<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
3 มิถุนายน 2558
 

น่าศึกษา "ท.ทหาร"เมืองไทยชอบขี่บนหลังเสือคะ

                                น่าศึกษา "ท.ทหาร"เมืองไทยชอบขี่บนหลังเสือคะ

                                                                                      เตือนใจ เจริญพงษ์

วันนี้ขอนำเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยที่ได้อ่านมาเล่าสู่กันฟัง
และเก็บไว้เป็นข้อมูล สนับสนุนเรื่องราวต่างๆ
ที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ในบรรยากาศการเมืองไทย
ประเภท ลับ..ลวง...พลาง
เราได้ยินเพลงมาร์ช มีโฆษกอ่านแถลงการณ์
ประกาศยึดอำนาจกัน
พอเวลาผ่านไปก็เกิดการเมามันในอำนาจ
บางสมัยก็คอร์รัปชั่นเสียเอง
ส่วนหนึ่งนำพาการพัฒนาประเทศไปแบบลุ่มๆดอนดอน
เพราะฝีมือไม่ถึง ทำความเสียหายให้กับบ้านเมืองหลายเรื่อง
แนวนี้คงได้แค่...ความมั่นคง
เพราะกฎเหล็กเยอะ มาสมัยปัจจบัน 
บิ๊กตู่...ต้องเป็นคนดีนะคะ
อย่าทำเสียของเชียวล่ะ
เนื้อหาบรรดาเสือๆมีดังนี้คะ




พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์


ขึ้นหลังเสื่อ: พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์

นายกรัฐมนตรีคนที่ 15 เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 

หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินภายใต้ 

การนำของ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. พ.ศ.2520 

โดยได้ทำการรัฐประหารรัฐบาลของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร

ลงหลังเสือ: พล.อ.เกรียงศักดิ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

โดยแถลงกลางสภาฯ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 

อันมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่รัฐบาลตัดสินใจเพิ่มราคาค่าน้ำมัน

ตามราคาตลาดโลก


พล.อ.สุจินดา คราประยูร

ขึ้นหลังเสื่อ: พล.อ.สุจินดา คราประยูร

นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 เป็นบุคคลสำคัญ

ในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ 

ที่เข้ายึดอำนาจการปกครองจากพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ 

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 จนกระทั่งหลังการเลือกตั้งทั่วไป

ในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 พรรคการเมือง 5 พรรค คือ 

พรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติไทย พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทย 

และพรรคราษฎร ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลและสนับสนุน

ให้พล.อ. สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี


ลงหลังเสือ: เกิดเหตุการณ์"พฤษภาทมิฬ" ขึ้น

ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม-20 พฤษภาคม พ.ศ.2535 

พล.อ.สุจินดา จึงลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2535



พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

ขึ้นหลังเสื่อ: พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก่อรัฐประหาร 

ยึดอำนาจการปกครองของ รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 

ซึ่งเกิดขึ้นก่อนจะมีการเลือกตั้งเดือนหน้า 

และอยู่ระหว่างการประชุมสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549

ลงหลังเสือ: หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว 

พล.อ.สนธิ ได้เปลี่ยนตำแหน่งจากหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครอง

ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

ไปเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

และพ้นจากตำแหน่งหลังประกาศใช้ รธน.ปี 2550



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขึ้นหลังเสื่อ: พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในขณะนั้น 

และเป็นผู้นำประกาศกฎอัยการศึก 

จากนั้นทำการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 

ต่อมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงมติเห็นชอบเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทย

ลงหลังเสือ: ?/จบ

มติชนรายวัน 2 มิย.2558

....................................................................................................

จุดจบ"นายพล"บนถนนการเมือง 

ถูกยึดอำนาจ-ลี้ภัย-ไปตายต่างประเทศ


มติชน : 11 มิย.2558


เสียงหนุน แรงต้าน ....

แนวคิดการต่อวีซ่าอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ยืดโรดแมป ออกไปเพื่อปฏิรูปให้เสด็จน้ำก่อนเลือกตั้งไปอีก 2 ปี 

มีไม่ต่างกัน เห็นได้จากเสียงสะท้อนจากสำนักดุสิตโพล 

ระบุว่าร้อยละ 76.94% อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศไปก่อน 

และเห็นว่า 2 ปี ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป

//www.matichon.co.th/online/2015/06/14340078431434007856l.jpg

ฝั่ง...สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 
ต้นเสียงการเชียร์ให้ผู้นำขยายโรดแมป ก็ประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง 
นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน

ฟากนักการเมืองที่แสดงตัวในที่แจ้งชัดเจน 
เช่น จาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ และแกนนำพรรคเพื่อไทย 
เตือนว่า อาจกลายเป็นการเสพติดอำนาจ

แม้ทางลงจากอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ชัดเจน 
แต่ตามประวัติศาสตร์การเมือง 
ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 
จนวันนี้ 83 ปี มีทหารที่ขึ้นเป็นนายกฯ ทั้งมาจากการยึดอำนาจ 
และผ่านการเลือกตั้ง มีทั้งสิ้น 11 คน ล้วนมีเส้นทางเข้าสู่อำนาจ
และลงจากอำนาจต่างกันดังนี้

1.พ.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา
เป็น 1 ใน 4 ทหารเสือคณะราษฎร ที่นำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 
ได้เป็นนายกรัฐมนตรี 5 ปี 
ตั้งแต่ 21 มิ.ย. 2476 ถึง 21 ธ.ค. 2481 
หลังยึดอำนาจรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา 
ต่อมา พ.อ.พระยาพหลฯตัดสินใจยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ 
เพราะพ่ายแพ้มติเรื่องพิจารณาระเบียบงบประมาณเมื่อเดือนกันยายน 2481 
ก่อนจะตัดสินใจไม่รับตำแหน่งหลังการเลือกตั้ง 
ทำให้จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎร
ให้เป็นนายกฯแทน
หลังยุติบทบาททางการเมือง เขาถึงแก่อสัญกรรม 
ในปี 2490 ครอบครัวไม่มีเงินพอจัดงานศพ รัฐบาล พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ต้องเข้ามารับอุปถัมภ์

2.จอมพล ป. พิบูลสงคราม
เป็นนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 
เป็นนายกฯถึง 2 ช่วงเวลา 
ครั้งแรก ตั้งแต่ธันวาคม พ.ศ. 2481-1 สิงหาคม 2487 
เข้ามาแทน พ.อ.พระยาพหลฯ 
และครั้งที่ 2  ตั้งแต่ 8 เมษายน พ.ศ. 2491 แทนรัฐบาลควง อภัยวงศ์ 
ที่ถูกคณะยึดอำนาจ 2490 ให้ลุกออกจากตำแหน่ง ผ่านมา 9 ปี 
ในปี 2500 จอมพล ป.ตัดสินใจให้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก
ในรอบทศวรรษ แต่ถูกนักศึกษา ประชาชน ประท้วงว่าเป็นการเลือกตั้งสกปรก 
จนเป็นเหตุให้
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500
เขาลี้ภัยการเมืองโดยเดินทางไปยังกัมพูชา 
และไปจบชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2507

3.พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ส.ส.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าพรรคแนวรัฐธรรมนูญ ขึ้นเป็นนายกฯ 
เพราะปรีดี พนมยงค์ ไม่ขอรับตำแหน่งนายกฯ 
แม้ชนะเลือกตั้ง เมื่อ 5 สิงหาคม 2489 
เพราะเจอแรงกดดันกรณีสวรรคตรัชกาลที่ 8 
แต่นั่งเก้าอี้นายกฯได้เพียง 1 ปี 
ก็ถูกคณะรัฐประหาร 2490 ที่นำโดยจอมพลผิน ชุณหะวัณ 
เข้ายึดอำนาจ 8 พ.ย. 2490

4.หลังการยึดอำนาจจอมพล ป.สำเร็จ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2500 
จอมพลสฤษดิ์ได้ตั้งนายพจน์ สารสิน อดีต รมว.ต่างประเทศ 
นั่งเก้าอี้นายกฯ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งใหม่ ต่อมาได้เลือก
พล.ท.ถนอม กิตติขจร (ยศขณะนั้น) นั่งเก้าอี้นายกฯแทนอีกครั้ง 
ก่อนตัวเองจะขึ้นนั่งตำแหน่งนายกฯด้วยตนเอง ในวันที่ 9 ก.พ. 2502
จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ
เมื่อ 8 ธันวาคม 2506 แล้วเก้าอี้นายกฯก็ถูกส่งต่อให้
จอมพลถนอม กิตติขจร

หลังจอมพลสฤษดิ์อสัญกรรม 
จอมพลถนอมได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 17 ของรัฐธรรมนูญ 2507 
มีคำสั่งให้ทรัพย์สินกองมรดกของจอมพลสฤษดิ์ 
และทรัพย์สินในกองมรดกของท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ 
ให้ตกเป็นของรัฐ จำนวน 604,551,276.62 บาท 
เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนี้
มีผลเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร

5.จอมพลถนอม กิตติขจร

เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 
สืบทอดตำแหน่งนายกฯจากจอมพลสฤษดิ์ ตั้งแต่ 9 ธันวาคม 2506 
กระทั่งเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 
จนต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ และการกลับเข้าประเทศในปี 2519 
ด้วยการบวชเป็นสามเณร ก็เป็นเหตุให้นักศึกษา 
ประชาชนออกมาประท้วงขับไล่ จนนำไปสู่เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 
ทั้งนี้ ในปี 2516
หลังพ้นจากอำนาจ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี 
ใช้มาตรา 17 ยึดทรัพย์สินของจอมพลถนอมและพวก 
คือ จอมพลประภาส จารุเสถียร 
และพันเอกณรงค์ กิตติขจร 
รวมมูลค่า 400 กว่าล้านบาท ในปี 2517 
ฝ่ายจอมพลถนอมฟ้องศาล ต่อสู้เพื่อขอทรัพย์สินคืนแต่ไม่สำเร็จ

6.พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
เป็นนายกฯคนที่ 15 
ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร 
ซึ่งถูกคณะรัฐประหารเชิญให้ลงจากตำแหน่ง 
แต่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯกลางสภา 
เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2523 
จากกรณีที่รัฐบาลตัดสินใจเพิ่มราคาค่าน้ำมัน ตามราคาตลาดโลก 
ต่อมาได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติประชาธิปไตย 
ได้ส่งสมาชิกพรรคลงรับสมัครเลือกตั้ง 2 ครั้ง
คือในปี พ.ศ. 2526 และ พ.ศ. 2529 
แต่ศาลฎีกามีมติยุบพรรคชาติประชาธิปไตย
เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2532 
เนื่องจากไม่ส่งคนลงสมัคร ส.ส.

7.พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
นายกรัฐมนตรีคนที่ 16 
ต่อจากพลเอกเกรียงศักดิ์ เป็นนายกฯถึง 8 ปี 
โดยสภาเลือก พล.อ.เปรม แทนที่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ 
ที่ลาออกจากตำแหน่ง 
โดย พล.อ.เปรมเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2523 
และไม่เคยลงสนามเลือกตั้ง ทั้งที่มีการยุบสภาหลายครั้ง 
แต่ พล.อ.เปรมก็ได้รับเทียบเชิญจากพรรคแกนนำรัฐบาล..ให้ขึ้นเป็นนายกฯ
 อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2531 
พรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคชาติไทย 
พยายามเชิญให้กลับมาเป็นนายกฯสมัยที่ 4 
แต่ พล.อ.เปรมปฏิเสธว่า "ผมพอแล้ว"

8.พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 นำพรรคชาติไทยชนะการเลือกตั้ง 
แต่กลับถูกวิจารณ์เรื่องการทุจริต 
โดยได้รับฉายาว่า "บุฟเฟต์คาบิเนต" 
และเกิดความขัดแย้งระหว่างคนในรัฐบาลกับกองทัพ
กระทั่งนำไปสู่การยึดอำนาจ
โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) 
เมื่อ 23 ก.พ. 2534

9.พล.อ.สุจินดา คราประยูร

นายกฯคนที่ 19 
ผู้อยู่เบื้องหลัง รสช. เขาไม่ได้นั่งตำแหน่งนายกฯหลังยึดอำนาจ 
พล.อ.ชาติชาย แต่ขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกฯหลังมีการเลือกตั้ง 22 มี.ค. 2535 
จากการสนับสนุนของ 5 พรรคการเมือง 
คือ พรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติไทย พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทย 
และพรรคราษฎร ทั้งที่เคยประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่งนายกฯ 
จนเกิดการประท้วง และลาออกหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 
โดยอยู่ในอำนาจเพียง 47 วัน และยุติบทบาททางการเมือง

10.พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
ได้เป็นนายกฯคนที่ 22 
หลังนำพรรคความหวังใหม่ชนะเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์
แต่อยู่เพียง 1 ปีก็ต้องลาออกจากตำแหน่ง 
เพราะพิษเศรษฐกิจ 2540 หลังจากนั้น 
ได้ยุบรวมกับพรรคไทยรักไทย และรับตำแหน่งรองนายกฯ 
และ รมว.กลาโหม ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 
ช่วง 2544-2545 และเป็นรองนายกฯในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์

11.พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
เป็นนายกฯคนที่ 24 
จากการเชิญของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ลงจากอำนาจหลังจากมีรัฐบาลใหม่ 
คือ พรรคพลังประชาชน เมื่อปี 2551

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ทหารคนที่ 12 
เข้ายึดอำนาจเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 
แต่ยังไม่ลงจากตำแหน่ง

การลงจากอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์
จะเป็นอย่างไรต้องติดตามในอนาคต/จบ

....................................................................................................










Create Date : 03 มิถุนายน 2558
Last Update : 19 กันยายน 2558 3:38:28 น. 0 comments
Counter : 1390 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

justice0009
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add justice0009's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com