Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
29 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
๐ กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ๐ (บทที่ 23)




บทที่ 23






เหตุการณ์สงบเมื่อพลบค่ำ รถดับเพลิงยังอยู่ควบคุมถ่านไฟที่ไม่ยอมดับง่ายๆ



โบสถ์ใหญ่เสียหายทั้งหลัง โบสถ์เล็กเหลือกำแพงสี่ด้านและหน้าต่างประตู ศาลายาวถูกไฟเผาสามห้อง ห้องหลวงพี่เรย์แบรนด์ หลวงตาทิน ห้องหลวงพี่อาจและท่าน้ำท้ายศาลา

ชาวบ้านส่วนใหญ่กลับไปแล้ว เหลือแต่เวรยามคอยเฝ้าระวังเพื่อความแน่ใจ รวมทั้งตำรวจและพระผู้ใหญ่ที่ร่วมพิจารณาหาต้นเหตุของเพลิงไหม้

ผมและนพยังตัวไม่แห้ง เหงื่อยังซึม แข้งขาอ่อน

“เอายังไงต่อ?..” นพถามขึ้นเพราะเห็นค่ำแล้วกว่าจะกลับถึงบ้านคงดึก “แต่ที่จริงกลับเดี๋ยวนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน”

“ไม่รู้สิ ยังงงๆ อยู่..” เดินสำรวจความเสียหายของศาลายาว “ห้องนี้ไงที่ผมเคยพัก” ชะโงกเข้าไปในห้อง

“นี่นะ..จีวรยังพาดอยู่เลย..” นพกดบ่าผมชะโงกเข้าไปดูบ้าง “มีตะกร้าผ้าเด็กด้วยแฮะ” ตาไวแต่ไม่ได้คิดอะไร

“เฮอะ..” เป็นผมที่คิดแทน

“ไม่เห็นมีพระสักรูป” นพและผมเตร่อยู่นานพอที่น่าจะมีใครปรากฏขึ้นบ้าง

“พระนิด..ทิดนิดใช่ไหมครับ?” ดำขึ้นมาจากท่าหลวงตาใบ

“ใช่”

“มีผมแล้วเกือบจำไม่ได้” ดำกวาดพื้นศาลาด้วยความเคยชินทั้งที่ทุกสิ่งทุกอย่างรกเละเทะ

“คนเดียวไหวหรือ..” ผมช่วยหยิบเศษไม้กระดานไปกองรวมด้านหนึ่ง “พรุ่งนี้ชาวบ้านคงมาช่วย งานใหญ่นะ ที่โบสถ์ก็เหมือนกัน”

“ผมไม่รู้จะทำอะไร กวาดไปเรื่อยฆ่าเวลา” ดำหยั่งความมั่นคงของแท่นยาวหน้าห้องและนั่งลง ผมนั่งตาม

“ไม่มีใครอยู่?” ผมเอ่ยขึ้น..ใจอยากรู้เรื่องนึงและหลวงพี่อาจ

“ทิดนิดคงไม่รู้..” ดำก้มหน้ามองปลายไม้กวาด “หลวงตาใบสิ้นเมื่อสองเดือนมาแล้ว หลวงพี่เขียดสึก หลวงพี่นัทสึก คุณเรย์แบรนด์เห็นป้วนเปี้ยนอยู่ที่โบสถ์กับหลวงพี่คงก่อนไฟไหม้..” หันไปมองซากห้องสุดท้าย “แปลก!..ห้องตัวเองถูกไฟไหม้ไม่เห็นมาดู”

“ดำก็แปลกเรียกหลวงพี่ว่าคุณ” อดติงไม่ได้ทั้งที่พอเข้าใจอะไรดี

“ฮึ!..” ดำก็ค้อนเป็น “เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น”

“หลวงปู่?..” ถามไปแล้วอดใจหายไม่ได้ถ้าคำตอบเหมือนหลวงตาใบ

“หลวงปู่อาพาธอยู่ที่โรงพยาบาล พระปุ่นรับหน้าที่ดูแล”

“ดีแล้วที่หลวงปู่ไม่รู้เรื่องไฟไหม้วันนี้..” มองไปทางกุฏิท่าน “คงเปียกเหมือนกัน มีอะไรเสียหายบ้างก็ไม่รู้”

“ไม่รู้สิ พระปุ่นลั่นกุญแจไว้แน่นหนา..” ดำยกมือปิดกึ่งหน้าผากกึ่งเบ้าตา “คนนี้ก็เหมือนกัน ฮึ่มๆ อยู่กับหลวงพี่คงในโบสถ์..” ประกบอีกมือหนึ่งปิดหน้า “แค้นที่ต้องชำระ”

“แค้นอะไร? ถามไปแล้วจึงนึกออก

“ที่หลวงพี่คงยึดสมบัติของท่านไปไง..ไม่รู้เหตุการณ์วันนี้เกิดขึ้นเพราะพระคู่นี้หรือเปล่า”

“อย่างนั้นเชียว?..” พลันนึกได้ถึงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของพระสองรูป “คงไม่ถึงกับเผาวัด”

“ไม่ใช่ละมั้ง!..” นพเข็นโนว่ามาจากหน้าวัดอดออกความเห็นไม่ได้..ความเห็นของคนนอกวัด “ใครจะใจบาปขนาดนั้น”

“อาจไม่ใช่ แต่ก็น่าคิด..” ดำเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากจากที่เคยจับผิดพระนิดเดินหิ้วถุงโอเลี้ยง “อีกอย่างท่านก็ไม่ได้อยู่ที่วัดตอนเกิดเรื่อง..” ยกมือไหว้ไปทางกุฏิหลวงปู่ “หลวงปู่คงถูกอ้างเป็นพยานโดยไม่รู้ตัว”

“หลวงพี่อาจล่ะ?” ในที่สุดผมถามขึ้น

“หลวงพี่อาจยังสม่ำเสมอ เหลืออยู่เฝ้าศาลายาวเพียงรูปเดียว..” แอบอมยิ้ม “จำวัดอยู่ห้องของพระนิด”

“ห้องที่มีเสื้อผ้าเด็ก” นพร่วมวงด้วยทั้งที่กำลังสำรวจโนว่าคู่ใจ

“ยิ้มอะไร?” ผมเห็นจนได้

“อะ..แอ้ม..” ดำเลิกแกล้งทิดปากแข็งใจแข็ง “ไม่ถามถึงนึงหรือ”

“นั่นแหละ..นั่นแหละ..” สมใจคนใจสีเทา

“ผมนี่ละ..” ยืดอก นั่งตรง “พี่เลี้ยงนายนึง”

“อ้าว!..” เหลียวมองซ้ายขวาอย่างโง่ๆ “ทำไมไม่บอกแต่แรก แล้วนึงอยู่ไหน?”

“โชคดีที่ไม่อยู่..” นิ่งเหมือนแกล้ง “เมื่อหลังเพลหลวงพี่อาจพานึงไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล คงเห็นโกลาหลหรืออย่างไรไม่รู้ ป่านนี้ยังไม่กลับมา”

“นึงคือใคร?..” นพร้องถามขึ้นจากด้านล่าง “ผมฟังอยู่แต่ไม่รู้เรื่อง” ง่วนเช็ดโนว่าที่เปียกน้ำมอมเขม่าไม่แพ้ใคร

“ลูกชายทิดนิด..ฮะ..ฮะ..” พอหายเครียดดำเริ่มทะเล้น

“ฮ้า!..” เงยหน้าขึ้นรวดเร็ว หัวเกือบชนแฮนด์รถ “มีเมื่อไหร่?..ได้ไง..” นพหลงกล “เฮ้!..ฮะ..ฮะ..นายเด็กดำ” รู้ตัวว่าถูกอำเข้าแล้ว


“แล้วจะอย่างไรกันล่ะโยม
” หลวงพี่คิมเป็นห่วงตามมาดูทิดจากกรุงเทพฯ และเพื่อน

“พักหายเหนื่อยแล้วจะกลับครับ” นพรีบตอบ

“หลวงพี่อาจกับนึง” แม้ไม่ชัดเจนแต่คำตอบของผมคืออยากพบทั้งสองคนก่อน

“หลวงพี่อาจและเด็กนึงปลอดภัยอยู่ที่โรงพยาบาล นึงเขาแข็งแรงดีทิดนิดไม่ต้องเป็นห่วง..” ตบหัวผมที่นั่งกับพื้นตรงหน้า “ห่วงตัวเองเถอะเดี๋ยวจะดึกดื่น ไม่ใช่รถเก๋งของทิดมหาชัยอย่างคืนนั้นนะ”

“เราไม่ได้บอกแม่นายนิดด้วยสิครับว่าจะมาถึงที่นี่” นพย้ำให้หลวงพี่คิมไล่ผมกลับบ้าน

“รีบๆ กลับบ้านนะ..อ้อ..ขอบคุณโยมทั้งสองด้วยที่ช่วยกันรักษาศาลายาวไว้ได้” หลวงพี่คิมเดินกลับไปหน้าวัด

“นพ เราแวะโรงพยาบาลก่อนนะ”

“มืดมากแล้วเขาไม่ให้เยี่ยมหรอก..” ดำสอดขึ้น “ผมเคยไปเยี่ยมหลวงปู่ ไปกับพระวิมล..แต่วว)) )”

“ลูกของเพื่อนก็เป็นหลานผม..” ไม่รู้นพบ้องตื้นไปกับดำจริงๆ หรือแกล้งตามน้ำเพื่อให้ผมยอมกลับกรุงเทพฯ “โอเค..ลองดูก็ได้..” นพขึ้นประจำที่คนขับ “แรงขากลับมาแล้วครับคุณนิด”

“แน่ใจ?..” ผมชักลังเล “น่าจะอยู่ค้างวัดสักคืน..” แต่ก็ขึ้นซ้อนหลังคนขับที่กางขาจับแฮนด์นิ่งไม่ปริปากอะไร

“เร็ว!..” ส่งหมวกกันน็อคให้ผมและใส่ของตัวเอง

“ไปก่อนนะดำ แล้วจะมาใหม่ ฝากดูแลนึงด้วย”

“โชคดีครับ ขับดีๆ นะคุณนพ..” ไม่วายตะโกนตามหลังโนว่า “อย่าเพิ่งแน่ใจว่าหลวงพี่อาจและนึงอยู่ที่โรงพยาบาล”

“เดี๋ยวนพ!..” จากหางตาผมเห็นดำวิ่งหน้าตั้งตามมา

“ลืมบอกเรื่องสำคัญ..แฮ่..แฮ่..” ดำหอบแฮกเมื่อวิ่งถึงรถที่จอดรอ

“อะไรอีกครับคุณดำ?” เป็นนพที่ถาม คงกลัวเรื่องจะยาวจนทำให้ผมเปลี่ยนใจ


“ก่อนหลวงพี่หลอจะหายไป แกเที่ยวบอกใครๆ ว่าเป็นพ่อนึง”





Create Date : 29 มิถุนายน 2554
Last Update : 30 มิถุนายน 2554 7:52:07 น. 0 comments
Counter : 704 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.