาตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อนหน้านั้นแล้ว …แต่เขาก็ไม่อาจโทษว่าอีกฝ่ายที่ไม่พูดความจริงทั้งหมดออกมาได้…

ถ้าเขารู้ชะตาของเธอในวันนั้น บางทีเขาอาจจะสงสารเธอ…

บางทีเขาอาจจะยอมอ่อนข้อให้เธอในทุกเรื่องราวเหมือนที่ชาวเทม่าคนอื่น ๆ ทำ…

แต่เขาคงจะไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ…

ไม่ได้รักเธอเหมือนที่รักในวันนี้…

ไม่ว่าจุดสิ้นสุดของมันจะเป็นอย่างไร แต่เนโรก็ไม่เสียใจเลยที่ได้รักเธอ…


ในที่สุดราตรีกาลก็กรายมาถึง …เฮเลน่าค่อยเอ่ยปากชวนคนที่เอาแต่นั่งเฝ้ามองเธอมาทั้งวันเบา ๆ

“พาข้าออกไปเดินเล่นหน่อยได้ไหมเนโร ? ข้าอยากเห็นพระจันทร์…”

มีหรือที่เนโรจะปฏิเสธความต้องการของเธอได้ ?

แต่เฮเลน่าไม่มีแรงที่จะเดินเองเหลืออยู่อีกแล้ว …เนโรได้แต่คลุมผ้าห่มผืนหนาให้กับเธอแล้วอุ้มไว้ในอ้อมแขน

ทั้งสองหยุดพักตรงก้อนหินใหญ่ก้อนเดิม เขาได้แต่เฝ้ามองยามที่เธออิงซบอยู่แนบอกของเขาพลางเงยหน้ามองดูดวงจันทร์ทรงกลดคล้ายกับวันหนึ่งในอดีตที่ผ่านพ้น

“รู้ไหมเนโร …ข้าคิดว่าอาเทลอิจฉาข้าล่ะ…”

ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้า …เขายังไม่อาจทำใจได้มากพอที่จะพูดถึงคนที่คิดว่าเป็นสาเหตุทำให้เธอต้องจากไป

แต่เฮเลน่ายังคงเป็นเฮเลน่าที่มองโลกในแง่ดีเสมอ …ใบหน้าซีดเซียวมีรอยยิ้มเหมือนเด็ก ๆ

“ไม่ว่าเมื่อไหร่ข้าก็เป็นคนที่ได้ติดตามนัยน์ตาแห่งเทม่าออกมาเที่ยวเล่น ทั้งที่นางต้องคอยฝึกฝนศาสตร์ต่าง ๆ อยู่ที่บ้าน …ข้าได้พบท่าน ขณะที่นางต้องนั่งจมกับกองตำรับตำราที่ถูกบังคับให้อ่านให้เรียน…”

หยุดถอนหายใจนิดหนึ่งก่อนจะพูดด้วยเสียงแผ่วเบากว่าเดิม

“ข้าอยากให้ท่านช่วยนางในยามที่นางต้องการ …ข้าอยากให้ท่านรับอาเทลเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของท่าน …อย่าเกลียดนาง อย่าโทษนางอีกเลย… เพราะนางก็เป็นผู้สูญเสียเช่นเดียวกัน”

แต่เนโรไม่สามารถพยักหน้ารับได้ …ยังห้ามตัวเองไม่ให้โกรธเกลียดนัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไปไม่ได้…

เฮเลน่าถอนใจเฮือก ยกมือไร้เรี่ยวแรงบีบไปที่จมูกของเขาเบา ๆ เหมือนที่เคยทำอยู่บ่อย ๆ ก่อนจะทำเสียงดุ

“ท่านนี่นะ… แก่แล้วยังเจ้าคิดเจ้าแค้นอีก… เอาไว้ท่านได้พบหน้านางก่อนเถอะ แล้วท่านจะเข้าใจว่าทำไมข้าถึงได้ขอร้องท่านแบบนี้ …อย่างน้อยก็ช่วยเก็บเอาไปพิจารณาด้วยเถอะนะ… คิดเสียว่าเป็นคำขอร้องสุดท้ายของข้า…”

คราวนี้เนโรส่ายหน้าอย่างดื้อดึง ส่งเสียงห้วน

“ไม่ ! ไม่ใช่คำขอร้องสุดท้ายของเจ้า ! เจ้าจะขอร้องข้าอีกมากเท่าไหร่ก็ย่อมได้ ข้าจะฟังทุกอย่าง ไม่ว่าเจ้าอยากได้อะไรข้าก็จะไปหามาให้ …เจ้าขอมามาก ๆ ยิ่งดี…”

เฮเลน่าหัวเราะเสียงเบา มือแตะไปที่ข้างแก้มสากระคายของคู่หมั้น

“ถ้าอย่างนั้นช่วยจำไว้ว่าข้ารักใบหน้ายิ้มแย้มเจ้าเล่ห์ของท่านที่สุด… แล้วข้าก็ชอบตอนที่ท่านเอ็ดตะโรใส่ข้าด้วยนะจะบอกให้…”

ความหลังที่แสนวุ่นวายในความทรงจำทำให้เนโรยิ้มออกมาได้นิดหนึ่ง

“นัยน์ตาแห่งเทม่าบอกข้าว่าเจ้าหลงรักข้าเพราะข้าดุเจ้าเป็นคนแรก…”

เฮเลน่ายิ้มกว้าง นิ้วแตะไปที่หัวคิ้วของชายหนุ่ม

“ตอนโกรธท่านจะทำหน้าย่นนิด ๆ โดยเฉพาะตรงนี้… ดูหล่อสุดใจเลยรู้มั้ย ?”

เนโรหัวเราะออกมาเบา ๆ จับมือบางนั้นมาจูบหนัก ๆ ตรงกลางฝ่ามือ

“ไม่ว่าข้าทำหน้าอย่างไรก็หล่อทั้งนั้นล่ะ หรือเจ้าไม่เห็นด้วย ?”

เฮเลน่าแกล้งถอนใจเฮือก

“หลงตัวเองไม่เลิกเลยนะคู่หมั้นข้า …เนื้อหอมเสียจนข้าต้องออกไปป่าวประกาศให้แม่พวกสาว ๆ ของท่านรู้ว่าท่านมีเจ้าของแล้วน่ะ…”

เนโรกระชับอ้อมแขนแน่นเข้าอีกนิดอย่างอ่อนโยน ราวกับกลัวคนในอ้อมแขนจะแตกสลายลงไปตรงนั้น

“ข้าชอบที่เจ้าประกาศออกมาดัง ๆ …ข้าชอบที่สุดที่เจ้าคอยบอกรักข้าทุกวัน…”

ดวงตาสีรัตติกาลที่สบตาเขาอยู่มีแววจริงจังอย่างน่าประหลาด

“อย่าเปลี่ยนตัวเองเพราะข้านะเนโร …ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามข้าจะอยู่เคียงข้างท่านเสมอ รอคอยที่จะได้เห็นท่านมีความสุข เฝ้ามองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของท่าน คอยฟังเสียงหัวเราะของท่านตลอดไป …แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง… ท่านจะได้พบใครอีกคนที่จะอยู่กับท่าน เคียงข้างท่านแบบที่ข้าทำไม่ได้ ข้าอยากให้ท่านฉวยโอกาสนั้นเอาไว้ คว้านางเอาไว้ในอ้อมแขนของท่านให้แน่นที่สุด…”

เนโรยิ้มหม่น ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธในสิ่งที่เขายังไม่อาจจะตอบได้ …เพราะเขารู้ดีว่าชาวเทม่าอย่างเฮเลน่าจะรู้ทันทีว่าเขาโกหกหรือไม่ …และเขาจะไม่โกหกเธอเด็ดขาด !

“ง่วงเหลือเกิน…”

เสียงแผ่วเบาของคนในอ้อมแขนบ่นให้ได้ยิน …เนโรจึงดึงผ้าห่มให้คลุมเธอแน่นกว่าเดิม ก่อนจะพูดเบา ๆ อย่างอ่อนหวาน

“ง่วงก็หลับเถอะเฮเลน่า… แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมปลุกข้าเหมือนเดิมด้วยล่ะยายจอมป่วนของข้า…”

ริมฝีปากบางก้มลงไปจุมพิตราตรีสวัสดิ์แผ่วเบาแก่คนในอ้อมแขนเฉกที่ทำอยู่ทุกวัน เฝ้ามองดวงตาที่เคยเป็นสีฟ้าใสค่อย ๆ หลับลงไปอย่างแช่มช้า เสียงหายใจแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะตกอยู่ในความเงียบงัน…


เฮเลน่าไม่ลืมตาขึ้นมาอีกเลย… เนโรยืนกรานให้ฝังร่างของเธอเอาไว้ที่นี่ ใกล้กับก้อนหินใหญ่ที่เขาและเธอได้อยู่ร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย

อาเทล…นัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไปเดินทางมาร่วมในงานศพของเฮเลน่า และเนโรก็ได้เห็นคนที่เฮเลน่าฝากฝังไว้กับเขาเป็นครั้งแรก

ฝาแฝด !

ใบหน้าที่กำลังหลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้านั้นเป็นพิมพ์เดียวกันกับเฮเลน่าของเขาทุกประการ ! แต่ในดวงตาของสตรีผู้นั้นไม่มีเงาของเขาอยู่ ที่ฝังแน่นตราตรึงเป็นเพียงความเศร้าเสียใจอันลึกล้ำเฉกเดียวกับที่เนโรมองเห็นในดวงตาของตนเอง…


“เฮเลน่ากับอาเทลเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน… ข้ามองเห็นมานานแล้วว่าหนึ่งในสองจะก้าวขึ้นมาเป็นนัยน์ตาแห่งเทม่าคนต่อไป… ทันทีที่ผ่านพิธีชำระวิญญาณดวงดาวของอาเทลก็ค่อย ๆ เจิดจ้า ขณะที่ของเฮเลน่ากลับหรี่ลงทีละน้อย …พวกนางเป็นครึ่งหนึ่งของกันและกัน อำนาจของนัยน์ตาแห่งเทม่าจะสมบูรณ์พร้อมก็ต่อเมื่อครึ่งหนึ่งรวมเข้ากับอีกครึ่งหนึ่งเท่านั้น…”

ถ้อยคำสุดท้ายของนัยน์ตาแห่งเทม่าคนปัจจุบันยังคงฝังอยู่ในความทรงจำของเนโรไปนานแสนนาน

หลายปีเหลือเกินกว่าที่เขาจะทำใจได้…

และอีกนานกว่าที่เขาจะยอมก้าวเข้าไปเป็นเพื่อนกับอาเทล…แฝดผู้น้องของเฮเลน่า

แต่เนโรก็ยังคงจำเสียงกระซิบขอร้องของเธอได้เป็นอย่างดี…


‘อย่าเปลี่ยนตัวเองเพราะข้านะเนโร …ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามข้าจะอยู่เคียงข้างท่านเสมอ รอคอยที่จะได้เห็นท่านมีความสุข เฝ้ามองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของท่าน คอยฟังเสียงหัวเราะของท่านตลอดไป …แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง… ท่านจะได้พบใครอีกคนที่จะอยู่กับท่าน เคียงข้างท่านแบบที่ข้าทำไม่ได้ ข้าอยากให้ท่านฉวยโอกาสนั้นเอาไว้ คว้านางเอาไว้ในอ้อมแขนของท่านให้แน่นที่สุด…’

ทุกครั้งที่เขายิ้ม… ทุกครั้งที่เขาหัวเราะ…

เนโรจะมองเห็นใบหน้าเปี่ยมสุขของเฮเลน่าเสมอ…

รักของเธอยังคงอยู่เคียงข้างเขา…

และเธอก็ยังคงอยู่ในใจของเขาไม่มีวันลืม…



คืนนี้แม้มืดมิด แต่ความรักยังเรืองรอง

คนรักผู้เศร้าหมอง โปรดจงมองฟ้าเบื้องบน

มีรักแท้ในฟ้ากว้าง เวิ้งว้างมืดมน

มีฉัน ในรัตติกาล

คืนนี้ความสับสน เข้าเหนี่ยวรั้งในใจเธอ

ความหลัง ยังพร่ำเพ้อ ไม่ให้เธอคิดรักใคร

มีฉัน มีวันเก่า เหนี่ยวรั้ง หัวใจ

มองฉัน ฟังฉันให้ดี

ไปเถอะไป พรุ่งนี้รอเธออยู่

อย่าปล่อยให้รัตติกาลแห่งรัก คลุมครอบงำทุกอย่าง

อย่าให้ขัดขวาง เส้นทางที่ดี

ปลดปล่อยความรักบินไปยังดินแดนของพรุ่งนี้

อยากให้เธอคนดี ได้มีความสุขอีกครั้ง

คืนนี้ แม้มืดมิด แต่ความรักยังเรืองรอง

คนรัก ผู้เศร้าหมอง โปรดจงมองฟ้าเบื้องบน

ความรักแท้คือการให้ เคียงข้างใจคน

ไม่รั้ง ไม่ขวาง หัวใจ

ไปเถอะไป พรุ่งนี้รอเธออยู่….


(เพลง รัตติกาล ประกอบละครเพลงอ้อมแขนที่ว่างเปล่า ของธงไชย แมคอินไตย์)



>>> FIN <<<




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2548
21 comments
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2548 2:16:03 น.
Counter : 1171 Pageviews.

 

อ่า... ขออนุญาตลงคำตามสักนิดหน่อยค่ะ

ปกติแล้วเวลาเขียนเรื่องไม่ค่อยเอาเพลงเข้ามายุ่งด้วย แต่คราวนี้อดไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าเพลงนี้เหมาะจะเป็น theme ของเรื่องจริง ๆ แต่จะเอาไปแทรกไว้ก็ไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่ มันขัดจังหวะอารมณ์ไปหน่อย เลยเอามาแนบไว้ท้ายเรื่องน่ะค่ะ

หวังว่าท่านที่เข้ามาอ่านจะมีความสุขรับวันแห่งความรักปีนี้โดยทั่วหน้านะคะ ^^

ปล. อย่าลืมลงชื่อกันไว้ด้วยเน้อ หุหุ แถม comment ด้วยยิ่งดีเลยค่า

 

โดย: noOne (noOne ) 13 กุมภาพันธ์ 2548 22:32:31 น.  

 

อ่านไป น้ำตาไหลซึม...

...อิจฉาเนโรที่มีคนนำความรักมาให้ อิจฉาเฮเลน่าที่ได้รับรักตอบแทนจากชายในฝัน...

ขอบคุณคนเขียนที่นำเรื่องหวานปนเศร้าของคุณเสือหล่อสมัยยังหนุ่มมาให้อ่านเพื่อกระตุ้นต่อมอิจฉาและต่อมน้ำตาค่ะ

ขอลาไปนอนร้องไห้ให้กับความรักครั้งแรกของคุณเนโรก่อนนะคะ (แล้ว...เอ่อ... ความรักครั้งที่สอง สาม สี่ และจุดจุดจุด ของคุณเนโรจะถูกนำมาเปิดเผยหรือเปล่าคะเนี่ย? เหอ เหอ เหอ...)

ขอจันทร์เสี้ยวคืนนี้คุ้มครองหัวใจของคุณ noOne ให้สดใสเช่นกุหลาบหลากสีที่เบ่งบานรับแสงอรุณด้วยนะคะ @^__^@

 

โดย: หมูหน้าเป็นเจ้าเก่าอีกแล้วครับท่าน IP: 202.5.84.92 13 กุมภาพันธ์ 2548 22:57:20 น.  

 

T-T เศร้าจังเลยค่ะ สงสารเนโร แบบนี้นี่เองเนโรถึงได้ดูแลเอลซ่าอย่างดี

 

โดย: JingleJ IP: 62.254.0.56 13 กุมภาพันธ์ 2548 23:13:29 น.  

 

โธ่ เนโร น่าสงสารจริงๆ แต่ว่าจะรับคนดามใจไหมจ๊ะ อิๆ ^^ ดูเหมือนฉานจะอารมณ์แปลกๆน้า

 

โดย: กาญจน์ฏี IP: 203.145.12.174 14 กุมภาพันธ์ 2548 0:32:49 น.  

 

ทั้งหวานทั้งเศร้า
ทำเอาน้ำตาซึม งือ
อยากจะต่อว่าคนแต่งใจร้าย
ก็ทำไม่ลง

โอ..วันแห่งความรักที่แสนเศร้า!

 

โดย: GTW IP: 202.47.247.130 14 กุมภาพันธ์ 2548 10:55:14 น.  

 

ตามมาอ่านจาก jj ค่ะ
เขียนได้ดีจังเลยค่ะ ซึ้งเชียวแต่เศร้าอ่ะ
ว่าแต่...สงสัยจัง เรื่องนี้เป็นรักแรกของเนโรแล้วเป็นรักครั้งสุดท้ายด้วยหรือเปล่าเอ่ย (คิดว่า...ไม่น่าจะใช่นะ อิอิ)

 

โดย: แมวแก่ IP: 203.146.186.2 14 กุมภาพันธ์ 2548 13:20:50 น.  

 

ซึ้งใจจริงๆๆ

ถึงว่าล่ะ ถึงได้เอ็นดูเอลซ่า
เพราะงี้นี่เอง

 

โดย: Bz IP: 202.176.101.244 14 กุมภาพันธ์ 2548 20:18:04 น.  

 

ตามมาอ่านค่ะ ซึ้งจัง
มิน่าเชื่อว่าตาเนโรจะเป็นเช่นนี้กะเขาได้ด้วย
หุๆ

 

โดย: นกยูง IP: 161.200.255.163 15 กุมภาพันธ์ 2548 9:54:18 น.  

 

สงสารเนโรจังเลยค่ะ แต่ยังไงก็หวังว่าจะได้พบรักใหม่นะคะ

 

โดย: mooojeab IP: 203.172.125.66 15 กุมภาพันธ์ 2548 13:16:27 น.  

 

อืม...ซึ้งดีค่ะ แล้วก็คิดว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นคนที่โชคดี ถึงแม้จะบอกว่าต้องพบกับการพลัดพราก แต่ก็เป็นคนที่ได้มีความรักและได้รับความรักตอบ เพราะคิดว่าชั่วชีวิตของคนๆหนึ่งอาจจะไม่ได้เจอความรัก(แบบคนรัก)เลยแม้เพียงซักครั้ง

 

โดย: k-14 IP: 61.19.32.119 15 กุมภาพันธ์ 2548 14:35:14 น.  

 

คุณหมูหน้าเป็น : ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ ส่วนความรักครั้งที่สองสามสี่.... จะมีหรือไม่ ขึ้นกับคนอ่านรีเควส์แล้วค่ะงานนี้

คุณ JingleJ : แหะแหะ รักแรกอ่ะนะคะ ต้องเศร้าหน่อย ประเดี๋ยวคนเขียนจะแต่งรักสุดท้ายไม่ได้อ่ะสิ ^^

คุณแคทจ๋า : อารมณ์เธอมันแปลก ๆ จริง ๆ ด้วย ตกลงเศร้าหรือว่าสะใจเนี่ย กะรับดามอกเลยเรอะ

อาจารย์จี : ข้าพเจ้าน้อมรับความผิดไว้เพียงแต่ผู้เดียวค่ะ หุหุ (แอบโหดเล็ก ๆ)

คุณแมวแก่ : รับรองว่าไม่ใช่รักสุดท้ายแน่ค่ะ เนโรอายุยืนออก เดี๋ยวจะหาสาวมาดามอกให้ (เห็นยืนต่อแถวเรียงกันอยู่เพียบเลย)

น้อง Bz : ช่ายแล้วจ้ะ เนโรกับเอลซ่าถึงถูกชะตากันไงจ้ะ

คุณนกยูง : ก็ต้องแอบหวานกันบ้างล่ะค่ะ แต่ก็หวานสไตล์เนโรแล้วน๊า (ออกจะเป็นหนุ่มปากเสียที่แสนจะอ่อนโยนนี่นา... ยกเว้นตอนโกรธเน้อ)

คุณ mooojeab : รักครั้งใหม่ของเนโรคงต้องรอเปลวไฟฯ จบก่อนล่ะค่ะ ถ้ามีรีเควสต์มาเยอะ ก็จะเขียนต่อเน้อ

 

โดย: noOne (noOne ) 15 กุมภาพันธ์ 2548 14:36:57 น.  

 

ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ เศร้าจังเลยค่ะทำให้เฮเลน่าฟื้นขึ้นมาอีกไม่ได้เหรอคะ น่าสงสารเนโรจังเลย

 

โดย: Muk IP: 203.150.217.115 15 กุมภาพันธ์ 2548 18:43:26 น.  

 

อ่า...ขอน้ำตาลค่ะ ไม่ใช่น้ำผึ้งผสมยาพิษ

ตอนนี้เข้าใจเนโรมากขึ้น คนที่อายุยืนนี่ก็ใช่ว่าจะดี เพราะต้องมารับรู้ความตายของคนใกล้ัตัว คนอื่นจากไปแต่เราก็ยังอยู่ เศร้า

 

โดย: Auntie DEE IP: 220.96.48.38 15 กุมภาพันธ์ 2548 19:19:26 น.  

 

กลับมาอ่านอีกรอบเพราะชอบมาก (ออกจะโรคจิตอยู่หน่อย ๆ มังคะ ชอบเห็นคนรักจากกัน???)


อ่ะฮ้า! เปิดช่องแบบนี้ ต้องรีบรีเควสต์เรื่อง "รักครั้งใหม่ของนายเสือหล่อ" เสียแล้วค่า เขียนมาเลยฮับ จะแห้วอีกกี่รอบก็จะตามอ่าน (ดีออก ให้แห้วบ่อย ๆ จะได้มีเรื่องอ่านเยอะ ๆ ขืนให้สุขสมอารมณ์หมายเก๊าะไม่ได้ลุ้นแล้วนิ อิอิอิ...) รับรองว่าจะสมทบทุนบริจาคเงินบริหารไร่แห้วให้คุณเนโรทุกรอบเลยค่ะ (โรคจิตจริง ๆ แฮะเรา)


ปล. เห็นด้วยกับคุณ Auntie DEE ฮับ ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเห็นคนที่รู้จักและรักจากไปมากขึ้นเท่านั้น ฮือฮือฮือ...

 

โดย: หมูหน้าเป็น (แวะมาอีกรอบครับท่าน) IP: 202.57.157.27 15 กุมภาพันธ์ 2548 21:18:58 น.  

 

นึกไว้ว่าจะเป็นรักหวานแหวว ..

แต่พอได้มาอ่านแล้วเศร้ามากกว่าจะหวานนะเนี่ย .. แต่พร่างชอบค่ะ หุหุ ชอบแบบเศร้าๆมากกว่าหวานๆ แหะๆ ..

เนโรที่รักจ๋า ..

มามาะเด๋วจะช่วยดามอกให้ ..

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ .. พูดได้คำเดียวว่าชอบมากกก เลิศจริงๆ :)

 

โดย: พร่างพราว IP: 213.112.233.232 20 กุมภาพันธ์ 2548 20:09:29 น.  

 

T________T เศร้าจังค่ะ การที่ต้องมองดูคนที่รักจากเราไปเนี่ย มันเศร้ามากๆเลย

 

โดย: blvan IP: 61.91.80.191 27 กุมภาพันธ์ 2548 15:16:12 น.  

 

ร้องไห้เลย แต่ชอบอ่านเรื่องแบบนี้นะ มันให้ความรุ้สึกว่า ยังมีความรักที่จริงใจและมั่นคงอยู่ในโลกนี้อีก

 

โดย: หนมผิง IP: 203.144.181.245 1 มีนาคม 2548 14:12:29 น.  

 

โอย น้ำตาไหลพรากจริง ๆ เลยนะเนี่ย

ตื้นตันมามาก ๆ ตอนอ่านตอนแรกแล้วก็ยิ่งท่วมพ้นทวีในตอนนี้

เราพบกันไม่ใช่เพื่อที่จะจากกัน แต่เพื่อจะมีใครสักคนในความทรงจำนะคะ

ฮือ ชอบตรงที่บอกว่า ทำให้ได้รู้สึกว่าถูกรัก จังค่ะ

อย่างไรก็ตาม คุณ noOne ยังคงแนวการผูกเรื่องที่ลึกซึ้งชวนติดตามเป็นเอกลักษณ์จริง ๆ ค่ะ

 

โดย: หมาเลี้ยงแกะ 11 มิถุนายน 2549 1:59:47 น.  

 

หนุกหนานมากๆ แต่แบบนี้แปลว่ารักสุดท้ายก๊อยังไม่โผล่เหรอคะ... (เหะๆ จิงๆแอบลุ้นไห้เปนน้องเฟรย์อ้ะ... ก็เค้าอยากได้เนโรเปนพระเอก)

 

โดย: sai IP: 125.24.223.210 14 เมษายน 2550 23:33:56 น.  

 

ตอนแรกที่อ่านคิดว่าท่านจอมพลจะชอบเอลซ่าซะแล้ว เพราะท่านจอมพลแอบชอบแม่ของเอลซ่าอะคะ

 

โดย: นิวส์ IP: 124.121.142.168 10 ธันวาคม 2553 18:18:43 น.  

 

อยากถามคุณ noone อะคะ ว่า
ท่าจอมพลตายแล้วไปไหนอะคะ
อยาให้มีภาคต่อ ตอนที่ท่านจอมพลเจอแม่ของเอลซ่าอะคะ

 

โดย: นิวส์ IP: 124.121.142.168 10 ธันวาคม 2553 18:23:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


noOne
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แก้ไขระบบคอมพิวเตอร์เป็นงานหลัก
เขียนนิยายเป็นงานอดิเรกค่า
ชอบเล่นเกมส์ และอ่านหนังสือ
ว่าง ๆ ใครชอบไฟนอลแฟนตาซีแวะมาคุยกันได้ค่า
Friends' blogs
[Add noOne's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.