ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
 
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

วัดป่า

ทุกสัปดาห์จะมีอยู่วันหนึ่งเสมอที่ผมเอาบุญมาฝาก ฝากให้ทุกคนแต่อาจจะไม่ได้บอกทุกคน บางทีไปเยี่ยม blog คนอื่นแล้วมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจจะคุยด้วยก็เผลอคุยเรื่องอื่นไปจนไม่ได้ออกปากฝากบุญ แต่ก็เอาบุญไปฝากด้วย แอบๆ วางไว้ตรงไหนสักแห่งนั่นแหละ
แม้จะเข้าวัดสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ แต่ก็ไม่ถือว่าบ่อยนะครับ ต้องถือว่าห่างมาก เพราะช่วงปีก่อนๆ ผมเข้าวัดทุกวัน เช้าถวายจังหัน กลางวันช่วยงานวัด กลางคืนสวดมนต์ทำวัตรเย็น มีโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ทำงานทางโลกเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย แต่ปีนี้การงานรัดตัวก็เลยเหลือเวลาเข้าวัดแค่สัปดาห์ละครั้ง แต่ก็อยากเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟังว่าเวลาเข้าวัดต้องทำตัวอย่างไร เพราะบางคนเข้าวัดแล้วทำตัวไม่ถูก และบางคนไม่ยอมเข้าวัดเลยอ้างว่าเข้าวัดไม่เป็น

ผมจะเล่าเรื่องการเข้าวัดให้ฟัง อย่าว่าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนเลย ผมว่ายังมีผู้อ่านอีกเยอะที่อยากรู้ ถือว่าคั่นเวลาเรื่องสัคคกถาไปสักพักก่อนแล้วกัน

ผมจะเล่าเรื่องการเข้าวัดโดยการอิงธรรมเนียมและวิธีการปฏิบัติของวัดป่าเป็นหลักนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่วัดป่ามณีกาญจน์อันเป็นวัดที่เข้าบ่อยที่สุด

คำว่าวัดป่านี่เป็นคำที่เรียกวัดในสายของพระภิกษุที่เป็นลูกศิษย์หลานศิษย์จนมาถึงเหลนศิษย์ของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เป็นอาจารย์ใหญ่ของพระสายวัดป่า บางคนอาจจะสังเกตเพียงแค่ว่าพระภิกษุวัดป่าครองสีจรสีกรัก สีเข้มกว่าวัดทั่วไป แต่ลึกๆ แล้วมีอะไรที่แตกต่างกันมากกว่านั้น

วัดในเมืองไทยมี ๒ สายครับ เรียกว่า มหานิกาย กับธรรมยุติกนิกาย
ในสมัยที่ในหลวงรัชกาลที่ ๔ ยังไม่ได้ขึ้นครองราชสมบัติเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน พระองค์ทรงผนวชเป็นพระภิกษุอยู่นานถึง ๒๖ ปี ทรงเห็นว่าภิกษุจำนวนมากย่อหย่อนในพระธรรมวินัย วัตรปฏิบัติหลายเรื่องคลาดเคลื่อนจากที่พระศาสดาทรงกำหนดสิกขาบทไว้ พระองค์ท่านจึงได้ตั้งนิกายสงฆ์ขึ้นมาใหม่ เรียกว่า ธรรมยุติกนิกาย ซึ่งเป็นนิกายที่มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัดมาก ถูกต้องตามพระวินัยที่พระบรมศาสดาทรงบัญญัติไว้

มีปัญหาว่าทำไมพระภิกษุจึงได้ย่อหย่อนในธรรมวินัยได้เล่า ?
เรื่องนี้เป็นเพราะก่อนที่พระศาสดาจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ท่านมีพระดำรัสว่าในอนาคตกาลหากมีพระวินัยข้อใดที่ไม่เหมาะสมกับกาลสมัย ให้ให้ภิกษุผู้เป็นอาจารย์ตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงพระวินัยให้เหมาะสมได้
หลังจากนั้นมาพระภิกษุสงฆ์ก็เลยมีแนวปฏิบัติในเรื่องของพระวินัยเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเคร่งครัดมาก พระวินัยดั้งเดิมกำหนดไว้อย่างไร แล้วพระอรหันต์ซึ่งเรียกว่าพระเถระได้ทำการสังคายนาและรวมรวมจารึกไว้เป็นพระวินัยปิฎก ภิกษุก็พยายามถือปฏิบัติด้วยความเคารพตามนั้นไม่รวมเปลี่ยนแปลง เรียกว่าฝ่ายเถรวาท คือเชื่อฟังคำของพระเถระไม่คลอนแคลน
ภิกษุอีกฝ่ายหนึ่งรับพุทธดำรัสเรื่องพระวินัยแล้ว เมื่อมีพระวินัยข้อใดที่ไม่เหมาะกับกาลและสถานที่ ภิกษุผู้เป็นอาจารย์ก็ได้แก้ไขปรับปรุงเสียใหม่ ภิกษุฝ่ายนี้จึงเรียกว่าฝ่ายอาจารวาท คือถือพระวินัยที่ผู้เป็นพระอาจารย์ได้ดัดแปลงแก้ไขแล้ว
แต่พระอาจารย์ที่จะแก้ไขพระวินัยได้ก็ไม่ชัดเจนว่าเป็นใคร ภิกษุบางรูปจึงอาจเอื้อมแก้พระวินัยตามวินิจฉัยของตน พระวินัยจึงย่อหย่อนไปเรื่อยๆ อย่างเช่น การถูกต้องสัมผัสสีกา ภิกษุบางรูปก็ว่าถ้าป่วยไข้ก็อนุโลม การถากถางหญ้าตัดต้นไม้ภิกษุบางรูปก็ว่าทำได้ การรับประเคนของก็ไม่ต้องทำกัปปิยัง หลังเพลจะดื่มนมดื่มกาแฟก็ทำได้ หรือแม้แต่การรับประเคนอาหารแล้วยังเก็บไว้ข้ามคืนได้
ที่ร้ายมากที่เคยเห็น คือ ภิกษุประเทศเกาหลีท่านฉันข้าวเย็นได้ และนั่งฉันร่วมโต๊ะกับสีกาเสียด้วย

กลับมาที่เรื่องของวัดป่ากันต่อ
ด้วยเหตุที่พระอาจารย์มั่นท่านบวชในฝ่ายธรรมยุติกนิกาย และท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก วัตรปฏิบัติออกในแนวถือธุดงควัตร เรียกง่ายๆ ว่าเป็นพระธุดงค์ ชอบปลีกวิเวกอยู่ตามป่าตามเขา เป็นพระป่า ต่อมาท่านก็มีลูกศิษย์มาบวชและปฏิบัติตามท่านจำนวนมาก ภิกษุบางรูปเป็นพระมหานิกาย เมื่อจะมาฝึกปฏิบัติกรรมฐานกับท่านก็ลำบากในเรื่องวัตรปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน ก็ต้องลาสิกขาจากมหานิกาย และอุปสมบทใหม่เป็นธรรมยุติกนิกาย จึงกลายเป็นว่าวัดป่าทั้งหลายเป็นวัดในฝ่ายธรรมยุติกนิกาย

แต่ก็มีข้อยกเว้น ไม่ใช่ว่าวัดป่าทุกวัดต้องเป็นวัดธรรมยุติ และวัดธรรมยุติก็ไม่จำเป็นต้องเป็นวัดป่าทุกวัด
ยิ่งพูดยิ่งงง จะอธิบายต่อให้ฟัง

วัดธรรมยุติทุกวัดไม่จำเป็นต้องเป็นวัดป่า เพราะวัดธรรมยุติมีมาในสมัย ร.๔ ส่วนพระป่าที่ดำเนินรอยตามพระอาจารย์ใหม่มามีภายหลัง จึงมีวัดธรรมยุติอีกจำนวนมากที่ไม่ได้เป็นวัดป่า แต่เป็นวัดที่คล้ายๆ กับวัดมหานิกายทั่วไป ผมเคยเห็นวัดธรรมยุติบางวัด พระภิกษุในวัดยังปีนตัดต้นไม้กันเหยงๆ มีนอนเอกเขนกเปิดเพลงฟังเสียงลั่นกุฏิ ซึ่งถ้าเป็นวัดป่าแท้ๆ จะไม่ทำกันอย่างนี้

ส่วนที่ว่าวัดป่าทุกวัดไม่จำเป็นต้องเป็นวัดธรรมยุติ ตัวอย่างก็คือวัดหนองป่าพงและสาขาทั้งหลาย วัดนี้เป็นวัดป่าแท้ๆ แต่เป็นวัดฝ่ายมหานิกาย เป็นเพราะเมื่อท่านพระอาจารย์ชาไปเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์มั่นนั้น ท่านจะขอบวชใหม่เป็นธรรมยุติ แต่ท่านพระอาจารย์ใหญ่ได้ห้ามไว้ บอกว่าให้อยู่เป็นหลักในฝ่ายมหานิกายบ้าง ก็เลยมีวัดป่าในสายมหานิกายเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้




เอาล่ะ เฉี่ยวๆ เข้าใกล้วัดป่าแล้ว คราวหน้าจะพาเข้าประตูไปดูภายในว่าวัดป่าเขามีอะไรกันบ้าง หลายวันนี้ต้องขอตัวไปพม่าอีกแล้ว อย่างที่เคยเล่าไว้ว่าวันที่ ๒๔-๒๕ นี้ จะทำการเปิดตัวสินค้าที่เมียวดี ตอนนี้เริ่มเอิกเกริกกันแล้วว่าเป็นสินค้าอะไร ไม่ใช่สินค้าใหม่อะไรเลย เป็นเครื่องดื่มอย่างหนึ่งที่ปรับปรุงรสชาดให้ถูกปากชาวพม่า และทีมงานหมายมั่นปั้นมือว่าจะยึดตำแหน่งเบอร์หนึ่งแทนเบอร์หนึ่งเดิมได้ เดินทาง ๒๓ กลับ ๒๖ ไปงวดนี้คู่ค้าชาวพม่าจะพาไปกราบพระที่ว่ากันว่าแม่นดังตาเห็น เขาว่ากันว่าแม่นกว่าหมอดูอีที มีอะไรดีๆ แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังครับ





 

Create Date : 22 ธันวาคม 2552
6 comments
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 11:49:58 น.
Counter : 1199 Pageviews.

 

ปีใหม่มีโปรแกรมไปเที่ยวไหนเปล่าคะ
ขอให้มีความสุขนะคะ
ขอให้มีโชคหมดทุกข์โศกโรคภัย
พ้นเคราะห์ที่เลวร้าย พันภัยด้วยเทอญ

 

โดย: chabori 22 ธันวาคม 2552 12:20:18 น.  

 

ขออวยพรให้สำเร็จค่ะ

 

โดย: supatra.p 22 ธันวาคม 2552 14:45:47 น.  

 

ชอบรูปค่ะ ขออนุญาตส่งให้เพื่อนค่ะ

 

โดย: เพื่อนธรรม IP: 180.180.74.187 22 ธันวาคม 2552 17:02:57 น.  

 

แวะมาบล็อกนี้ทีไร มีสิ่งดีๆให้อ่านตลอดเลยค่ะ

 

โดย: ร้อยคำเมือง 22 ธันวาคม 2552 17:51:33 น.  

 

แวะเวียนมาอ่านเรื่องราวดี ๆ ครับ

 

โดย: อัสติสะ 22 ธันวาคม 2552 20:21:51 น.  

 

ขอบคุณนะคะ คุณอังคาร
ได้ความรู้เรื่องวัดป่ามากขึ้นค่ะ

แล้วจะคอยติดตามเรื่่องจากเมียวดีนะคะ
อยากรู้เรื่องพระแม่น

 

โดย: พ่อระนาด 22 ธันวาคม 2552 22:42:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.