|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
: : อมก๋อยรีสอร์ท..สบายเหมือนบ้าน : :
ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ไปเยือนอมก๋อย แล้วเราก็แสนจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทางอันระกำ แต่หลายต่อหลายครั้ง ที่เราหมดเรี่ยวแรงจากการนั่งรถแบบโขยกเขยก โคลงเคลง เขย่า กระแทก หัวสั่นหัวคลอน เหวี่ยงซ้ายป่ายขวา บางครั้งถึงกับเวียนหัว คลื่นไส้ หลายครั้งปวดท้อง ปวดหัวที่สั่นสะเทือนจนโขกหน้าต่างบ้าง โขกหัวเพื่อนร่วมทริปในรถบ้าง สารพัด สารเพ....
หลังเสร็จสิ้นงานในแต่ละวัน อาจจะเร็วบ้าง เย็นบ้าง ดึกบ้าง แต่ละคนก็ล้วนอ่อนระโหยโรยแรง บ่ายหน้ากลับสู่ที่พัก ซึ่งด้วยความใจดีของเพื่อนร่วมงานผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ เข้าใจดีถึงหัวอกเพื่อนผู้หญิงที่มักจะมีปัญหาเรื่องห้องน้ำห้องส้วม ก็เลย "จัดให้" เรามาพักกัน ณ โฮมสเตย์ท้องถิ่นที่ใครไปใครมาอมก๋อยก็ต้องมาขอพักที่นี่ ที่ "อมก๋อยรีสอร์ท"....
เมื่อเข้ามาในบริเวณรีสอร์ท ไม่ว่าจะค่ำมืดแค่ไหน เหนื่อยแฮ่กมาปานใด เราได้เห็นบรรยากาศสงบเงียบ ร่มรื่นของสวนแบบบ้านๆ ที่ดูเรียบง่าย ไม่หรูหรา ดูเป็นกันเองและสบายๆ ไม่ต้องเกรง เรารู้สึกผ่อนคลาย หายเหนื่อยเกือบจะในทันที เพราะได้ความรู้สึกเหมือนกับว่า เราได้มาถึงบ้านแล้ว...
ธรรมชาติเพลินตาของอมก๋อยรีสอร์ท กินอาณาบริเวณประมาณ 10 ไร่ ที่สำคัญคือมีลำธาร (หรือแม่น้ำก็ไม่แน่ใจ) ไหลเอื่อยๆ ผ่านกลางรีสอร์ท ทำให้ต้องทำสะพานแขวนลวดสลิงข้ามผ่านลำธาร ไปยังกลุ่มบ้านพักอีกกลุ่มหนึ่งที่ฝั่งขะโน้น (ให้ความรู้สึกเหมือนประมาณฝั่งกรุงเทพฯ-ฝั่งธนฯ ละมัง
บ้านพักของอมก๋อยรีสอร์ทมีอยู่หลายหลัง แต่คะเนดูจากสายตาคร่าวๆ ไม่น่าจะรับแขกได้เป็นร้อยๆ แต่ถ้าใครจะมากางเต๊นท์ก็คงจะได้ (ถ้าเจ้าของรีสอร์ทเขายอมน่ะนะ)...
บ้านพักหลังใหญ่สุดชื่อ "วังธาร" มีอยู่หลังเดียวที่มีสามห้องนอน พักได้เกือบสิบคน ห้องนอนที่เราเคยพักอยู่ข้างๆ ลำธาร ยามค่ำคืน ฟังเสียงน้ำไหลระเรื่อยผ่านเกาะแก่งเพลินจนหลับไป...
อุณหภูมิกลางคืนที่นี่จะสิบกว่าๆ องศาเกือบตลอดปี เย็นสบายและสะอาดบริสุทธิ์กว่าแอร์วิทยาศาสตร์มากมายนัก ช่วงที่เราไป ตอนเช้าตื่นมากินกาแฟตอนหกโมงกว่าๆ มาดูเทอร์โมมิเตอร์หน้าห้องอาหาร อุณหภูมิประมาณ 12 องศาเซลเซียสทุกวัน แต่พอเช้าวันที่จะกลับกรุงเทพฯ ปรอทตกไปที่ 8 องศา!!!
เฟิร์นและต้นไม้อื่นๆ เขียวสดสะพรั่งอย่างนี้ หน้าบ้าน "ริมธาร"
อีกมุมของบ้าน "วังธาร" หน้าต่างในภาพคือห้องที่เราเคยนอนฟังเสียงน้ำไหลทั้งคืน (ที่จริงอีกห้องก็คงได้ยินเหมือนกันนั่นแหละเพราะบ้านนี้อยู่ตรงคุ้งน้ำพอดี...)
บ้านอีกแบบหนึ่งที่รีสอร์ทมี (และเราก็เคยพักอีกนั่นแหละ) เป็นบ้านขนาดเล็กกะทัดรัด มีเตียงสองชั้น 1 ชุด เตียงธรรมดา 1 เตียง นอนได้สามคน มีเฉลียงเล็กๆ ให้นั่งชมทิวทัศน์ ซึ่งร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านล่างก็เป็นธารน้ำใส ในบ้านก็มีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพ ซึ่งสุดแสนทันสมัยตรงที่มีหน้าต่างกระจกใสแจ๋วให้ชมวิวข้างนอกได้ขณะเข้าห้องน้ำ...
บ้านหลังคาทรงสูง แต่อยู่สบ๊าย สบาย ไม่ร้อน ไม่อึดอัด เพราะเป็นไม้ทั้งหลัง เข้าใจว่าเป็นไม้สัก คนรักความสงบต้องถูกใจแน่นอน
มาคราวนี้ เราโชคดีได้พักบ้านหลังใหม่เอี่ยมที่เพิ่งสร้างเสร็จ ต้องข้ามสะพานไปฟาก "ฝั่งธนฯ" แต่ก็หนุกดี ไม่เห็นเป็นไร เพราะเราก็ไม่ได้ข้ามไปข้ามมาบ่อยๆ ซะเมื่อไหร่ ก็กินข้าวเสร็จ ข้ามกลับไปอาบน้ำ เคลียร์งานเอกสารที่ค้างๆ อยู่แล้วก็พักผ่อนนอนหลับที่ฝั่งโน้นเลย เช้านู่นแน่ะค่อยข้ามกลับมากินข้าวเช้า...
หนึ่งในบ้านกลุ่ม "ฝั่งธนฯ" ที่อยู่ในแมกไม้ใหญ่น้อย เท่าที่เห็นมีอยู่สี่หลัง
บ้านที่เราพัก ชื่อ "ชมนาด" ข้างๆ บ้านเราเป็นบ้านที่เพื่อนร่วมงานพัก ชื่อ "จำปา" ลักษณะบ้านจะเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง อยู่ได้สองคน แต่เราว่าภายในห้องกว้างขวางกว่าบ้านฝั่งโน้น และยังมีเฉลียงนั่งรับลมชมวิวริมลำธารที่ค่อนข้างกว้างกว่าด้วย ห้องน้ำในบ้านก็ขนาดใหญ่ พร้อมกระจกใสชมวิวอีกนั่นแหละ
บ้าน "จำปา" ที่เพื่อนพัก (บ้าน "ชมนาด" ของเรามีผ้าพาดไว้จ้ะดูไม่ค่อยน่าถ่ายมาให้ดู) ยามบ่ายถึงเย็น ถึงมีแดดส่องแต่น่าแปลกที่ไม่ร้อนเลย เย็นรื่นอย่างน่าประหลาด
ทางเดินในรีสอร์ทเป็นหินธรรมดาๆ แต่ดูกลมกลืนกับบรรยากาศ นี่คือเดินไปที่ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น ดูทีวี สังสรรค์ ฯลฯ....
มุมโปรดยามเย็น วันไหนกลับมาไม่ค่ำเราจะมานั่งทำงานเอกสารกันแถวๆ นี้ ก่อนจะกินข้าวเย็น ดูทีวีกันจนค่ำ ก่อนแยกย้ายกันไปอาบน้ำนอน
นอกจากบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เราสบายกาย คงต้องมีสิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้เราสบายใจเหมือนอยู่บ้านจริงๆ ซึ่งก็คืออัธยาศัยและน้ำใจไมตรีอันงามของเจ้าของรีสอร์ททั้งสอง คือ คุณรุจ และคุณศิริพร เหลี่ยวรุ่งเรือง...
ทั้งสองท่านดูแลทุกข์สุขของผู้มาเยือนเหมือนเป็นญาติมิตรเพื่อนฝูงของตนเอง ไม่ใช่แขกเหรื่อมาจากไหน ยิ่งเราขอผูกปิ่นโต ฝากท้องไว้กับกับข้าวมื้อเย็นฝีมือคุณก้อง (ชื่อเล่นคุณรุจ) กับคุณพร ทั้งทีมเราก็ได้กินอาหารแบบที่พี่ประพันธ์ โชเฟอร์คนเก่งของเราล้อว่า "Food Floor Home" (อาหาร-พื้น-บ้าน ไง...) แต่อร่อยมากกกกก....
อาทิเช่น น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แกงโฮะ ผัดผักหวานแบบเหนือ ปลาทอดเปรี้ยวหวาน ยำไข่ต้มที่เป็นไก่บ้านของคุณก้องเอง ที่ขาดไม่ได้ทุกวันคือผัดผักสารพัดชนิด...
และส่งท้ายสุดพิเศษ คือ ต้มยำไก่ป่าของคุณพร (ที่เราได้ยินเสียง กระต๊ากกก... ลั่นสนั่นรีสอร์ทก่อนจะเงียบ เล่นเอาทีมงานอึ้งไป แต่พอมาเป็นชามก็อร่อยดีแฮะ...ไก่ป่านี่รสชาติไม่เหมือนไก่เลี้ยง หรือไก่บ้าน แปลกดีเพิ่งเคยกิน ยิ่งสงสารก็เลยต้องกินให้หมดชาม!!!)
น้องจอม ลูกชายคุณก้อง-คุณพร ในชุดปกากะญอรุ่นเยาว์ นี่แหละเจ้าของอมก๋อยรีสอร์ทตัวจริงในอนาคต
มาอมก๋อยเที่ยวนี้เพื่อนเล่นใหม่ คือ ลาบราดอร์รุ่นจิ๋วสองตัวที่มีเพื่อนฝรั่งเพิ่งให้คุณก้องมา เป็นสีสันใหม่ให้ผู้มาเยือนได้เห็นความน่ารักของเจ้าตัวซนทั้งสอง
ขอส่งท้ายด้วยแสงตะวันใกล้ค่ำ ของวันแรกที่เราไปถึงอมก๋อยรีสอร์ท ภาพนี้เราถ่ายที่หน้าบ้านพักของเราเอง เวลา 18.40 น. เกือบทุ่มนึงแล้วแต่ยังมีสีสันสวยๆ ให้ดู พระจันทร์เสี้ยวมารอค้างฟ้าอยู่แล้ว...
ถ้าใครได้ไปแถวๆ อมก๋อย (ซึ่งแสนไกล...ใครน้อจะไปถ้าไม่ได้ไปทำงานอย่างเรา) ก็อย่าลืมแวะไปพักที่ อมก๋อยรีสอร์ทที่น่ารักและแสนสงบ อยู่สบายแห่งนี้ รับรองอยู่แล้วจะติดใจไม่อยากกลับมาเจอควันพิษในกรุงเทพฯ ส่วนเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ไว้ขอมาหลังไมค์ทีหลังได้เลยจ้ะ (อ้าว... เรายังไม่ได้ทำหลังไมค์เลยนี่นา... แฮะๆ ยังทำไม่เป็น ใครรู้วิธีทำโค้ด ช่วยแนะนำด้วยก้อจะขอบคุณมากๆ) ไม่เป็นไร ใครสนใจโพสต์มาถามได้เลย แล้วเราจะไปหามาตอบให้จ้ะ....
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 10 มีนาคม 2553 0:02:34 น. |
|
5 comments
|
Counter : 3963 Pageviews. |
|
|
|
โดย: f18hornet วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:56:28 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire (Devonshire ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:02:52 น. |
|
|
|
โดย: VA_Dolphin วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:12:12:06 น. |
|
|
|
โดย: parachute วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:15:25:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อากาศหน้าร้อนจะร้อนมากไหมครับ