valkyrie : อย่างน้อยก็มีอีกหนึ่ง
valkyrie : อย่างน้อยก็มีอีกหนึ่ง
ได้มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้นานแล้วแต่ยังไม่ได้โอกาสพูดถึงสักที ไม่ค่อยได้มาดูบล็อก วันนี้เลยปลีกเวลามาได้ ผมชอบดูหนังที่เป็นประวัติศาสตร์ เวลาดูแล้วมันได้ความรู้ การนำเค้าโครงเหตุการณืที่เคยเกิดขึ้นจริงๆเอามาเขียนบทสร้างเป็นภาพยนตร์จึงค่อนข้างท้าทายของผู้สร้างนะผมว่า ว่าจะทำอย่างไงได้น่าสนใจเมื่อเอาเหตุการณ์มาเป้นภาพเคลื่อนไหลบทแผ่นฟิล์ม
นับตั้งแต่ฮิตเล่อร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีของเยอรมันนี เมื่อ 30 มกราคม 1934 ก็มีการสั่งฆ่าผู้นำกองกำลัง saและศัตรูการเมื่อคนอื่นๆ 18 สิงหาคม 1938 หัวหน้ากลุ้มนายพลทหารลุดวิท เบ็ค(ทอเรนซ์ แสตมป์) ลาออกจากราชการเพื่อประท้วงฮิลเลอร์ในการในความรุนแรงในทางทหารแล้วในวันที่ 9 พฤศจิกายน 1938 ก็เกิดเหตุการณ์คืนแห่งผลึก (kristallnacht) ที่ชาวยิวในเยอรมันนีถูกประทุษร้ายอย่างรุนแรงทั่วทั้งประเทศ
1 กันยายน 1938 สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อุบัติขึ้นเมื่อเยอรมันนียกกองทัพบุกโปแลนด์ กองทัพเยอรมันนีในขณะนั้นได้ชื่อว่ามีศักยภาพสูงของโลก ได้สร้างความหวาดเกรงให้กันประเทศต่างๆในยุโรป
24 มกราคม 1943 ประธานาธิปดีแฟรงคลิน ดีรูสเสท์ และนายพลวินสตัน เชอร์ชิล เรียกร้องให้เยอรมันนียอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่ว่ากองทัพเยอรมันนีที่มีนายทหารที่ได้เคยกล่าวปฎิญาณต่อหน้าที่ว่าจะต่อสู้รับใช้ประเทศชาติ จงรักภักดีต่อผู้นำฮิตเล่อร์ ไม่ทรยศหักหลัง กำลังเผชิญภาวะที่ต้องเชื่อฟังผู้นำการรักษาสัจจะ แต่หากว่าคำสั่งที่ทหารต้องปฏิบัติตามเกิดไม่ชอบธรรมขัดต่อความรู้สึกศีลธรรมตามธรรมชาติ ล่ะเขาเหล่านั้นจะต้องปฏิบัติตามหรือว่ากระนั้นหรือ
ความคิดดังกล่าวจึงเป็นต้นกำเนิดของทหารกลุ่มหนึ่งทีเกิดควมคิดดังกล่าว นายพันเอกเคล้าส์ ฟอน สเต๊าฟ์เฟนแบร์ก (ทอม ครูซ) เป็นข้าราชการทหารผู้องอาจ และสาบานตนรับใช้ประเทศยิ่งชีพ ทั้งยังหวังให้ใครสักคนเข้ามายุติความบ้าระห่ำของฮิตเลอร์ (David Bamber) ก่อนที่ทั้งทวีปยุโรป และประเทศเยอรมันนี เองจะถูกทำลายย่อยยับ เพราะเขาประเมินแล้วว่าต่อไปเยอรมันนีคงต้านทานแรงรวมกำลังของอังกฤษและอเมริกา และก็เริ่มมีแววส่องเค้าแห่งการพ่ายแพ้ในอนาคตข้างหน้า
เมื่อ สเต๊าฟ์เฟนแบร์ก ตระหนักแล้วว่า เวลาช่างเหลือน้อยลงทุกที ก็จึงตัดสินใจลงมือปฏิบัติการอุกอาจด้วยตนเอง และร่วมกับกองกำลังชาวเยอรมันนี ที่กระจายตัวในหน่วยงานและฐานกำลังในส่วนต่างๆผู้ต่อต้านการปกครองของกองทัพนาซี เขาอาศัยจังหวะที่มีการประกาศใช้แผนฉุกเฉินของฮิตเล่อร์ เองที่เรียกขานกันว่า ปฏิบัติการวัลคีรี่ ผู้ร่วมก่อการกองกำลังของพวกเขานี้ มุ่งวางแผนลอบสังหารผู้นำจอมเผด็จการและโค่นล้มรัฐบาลนาซีของเขาจากวงในหลังจากการลอลสังหารเสร็จ เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่คาดหวังไว้ ชะตากรรมของผู้ต่อต้านหากไม่สำเร็จ ผลสุดท้ายคงไม่ต้องเดาว่าจะจบแบบใด ผู้ที่ปฏิบัติการคิดคำนึงถึงชะตากรรมกของผู้คนนับล้านที่ต้องเผชิญกระการกระทำของฮิตเลอร์
จากการดูหนังของผมเรื่องนี้ทำให้รู้ว่ามีคนเยอรมันนีไม่เห็นด้วยกับความคิดของฮิตเล่อร์ จนนำไปสู่การลอบสังหารไปแล้วกว่า 20 ครั้ง มีการพยายามแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อสถานการณ์ดำเนินต่อๆ มาความยากลำบากในการก่อการ คนอื่นๆถูกจับได้และถูกกันออกไป นายพันเอกเคล้าส์ ฟอน สเต๊าฟ์เฟนแบร์ก (ทอม ครูซ) เป็นนายทหารที่ปฏิบัติราชการทหารมีโอกาสเข้าใกล้ฮิตเล่อร์ได้ ด้วยโอกาสและสถานการณ์ เขาจึงก้าวข้ามจากคนที่เคยคิดต่อต้านฮิตเลอร์มาเป็นคนที่จะต้องลงมือสังหารผู้นำจอมโหดด้วยตัวเอง โดยที่มีชีวิตลูกเมียของฟอน สเต๊าฟ์เฟนแบร์กเป็นเดิมพัน
การดำเนินเรื่องในแผนการลอบสังหารที่หนังทำออกมาได้ตื่นตื่นลุ้นระทึกดีทำให้สนุกและตื่นเต้น การสร้างบรรยากาศ ด้วยจังหวะดนตรี การตัดต่อภาพทำให้อยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป แม้ว่าเราจะได้ทราบจากประวัติศาสตร์ว่าในท้ายที่สุดแล้วฮิตเลอร์ไม่ได้ตายจากการฆ่าโดยคนอื่นเมื่อเยอรมันนีแพ้สงคราม
สำหรับผมแล้วการได้ดูหนังเรื่องนี้ก็เป็นความรู้ใหม่ว่ามีความคิดของคนเยอรมันนีเองที่ไม่ได้ชอบเห็นด้วยกับความคิดเผด็จการของฮิตเลอร์ ที่ทำลายล้างเพื่อนมนุษย์ และมีถึงขนาดผู้เป็นนายพลทหารร่วมกับทหารที่มีอุดมการณ์คิดการใหญ่ลอบสังหารด้วยซ้ำแม้ว่าจะรู้ว่าหากพลาดก็มีจุดจบโดยประหารชีวิต
หนังทำให้เห็นว่าอย่างๆน้อยๆก็มีคนเยอรมันนีกลุ่มหนึ่งที่มีความรักชาติ รักแผ่นดิน คิดภถึงลูกหลานของพวกเขาที่จะเจริญเติบโตในประเทศต่อไปไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งความการรุกรานทำลายคนผู้บริสุทธ์ของผู้นำ ที่แสดงให้โลกและคนประเทศอื่นๆว่า"เราก็มีความต่างจากเขา"
เวลาตอนนั้นที่พวกเขาก่อการไม่สำเร็จถูกจับได้กลายเป็นผู้ทรยศ แต่แวลาหลังจากนั้นพวกเขากลายเป็นวีรบุรุษ ไม่ได้แบกรับความอับอายไว้อย่างเช่นผู้ที่เห็นด้วยกับความการรุกรานทำลายคนผู้บริสุทธ์ของผู้นำ พวกเขาเป็นผู้กอบกู้ชื่อเสียงของคนเยอรมันนีไว้ ไม่ใช่ทหาร ประชาชนทุกคนจะเห็นดีกับการกระทำอยุติธรรมของผู้นำตลอด
ทำให้เห็นว่าคนๆหนึ่งอาจจะถูกมองว่าทรยศหักหลังจากมุมหนึ่ง แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนกระแสเปลี่ยน กลับกลายเป็นคนสำคัญเป็นแบบอย่างน่ากล่าวถึง คนกล้าหาญทำในสิ่งที่ถูกต้องตายแต่ชื่อนั้นยังอยู่คงต่อมา
ทุกอย่างล้วนมีจุดกำเนิดเหตุผลการดำเนินอยู่ จุดเริ่มต้นชองหนังเรื่องนี้ทำให้ผมหวนคิดรู้ได้ว่ามีบางอย่างได้เกิดขึ้นและได้ดำเนินมาถึงปัจจุบันได้ บางอย่างก็เกิดขึ้น บางอย่างก็จบลงโดยที่เราพยายามครุ่นคิดก็ยังไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะอะไร......... อ้างอิงข้อมูลและภาพจาก //valkyrie.unitedartists.com
Create Date : 05 พฤษภาคม 2552 |
|
16 comments |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2552 22:03:05 น. |
Counter : 1811 Pageviews. |
|
|
|
ว้าวได้เจิมด้วย
แวะมาทักทายกันในวันที่แสนดีวันนี้อีกวันจ้า
ขอบคุณที่ไปทักทายกันเด้อ
ประวัติศาสตร์ในวันหน้าจะดีหรือร้าย อยู่ที่ว่าวันนี้คุณทำร้ายหรือดีจ้า