ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่1) กำหนด คณะรักษาความสบแห่งชาติ (คสช.) ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เกิน21มาทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ มีมติไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป แม้บทบัญญัติจะกำหนดกรอบเวลาให้แต่งตั้งให้เสร็จ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่6กันยายน แต่จนถึง ณ วันนี้ ยังไม่เห็นวี่แววตัวบุคคลที่จะเข้ารับหน้าที่
ทำให้ถูกประเมินจาก นักการเมือง-นักวิชาการงานการเมืองว่า เป็นงานยากที่จะมีบุคคลเข้ารับงานนี้ แม้เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องปรับ..ไม่ใช่ของยาก เพราะสาระหลักตามมาตรา35ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ2557ได้ถูกออกแบบให้เดินตาม แต่เนื่องด้วยสภาพแวดล้อม-ปัจจัยทางการเมือง-ความขัดแย้ง-มั่นคง-ความต้องการบางอย่างของ คณะคสช. ทำให้ผู้รับงาน ต้องคิดหนัก ว่า จะทำงานอย่างไรภายใต้ความไม่มีอิสระ เพราะตกอยู่ใต้คำบัญชาของผู้จ่ายงาน ความกดดันจากสังคมรอบข้างที่จับตา ประกอบกับต้องใช้เทคนิคประกอบองคาพยพข้างต้นและตอบโจทย์ความต้องการอย่างครบสมบูรณ์
ดังนั้นงานRenovate ร่างรัฐธรรมนูญรอบนี้ ระดับความยากยิ่งกว่าฉบับไหน!
หากตั้งต้นตั้งคำถามว่า ใจท่านผู้นำอยากได้รัฐธรรมนูญแบบไหน? คำตอบที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. พูดไว้ คือ ต้องแก้ปัญหาประเทศในอนาคตได้ รักษาบ้านเมืองให้สงบในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ทำให้ประเทศเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนและรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ควรเขียนยาวหลายมาตรา เรื่องเสรีภาพเต็มที่ ก็ตีอยู่อย่างนี้ ในต่างประเทศกว่าจะมั่นคงได้ตีกันมาเยอะกว่าเรา ตายเยอะกว่านี้ จะเอาแบบนั้นไหม
สะท้อนให้เห็นความต้องการเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ใน3ประเด็น คือ1.แก้ปัญหาในอนาคตให้สำเร็จ2.รักษาความสงบของบ้านเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน และ3.กำหนดขอบเขตเสรีภาพ เพื่อกันถูกใช้เป็นเครื่องมือมาทะเลาะ
ใน2ข้อแรก ถือเป็นเรื่องแห่งอนาคต ดังนั้นกติกาที่กำหนดอาจเป็นหลักการ-แนวทางกำกับที่จะสร้างต้องอาศัยการคาดเดาอ้างอิงกับประวัติศาสตร์ ซึ่งในร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่เขียนโดยคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ชุด ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ได้ออกแบบกลไกแก้ปัญหาในอนาคต โดยนำประสบการณ์อดีตมาเป็นฐานวิเคราะห์ และคลอดออกมาเป็น17มาตรา อาทิมาตรการกันนักการเมืองโกงเข้าสู่ระบบการเมือง-ตรวจเข้มนโยบายประชานิยมที่สร้างปัญหาทางการคลัง,มาตรการป้องกันไม่ให้รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภาฯ ลุแก่อำนาจ,มาตรการกำเนิดคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติเพื่อกำกับการปฏิรูปประเทศหลังมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง และมีอำนาจสำหรับแก้วิกฤตการเมืองที่อำนาจปกติทำไม่สำเร็จเพื่อรักษาความสงบของประเทศในช่วงประชาธิปไตยเปลี่ยนผ่าน ระยะ5ปีรวมถึงออกแบบกลไกปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างฐานรากประเทศให้เข้มแข็ง
ว่าไปแล้ว เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญได้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปกครองประเทศอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร หากจำได้ในช่วงปรับแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญดร.บวรศักดิ์ ได้แก้ไขถ้อยคำ-บทบัญญัติตามข้อเสนอแนะที่ได้จากคณะรัฐมนตรี แต่ท้ายสุดร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปยังไม่ได้รับการสนับสนุน
สาเหตุหลักตามการวิเคราะห์จากอดีตผู้นำสภาปฏิรูปฯ คือ การเล่นเกมการเมืองมากไป และยอมเกียเซี๊ยะกับผู้แสวงหาประโยชน์และอำนาจทางการเมือง ที่สะท้อนความเห็นว่าไม่ชอบใจในบางบทบัญญัติ อาทิ ให้มีนายกฯ ที่ไม่เป็นส.ส.- ระบบเลือกตั้งสัดส่วนผสม และพยายามชี้ว่าเป็นจุดทำลายความเข้มแข็งของสถาบันการเมือง-มีส.ว.มาจากการเลือกตั้งและสรรหา-ลดอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของส.ว. และ มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ เป็นคณะบุคคลที่อำนาจกำกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและใช้ประเด็นปลุกเร้าสถานการณ์ขัดแย้ง จน คสช. ต้องยอมแก้โร้ดแม็พ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าพร้อมกับเอาใจ
ในท้ายสุดมีผู้วิเคราะห์ระดับแกนนำสปช.บอกไว้ว่า เมื่อควันไฟและผงฝุ่นจางหาย เป้าหมายของการปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ถูกต่อรองกันไว้ จะถูกปรับเรื่องที่กระทบต่อนักการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร แลกกับการปรับระบบการเมืองในวุฒิสภาพร้อมขอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯมีอยู่เพื่อทำหน้าที่สำคัญบางอย่าง ส่วนสิทธิและเสรีภาพของประชาชนจะถูกลดบ้างตามสมควร
ดังนั้นการปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญรอบนี้ คสช.และพวกพ้องอาจพอใจ แต่สำหรับประชาชนแล้ว เขาจะได้อะไร?/จบ
..................................................................................................................................