: : หนึ่งวันที่ปากช่อง : :
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 แม้จะเป็นวันหยุดสองเด้ง คือเป็นวันมาฆบูชา แต่วันต่อมา คือวันจันทร์ ที่ 1 มีนาคม 2553 เป็นวันหยุดราชการชดเชยอีกหนึ่งวันก็จริง ... แต่เราไม่ได้หยุดเพราะต้องไปร่วมงานสัมมนาสำคัญระหว่างชาติที่แบงก์ใหญ่แถวๆ สะพานแขวน วันอาทิตย์บ้านเราก็เลยพากันไปโต๋เต๋แถวปากช่อง นครราชสีมาโน่น ...
ออกจากบ้านเก้าโมงกว่า ขึ้นดอนเมืองโทลล์เวย์ (ราคาแพงมหาโหดมากกกก... 85 บาท ถ้าเรามาเองไม่ขึ้นเด็ดขาด เกลียดที่มันคิดแพงเว่อร์เกินเหตุ) ผ่านรังสิต คลองหลวง อยุธยา เรื่อยไปจนเข้าทางลัดออกทางเลี่ยงเมืองสระบุรี (บายพาส) โผล่เข้าถึงถนนมิตรภาพแล้วสมาชิกในรถหิวข้าวเป็นกำลัง เลยแวะปั๊มปตท. กินข้าวแกงกันคนละจานสองจาน เรากินบะหมี่น้ำลูกชิ้นปลา ต่อด้วยเฉาก๊วยชากังราว กับข้าวตามปั๊มแบบนี้ บ้านเรากินกันได้เป็นปกติไม่มีปัญหา ไม่ต้องเสียเวลาไปตระเวนหาร้านอาหารที่ไหนอื่นไกล ...
อิ่มท้องเสร็จสรรพออกเดินทางต่อ จุดหมายปลายทางคือไปบ้านเพื่อนของเพื่อนคนข้างๆ เรา ติ๊ดต่างว่าชื่อคุณ ร. แถวๆ กิโลเมตรที่ 4 ถนนธนะรัชต์ (ถนนขึ้นเขาใหญ่นั่นแหละค่ะ) คือคุณ ร. คนนี้ เป็นคนทำงานในกรุงเทพฯ นี่แหละ แต่เกิดพิสมัยบรรยากาศบ้านป่าริมธาร ก็เลยมาหาซื้อที่ปลูกบ้านแถวๆ ปากช่อง ใกล้ๆ เขาใหญ่ มีลำธารลำตะคองไหลผ่านเสียด้วย พอคุณ ร. ทราบว่าคนข้างๆ สนใจจะปลูกบ้านที่ปากช่อง ก็เลยชวนให้มาเที่ยวชมบ้านแก แถมยังบอกว่ามีที่ริมลำธารพร้อมจะแบ่งขายให้อีก แปลงละ 1 ไร่ 1 งาน เราก็เลยเอาก็เอา แวะมาดูเสียหน่อยละกัน ...
..บ้านไร่ของคุณ ร. ร่มรื่นสวยงามน่าพักผ่อนจริงๆ ..
ราวๆ สิบเอ็ดโมงกว่าก็ไปถึงบ้านคุณ ร. จอดรถเสร็จได้ยินเสียงเห่าขรมของหมามากกว่าหนึ่งตัว สุ้มเสียงบอกว่าเป็นตูบตัวเล็ก ปรากฎว่าเป็นปอมเมอราเนียนที่ตัดขนตามลำตัวสั้น เลยดูหน้าตาพิกลยังกับหมาญี่ปุ่น ... คุณ ร. รอต้อนรับอยู่แล้ว บริเวณรอบๆ บ้านทำเป็นสวนดูร่มรื่นสบายตา เดินเลยไปหน่อยเป็นศาลาโล่งๆ ไว้นั่งเล่นคุยกัน บ้านคุณ ร. อยู่ริมน้ำ คุณ ร. บอกว่ามาซื้อที่ตรงนี้หลายไร่อยู่ แล้วก็แบ่งๆ กันกับเพื่อน ปลูกเป็นบ้านหลังย่อมๆ ริมลำน้ำลำตะคอง ไม่ได้ทำไร่ทำสวนอะไร เอาไว้เป็นบ้านพักผ่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ หน้าร้อนกลางวันร้อนหน่อย แต่กลางคืนก็เย็นสบายดีไม่ต้องเปิดแอร์ (คุณ ร. ว่างั้น) ...
คุณ ร. ให้คำแนะนำในการปลูกบ้านตามประสบการณ์ เช่น ทำเป็นบ้านชั้นเดียวเพื่อให้ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ สร้างบ้านแบบให้มีลานตรงกลางเพื่อใช้เป็นที่สังสันทน์ สร้างบ้านกระท่อมสำหรับรับรองแขก ฯลฯ ซึ่งแต่ละอย่างไม่ตรงกับใจเราเลย ที่ของคุณ ร. ใหญ่ หลายไร่ จะสร้างบ้านชั้นเดียวแผ่ๆ แค่ไหนก็ย่อมได้ แต่ที่ของเราเล็กจิ๊ดเดียว ต้องปลูกบ้านสองชั้นไม่งั้นแทบจะไม่เหลือที่ทำสวนเลย แต่เราก็นั่งฟังแกยิ้มๆ ไปเรื่อยๆ ขี้เกียจขัดคอ ...
คุยๆ กันเสร็จแล้วเราเดินไปดูที่ทางริมน้ำกัน น้ำในลำตะคองดูเป็นสีเขียวๆ น้ำก็ไหลช้าๆ นิ่งๆ ดูไม่เป็นลำธารเท่าไหร่ (ดูเผินๆ นึกว่าบ่อน้ำ) มองไปฝั่งตรงข้ามก็เป็นรีสอร์ทของคนอื่น มีกังหันน้ำด้วย เดินเล่นชมสวนเสร็จ คุณ ร. ก็ให้ผู้ช่วยขับรถนำรถเราไปดูที่แปลงที่จะแบ่งขาย ซึ่งอยู่เลยไปอีกราวๆ สิบกิโลเมตร ที่แปลงนี้ก็มีลำตะคองไหลผ่านเหมือนกัน น้ำก็เป็นสีเขียวๆ นิ่งๆ เหมือนกัน ที่ตรงนี้แม้จะริมน้ำ แต่วิวมันดูน่าอึดอัด คือทัศนียภาพมองไม่กว้างไกล มองข้ามลำน้ำไปก็ไปเจอรีสอร์ทของคนอื่น มองซ้าย-ขวา-หลัง ก็เป็นที่อีกแปลง ไม่มีวิวภูเขาไกลๆ หรือทุ่งกว้างๆ ให้ได้บรรยากาศปากช่องเลย ... หรี่ๆ ตาดู ก็อาจจะรู้สึกคล้ายๆ ที่ริมคลองแถวๆ ชานเมืองกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ ... สรุปว่าเราก็เฉยๆ ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก ไปดูที่แมวดิ้นตายของเราดีกว่า ถึงที่จะจิ๋วหลิวแต่วิวอลังกว่าเยอะ ..
.. ที่แปลงเท่าน้องแมวดิ้นตายของเรา ยังว่างเปล่าอยู่จ้า..
ที่เราอยู่ในโครงการ ใกล้ๆ ไร่องุ่นพีบีแวลลีย์นั่นแหละ (แต่อันนั้นเค้าเป็นร้อยๆ ไร่แน่ะ) อยู่ในเขตตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง (อช. เขาใหญ่อยู่ตำบลหมูสี) ถ้ามาจากกรุงเทพฯ จะถึงก่อนเขาใหญ่หลายสิบกิโล เลี้ยวเข้าไปบริเวณที่แปลงเล็กของเรา ก็ได้เห็นว่าทางโครงการฯ เขามาตัดหญ้าและวัชพืชที่ขึ้นรกเรื้อบนที่ดินให้แล้ว ... ช่วงนี้เป็นฤดูแล้งและร้อน บรรยากาศเลยดูแห้งๆ แล้งๆ ยังกับแดนจังโก้ในหนังคาวบอย แต่ก็มีลมเย็นพัดชื่นใจเหมือนเดิม ....
มาคราวนี้มีแปลกตาอยู่หน่อยตรงที่มีกอท่อสายไฟกระจุกใหญ่โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินบริเวณหน้าที่ดินของเรา (โครงการนี้เขาใช้ท่อร้อยสายไฟลงใต้ดิน) แต่ถนนดินลูกรังก็ยังไม่ได้ราดยาง เดินสำรวจที่แล้วก็คิดว่าคงต้องปลูกบ้านสองชั้นแน่นอนเพื่อประหยัดพื้นที่หน้าดิน เพราะเราอยากได้พื้นที่ทำสวนสวยๆ กว้างๆ เยอะๆ มีทางเดินในสวน มีชุดเก้าอี้นั่งเล่นริมสวน มีสวนดอกไม้หอม สวนสมุนไพร สวนครัวรั้วกินได้ แล้วก็สวนดอกไม้ป่า ...ฝันซะอลังการงานสร้าง ที่เท่ากระแบะมือเนี่ยนะ ...
เดินวนไปเวียนมาบนผืนดินที่ยังว่างเปล่าของเรานานพอสมควร เสียเวลากะเก็งเล็งทิศกันว่า จะวางตัวบ้านไว้ตรงไหน สรุปว่าบ้านเราน่าจะเป็นรูปตัวแอล จะได้เห็นวิวได้สี่สิบห้าองศา (ที่เราเป็นแปลงหัวมุม ก็เลยหันได้สองทิศ) จากนั้น เราก็วกรถไปดูที่แปลงอื่นๆ ของเพื่อนบ้านเสียหน่อย ที่หลายแปลงก็เริ่มปลูกบ้านกันบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เป็นบ้านสองชั้นกันทั้งนั้น มีทั้งลักษณะเป็นบ้านตึกและบ้านไม้ เราเองก็อยากได้บ้านที่เป็นวัสดุคล้ายๆ ไม้ อาจจะเป็นไม้เชอร่า (ไม้ปลอม) ก็ได้ น่าจะดูดีกว่าบ้านตึกทาปูนสีแปร๋นๆ...
ก่อนกลับเราได้มีโอกาสเก็บรูปดอกหญ้ามาสองสามรูป แดดยามบ่ายต้นๆ แจ๋เหลือเกิน วัดแสงอย่างไรก็ไม่ค่อยได้จังหวะแสงงามดังใจ แถมลมก็แรงมาก โฟกัสได้ยากเย็น ดอกหญ้าก็ไม่ค่อยมีเหลือให้ถ่ายรูปสักกี่ดอก...
...สุขสันต์ในค่ำคืนของวันมาฆบูชานะคะ...
..ดอกหญ้าสีขาวดอกเล็กๆ ในทุ่งหญ้า..
..ดอกหญ้าตูมๆ ก็น่ารักดี..
..ดอกหญ้าสีม่วง แกว่งไกวในสายลม..
: : บันทึกวันจันทร์ : : ...1 มีนาคม 2553 ...
วันนี้วันจันทร์แต่เป็นวันหยุดราชการและธนาคาร บริษัทอะไรต่างๆ ก็หยุดกัน รถราและถนนหนทางก็เลยโล่งดี เราและเพื่อนร่วมงานไม่ได้เข้าออฟฟิศแต่ยกโขยงสามคันรถไปสัมมนาทั้งวัน นั่งฟังวิทยากรบรรยายหลับๆ ตื่นๆ แถมท้องร้องจ๊อกๆ อีกต่างหาก (ไม่ใช่แต่เราหรอก คนอื่นๆ ก็ด้วยหลายคน) เป็นบทเรียนว่าทีหน้าทีหลัง ต้องแอบเตรียมขนมบิสกิทอะไรนิดๆ หน่อยๆ ติดกระเป๋าไว้เผื่อยามฉุกเฉิน
การสัมมนาวันนี้เป็นประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการดูแลระบบนิเวศ เป็นมุมมองของฝ่ายผู้บริหารรัฐ เราว่าสิ่งที่ท่านออกมาพูดๆ กันออกจะเป็นนามธรรม คือเป็นความตั้งใจดีๆ ในเรื่องการส่งเสริมให้ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม ... ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็พูดกันทั้งโลกได้ พูดง่ายทำยากว่างั้นเถอะ ... ที่ดูจะเป็นรูปธรรมหน่อยก็เรื่องเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกเพื่อลดปัญหามลภาวะ เช่น พลังงานจากลม แสงอาทิตย์ น้ำ ก๊าชชีวภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย
ในที่ประชุมมีการหยิบยกประเด็นเด่นๆ สำคัญมาถกกัน เช่น เรื่องการประมาณการขององค์การโลกอะไรสักอย่าง ว่าอีกสิบปีข้างหน้า หลายประเทศในโลกจะขาดแคลนน้ำจืด เรื่องเกี่ยวกับการปนเปื้อนของสารเคมีในดิน ในน้ำ จากการใส่ปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืช แล้วก็ปัญหาการเผาป่า ถางป่า เพื่อทำการเกษตร ฯลฯ แต่ละเรื่องเป็นเรื่องจริงที่น่าตระหนกไม่น้อย
ปัญหาอย่างหนึ่งที่เป็นเรื่องหนักอกของผู้บริหารสังคมเมือง คือเรื่องขยะ ของเสีย และมลภาวะ ที่ใดมีเมือง ที่นั่นย่อมมีขยะมากมายเก็บไม่หวาดไม่ไหว แค่คิดก็สยองแล้วว่า มนุษย์เราจะมีปัญญาจัดการกับขยะอันมากมายมหาศาลนี้ได้อย่างไร ฝังกลบหรือเผาเท่าไหร่ๆ ก็คงไม่มีวันหมด
ทุกวันนี้เราก็พยายามใช้หลักการ 3 R คือ Reuse, Reduce, Recycle มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อยู่แล้ว ยอมเป็นคนที่ถูกมองแปลกๆ ว่า .. เออ ยัยนี่จะบ้าละเปล่า หอบถุงหอบกล่องมาซื้อของโดยไม่ยอมรับถุงพลาสติก .. ยิ่งกล่องโฟมเราไม่เอาเลย ร้านไหนขายขนมขายข้าวที่อยู่ในกล่องโฟมจานโฟม เรายอมอดข้าวอดขนมเลยละ ความตั้งใจที่จะทำตามกลยุทธ์ 3 R ของเราเนี่ย ถ้ามันพอจะมีส่วนช่วยโลกได้มั่งนิดๆ หน่อยๆ เราก็ภูมิใจของเราละเนอะ...
..สุขสันต์วันสีเหลืองค่ะ..
: : บันทึกวันอังคาร : : ...2 มีนาคม 2553 ...
เข้ามาแก้เดือนกุมภาเป็นเดือนมีนา ... โฮะๆๆ อะไรจะหลงวันลืมคืนได้ขนาดนี้ สองสามวันมานี้รู้สึกเหมือนนอนไม่เต็มตา ตื่นมาก็ยังง่วงๆ น่าจะเป็นผลมาจากเจ้านกกาเหว่าขี้เหงาตัวหนึ่งที่ชอบร้อง .. กาเว้า..กาเว้า.. กลางดึกๆ ดื่นๆ ทุกคืน ไม่รู้เป็นนกขี้เหงาร้องหาคู่หรือไร ชอบส่งเสียงร้องตอนตีสาม เรากำลังหลับสบาย ต้องตื่นกลางดึกเพราะได้ยินเสียงคุณนกนี้นั่นแหละ คราวนี้ก็เลยหลับยากละ .. เฮ้อ ..
เดือนที่สามของปีมาถึงอย่างรวดเร็วมาก ถ้ามีตัวชี้วัดผลการทำงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ต้องตอบว่ายังสอบไม่ผ่าน เพราะยังมีอะไรต่ออะไรมากมายที่รอให้จัดการอีกมาก แต่เราก็พยายามไล่บี้งานตัวเองอยู่ทุกวี่ทุกวัน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ไปถึงไหนสักที .. เฮ้อ .. (อีกที)
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 3 มีนาคม 2553 9:30:17 น. |
Counter : 3311 Pageviews. |
|
|
|
ไม่ได้เข้ามานาน ขอเจิมจะทันมั้ยน้า