Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
๐ กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ๐ (บทที่ 2)




บทที่ 2




สะดุ้งตื่นแต่เช้ามืด ผมคลำหัวตัวเอง..ถูกผีหลอกจนหัวโกร๋นเชียวหรือ..บ้าสิ..ฮะ..ฮะ..ก็นายเป็นพระหัวจะไม่โกร๋นได้ไง!



จำได้...

เมื่อคืนหลังจากลงไปป๋อมแป๋มในแม่น้ำสักพัก มีมือๆ หนึ่งฉุดผมขึ้นนอนแผ่บนท่า..หลวงพี่เขียดที่จำวัดอยู่ห้องแรกถัดจากส่วนของหลวงตาใบคงได้ยินเสียงคนตาขาวตกน้ำ

ท่าน้ำที่ผมวิ่งไปอยู่ห่างจากศาลานิดเดียว ลักษณะคล้ายโป๊ะท่าเรือ ขึ้นลงได้ตามระดับน้ำ ผมจึงตะเกียกตะกายอยู่ข้างท่านั่นเอง ความจริงผมว่ายน้ำเป็น แต่เวลานั้นเหมือนลูกหมาพุ้ยน้ำมากกว่า

หลวงตาโผล่หน้าต่างออกมาหัวเราะหึๆ ผมรักษาเชิงบอกหลวงพี่เขียดว่าออกมาอาบน้ำ หลวงพี่เขียดก็หัวเราะเหมือนหลวงตา

“ก๊อกๆ”

“ตื่นได้แล้วพระนิด” เสียงหลวงพี่อาจก้องศาลา

“ครับ” ผมหยิบขันน้ำแปรงสีฟันออกจากห้องเดินไปท่าน้ำเล็กที่อยู่ท้ายศาลา

“ไงท่าน..ได้ข่าวว่าอาบน้ำแต่ดึก..หึ..หึ” หลวงพี่อาจตามมานั่งบนม้านั่งยาวที่สร้างติดถาวรข้างๆ ท่า..ท่าน้ำเล็กนี้ต้องไต่บันไดลงไปในน้ำเพราะอยู่บนตลิ่ง มีเรือที่ใช้บิณฑบาตทางน้ำหลายลำผูกโซ่ลอยเรียงอยู่

“แครกๆ ฟอดๆ” ก้มหน้าก้มตาแปรงฟัน

“ถามจริง..เมื่อคืน อาบน้ำหรือวิ่งหนีอะไรมา..ฮะ..ฮะ..” รายการพระค้นพระ

“ฟอดๆ ครอกแครกๆ ปู้ด พรวด!” เสียงแปรงฟัน กลั้วน้ำ และบ้วนออกมา แสง สี เสียงธรรมชาติ มิได้ลามกหยาบโลนอนาจารแต่ประการใด

“ไงล่ะพระนิด” หลวงพี่อาจยังไม่หยุดกวน หลวงนิดอุตส่าห์เพ่งสมาธิอยู่ในโพรงปากแล้วนะนี่

“ตูม!” ตัดสินใจวางแปรง โดดลงน้ำ จะได้ไม่ถูกเซ้าซี้เยาะเย้ยต่อไป..กลัวสัญชาตญาณก่อนบวชเข้าสิง...ฮึ่ม!



ขบวนหลวงทั้งหลายเดินตามกันเป็นแถว พระชัยไม่ได้มาด้วย..แปลกที่ไม่มีหลวงพี่บนศาลาเดียวกับผมสักรูป เราเดินไปเรื่อยๆ ยังมืดอยู่ หัวแถวเดินดุ่มเหมือนมีจุดหมายที่คุ้นเคยข้างหน้า ผมมองทัศนียภาพยามเช้ามืดอย่างชื่นใจ อากาศบริสุทธิ์สดชื่น ไม่เคยได้รู้สึกมาก่อน เผลอซื๊ดลมหายใจ อยากจะอ้าแขนออกรับอรุณ ติดที่ต้องหนีบลูกบวบและอุ้มบาตรเท่านั้น

“จุ๊ๆ” พระรูปติดกับผมคงได้ยินเสียงสูดโอโซน

“ครับ..รู้แล้ว!” ใครจะกล้าพูดออกมา..แค่นึกในในใจ


แถวหยุดลงบ้านแรกเมื่อฟ้าสาง ไม่มีญาติโยมสักคนแถวนั้น แปลกใจว่าหลวงพี่หัวแถวหยุดทำไม..สักครู่โยมผู้เฒ่าคนหนึ่งกระย่องกระแย่งลงจากเรือน วางขันข้าวบนบันไดขั้นบนสุด เดินลงมาสามขั้น เลื่อนขันลงมา จนตัวถึงพื้นจึงหยิบขันเดินมาที่แถวของพระ เริ่มใส่บาตรตั้งแต่หัวแถว..ความจริงมีทั้งสิ้นห้ารูป พูดว่าขบวนเสียงง

“อ้อ!..พระใหม่” ยายไม่ได้มองจริงจังแต่รู้ ตักข้าวร้อนๆ ที่เหลือทั้งหมดลงบาตรผม..ร้อนนะ!..เพิ่งเห็นห่อใบตองเล็กๆ ที่ยายเตรียมไว้ข้างขัน..นึกว่าให้ฉันข้าวเปล่าๆ เสียอีก..นายนิด!

หลวงพี่พาเดินรับบาตรไปเรื่อยๆ บางทีลงจากถนนเข้าไปตามซอยวกวนไปมา..ถ้าปล่อยผมไว้กลางทางกลับวัดไม่ถูกแน่..จนถึงบ้านหลังหนึ่งทรงไทยสูงสง่า มีสวนดอกไม้หน้าบ้าน ถนนโรยกรวดสวยงาม หญิงสาวคนหนึ่งยืนคอยพระอยู่พร้อมบริวารสองคนถือถาดใส่เครื่องคาวหวานและถาดดอกไม้กำ

บ้านโยมเฒ่าหลังแรก แถวพระยืนนิ่งสำรวมให้ยายใส่อาหาร แต่บ้านทรงไทยหลังนี้แถวพระจะเคลื่อนเข้ารับบาตรทีละรูป..ผมคิดตามที่ตาเห็น..ทำไมปฏิบัติไม่เหมือนกัน

ทั้งที่ก้มอยู่กับพื้นกรวดข้างหน้า ผมเห็นสาวผู้นั้นยืนเหยียบบนรองเท้าแตะของเธอ ขยุกขยิกเกร็ง กลัวจะตกจากรองเท้า พื้นก็ไม่ได้สกปรกอะไร ไหนๆ จะทำบุญทั้งที..เหมือนไม่เต็มใจ

จนถึงพระรูปสุดท้าย..จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่พระนิด..นิสัยของเมื่อวานซืนยังค้างอยู่ แทนที่จะเลื่อนไปยื่นตรงหน้าเหมือนพระรูปอื่น ผมไปเกือบถึงซะงั้น สาวเจ้าขยุกขยิกเอื้อมทัพพีข้าวมาที่บาตรผม..ไม่ถึง!..เดี๋ยวเธอคงต้องลงจากรองเท้าเหลือเท้าเปล่าๆ...แต่..เอากะเธอสิ..ยื่นขันข้าวให้บริวารนำมาตักใส่ให้ผม..เฉยเลย

“ฮึ!” ไม่ดังสักเท่าไหร่แต่ผมก็ได้ยิน อดช้อนสายตาขึ้นดูไม่ได้

“ขวับ!” รับค้อนไปหนึ่งด้าม..เออนะ..แม่พิมพิลาไล

“อะ แอ้ม..” หลวงพี่รูปเดิมคงไม่ได้มีอะไรติดคอ ยิ้มๆ ชำเลืองมาที่ผม


บ้านสุดท้ายอยู่ไม่ไกลจากวัด..ต้องเลี้ยวจากถนนเข้าไปเช่นเคย ทางตรงดิ่งคล้ายเพื่อบ้านหลังนี้โดยเฉพาะ..ไม่ใช่บ้าน ก็บ้านน่ะแหละ หลังใหญ่มากแต่ไม่สวยงามวิจิตรอะไรแค่หลังใหญ่แข็งแรง ใต้ถุนบ้านเสานับไม่ถ้วนนั้นเป็นลานดินกว้างใช้เป็นโรงงานทำเตา เตาที่ใช้ถ่านฟืนหุงข้าวทำอาหาร

“โยมแม่..” หลวงพี่หัวแถวทักโยมสูงอายุที่หิ้วปิ่นโตเข้ามา “พระใหม่จ้ะ..พระศานิตย์เพื่อนพระมหาชัย”

“อ้าว!..แล้วพระมหาชัยไม่ได้มาด้วยหรือ..คงไปสายอื่น” วางเถาปิ่นโตลงบนฝาบาตรพระลูกชายและอีกสามรูป

“พระมหาชัยไม่ได้ไปสายไหนหรอก” หลวงพี่ตอบยิ้มๆ

“สวยจริงนะพระกรุงเทพฯ” โยมแม่ชมดื้อๆ..ทำไมว่าสวยล่ะครับ..คนรูปหล่ออย่างผมก็เขินนะซิ เถาปิ่นโตเกือบหล่น..หนักนะ..ซ้ำยังหยิบจับไม่ถนัด...ลูกศิษย์เห็นท่าไม่ดีรีบคว้าไปหิ้ว



กลับถึงวัด..กำลังจะแยกย้ายไปตามกุฏิของตัว ผมเร่งฝีเท้าไปที่หัวแถว

“ทำไมหลวงพี่..เอ่อ..รู้จักชื่อผมล่ะครับ”

“พระมหาชัยสนิทกับผมและครอบครัว เราเป็นญาติกันห่างๆ ผมชื่อคิม ชื่อจริงคิ้มเพียว..” ชื่อคิมเท่ดี แต่คิ้มเพียว..แหะ..แหะ “พระมหาฝากให้ผมดูแล คุณถึงเข้ามาอยู่ในสายผม”

“อ้อ..ขอบคุณครับ” จะมัวโอ้เอ้อะไรอีกไม่ได้ ลูกศิษย์ยืนเขม้นอยู่ทางแยกไปศาลาที่พัก..สมุนนายดำคงหมั่นไส้พระสวยๆ..เอ๊ย!..หล่อๆ อย่างผมเป็นแน่


เข้าไปยืนบนแท่นหินกลางที่ล้างเท้า..คล้ายบ่อหินเล็กๆ มีขอบกั้นน้ำทั้งสี่ด้าน ตรงกลางเป็นแท่นพอยืนได้ ในบ่อนั้นมีน้ำขังอยู่ วางไว้ติดเชิงบันได เวลาจะขึ้นศาลาต้องไปยืนบนแท่นหินใช้เท้าวักน้ำขึ้นถูกับหินและหลังเท้าอีกข้างจนสะอาด แต่ถ้าเหยียบสุนัขตายก็อีกเรื่องหนึ่ง

“ท่าทางทะมัดทะแมงเหมือนกันนะ..” หลวงพี่เขียดที่ฉุดผมขึ้นจากน้ำเมื่อคืนยืนอุ้มบาตรต่อคิวล้างเท้าอยู่ “ไม่เป็นไรแล้วหรือ?”

“เชิญครับหลวงพี่” ผมก้าวออกจากแท่นหิน เช็ดเท้ากับผ้าขี้ริ้วเชิงบันไดรีบขึ้นศาลา ไม่อยากพูดเรื่องเมื่อคืนอีก

วางบาตรลงบนแท่นเตี้ยๆ ที่มีบาตรหนึ่งวางอยู่ก่อนแล้ว แต่ไม่ทันหลวงพี่เขียดที่ดูเหมือนจงใจรีบนำบาตรมาวาง

“มีอะไรปรึกษาได้นะ รู้ใช่ไหมว่าผมอยู่ห้องใกล้หลวงตา ทำนองเลขาน่ะ เจ็บไข้ได้ป่วยอะไรขอยาที่ผมได้ เห็นสำลักน้ำอยู่เมื่อคืน” อีกแล้วจนได้

“ขอบคุณครับ” ก้มลงไหว้ตัดบท เดินผ่านสองประตูจึงถึงห้องผม

“เดี๋ยวออกมาฉันอาหารสวมแค่อังสะเท่านั้นนะ” ไม่วายร้องบอก

“แล้วไม่ต้องใส่สบงหรือ?” เปล่า!..ใครจะกล้าถามออกไป


ประมาณเจ็ดโมงกว่า มีเสียงถ้วยชามกระทบกัน ผมแง้มประตูห้องดู เห็นลูกศิษย์กำลังยกอาหารมามาวางกลางศาลาด้านริมระเบียง เป็นวงพอนั่งได้ห้าหกคน..ท้องร้องจ๊อกๆ ทันที

“ฉันเช้าครับ” นายดำยื่นลูกตาดำๆ ลอดประตูที่แง้มอยู่..ผมผงะออกแทบไม่ทัน..อิดออดพอมีพระรูปอื่นผมจึงออกจากห้อง

หลวงตารูปหนึ่งผมหงอกขาวออกมาเป็นอันดับแรก สองคือพระนิดผู้หิวโหย หลวงพี่รูปหล่อของจริง หลวงพี่เขียดเดินตามหลังหลวงตาใบ และหลวงพี่อีกรูปขาวซีดตัวเล็กๆ หูติ่ง ปากหวอเกือบแหว่ง ทุกรูปถือชามและช้อนส้อมของตัวเองมา ผมจึงกลับเข้าห้องมองหาและพบช้อนชามที่ญาติโยมจัดเตรียมไว้ให้

ออกมาที่วงอีกครั้งเพิ่งสังเกตว่าไม่มีพระญาติสนิทของผม ท่านมหาข้ามคืน หลวงเพื่อนมหาชัย..ไปไหนของเค้านะ หรือไปฉันร่วมวงกุฏิหลวงพี่คิ้มเพียวจากเส้าหลิม..ก็ท่านล่ำบึก ตัวใหญ่ ขาวจั๊ว ตาหยีออกอย่างนั้น

“พระมหาขัยอยู่ไหนล่ะ?” หลวงตาใบเปรยขึ้นหลังจากนั่งล้อมวงทุกรูปแล้ว

“อ้าว!..เอ่อ..” ผมถอนกระแสจิตจากเมืองจีนทันที ทุกสายตามองมา “นึกว่าไปบิณฑบาตสายอื่น สายที่ผมไปไม่มีหลวงพี่ที่ศาลานี้เลย..ครับ” ความจริงเพราะผมรีบและเพราะหลวงพี่อาจมากวนตั้งแต่ลืมตาตื่น “ผมจะลองดูในห้อง..”

“ไม่ต้อง..” สายไปเสียแล้วผมลุกจากวงไปที่ประตูห้องพระมหาชัย สังหรณ์ใจเล็กๆ

“ก๊อกๆ..” เงียบ

“ก๊อกๆ..โครมๆ..” นึกได้ถึงกิติศัพท์การนอนขี้เซาของญาติคนนี้

“ตูม!” คราวนี้ไม่ใช่แค่เคาะเพราะค่อนข้างแน่ใจ ผมขว้างระเบิดใส่ประตู


“มีอะไรหรอ..” ท่านมหาแง้มประตูออกมา ขี้ตางัวเงีย






Create Date : 08 กรกฎาคม 2553
Last Update : 8 กรกฎาคม 2553 17:05:22 น. 0 comments
Counter : 563 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.