: : ชมน้ำค้างจากอมก๋อย : :
ยามเช้า
แพรวพราวสว่างใส
หยดน้ำค้างน้อยใหญ่ กระจ่างในแสงตะวัน
ยามสาย... ละอองเรียงรายเหมือนฝัน
ค่อยค่อยระเหยหายไปพลัน ในตะวันร้อนแรงแสงจ้า
: : บันทึกวันจันทร์ : : ..๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒..สี่ทุ่มจะครึ่งแล้วค่ะ..
ตอนนี้ตัว จขบ. ระเห็จมาทำงานอยู่ในพื้นที่อมก๋อยเรียบร้อยแล้ว แต่เหตุที่จำต้องนำภาพหยดน้ำจากแม่สอดมาลง เพราะคอมฯ ที่เราเอามาใช้งานที่นี่ไม่มีโฟโตช็อป (เป็นโน้ตบุ๊คตัวเล็ก) เลยจำเป็นต้องแช่อิ่มรูปแม่สอดมาจากกรุงเทพฯ ไปพลางๆ... มาอมก๋อยคราวนี้เราก็พกน้องหนอนตัวน้อย 50D มาเหมือนกัน แต่กว่าจะได้ดูรูปกันคงต้องกลับไปกรุงเทพฯ ก่อน
เมื่อวาน (อาทิตย์ ๒๒ พ.ย. ๕๒) คณะทำงานเราสี่คนออกเดินทางมาอมก๋อย... ก็เฮฮากันดีมาตลอด เรากับเพื่อนสาวอีกคนยมาเสียเซลฟ์เอาตอนจบ ช่วงรถแยกเข้าอ.เถิน จ.ลำปาง ไปอ.ลี้ จ.ลำพูน... เป็นทางลดเลี้ยวเคี้ยวคดไปตามไหล่เขา น้องๆ ทางไปอุ้มผางนั่นแล ... ปรากฎว่าเราเมารถอย่างหนัก ทั้งพะอืดพะอมและมึนหัวราวกับกินแสงโสมไปซักห้าแก้ว ... (เคยกิน...รู้ดีเจ้า...) อาจเป็นเพราะช่วงโค้งมันแคบๆ และหักศอกเยอะมาก... พยายามกินยาลมและดมยาดมก็เลยพอรอดมาได้ ดีว่าพอมาถึงอมก๋อยอาการก็หายเป็นปลิดทิ้ง เรามาถึงอมก๋อยก่อนหกโมงเย็น คณะเราเข้าพักที่ "อมก๋อยรีสอร์ท" เจ้าเก่า... เป็นรีสอร์ทเล็กๆ นอกตัวอำเภออมก๋อยมานิดนึง มาอมก๋อยคราวนี้มามีช็อกโกแลต Ferrero Rocher มาฝากน้องจอยและน้องจอม ลูกสาวลูกชายคุณก้อง... แต่ลืมของฝาก เจเจ กับ ครัวซองต์ สองตูบลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ซะด้าย คราวนี้เราได้พักบ้านหลังใหญ่ชื่อว่า "บ้านวังธาร" ชอบตรงที่มีโต๊ะนั่งทำงานกลางห้อง ชั้นบนมีห้องนอนสามห้อง แต่ละห้องมีสามเตียง คณะใหญ่มาพักกันได้สบายๆ มีน้ำอุ่นพร้อม... อยู่อย่างสบายเลยจ้า... (ไม่เหมือนคราวไปตากที่ไปนอนเต๊นท์ฟังเสียงแมวกัดกันทั้งคืน...ฮ่าๆๆๆ) บ้านวังธารนี้เป็นแนวบ้านไม้หลังคาสูงโล่งๆ ภายในตกแต่งง่ายๆ แบบคันทรีอย่างกระท่อมในฝันที่เราอยากได้เลยละ... เดี๋ยวจะแอบถ่ายรูปกลับมาก๊อปปี้ไว้สำหรับโปรเจ็คใหม่ของเรา... คริ..คริ...
บ้านนี้อยู่ริมลำธารสมชื่อ เอ..ไม่ใช่ซิ...จริงๆ แล้วลำธารนี้คือแม่น้ำชื่อว่า "แม่ต๋อม" แต่ช่วงที่ผ่านรีสอร์ทนี้แม่น้ำจะสายเล็กแคบสักหน่อยคล้ายๆ ลำธาร... เราได้นอนฟังเสียงน้ำไหลเพลินๆ ทั้งคืน... ที่อมก๋อยนี่อากาศหนาวมากกว่าตากเยอะเลย... ต้องใส่สเวตเตอร์แขนยาว ดูปรอทตอนค่ำๆ ประมาณ สิบสามองศาเซลเซียส... กำลังสบายเลยละเนอะ...
ข้าวเย็นกินกันที่รีสอร์ท คุณก้องกับคุณพร เจ้าของลงมือทำเอง... มีข้าวสวยที่เป็นข้าวไร่ (คล้ายๆ ข้าวกล้อง แต่เป็นข้าวที่ชาวบ้านปลูกด้วยวิธีหยอดเมล็ดข้าวลงในหลุมเนื่องจากไม่มีพื้นที่นาอย่างภาคกลาง) แกงเลียงผักต่างๆ ปลาทับทิมทอดกระเทียม ผัดผัก แล้วก็หมูทอด ... ช่วงนี้ที่รีสอร์ทมีคณะจากมหาวิทยาลัยมหิดลลงพื้นที่มาอบรมครูศูนย์การเรียนเรื่องการศึกษาแนววอลดอร์ฟอยู่พอดี... เขาเลยทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลมาเผื่อเราด้วย... กินข้าวเสร็จ คณะเราก็นัดคุยงานกับคณะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เพิ่งเดินทางมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ ... ประชุมเสร็จราวๆ สามทุ่มกว่าๆ ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำนอน...คร่อก...ฟี้...
เมื่อเช้านี้ (จันทร์ ๒๓ พ.ย. ๕๒) เราตื่นราวๆ หกโมงเช้า ที่ตื่นเพราะนาฬิกาปลูกของเพื่อร่วมงานดัง.. กำลังนอนหลับสบายเชียว ... แต่ก็สมควรจะตื่นแล้วละเพราะคณะเค้านัดล้อหมุนเจ็ดโมงเช้า...ได้นอนหลับสบายทั้งคืน อากาศเย็นเจี๊ยบเลย ตื่นมาค่อยสดชื่นหน่อย... รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วคว้ากล้องไปเก็บภาพด้วยเลนส์มาโครได้นิดๆ หน่อยๆ เพราะแสงน้อย ถ่ายไปก็ภาพไหวไป... ไม่มีเวลาอ้อยอิ่งเล็งกล้องนาน... เจ็ดโมงเป๊งก็หอบแฟ้มงานขึ้นรถออกไปกันเป็นทิวแถว คณะทำงานของเราตอนนี้มีเพื่อนร่วมคณะจากเชียงใหม่มาอีกสองคัน รวมเป็นสามคันที่จะพากันไปพื้นที่กัน
ออกจากที่พักก็ไปกินข้าวเช้ากันที่ร้านอาหารท้องถิ่นเล็กๆ ในอำเภออมก๋อย ชื่อว่า ร้าน "บัวผัน" แต่พวกเราเรียกกันว่าร้านป้าผัน... แกจะทำกับข้าวหลากหลายไว้บริการคนทำงานและนักเรียนที่แวะเวียนกันมากิน... กำลังเล็งๆ กับข้าวอยู่เห็นพระสองสามรูปเดินมา เพื่อนได้ความคิดเลยคว้าข้าว กับข้าวและขนมชวนไปใส่บาตรกัน... ใส่เสร็จพระให้ศีลให้พรเราก็เดินยิ้มกลับมา... สั่งกับข้าวเป็นข้าวโปะด้วยผัดขิงไก่ สูตรแก้เมาของคุณ SevenDaffodils
จากนั้นก็เข้าพื้นที่กันไปทำงานในหมู่บ้านพลั่งแท ต.นาเกียน ซึ่งอยู่ห่างไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไกลเอาการต้องนั่งรถโขยกเขยกไปราวๆ สองชั่วโมง ปรากฎว่าพอรถแล่นไปได้ซักชั่วโมงครึ่ง เจออุปสรรคที่ไม่คาดฝัน... มีรถบรรทุกรถขุดดินคันใหญ่ยักษ์ติดหล่มอยู่ตรงทางโค้งที่จะไปบ้านก๋องป๋อใต้ไม่มีทางที่รถโฟร์วีลสามคันของพวกเราจะผ่านไปได้เลย ต้องรอให้เขาย้ายรถไปก่อน น้องผู้ดูแลพื้นที่เลยอาสาซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปขอความช่วยเหลือจาก อบต. ขอให้จัดรถโฟร์วีลมารับพวกเราไปหมู่บ้าน... (ที่ต้องเป็น4D เพราะทางที่จะเข้าหมู่บ้านมันค่อนข้างจะทุรกันดารเอาการ...
รออยู่ซักพักรถยังไม่มีวี่แวว ... ไปถ่ายรูปดอกหญ้าก็แล้ว เดินเล่นก็แล้ว...เอาละซิ...ชักจะมีอาการอยากจะ เก็บดอกไม้ ขึ้นมาละ เพื่อนสาวในคณะอีกสามคนก็มีอาการประมาณเดียวกัน... 555... สาวๆ ก็เลยชวนกันไปหามุมวิเวก โดยผลัดกันดูต้นทาง ...เฮ้อ...รอดตัวไป...เป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าลืมเลยเชียว...
ซักพักน้องเจ้าของพื้นที่ก็ควบรถอบต.มา เรากับเพื่อนสาวเจ้าของโปรเจ็คได้อภิสิทธินั่งเบียดไปกับคนขับ ส่วนคณะที่เหลือร่วมสิบคนก็โหนที่กระบะท้ายรถ หัวหูฟูกระจายไป...โถ...ตะละคนนี่ระดับ ชำนาญการ ทั้งนั้นเล้ย... ต้องมาประสบวิบากกรรมกัน แต่ก็ไม่น่าสงสารนักหนอกเพราะเห็นเฮฮากันเป็นอันดี....
โอ้ว...ชักจะยาว... สรุปรวบรัดว่า นั่งหัวสั่นหัวคลอนกันไม่นานนัก ประมาณครึ่งชั่วโมง เราไปถึงบ้านพลั่งแทในเวลาประมาณสิบโมงเช้า... ครูนัดแม่บ้านกับสาวๆ ชาวบ้านมาเวลานี้พอดี ... คุยงานเสร็จเที่ยงกว่าๆ กินข้าวเที่ยงกันแล้วก็โยกย้ายไปยัง บ้านก๋องป๋อใต้ ซึ่งย้อนกลับไปทางเดิมประมาณ 1 ชั่วโมง... บ้านนี้เป็นหนึ่งในบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำแม่ลอกถูกน้ำป่าพัดพาจนท่อส่งน้ำเสียหาย... ชาวบ้านก็ถามว่าเมื่อไหร่จะมาซ่อม... อยากได้ไฟไว้ดูทีวีกัน...
เสร็จจากบ้านก๋องป๋อใต้ก็กลับมาที่พัก กินข้าวเย็นที่คุณก้องเตรียมไว้ให้ วันนี้มีข้าวสวยข้าวไร่ ต้มยำปลาช่อน ผัดผัก ไก่บ้านผัดเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ... แถมท้ายด้วยมะละกอ มะเฟือง แล้วก็ส้มอมก๋อย... นั่งคุยกันในความหนาวเย็นริมลำธารพอเพลินๆ... เจ้าของรีสอร์ทใจดีก็ยกมันเทศต้มขิงอุ่นๆ มาให้กิน...
...สีทุ่มแล้ว...เห็นจะต้องร่ำลากันไปสู่นิทรารมณ์...ในเสียงน้ำไหลของแม่น้ำ แม่ตื่น...
..สุขสันต์วันสีเหลืองสดใสนะคะ..
: : บันทึกวันอังคาร : : ..๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒..สามทุ่ม.. ...วันที่สองของการทำงานในหมู่บ้านปกากะญอแห่งอมก๋อย...
เมื่อคืนนี้ (คืนวันจันทร์ ๒๓ พ.ย. ๕๒) ดูเหมือนว่าอุณหภูมิจะลดลงมากกว่าเดิม ปกติเราขี้ร้อนก็ถึงกับหนาวสั่นงั่กๆ แถมมีอาการท้องไส้ปั่นป่วนทำให้นอนไม่ค่อยหลับ เลยลุกมาเข้าห้องน้ำชั้นล่าง นึกว่าท้องเสียแต่จริงๆ แล้วเป็นแค่มีแก๊สเยอะ... ออกจากห้องน้ำตีห้าครึ่ง ไปนอนก็ไม่หลับละ เลยมานั่งเขียนโปสการ์ดในความหนาวเย็น... ดูเทอร์โมมิเตอร์ที่ฝาผนัง 10 degree celcius!!!... มิน่า เราถึงได้รู้สึกขนลุกวาบๆ อยู่นั่นแล้ว...
หกโมงเพื่อนร่วมงานตื่นมาอาบน้ำ ต่อด้วยเรา น้ำอุ่นๆ ก็หายหนาวกันละ... วันนี้ล้อหมุนเจ็ดโมงกว่าๆ ไปถึงร้านป้าผันเจ้าเก่า เห็นพระมาเคาะฆ้องอยู่หน้าร้านอยู่แล้ว ... เกือบมาใส่บาตรไม่ทัน... ก็เลยคว้าขนมไทยห่อใบตองกับตะโก้มาใส่บาตร...สบายใจ... เสร็จสรรพไปสั่งข้าว เมนูซ้ำซากของเราคือข้าวโปะผัดขิง... วันนี้ขอตักข้าวตักกับเองจะได้ตักข้าวนิดนึงกับขิงเยอะๆ... รอรถเพื่อนร่วมทีมอีกคัน ก็เลยข้ามฟากไปถ่ายรูปดอกกุหลาบข้างทาง มีหยดน้ำค้างบนใบกุหลาบด้วย ถ่ายรูปมาหลายช็อตไม่รู้จะชัดหรือเปล่า...
นั่งรถโคลงเคลงโขยกเขยกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวอำเภอ ราวๆ เกือบสองชั่วโมงถึงหมู่บ้านพะเบี้ยว ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย เฮ้อ...นั่งเฉยๆ ใครว่าไม่เหนื่อย... ดีว่าวิวทะเลหมอกรอบด้านสวยจ้าดนัก... สองข้างทางก็มีเทือกเขาสลับซับซ้อนมากมาย คราวนี้ได้เห็นทะเลหมอกหนาทึบลอยอ้อยอิ่งอยู่รอบๆ ตัว... เรียกได้ว่ารถพวกเราแล่นฝ่าทะเลหมอกเข้าไปที่หมู่บ้านเลยละ
ทำงานกันเสร็จ กินข้าวเที่ยงแล้ว คณะเราก็เดินทางกลับมาตามเส้นทางเดิม เพื่อไปทำงานกันต่อที่หมู่บ้านขุนอมแฮดใน ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย... เราง่วงมากๆ นั่งโงกหัวโอนเอนไปหลายรอบ... หลับๆ ตื่นๆ ชั่วโมงกว่าก็ถึง ... เฮ้อ... เหนื่อยเหมือนกันนะ ขนาดเป็นแค่คนนั่งไม่ได้ขับ ทางมันกันดารเอาเรื่อง นั่งไปก็ต้องเกร็งตัวไป... หมู่บ้านนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอมากนัก แค่แปดกิโลเมตร (แต่ก็ลดเลี้ยวเคี้ยวคดไปตามไหล่เขาพอประมาณ)
เสร็จงานสี่โมงครึ่ง หน้าหนาวอากาศชักจะมืดเร็วละซิ... สี่โมงดูยังกะหกโมง... พระอาทิตย์เคลื่อนคล้อยใกล้ขอบฟ้าเต็มที... มองวิวภูเขาออกไปกว้างไกลตระการตาดีจัง กลับมาเข้ามาถึงอำเภออมก๋อย เพื่อนสาวขอแวะไปซื้อเจลล้างหน้าที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆ (อำเภอนี้ไม่มีเซเว่นอีเลฟเว่นจ้า... เมืองเล็กแค่ไหนคิดดู) เราก็แวะหย่อนโปสการ์ดลงตู้แดงหน้าที่ทำการไปรษณีย์ซะเลย... กลับถึงที่พักราวๆ ห้าโมงครึ่ง...โอ... ชอบจังเลย ไปไหนๆ ถึงที่หมายได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีเนี่ย... ถนนหนทางก็โล่ง ร้างไร้จราจรติดขัดและมลภาวะ... โลกโสภาจริงหนอ
เข้าบ้านเปิดคอมฯ ทำงานซักพักก็เข้าบล็อกแกงค์ไปทักทายเพื่อนฝูงแป๊บนึง ... ได้เวลาอาหารเย็นอีกละ... เมนูวันนี้ง่ายๆ แต่อร่อยสุดสุดคือแกงแคไก่บ้าน ผักสดมากๆ เราซัดซะเกือบหมดชาม...555
นอกจากนี้ก็มีหมูผัดเห็ดสด (จานนี้เรากินแต่เห็ด) ปลาทอดราดพริกสด น้ำพริกหนุ่ม-ผักลวก (เผ็ดมากกกก.. )
เดี๋ยวเรานั่งทำงานต่ออีกซักพักก็คงจะต้องไปนอนละ เมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อยเล่นเอามึนๆ หัว... ดีว่าอากาศดี๊ดี..เย็นสบายแล้วก็สะอาดโล่งสบายปอดมากๆ
...สุขสันต์วันสีชมพูนะคะ...
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552 |
|
17 comments |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2552 20:37:59 น. |
Counter : 1117 Pageviews. |
|
|
|
ฝันดีจ้า
อ่านเพลินดีจังครับ
ปล. ม่ายไหว รู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอตัวทานยาและเข้านอนก่อนครับ