|
พระอินทร์ ๔ (บทบาทในพุทธศาสนา)
พระอินทร์ มีบทบาทในทางพุทธศาสนาอยู่มาก ปรากฏหลักฐานตามคัมภีร์พระไตรปิฎกหลายครั้งหลายหน ลองค่อยๆ ไล่ดูว่าพระองค์ทรงเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง
อาราธนาพระโพธิสัตว์ เมื่อพระโพธิสัตว์เสวยทิพยสมบัติเป็นท้าวสันดุสิตอยู่ในดุสิตสวรรค์ จนพุทธกาลใกล้เข้ามา เทวดาโลกบาลประกาศว่าพันปีข้างหน้านี้พระพุทธเจ้าจะเสด็จมาอุบัติในชมพูทวีปแล้ว พอได้ยินประกาศดังนั้นเทวดาจากหมื่นจักรวาลต่างมาชุมนุมกันถามไถ่ว่าพระโพธิสัตว์พระองค์ใดจะมาตรัสรู้ จนเกิดพุทธโกลาหลไปทั้งสวรรค์ หลังจากประชุมกันแล้ว พระอินทร์ พร้อมท่านท้าวมหาพรหม ท้าวปรนิมมิตวสวัตดี ท้าวนิมมานรดี ท้าวสันดุสิต ท้าวสุยามะ ท้าวสักกเทวราช และท้าวมหาราชทั้งสี่ จากหมื่นจักรวาล ได้พากันไปเฝ้าพระโพธิสัตว์ในดุสิตสวรรค์ กราบบังคมทูลว่าพระองค์บำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัศ มิใช่เพื่อจักรพรรดิสมบัติ สวรรค์สมบัติ หรือพรหมสมบัติ แต่เป็นไปเพื่อความเป็นพุทธะ บัดนี้กาลนั้นมาถึงพระองค์แล้ว ขอเชิญพระองค์เสด็จไปอุบัติเพื่อพระโพธิญาณเถิด พระโพธิสัตว์เมื่อสดับคำอาราธนาจากเหล่าทวยเทพ ก็ทรงพิจารณาปัญจมหาวิโลกนะ แล้วทรงรับอาราธนา จุติไปปฏิสนธิในครรภ์ของพระนางมายา พระเทวีของพระเจ้าสุทโธทนะแห่งกรุงกบิลพัสดุ์
เฉลิมฉลองเมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติ วันที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติที่สวนลุมพินีวัน พระอินทร์ได้นำเหล่าเทพเทวดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ออกมาแห่แหนรื่นเริงเป็นเทศกาลใหญ่ จนท่านอสิตดาบสผู้เป็นพระอาจารย์ของพระเจ้าสุทโธทนะซึ่งเข้าฌานสมาบัติมาพักผ่อนในเทวโลกสงสัยว่าพวกเทวดาฉลองอะไรกัน จะว่ารบชนะพวกอสูรมาก็ไม่ใช่เพราะเทวดากับอสูรเลิกรบกันมานานแล้ว พอท่านดาบสเข้าไปถามเทวดาจึงได้รู้ว่าพระโพธิสัตว์ประสูติแล้ว อีก ๒๙ ปี พระองค์จะออกบวช หลังจากบำเพ็ญเพียรอยู่ ๖ ปีก็จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า และจะทรงแสดงปฐมเทศนาที่ป่าอิสิปัตนมฤคทายวัน ท่านดาบสรีบลงจากเทวโลกไปเฝ้าพระเจ้าสุทโธทนะเพื่อขอชมบารมีพระกุมาร และได้พยากรณ์ว่าพระกุมารจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างเที่ยงแท้
การพยากรณ์ของท่านอสิตดาบสนี้เกิดขึ้นก่อนการพยากรณ์ของกลุ่มพราหมณ์ ๘ คน ที่มีพราหมณ์หนุ่มโกณฑัญญพราหมณ์รวมอยู่ด้วย แต่ผู้คนมักหลงลืมไม่ได้พูดถึงท่านเลย เพราะท่านหมดบทบาทเพียงเท่านี้ ตอนนี้ท่านเป็นอรูปพรหมอยู่ในอรูปภูมิเช่นเดียวกับท่านอาฬารดาบสและท่านอุทกดาบส
เนรมิตสระโบกขรณี เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะมีพระชนมายุได้ ๗-๘ พรรษา พระเจ้าสุทโธทนะรับสั่งให้สร้างสนามเด็กเล่นและขุดดินสร้างสระโบกขรณี พระอินทร์ดำริว่าของเล่นของใช้ของมนุษย์ไม่สมควรแก่พระโพธิสัตว์ จึงรับสั่งให้วิสสุกรรมเทพบุตรไปเนรมิตสระโบกขรณีให้ใหม่ วิสสุกรรมเทพบุตรจึงลงมาเนรมิตสระโบกขรณีที่ไม่มีโคลนเลน เกลื่อนกล่นด้วยแก้วมณี แก้วมุกดา และแก้วประพาฬ ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว ๗ ประการ มีบันไดทอง บันไดเงิน และบันไดแก้วมณี มีราวและซุ้มบันไดเป็นแก้วมณีและแก้วประพาฬ ภายในสระมีเรือทอง เรือเงิน เรือแก้วมณี และเรือแก้วประพาฬ ในเรือทองมีบัลลังก์เงิน ในเรือเงินมีบัลลังก์ทอง ในเรือแก้วมณีมีบัลลังก์แก้วประพาฬ ในเรือแก้วประพาฬมีบัลลังก์แก้วมณี มีทะนานตักน้ำเป็นทอง เงิน แก้วมณี และแก้วประพาฬ ภายใต้สระมีเรือทอง เงิน แก้วมณี และแก้วประพาฬ ลำเล็กๆ ที่บรรจุโคลนเลนในลำเรือเป็นที่เจริญของปทุม ๕ ชนิด ส่งกลิ่นขยายไปทั่วสระ ถวายแด่พระโพธิสัตว์
อัญเชิญพระเมาลี เมื่อพระโพธิสัตว์อธิษฐานบรรพชาที่ริมแม่น้ำอโนมานที พระองค์ตัดพระเกศาและพระเมาลีแล้วทรงโยนขึ้นไปในอากาศ อธิษฐานว่า ถ้าเราจะได้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วไซร้ ขอให้พระเมาลีนี้จงลอยอยู่ในอากาศอย่าได้ตกลงมา แต่ถ้าไม่ได้เป็นก็จงตกลง ในครั้งนั้นก็เกิดอัศจรรย์ พระเมาลีขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศสูงโยชน์หนึ่งไม่ตกลงมา แล้วพระอินทร์ก็ได้นำผอบแก้วมารองรับไว้ นำไปประดิษฐานไว้ในพระจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ช่วยหุงข้าวปายาส เช้าวันที่พระโพธิสัตว์จะตรัสรู้ วันนั้นนางสุชาดามีกำหนดปรุงข้าวปายาสเพื่อพลีกรรมเทวดาที่ต้นไทร พระอินทร์ทรงรู้ว่าข้าวปายาสนี้จะได้ถวายพระโพธิสัตว์ก่อนตรัสรู้ ซึ่งเป็นทานที่หาได้ยากและมีอานิสงส์ยิ่ง พระองค์จึงเสด็จมาช่วยนางสุชาดาติดไฟ ขณะที่ท้าวมหาพรหมมายืนกั้นฉัตร และมีเทวดาอื่นๆ มาช่วยกันกวนข้าวปายาสกันเนืองแน่น
คืนตรัสรู้ เมื่อพระโพธิสัตว์เสด็จขึ้นประทับนั่งบนโพธิบัลลังค์ เทวดาจากหมื่นจักรวาลต่างพากันมารุงล้อมรอพระโพธิสัตว์ตรัสรู้ องค์พระอินทร์เองประทับยืนอยู่ด้านหน้า ทรงเป่าสังข์วิชยุตรสรรเสริญพระบารมี เคียงข้างกับมหากาฬนาคราชที่ยืนกล่าวอาศิรวาท และท้าวมหาพรหมยืนกั้นฉัตร แต่เมื่อกองทัพพระยามารยกมามืดฟ้ามัวดิน พระอินทร์และเทวดาทั้งหลายก็อยู่ไม่ได้พากันหนีกระจัดกระจาย มหากาฬนาคราชกลับไปนอนตัวสั่นอยู่ในนาคพิภพ ท้าวหมาพรหมก็กลับสู่พรหมโลก ส่วนพระอินทร์กับพวกเทวดาพากันไปแอบดูอยู่ที่ขอบเขาจักรวาล จนเมื่อพระโพธิสัตว์เอาชนะพระยามารได้แล้วพระอินทร์กับเหล่าเทวดาจึงกลับมาเฝ้าดังเดิม
ถวายไม้สีทนต์ หลังจากพระโพธิสัตว์ตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงเสวยวิมุตติสุขอยู่ ๔๙ วัน หลังจากนั้นพระอินทร์ได้นำผลสมอ ไม้สีทนต์นาคลดา และน้ำบ้วนพระโอษฐ์จากสระอโนดาต มาถวายพระพุทธองค์
แต่แม้จะได้เกี่ยวข้องกับพระโพธิสัตว์มาแล้วเนิ่นนาน แต่พระอินทร์ก็ยังไม่อยู่ในข่ายใกล้ชิดพระศาสดา ไม่อาจเข้าเฝ้าได้ตามใจปรารถนาเหมือนในยุคหลังๆ แม้เมื่อวันที่พระอินทร์กำลังจะหมดอายุต้องจุติจากสวรรค์ก็ยังไม่อาจไปเฝ้าพระศาสดาได้เอง ต้องไหว้วานคนธรรพ์ผู้หนึ่งในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาจัดการให้ รายละเอียดติดตามกันตอนต่อไปครับว่าเทวดาคนธรรพ์องค์ที่ว่านั้นคือใคร
คำถามของคุณ tuk ด้านล่าง ถามว่าไม้สีทนต์เหมือนไม้ข่อยไหม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่น่าจะใช่นะครับ โบราณเขาสีฟันกันด้วยไม้ข่อย ไม้สะเดาก็มี เคยเห็นไม้สีฟันของพระป่าก็ไม่ได้ถามท่านว่าทำมาจากไม้อะไร พอดี search ด้วย google ไปเจอรูปไม้สีฟันแบบที่พระป่าท่านใช้ ก็เลยเอามาแปะให้ดูครับ
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2552 |
|
8 comments |
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 6:50:03 น. |
Counter : 3099 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ก IP: 110.168.244.181 25 ตุลาคม 2555 16:02:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: โป๋ IP: 110.168.244.181 25 ตุลาคม 2555 16:27:09 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
บางครั้ง เธอเข้าใจไหม ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้ เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...
[เพลงจาก http://www.fileden.com]
[ stat since Sep24, 2009 ]
|
|
|
|
|
|
|
การคิดเป็นการฝึกสมองค่ะ ยกเว้น การคิดในแง่ลบ เช่นการ เป็นห่วง วิตก อาฆาต แค้น โกรธ ฯลฯ ในแง่ลบทั้งหมด
เป็นการทำลายสมองค่ะ แล้วยังทำลาย ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยค่ะ
การคิดในแง่บวก และหัดบวกลบเลข การจดจำเบอร์โทร และตัวเลขต่างๆ เป็นการฝึกสมองที่ดีค่ะ
ในทุกอย่างมีดีและมีเสียเนอะ แม้แต่การคิด ซึ่งดูเหมือนกัน แต่คิดคนละขั้วกัน ก็ให้ผลดี และเสียต่างกันแล้วเนอะ
สบายดีนะค่ะ
เย้ๆๆๆได้เจิม
เพิ่งรู้ตัวค่ะ ว่าเป็นคนแรก