เมษายน 2554

 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
สาเหตุง่ายๆที่ฉันไม่ชอบ ครีมกันแดดของ Oriental Princess!!!!
สมัยก่อนนั้น ติดแบรนด์ OP ม๊ากกกกกมาก ค่ะ เพราะว่ามาร์เก็ตติ้งเริ่ด โดนใจ โปรโมชั่น และแคมเปญอะไรต่างๆ ประกอบกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เข้าขั้นว่าดี รวมกันแล้วก็เลยโอเคมากๆสำหรับผู้บริโภคที่มีเบี้ยน้อยหอยนิดอย่างฉัน...



ครีม กันแดดของ OP ตัวที่ฉันชอบที่สุด ตอนนี้เปลี่ยนแพคเกจแล้วเป็นแบบหลอด และเปลี่ยนจากเนื้อน้ำนมเป็นเนื้อครีมอีกด้วย เป็นครีมกันแดดน้ำนม ขวดสีส้ม ที่เวลาจะล้างออกต้องใช้ออยล์ หรือคลีนซิ่งครีมเท่านั้น มิเช่นนั้นสิวอุดตันบุกกระจาย...



ก่อนที่จะอธิบายต่อไป ว่า ทำไมฉันถึงได้เปลี่ยนใจไม่ชอบครีมกันแดดของ OP เราก็มาทำความเข้าใจกับค่าประสิทธิภาพในการกันแดดกันก่อนดีกว่า นั่นก็คือ SPF และ PA



สมัยก่อนสังเกตว่าครีมกันแดดทุกชิ้น มีแค่ค่า SPF เท่านั้น ที่ระบุเอาไว้ แต่ในปัจจุบันนี้(รวมทั้งครีมกันแดดขวดส้มที่ฉันชอบด้วย)ก็ได้มีการระบุค่า PA กันด้วย ซึ่ง ค่า PA นี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับครีมกันแดด หากใครต้องการทราบลึกซึ้งว่าค่า PA และ SPF คืออะไร ฉันก็ได้ก๊อปปี้มาจากเว็บ //www.loxtrade.com/index.php?option=com_content&view=article&id=25%3Aar-spf&catid=15%3Acat-info&Itemid=16〈=th มาให้อ่านกันค่ะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



รู้ไหมว่าคืออะไร?? ค่า SPF กับ PA+++



อาจ มีสาวๆ หลายท่านเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดมาใช้กัน พอหยิบๆ ผลิตภัณฑ์ขึ้นมาดู หลายๆ คนอาจงงว่า เอ๊ะ! SPF คืออะไร แล้ว PA+++ ล่ะ มีความหายว่าอย่างไร?? แล้วตัวเลขที่ต่อท้าย SPF ไม่ว่าจะเป็น15 30 50 ล่ะ กำลังบอกข้อมูลอะไรกับเราอยู่ จะเดินไปถามพนักงานก็เขิน สรุปก็เลยไม่รู้อยู่ดี... งั้นวันนี้เรามารู้จักค่าเหล่านี้กันนะคะ





ครีมกันแดด ทำงานอย่างไร

ส่วนผสมในครีมกันแดดจะทำหน้าที่ในการปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วยการดูดซับรังสี ,ป้องกันแสง UV ไม่ให้ผ่านเข้าไปถึงชั้นผิว หรือทำให้รังสี UV แตกกระจายออกไปเพื่อไม่ให้เข้าทำร้ายผิวโดยตรง สำหรับคำแนะนำในการใช้ครีมกันแดด ครีมกันแดด ที่ดีที่สุด คือครีมกันแดดที่สามารถที่จะป้องกันแสง UV ได้เพียงพอ(ซึ่งอาจจะขึ้นกับความแรงของแสง) เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกไปสู่ที่มีแสงแดด 30 นาที(ส่วนใหญ่มักจะพบคำแนะนำนี้ตามขวดของครีมกันแดดกันนะ)



แล้ว SPF คืออะไร

ค่า SPF หรือ Sun Protection Factor เป็นตัวระบุระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVB หรือ ก็คือจำนวนเท่าของเวลาที่ผิวทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลตนี้ได้หลังจากทาครีมกัน แดดแล้ว ซึ่งโดยปกติผิวของเราจะรับมือกับแสงแดดโดยปราศจากครีมกันแดดได้ประมาณ 20-30 นาที ถ้าครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์นั้นระบุไว้ว่า SPF30 ก็จะหมายถึง เราสามารถอยู่กลางแดดได้ประมาณ 30×30 = 900 นาที หรือ 15 ชั่วโมง โดยที่ผิวไม่ไหม้แดง แต่กระนั้นการคำนวณอาจคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากครีมกันแดดที่ทาบนผิวอาจลบเลือนไปเมื่อเหงื่อออก โดนน้ำ หรือทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดควรทาครีมซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ประสิทธิภาพในการป้องกันแดดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง



ทำไม SPF สูง ก็ไม่ได้ดีกว่าเสมอไป

โดยทั่วไป ครีมกันแดด SPF ประมาณ 15 ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในแถบเอเชียอย่างเรา แต่สำหรับคนที่ผิวไวต่อแดด หรือถูกผิวถูแผดเผาให้หมองคล้ำได้ง่ายนั้น ใช้ SPF 30 ก็ถือว่าเพียงพอที่จะปกป้องผิวได้แล้ว แต่ถ้าอยากใช้ที่มีค่า SPF เยอะกว่านี้ ก็ไม่ว่ากันค่ะ

ตัวอย่าง ค่า SPF และ % การปกป้องแสง UV



• ค่า SPF เท่ากับ 2 จะดูดซับ UVB ได้ 50%

• ค่า SPF เท่ากับ 4 จะดูดซับ UVB ได้ 75%

• ค่า SPF เท่ากับ 8 จะดูดซับ UVB ได้ 87.5%

• ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3%

• ค่า SPF เท่ากับ 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95%

• ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%

• ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%

• ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

จะเห็นว่า ค่า SPF หลังจาก 30 แล้ว ค่าที่จะป้องกัน แสง UV ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่ากับ SPF ที่เพิ่มขึ้น เมื่อผู้บริโภคตระหนักถึง ความสำคัญของครีมกันแดดแล้ว ก็จะคิดว่า ถ้าหากค่า SPF สูงๆ ย่อมที่จะป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าแน่นอน เราจึงเห็นครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 100 ขายกันอยู่ เพื่อเป็นจุดขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดูตลกมากๆ



ค่า SPF สูงๆ นั้น ไม่ได้หมายความว่า จะปกป้องแสดงแดดได้ดีไปกว่า ค่า SPF ที่ต่ำกว่า ในความเป็นจริงแล้ว ค่า SPF สูงๆ นั้นจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย และยังเป็นไปไปได้ว่าอาจจะมีผลข้างเคียงที่อาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้เช่นอาจ จะเกิดผดผื่นคันได้ นอกจากนี้ยังอาจจะทำให้สีผิวของเราไม่สม่ำเสมอ เกิดรอยด่างขึ้นได้ และยังอาจจะทำให้เสื้อผ้าเป็นคราบสีเหลืองติดเสื้อผ้าอีกด้วย



PA คืออะไร

ครีมกันแดดใหม่ๆ ที่วางขายกันในตลาดมักประกอบไปด้วย UVA Filter และค่าที่วัดการป้องกันรังสี UVA เรียกว่า PA



PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA ในขณะนี้ยังไม่มีหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานในการวัดค่าการดูดซึมของรังสี UVA ดังนั้นจึงถือเอาคำว่า PA เป็นหน่วยวัดรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการ

ค่า PA นั้นจะมี 3 ระดับคือ



PA+ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA

PA++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูง

PA+++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูงสุด

เอาล่ะค่ะ สาวๆ คงเข้าใจกันแล้วว่า SPF กับ PA+++ คืออะไร จะเห็นได้ว่าสัญลักษณ์เหล่านี้มีความสำคัญมากในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มี ส่วนผสมของสารกันแดด เพราะทำให้เรารู้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีประสิทธิภาพในการป้องกันUVA และ UVB ได้มากเท่าใด ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นระบุไว้แค่ค่า SPFอย่างเดียว หรือค่า PA อย่างเดียว ก็หมายความว่า ผลิตภัณฑ์นั้นไม่สามารถปกป้องผิวจากทั้ง 2 รังสีได้พร้อมๆ กัน นั่นก็คือ ป้องกันได้แค่รังสีชนิดเดียวเท่านั้น ทางที่ดี ไหนๆ ก็จะยอมลงทุนเสียเงินเพื่อปกป้องผิวของเราแล้ว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการระบุทั้งสองค่าไปเลยดีกว่า เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดที่จะช่วยปกป้องผิวสวยๆของเราจากแสงแดด ค่ะ.........

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



สรุปง่ายๆคือ SPF คือค่าประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB ส่วน PA คือค่าประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA นั่นเอง



กลับมาที่ครีมกันแดดของ OP กันต่อ



หลัง จากที่ OP ได้สังคายนาผลิตภัณฑ์และแพ็คเกจ(รอบที่เท่าไรไม่รู้) ทำให้ครีมกันแดดน้ำนมขวดสีส้มของฉัน ที่เคยได้ระบุไว้ว่า SPF50 PA++ (จำไม่ได้ว่า กี่ +) ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น ครีมกันแดดเนื้อครีม(มันด้วยอ่ะ) หลอดสีส้ม SPF50 สิ่งที่หายไปคือ PA!!!!



ตอนแรกก็เคยคิดว่า คงระบุแค่ SPFล่ะมั้ง เพราะฉันก็เห็นว่า OP ระบุว่า ผลิตภัณฑ์กันแดดชิ้นนี้สามารถกัน UVA ได้ด้วย (แต่ค่า PA ไม่ยักลงไว้) แต่ฉันดันไปสังเกตว่า ครีมกันแดดน้ำนมที่ OP ยังหลงเหลือเอาไว้ คือขวดสีขาว เป็นรุ่นกันฝ้าด้วยอ่ะ มันมีค่า PAอยู่ด้วย



และจากบทความที่ฉันเอามาลงให้อ่านกันนั้น ย่อหน้าสุดท้ายระบุว่า



"ถ้า ผลิตภัณฑ์นั้นระบุไว้แค่ค่า SPFอย่างเดียว หรือค่า PA อย่างเดียว ก็หมายความว่า ผลิตภัณฑ์นั้นไม่สามารถปกป้องผิวจากทั้ง 2 รังสีได้พร้อมๆ กัน นั่นก็คือ ป้องกันได้แค่รังสีชนิดเดียวเท่านั้น ทางที่ดี ไหนๆ ก็จะยอมลงทุนเสียเงินเพื่อปกป้องผิวของเราแล้ว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการระบุทั้งสองค่าไปเลยดีกว่า เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดที่จะช่วยปกป้องผิวสวยๆของเราจากแสงแดด ค่ะ"



ฉัน ก็เลยได้ข้อสรุปว่า ครีมกันแดดรุ่นอื่นๆ ที่OPไม่ได้ระบุค่า PA เอาไว้ มันคงจะกันUVAได้บ้าง แต่ไม่มากพอที่จะปกป้องผิวบอบบางอย่างเราๆได้จาก UVA และถ้าหากว่าผิวของพวกเราได้รับรังสี UVA มากเข้า ผลที่ตามมาก็คือ ริ้วรอย กระ ฝ้า หน้าเหี่ยว ฯลฯ ล่ะมั้ง



แค่นี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นสาเหตุให้ฉัน "ไม่ชอบ" และ "ไม่ใช้" ครีมกันแดดของ OP ค่ะ


(ปล. เพิ่มเติมค่ะ เนื่องจากเกรงว่าจะมีบางท่านเข้าใจผิดว่านี่คือการโจมตีแบรนด์หรือเปล่า ขอบอกว่าไม่ใช่ค่ะ สาเหตุที่เขียนบล็อกนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าเป็นเรื่องของความแตกต่างทางการใช้ผลิตภัณฑ์ระหว่างเพื่อนฝูง สิ่งที่ขอเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดก็คือ เรื่องที่ว่า ผลิตภัณฑ์ไม่ได้ระบุค่า PA ก็อาจจะหมายความว่ามีการป้องกันรังสี UVA ได้ไม่เพียงพอที่จะระบุค่าออกมาได้นั้น ไม่ใช่แค่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง.. แต่หลายๆแบรนด์ก็เป็นแบบนี้ค่ะ ระบุค่า SPF เท่านั้น ทำให้ "ไม่มั่นใจ" ว่าจะสามารถป้องกันรังสีUVA ได้เพียงพอหรือไม่...ฉะนั้น เรื่องค่า PA ที่ครีมกันแดดควรจะมีนั้น มิใช่เฉพาะแบรนด์ค่ะ แต่การอ้างถึง OP ณ บล็อกนี้ เป็นเพราะเรื่องของรสนิยมที่แตกต่าง "ระหว่างเพื่อนฝูง" เท่านั้นเอง)



Create Date : 11 เมษายน 2554
Last Update : 24 เมษายน 2554 11:49:12 น.
Counter : 17557 Pageviews.

14 comments
  
มีประโยชน์มากจริงๆ
โดย: lirpa IP: 10.0.1.170, 61.19.124.83 วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:14:45:52 น.
  
ขอบคุณค่ะ
เข้าใจสักที ว่า SPF กับ PA+
คิดว่าเหมือนกัน
โดย: จอมใจนายทัพ วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:16:50:27 น.
  
เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ยว่า PA++ คืออะไร..
ขอบคุณนะคะ

ปล. เวเลซก็ไม่ชอบครีมกันแดดของ OP ค่ะ มันมันมาก..
โดย: VELEZ วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:20:22:35 น.
  
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ
เพิ่งจะรู้เหมือนกันค่ะ เมื่อก่อนไม่เคยสนใจค่ะ
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:20:56:45 น.
  
แนะนำเว็บขายส่ง เครื่องสำอางค์เกาหลีreachporn.comแวะไปเยี่ยมชมกันได้นะค่ะ ขอบคุณค่ะ
โดย: koreacosmetic (loveyoupantip ) วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:20:02:18 น.
  
โดย: register (loveyoupantip ) วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:1:18:35 น.
  
โดย: register (loveyoupantip ) วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:15:02:40 น.
  
เพิ่งซื้อมาค่ะ ตอนซื้อไม่ทันสังเกตุว่า PA+++ หายไป พอใช้เอ๊ะ เพิ่งสังเกตุเห็น เสียดายเงิน แแต่ไม่เป็นไรครั้ง บทเรียนเลย ซื้ออะไรต้องรอบคอบนิดนึงเนอะเรา ^^
โดย: pop IP: 223.204.98.37 วันที่: 9 มิถุนายน 2556 เวลา:20:21:50 น.
  
รู้สึกว่า PA นี่จะใช้กะครีมกันเเดด ญี่ปุ่นส่วนมากนะครับ เเต่ OP ยังมี Titanium Dioxide ซึ่งช่วยสะท้อง UVA เเืทน PA อยู่เเล้วนี่ครับ
โดย: Mind IP: 171.99.46.222 วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:15:51:38 น.
  
เห็นด้วยกะ คห9
โดย: Tm IP: 125.24.27.113 วันที่: 27 เมษายน 2557 เวลา:12:16:20 น.
  
ขอบคุณมากๆค่ะ
เป็นความรู้ใหม่ เพราะเราดูส่วนผสมไม่เป็น เราสังเกตตามที่จุดสังเกตทั่วไปเอาน่ะค่ะ

คราวหน้าถ้ากลับไป เดี๋ยวจะอุดหนุนโอพี โทษฐานที่เราเข้าใจผิดมาตั้งนาน
โดย: elin IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 กันยายน 2557 เวลา:3:16:07 น.
  
เอามาฝากเพิ่มเติมคะ
credit : สถาบันโรคผิวหนัง
//www.inderm.go.th/inderm_th/Health/health_12.html

การเลือกใช้ครีมกันแดดก็ควรเลือกชนิดที่เหมาะกับผิวและมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสง
แดดอย่างแท้จริง ตัวเลข SPF หรือ Sun Protection Factor คือ ความสามารถของครีมกันแดด
ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการแดงไหม้ซึ่งเกิดจาก UVB โดยจะแสดงค่าความสามารถในการป้องกัน
แสงแดดเป็นตัวเลข เช่น SPF 15,30 เป็นต้น ถ้า SPF 15 หมายความว่าคนๆ หนึ่งตากแดด
30 นาที แล้วเกิดผิวแดงไหม้แสบแต่ถ้าทาครีมกันแดดที่มี SPF 15 คนๆ นั้นจะสามารถตากแดด
ได้นานเป็น 15 เท่าของ 30 นาที หรือ ประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแดงที่ผิวหนัง

ที่สำคัญคือต้องเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันUVAได้ด้วยคือต้องมีส่วนผสมของสารกัน
แดดเช่น dibenzoylmethane Mexoryl, Thinosorb หรือสารกันแดดที่สะท้องแสง เช่น Titanium dioxide และ Zinc oxide ซึ่งทาแล้วอาจจะทำให้หน้าขาวบ้าง แต่ข้อดีคือไม่มีอาการ
ระคายเคืองและไม่แพ้ ทั้งนี้การทาครีมกันแดดควร เริ่มทาอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เป็นเด็กโดยเฉพาะ
เด็กๆ ที่เรียนว่ายน้ำหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะแสงอัลตราไวโอเลตจะมีผลเสียต่อผิวหนังแบบสะสม ดังนั้น การใช้ครีมกันแดดตั้งแต่เด็กจะป้องกันผลเสียจากแสงแดดได้ดีกว่าตอนเป็นผู้ใหญ่
โดย: Tooktha IP: 223.206.249.209 วันที่: 26 ตุลาคม 2557 เวลา:1:39:43 น.
  
เอามาฝากเพิ่มเติมคะ
credit : สถาบันโรคผิวหนัง
//www.inderm.go.th/inderm_th/Health/health_12.html

การเลือกใช้ครีมกันแดดก็ควรเลือกชนิดที่เหมาะกับผิวและมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสง
แดดอย่างแท้จริง ตัวเลข SPF หรือ Sun Protection Factor คือ ความสามารถของครีมกันแดด
ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการแดงไหม้ซึ่งเกิดจาก UVB โดยจะแสดงค่าความสามารถในการป้องกัน
แสงแดดเป็นตัวเลข เช่น SPF 15,30 เป็นต้น ถ้า SPF 15 หมายความว่าคนๆ หนึ่งตากแดด
30 นาที แล้วเกิดผิวแดงไหม้แสบแต่ถ้าทาครีมกันแดดที่มี SPF 15 คนๆ นั้นจะสามารถตากแดด
ได้นานเป็น 15 เท่าของ 30 นาที หรือ ประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแดงที่ผิวหนัง

ที่สำคัญคือต้องเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันUVAได้ด้วยคือต้องมีส่วนผสมของสารกัน
แดดเช่น dibenzoylmethane Mexoryl, Thinosorb หรือสารกันแดดที่สะท้องแสง เช่น Titanium dioxide และ Zinc oxide ซึ่งทาแล้วอาจจะทำให้หน้าขาวบ้าง แต่ข้อดีคือไม่มีอาการ
ระคายเคืองและไม่แพ้ ทั้งนี้การทาครีมกันแดดควร เริ่มทาอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เป็นเด็กโดยเฉพาะ
เด็กๆ ที่เรียนว่ายน้ำหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะแสงอัลตราไวโอเลตจะมีผลเสียต่อผิวหนังแบบสะสม ดังนั้น การใช้ครีมกันแดดตั้งแต่เด็กจะป้องกันผลเสียจากแสงแดดได้ดีกว่าตอนเป็นผู้ใหญ่
โดย: Tooktha IP: 223.206.249.209 วันที่: 26 ตุลาคม 2557 เวลา:1:39:58 น.
  
สวัสดีจ้ะ แว๊ะมาทักจ้าาา rassapoom rassapoom clinic รัสมิ์ภูมิ รัสมิ์ภูมิ คลินิก ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น ศัลยกรรมตาสองชั้น ฟิลเลอร์สะโพก ฟิลเลอร์เสริมสะโพก ฉีดฟิลเลอร์สะโพก ฉีดฟิลเลอร์เสริมสะโพก Morpheus Morpheus Pro ยกกระชับผิว ฟิลเลอร์คาง โปรแกรมฟิลเลอร์คาง Exosome Exosome Plus Exosome Plus+ กระชับช่องคลอด ช่องคลอด Vaginal Vaginal Reju Skin Quality ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตา Ultracol ไหมน้ำ Allergan โบ Allergan ฉีดโบ Allergan Super Skin Laser ฝ้า กระ ฝ้า กระ จุดด่างดำ Picocare 450 Laser ร้อยไหม ร้อยไหมคืออะไร Lenisna JUVELOOK สารเติมเต็ม REVIVE BELOTERO REVIVE Rejuran Gouri คอลลาเจน กระตุ้นคอลลาเจน Juvederm Juvederm Volite New Juvederm Volite Radiesse Radiesse Filler Sculptra คอลลาเจน เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ปลูกผม FUE ฟิลเลอร์ Filler ฉีดฟิลเลอร์ Thermage Thermage FLX ยกกระชับ ยกกระชับผิว Ulthera EMFACE ยกกระชับ ยกกระชับกล้ามเนื้อ ฉีดแฟต สลายไขมัน ฉีดแฟตสลายไขมัน CoolSculpting Elite CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สลายไขมัน BodyTite ดูดไขมัน Emsculpt สร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน สอนฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ สอนฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ให้ใจ สุขภาพ
โดย: สมาชิกหมายเลข 5704427 วันที่: 26 ธันวาคม 2566 เวลา:18:43:41 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

elin
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments