Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
2 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
๐ กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ๐ (บทที่ 16)




บทที่ 16




ขลุกขลักพอสมควรกับการนึกจะทำอะไรก็ทำของผม


“ทำไมท่านทำอย่างนี้?..” เหมือนแม่ไม่ดีใจที่ผมมา “ที่วัดรู้กันหรือเปล่า”

“ผมไม่สบาย..” พูดเรื่องจริง “ไม่ได้บอกใคร”

ผมพูดกับแม่แบบธรรมดา ไม่รู้จะเริ่มศัพท์พระตอนไหน..แม่ให้น้องชายมาจับตัววัดความร้อน พอดีมื้อเย็นมีต้มจืดหมูบะช่อกับผักต้นไม้ (ตำลึง แต่ผมชอบเรียกผักต้นไม้) แม่รินแต่น้ำมาถวาย ให้น้องคั้นน้ำส้ม และจัดยาให้กิน

อาหารมื้อนี้อร่อยที่สุดถึงแม้จะเสริฟโดยหญิงสูงอายุหน้างอก็ตาม

“ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะท่าน..” แม่หายเคือง..ผมรู้ว่าไม่ได้เคือง “เหนื่อยมาทั้งวัน จำวัดก่อนพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”

จำวัด..เรียกจำวัดได้หรือ?..ผมนอนห้องน้องชายคนรองที่ฉวยโอกาสไปค้างบ้านเพื่อน น้องที่เหลืออีกสี่แวะเวียนเข้ามาดูผม หัวเราะคิกคัก ทำการบ้านแล้วเข้านอนในที่ของตัว



“จะสึกเมื่อไหร่คะท่าน..” แม่ยิงคำถามหลังฉันเช้าฉันยาเรียบร้อย

“ผม..เอ่อ..” ไม่นึกว่าแม่จะถามตรงๆ เช่นนี้ “อาตมา..” แหมๆ นายนิต..แสดงตนเป็นพระเต็มตัว “ยังไม่ได้คิดเลย คงอีกไม่นาน โยมแม่ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ไม่ได้เป็นห่วงท่าน..น้องๆ โตขึ้นทุกวัน ต้องกินต้องเรียน..” แม่ก้มหน้า “แม่คนเดียวไม่ไหวเหมือนกัน”

“อาตมาอยู่วัดไม่ถึงเดือน..” ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ไม่นึกว่าแม่จะจริงจัง “ให้ครบเดือนแล้วจะบอกโยม”

“ที่ถามเรื่องนี้เพราะเมื่อสองวันก่อน นายนพเพื่อนท่านเขามาบอกว่าได้งานทำที่บริษัทประกอบรถยนต์แห่งหนึ่ง..” มองลูกบวบที่ไม่มั่นคงบนไหล่ผม “แม่คิดว่าท่านไม่ได้แน่วแน่ในพระพุทธศาสนาเท่าไหร่..”

“ทำไมโยมแม่คิดอย่างนั้น” แม่รู้อะไรหรือ?

“มีตำแหน่งว่างอยู่..” แม่ไม่ตอบคำถาม ยังคงมองลูกบวบที่กำลังจะหลุดมิหลุดแหล่ “นพอยากให้ท่านได้งานนั้น”

“น้องไปโรงเรียนหมดแล้วหรือ.” เมื่อเช้าก็มาสวัสดีผมก่อนไปนี่นา.. “แม่ไม่ไปทำงาน”

“แล้วท่านจะอยู่กับใคร?”

“ผมน่าจะมาวันเสาร์อาทิตย์” นอกจากไม่ทำตัวให้เป็นประโยชน์แล้ว ผมกลับมาเบียดเบียนจนแม่เสียงาน

“ไม่เป็นไร แม่หยุดงานบ่อย ธุระเรื่องโรงเรียนของน้องๆ..” อีกภาระหนึ่งที่ผมควรช่วยทำ “มีน้องห้าคนแล้วอย่าหามาเพิ่มอีกเลยนะท่าน”

“แม่!..” ผมตกใจ ไม่นึกว่าแม่จะรู้เรื่องนึง

“แม่แค่เตือนสติเฉยๆ ไม่ได้ว่าอะไร คิดว่าท่านคงไม่นำปัญหามาใส่ครอบครัว..ก็รู้ๆ กันอยู่”

“เด็กคนหนึ่งยายเขาถูกรถชนตาย ผมไปพบเข้าเห็นน่าสงสารจึงช่วยเลี้ยงตามมีตามเกิด..” ไม่ได้โกหก แค่เบี่ยงเบนความจริง “เรื่องในวัดโยมแม่ไม่น่าเอาเป็นอารมณ์” นึกเคืองที่แม่รู้ทัน

“ก็ไม่อยากยุ่งหรอกถ้าท่านไม่ใช่พระลูกชาย..แม่เป็นแม่ย่อมเป็นห่วงและรักลูกของตัวเอง นับประสาอะไรกับท่านยังห่วงและรักเด็กคนนั้น อย่านึกว่าแม่จะไม่สนใจชีวิตในวัดของท่าน อย่างไรแม่ก็คือแม่ห่วงลูกด้วยกันทุกคน จะแสดงออกหรือไม่ จะมีโอกาสบอกให้รู้หรือไม่เท่านั้น” แม่ร่ายยาว

“ครับ..” ผมจะพูดอะไรได้

“อีกอย่าง..” แม่ได้ที “เรื่องติดเพื่อน..”

“เพื่อน?” ผมงงกับหัวข้อใหม่..คงไม่ใช่...

“เป็นคนธรรมดาจะทำอย่างไรก็ได้ ยิ่งสมัยนี้..” แม่นิ่งไป คงหาวิธีพูดที่นุ่มนวล “อย่างเจ้าน้องรอง..ไปขลุกค้างบ้านเพื่อนบ่อยๆ แม่ไม่ติดใจอะไร..” นิ่งอีก “ท่านกับนายนพสมัยเรียนก็เหมือนกัน” หยุดพูดไปเฉยๆ

“หลวงพี่องค์หนึ่ง..” ผมค่อนข้างแน่ใจว่าคือประเด็นหลวงพี่อาจ ไม่นึกว่าเรื่องจะมาถึงที่นี่ ซ้ำในแง่ร้ายเสียด้วย “ท่านดูแลผมตั้งแต่บวชวันแรก..” อยากจับแม่หันมามองผมให้เต็มตาอย่างที่นายนิดเคยทำบ่อยๆ เวลาชี้แจงเรื่องแม่เข้าใจผิด “แม่ก็คงเห็น..รูปที่อยู่ใกล้ๆ คอยบอกให้ผมปฏิบัติตัวตอนพิธีบวช ผิวคล้ำตัวใหญ่ค่อนข้างอ้วนคนนั้นแหละ”

“อ้อ!..” คงโล่งใจไปเปลาะหนึ่งถ้าเห็นภาพตามที่ผมบอก

“และวันต่อมาช่วยสอนเรื่องการครองผ้า การดำรงชีวิตอย่างถูกต้องของพระสงฆ์ กระทั่งร่วมรู้เห็นและช่วยเหลือเด็กกำพร้าคนนั้น”

“เอ่อ..” ไม่รู้แม่คิดอะไร

“แม่นะแม่..” เห็นสีหน้าคลายความกังวล “ร่วมสมัยเสียจนผมตามเกือบไม่ทัน..ฮะ..ฮะ..” หัวเราะกลบเกลื่อนเรื่องในใจ “ยังไม่ถึงเดือนกลายเป็นพระบ้านนอกไปแล้วผม”


“ไงพระนิด!..” สองแม่ลูกคุยกันเพลิน ไม่ทันสังเกตว่ามีรถมาจอดหน้าบ้าน

“อ้าว..มหาชัย” แม่ออกไปเปิดประตู

“พระมหา..” ผมปรับตัวไม่ทัน

“ทิดชัยต่างหาก..” จีวรเหลืองแวบๆ ตามมา “ดูซิใครมาด้วย”

“หลวงพี่อาจ!..” คนแรกที่นึกถึง “อย่ามานะ..” กระซิบกับตัวเอง

“นมัสการค่ะ” สำเนียงยินดีของแม่..แสดงว่าคือพระที่แม่รู้จัก ไม่ใช่อ้วนดำที่ผมเพิ่งเล่าให้ฟัง

“หลวงพี่คิมน่ะเอง..”

“แล้วนึกว่าใครหรือ..” แปลกๆ “ทางวัดกำลังสงสัยว่าท่านหายไปไหน พอดีทิดชัยโทรฯ ไปบอก อาตมาจึงมารับกลับ..”

“พระสานิตย์ไม่สบายค่ะ” แม่ชี้แจง..ความเป็นแม่

“ถ้าอย่างนั้นอยู่ค้างอีกคืนพอดีขึ้นแล้วค่อยกลับ..อาตมาอยู่เป็นเพื่อน”

“ผมหายแล้วครับ..” ถ้าอยู่อีกวันแม่ต้องขาดงานอีก..และ..ไม่คุ้นกับหลวงพี่เส้าหลินรูปนี้..เสียงร่ำลือ “ปกติดีแล้วครับ” อาการไข้ของผมหายไปจริงๆ

“ไหนๆ มาโปรดโยมแม่..” หลวงพี่พูดเป็นงานเป็นการ “เทศนาให้โยมฟังสักหน่อย”

“เทศนา!..” สะดุ้งในใจ


ผมอิดออดจนฉันเพลเรียบร้อยก็ยังตกลงใจไม่ได้ ไม่รู้หลวงพี่คิมนึกอย่างไร ถ้าคิดในทางที่ดี ชีวิตหนึ่งที่ได้เป็นพระ เทศนาสักครั้งโดยเฉพาะให้โยมแม่ฟังคงเป็นกุศลไม่น้อย

จากหนังสือธรรมที่หลวงตาใบให้อ่าน รวมทั้งรายการวิทยุที่หลวงพ่อวิทยากรทำการอบรมมีบรรจุอยู่ในสมองพระนิดอยู่บ้าง ผมจึงตัดสินใจเทศน์เมื่อบ่ายแก่ๆ

หลวงพี่คิมเป็นพิธีกรนำทางแทบทุกอย่าง..อาราธนาศีล..บทสวดก่อนเทศนา..จึงถึงพระนิดฉายเดี่ยว

“ความรักของแม่” คือหัวข้อที่ผมเทศน์..อย่างน้อยแม่ก็มีแม่ ทิดชัย หลวงพี่คิมก็มีแม่ เกือบได้เวลาน้องๆ กลับจากโรงเรียนแล้ว..แต่เหนือสิ่งใดอยากให้แม่รู้ว่าผมตระหนักในความรักของแม่ และรักแม่มากเพียงไร

“ตั้งแต่เราเป็นเด็ก..” พยายามนึกถึงบทพรรณนาเวลาทำขวัญนาค “หญิงคนหนึ่งเฝ้าเลี้ยงดูป้อนข้าวป้อนน้ำจนเราเติบใหญ่ ยิ่งกว่านั้นเธอยังต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว แม้จะเหนื่อยยากเพียงไรก็ยังยิ้มแย้มกับลูกเสมอ”

“คิดตามวิชาชีวะ..” น้องๆ กลับจากโรงเรียนทยอยเข้ามาในห้อง “ร่างกายของเรานี้มาจากเซลล์และเลือดเนื้อของแม่ แม่ต้องแบ่งแคลเซี่ยม โปรตีนมาประกอบเป็นตัวลูก ค่อยๆ ปะติดปะต่อจนร่างกายครบอาการสามสิบสอง นอกจากนั้นลูกยังแย่งทุกสิ่งที่แม่กินเข้าไป แม่รู้ดี จึงต้องกินอะไรที่คิดว่าลูกในท้องกินได้เท่านั้น”

“แม่เหมือนผู้วิเศษที่เสกให้เรามีชีวิต เสกร่างกาย เสกอาหารเครื่องนุ่งห่ม เสกโรงเรียนให้เราได้ศึกษาเล่าเรียน ช่วยทำการบ้าน ให้ความรู้ข้อคิดที่ไม่มีสอนในโรงเรียน หวังดีตักเตือนในสิ่งที่เราไม่สมควรทำ..อะ..แอร้ม..” มองสบตาแม่

“วันหนึ่งเมื่อเราได้ทุกอย่างจากแม่จนแทบไม่เหลืออะไรแล้ว เราสมควรมอบตอบแทนท่านในทุกสิ่งที่ได้รับมา ถ้ายังเด็กอยู่..” มองน้องเล็ก “ให้ขยันหมั่นเรียนหนังสือ ช่วยทำงานบ้าน..เมื่อเป็นวัยรุ่น..” มองน้องรองสองคน “อย่าดื้อกับแม่ ไม่เสพสิ่งชั่วร้ายมึนเมา ไม่ชิงสุกก่อนห่าม และดูแลช่วยเหลือการงานที่สำคัญๆ ของบ้าน”

“แต่ตามความจริงแล้วแม่ไม่ใช่ผู้วิเศษ แม่คือผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น..วันหนึ่งเมื่อท่านอ่อนแรงแก่ชราไปตามกฎเกณฑ์ของชีวิต ลูกๆ สมควรเลี้ยงดูและกลายร่างเป็นผู้วิเศษเช่นเดียวกับท่านในอดีต อะไรที่ทำได้ อะไรที่สมควรทำ อะไรที่ต้องการ เราควรจะทำจะหามาให้ไม่ว่ายากลำบากเพียงไร แม้สิ่งสำคัญที่สุดคือชีวิต เราก็ให้ท่านได้เพราะท่านเป็นคนให้เรามา” อธิบายอย่างไรดี..พูดไปตามเพลงอย่างนั้นพระนิด

“ที่ว่าให้ได้ทั้งชีวิต หมายถึงอะไรๆ ที่เรามีที่เราเป็นถ้าแม่ต้องการหรือมีความจำเป็นเราสมควรให้..แต่แม่คือแม่..ไม่มีวันที่จะให้ลูกลำบากถึงชีวิตหรอก”

“สรุปแล้วแม่คือพระพรหมที่ดลบันดาลสิ่งดีๆ ให้กับลูก เราควรเคารพบูชาเทิดทูนเหนือสิ่งใด อาตมา..หลวงพี่ ที่ห่มจีวรนั่งเทศน์อยู่นี้หาได้มีค่าน่าเคารพเท่ากับแม่ที่นั่งพนมมืออยู่เลย..” หันไปหาน้องๆ “โยมน้องกราบโยมแม่พร้อมหลวงพี่นะ” ผมก้มลงกราบแม่ น้องๆ กราบตามพร้อมกัน

เงยหน้าขึ้นเห็นแม่น้ำตาคลอ มือที่พนมอยู่สั่น เลื่อนต่ำลง..น้ำตาค่อยๆ ซึมออกมา


พระนิดน้ำตาไหลเป็นทาง...





Create Date : 02 มิถุนายน 2554
Last Update : 2 มิถุนายน 2554 10:26:11 น. 5 comments
Counter : 745 Pageviews.

 
ลืมให้ที่อยู่เว็บไซต์ สิปประภา-ษาริน
ดีนเข้าไปดูเองนะ

//www.sipprapa.net/index.php


//www.sarinbook.com/



โดย: พี่แจม IP: 192.168.2.31, 182.52.208.13 วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:22:51:06 น.  

 
ส่งผลงานของคุณมาที่
’ษาริน สำนักพิมพ์
เลขที่ 31/213 หมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 1 ตำบลบึงคำพร้อย
อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12150
หรือทาง E-mail : sarinpub@yahoo.com


โดย: พี่แจม IP: 192.168.2.31, 182.52.208.13 วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:22:52:51 น.  

 
ดีน.. ขออภัย พี่เพิ่งไปเห็นกระทู้ในบอร์ดของเขา

ช่วงนี้ ษาริน พักนิยายไว้ก่อน ยังไม่รับพิจารณา.. ส่วนของสิปประภา เป็นงานเกี่ยวกับศิลปะ ภาพวาด อะไรทำนองนั้น


โดย: พี่แจม(อีกที) IP: 192.168.2.31, 182.52.208.13 วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:22:55:43 น.  

 
สวัสดีครับพี่แจม ...

เดี๋ยวนี้ผมปลงแล้วครับ

ที่เขียนอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อผ่อนคลายปัญหาชีวิตตัวเอง

แต่ถ้าเครียดมากๆ ก็เขียนไม่ได้เหมือนกัน

เห็นคนอื่นเขาได้ตีพิมพ์ฉลุยๆ

ของผมมีแต่คนรังเกียจ

เขียนเอง อ่านเอง ดีที่สุด

กลัวแต่ว่าสักวันจะได้พิมพ์แต่ไม่ใช่ชื่อผมนี่สิ? ...

ดีน ...


โดย: ดาเรน (ดาเรน ) วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:8:49:18 น.  

 
ลืมพูดถึงพี่ ...

พี่แจมนี้มีคุณสมบัติของนักประชาสัมพันธ์ครบถ้วน

เป็นนักปลุกระดมชั้นยอดด้วยซิครับ

แต่ดวงผมมันขุนไม่ขึ้น

คงอยู่อย่างนี้ .. ดีแล้วครับ ...

ดีน ...



โดย: ดาเรน (ดาเรน ) วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:8:53:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.