ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

นางกาฬี - สตรีผู้เป็นพระโสดาบันคนแรก


ค่ำคืนวันปฐมเทศนา

ธิดาตระกูลหนึ่งในนครราชคฤห์มีนามว่า กาฬี เมื่อเจริญวัยขึ้นได้ออกเรือนและย้ายไปอยู่กับสามีที่กุลฆรนคร แคว้นอวันตี จึงเรียกนางว่า กาฬีกุลฆริกา (บาลีเรียก กาฬีกุรรฆริกา)
ต่อมานางกาฬีตั้งครรภ์ เมื่อครบกำหนดคลอดจึงเดินทางกลับบ้านเดิมที่กรุงราชคฤห์เพื่อไปคลอดบุตรท่ามกลางหมู่ญาติ ค่ำคืนนั้นนางกาฬีนอนพักอยู่ชั้นบนในห้องเปิดโล่งรับลมเย็นรอเวลาคลอด
วันนั้นเป็นวันอาสาฬหปุรณมี พระบรมศาสดาทรงเคลื่อนพระธรรมจักรด้วยการแสดงธรรมจักกัปวัตนสูตรแก่พระปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ขณะนั้นบุรพนิมิต ๓๒ ประการ ได้ปรากฏทั่วหมื่นโลกธาตุ เทวดาและพระพรหมจากหมื่นโลกธาตุที่ได้เห็นบุรพนิมิต รู้ว่าพระศาสดาทรงแสดงปฐมเทศนาแล้ว จึงไปเฝ้าฟังธรรมเป็นจำนวนมากนับแสนโกฏิ รวมทั้งเสนาบดียักษ์ตนหนึ่งนามว่า สาตาคิรยักษ์ ก็ไปเฝ้าฟังธรรมด้วย
สาตาคิรยักษ์มีสหายสนิทเป็นเสนาบดียักษ์เช่นกันชื่อ เหมวตยักษ์ ทั้งสองเคยเป็นสหายบวชเรียนด้วยกันมาครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าองค์ก่อน เมื่อเกิดเป็นเสนาบดียักษ์ก็ยังเป็นสหายกันอีก ทั้งสองให้สัญญากันไว้ว่าหากวันใดใครได้พบเห็นพระสัทธรรม หรือได้พบพระสัพพัญญูก่อน ก็ขอให้มาบอกสหายด้วย ขณะเมื่อฟังธรรมอยู่สาตาคิรยักษ์จึงเฝ้ามองหาสหายว่ามาฟังธรรมด้วยหรือเปล่า แต่มองไม่เห็น ให้ยักษ์บริวารช่วยกันมองหาก็ไม่เห็น จิตของสาตาคิรยักษ์จึงฟุ้งซ่านเป็นห่วงว่าสหายของเราไม่ได้ฟังธรรมอันวิเศษ ความห่วงกังวลทำให้สาตาคิรยักษ์ไม่ได้บรรลุธรรมใดๆ
สาตาคิรยักษ์ฟังธรรมพระศาสดาจนพระอาทิตย์อัสดงแต่ยังไม่จบ คิดว่าหากไปตามสหายมาฟังธรรมตอนนี้ก็ยังทัน จึงตัดสินใจพาบวิวาร ๕๐๐ ตน ออกมาจากที่ชุมนุม เหาะไปป่าหิมพานต์เพื่อจะไปชวนเหมวตยักษ์ให้มาฟังธรรมด้วยกัน
ฝ่ายเหมวตยักษ์อยู่ในป่าหิมพานต์ เห็นความมหัศจรรย์ที่ดอกไม้นานาพรรณเบ่งบานผิดฤดูไปทั่วทั้งป่า เกิดความปีติว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิด เราจะไปชวนสาตาคิรยักษ์ผู้เป็นสหายมาเล่นการเล่นกันในป่าหิมพานต์ คิดแล้วจึงพาบริวาร ๕๐๐ เหาะไปหาสหาย
สาตาคิรยักษ์และเหมวตยักษ์เหาะมาพบกันระหว่างทางในกรุงราชคฤห์ ในอากาศเบื้องบนเหนือห้องนอนของนางกาฬี ยักษ์สองสหายทักทายไต่ถามกันด้วยความยินดี

สา. สหาย ท่านจะไปไหน?
เห. เรากำลังจะไปหาท่าน
สา. ไปหาเราทำไมเล่า ?
เห. อ๋อ เราเห็นป่าหิมพานต์มีดอกไม้บานสะพรั่ง เราจักชวนท่านไปเล่นในป่าหิมพานต์ด้วยกัน
สา. สหาย ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดดอกไม้จึงบานสะพรั่งทั่วทั้งป่าหิมพานต์ ?
เห. ไม่รู้เลย สหาย
สา. สหายเอ๋ย ดอกไม้บานผิดฤดูนี้เป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่ได้เกิดในหิมวันต์แห่งเดียวเท่านั้น แต่เกิดทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุ เป็นบุรพนิมิตว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติแล้วในโลก สิทธัตถะกุมารโอรสพระเจ้าสุทโธทนะทรงตรัสรู้พระสัทธรรมแล้ว บัดนี้พระองค์ทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยมอยู่ที่ป่าอิสิปตนะ ยังหมื่นโลกธาตุให้หวั่นไหว ท่ามกลางเทวดาจากหมื่นจักรวาลที่ไปประชุมฟังธรรมกัน ท่านไม่รู้การประกาศพระธรรมจักรบ้างเลยหรือ ?
เห. ไม่รู้เลย สหาย


ฟังธรรมโดยบังเอิญ

ขณะนั้น นางกาฬีได้ยินเสียงเสนาบดียักษ์ทั้งสองสนทนากันดังแว่วมา จึงลุกขึ้นนั่งเงี่ยหูฟังว่าเป็นเสียงใคร ดังมาจากไหน เมื่อจับทิศทางได้ว่าเสียงดังมาจากเบื้องบน รู้ว่าเป็นอมนุษย์สนทนากันจึงเงี่ยหูฟังต่อด้วยความตั้งใจ

สา. สหายเอย วันนี้เป็นวันอุโบสถ ราตรีนี้เป็นราตรีทิพย์ ชมพูทวีปสว่างไสวด้วยแสงสว่างจากกายทิพย์ อาภรณ์ทิพย์ และวิมานทิพย์ของเหล่าเทวดาจากหมื่นจักรวาลที่มาประชุมกัน อีกทั้งพระวรกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นวิสุทธิเทพก็สว่างงดงามยิ่งนัก เราทั้งสองไปเฝ้าพระโคดมฟังธรรมกันเถิด
เห. สหายได้เห็นพระโคดมแล้วหรือ พระโคดมที่ท่านเห็นเป็นไฉน พระองค์ทรงเป็นผู้ไม่หวั่นไหวในอิฏฐารมณ์ คืออารมณ์อันน่าปรารถนาแล้วหรือ และพระองค์ทรงเป็นผู้ไม่หวั่นไหวในในอนิฏฐารมณ์ คืออารมณ์อันไม่น่าปรารถนาแล้วหรือ หรือเพียงไม่หวั่นไหวในอารมณ์เหล่านั้นในกาลบางครั้งบางคราวเท่านั้น ?
สา. สหายเอ๋ย เราได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นแล้ว พระองค์ทรงเป็นพระสัพพัญญูแท้ ทรงมีพระหฤทัยไม่ยินดียินร้ายในอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์เสมอด้วยแผ่นดินที่ไม่ยินดียินร้ายในสิ่งใดๆ ทรงมีพระทัยตั้งมั่นดีแล้วเหมือนภูเขาสิเนรุที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวเหมือนเสาเขื่อนที่ปักแน่น พระองค์ทรงมีพระทัยเสมอกันในสัตว์ทั้งปวง ทรงใคร่ในการนำสุขมาให้และทรงใคร่นำทุกข์ออกไปเสมอกัน ทรงละราคะและโทสะได้แล้วด้วยมรรคอันยอดเยี่ยม ทรงมีปัญญาพ้นแล้วจากดำริเหล่านั้นในกาลไหนๆ
เห. พระโคดมทรงมีกายทุจริตอยู่อีกบ้างไหม ?
สา. พระองค์ทรงพ้นแล้วจากกายทุจริต พระองค์ไม่ทรงถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ไม่ทรงเบียดเบียนชีวิตสัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้ห่างไกลจากความประมาท ไม่ทรงละทิ้งฌาน เป็นผู้ตรัสรู้แล้ว
เห. พระโคดมทรงมีวจีทุจริตอยู่อีกบ้างไหม ?
สา. พระองค์พ้นแล้วจากวจีทุจริต พระองค์ไม่ตรัสคำเท็จ มีพระวาจาไม่หยาบคาย ไม่ตรัสคำส่อเสียด ไม่ตรัสคำเพ้อเจ้อ พระองค์ตรัสคำที่เป็นประโยชน์อย่างเดียว เพราะทรงกำหนดด้วยพระปัญญา
เห. พระโคดมทรงมีมโนทุจริตอยู่อีกบ้างไหม
สา. พระองค์ทรงพ้นแล้วจากมโนทุจริต พระองค์ไม่ทรงมีพระหทัยยินดีในกามทั้งหลาย ไม่ขุ่นมัว ไม่พยาบาท ทรงล่วงโมหะทั้งมวลได้ พระองค์ตรัสรู้แล้ว ทรงมีพระจักษุรู้ทั่วธรรมทั้งหลายแล้ว

เหมวตยักษ์ได้ฟังความบริสุทธิ์ทางไตรทวารและความเป็นพระสัพพัญญูของพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้แล้วก็ปีติ เบิกบาน สอบถามสหายถึงสัพพัญญูคุณของพระศาสดาต่อไปว่า

เห. พระโคดมทรงมีวิชชาและจรณะอย่างไร อาสวะทั้งหลายของพระองค์นั้นสิ้นไปแล้วหรือยังมีอยู่ พระองค์ยังมีชาติภพอยู่อีกไหม ?
สา. พระองค์ทรงถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชา คือ ทรงมีญาณรู้ระลึกชาติได้ไม่จำกัด ทรงมีญาณรู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย และทรงมีญาณรู้ในการทำอาสวะให้สิ้นไป พระองค์ทรงมีจรณะอันบริสุทธิ์ เป็นปฏิปทาทำให้บรรลุวิชชา พระองค์ทรงทำลายอาสวะทั้งหลายให้สิ้นไปแล้ว ภพใหม่ของพระองค์ไม่มีอีก

เหมวตยักษ์ฟังแล้วหมดความสงสัย เชื่อว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงแท้ จึงกล่าวชวนสาตาคิรยักษ์ว่า

เห. พระโคดมทรงถึงพร้อมแล้วด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ทรงเป็นมุนี เป็นผู้ยอดเยี่ยมในโลก ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ทรงเป็นนักปราชญ์ ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงล่วงเวรภัยได้แล้ว ไม่เสด็จมาสู่ภพใหม่อีก เราไปฟังธรรมของพระองค์กันเถิด

ครั้นแล้วสาตาคิรยักษ์และเหมวตยักษ์จึงพาบริวาร ๑,๐๐๐ ตน เหาะไปยังป่าอิสิปตนะเฝ้าฟังธรรมพระศาสดาในช่วงมัชฌิมยาม หลังจากจบพระธรรมเทศนาแล้วเสนาบดียักษ์ทั้งสองพร้อมบริวารก็สำเร็จเป็นพระโสดาบัน
ฝ่ายนางกาฬีสดับคำพรรณนาพุทธคุณของพระบรมศาสดาอยู่ในเรือน ตั้งแต่เบื้องต้น ท่ามกลาง และในที่สุด ฟังแล้วเกิดความศรัทธา มีปีติ อารมณ์จดจ่ออยู่กับพุทธคุณที่ได้สดับ จิตของนางจึงสงบ นิวรณ์ถูกข่มระงับ สำเร็จเป็นพระโสดาบันในคืนนั้นเอง
นางกาฬีจึงนับเป็นอุบาสิกาคนแรกที่ได้บรรลุธรรม อีกทั้งการบรรลุธรรมของนางนั้นเกิดขึ้นโดยยังไม่เคยได้เห็นพระศาสดา ไม่เคยได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระศาสดาโดยตรง เป็นเพียงฟังธรรมที่ผู้อื่นเขาพูดกันเท่านั้น ภายหลังพระศาสดาได้ทรงยกให้นางเป็นเอตทัคคะ เป็นยอดของอุบาสิกาผู้เลื่อมใสโดยฟังตามเขา


จากเหตุการณ์ตอนนี้ นางกาฬีสำเร็จเป็นพระโสดาบันเมื่อพระพุทธเจ้ายังแสดงปฐมเทศนาไม่จบ ส่วนพระโกณฑัญญะสำเร็จเป็นพระโสดาบันเมื่อพระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาจบแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าคำว่าจบนี่จบกันหลายรอบหรือเปล่า ถ้าจบรอบเดียวแสดงว่านางกาฬีสำเร็จเป็นพระโสดาบันก่อนพระโกณฑัญญะ หรือผมอาจตีความผิดพลาดไปก็ได้ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตไว้เฉยๆ
เรื่องของนางกาฬียังไม่จบ ยังมีเรื่องต่อที่ท่านฟังธรรมพระลูกชาย (คนที่เกิดคืนวันนี้) วันนั้นมีโจรขึ้นบ้าน แต่นางกาฬีไม่สนใจเลย สนใจจะฟังธรรมอย่างเดียว
เอาไว้เล่าต่อวันหน้าครับ





 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2553
6 comments
Last Update : 30 กรกฎาคม 2553 18:03:53 น.
Counter : 2425 Pageviews.

 

annumothana sadhu very appriciate to read

 

โดย: pinky IP: 112.143.10.97 30 กรกฎาคม 2553 21:46:52 น.  

 

มาเล่าต่อเร็ว ๆ นะคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 31 กรกฎาคม 2553 10:25:31 น.  

 

รออ่านต่อนะคะ คุณอังคาร

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ค่ะ

ปล.ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยค่ะ
คงไม่ดังหรอก เพราะสมัครเพื่อไม่ให้ตกเทรนด์เท่านั้นเอง

 

โดย: พ่อระนาด 31 กรกฎาคม 2553 16:12:56 น.  

 






เห็นจริงด้วยค่ะ ว่าเค้าเหมือนมะระ ....

และน้ำพริกกะปิของเราก็อร่อย ... แต่เราไม่ได้ทานบ่อยหรอก นานๆที ..

รออ่านต่ออยู่ค่ะ แต่เราไม่ค่อยได้เข้าหน้ารวม Blog

มีต่อเมื่อไร แวะไปเรียกด้วยนะคะ

นอนหลับฝันดีค่ะ

 

โดย: AsWeChange 31 กรกฎาคม 2553 23:14:07 น.  

 

สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ ไปนอนก่อนนะค่ะ อิอิ

 

โดย: อร (Aorn_N ) 4 สิงหาคม 2553 0:57:22 น.  

 




สวัสดีค่ะแวะมาทักทายค่ะ ...


สบายดีนะค่ะ ...รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

 

โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง 4 สิงหาคม 2553 9:24:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.