|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องเล่าร้านเช่าหนังสือ / บทนำ (ใช่) ฮะ (ผม) เก๋า
ผมกำลังจะมีร้านเช่าหนังสือเป็นของตัวเองแล้วนะครับ...
เรื่องมันเริ่มต้นจากความเบื่อหน่ายในชีวิตของผมเอง ไม่ได้มีแรงบันดาลใจพิเศษมาจากไหน ไม่ได้เกิดจากหนัง ไม่ได้ฟังจากเพลง อยู่มาวันหนึ่งก็รู้สึกขึ้นมาเฉยๆว่า เบื่องานที่ทำฉิบหายเลยว่ะ โดยที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับที่ทำงานเลย เพื่อนร่วมงานก็เฮฮากันดี เจ้านายก็รักใคร่เอ็นดู แต่อยู่ๆก็เบื่อมันขึ้นมาซะงั้น เป็นความเบื่อที่รุนแรงในระดับขมขื่นพะอืดพะอม ทุกข์ตรมตั้งแต่ตอนตื่น ขมขื่นตอนถูกใช้ และสดใสตอนจะกลับบ้าน นี่คงไม่ใช่สัญญาณที่ดีของการทำงานแน่ๆ ผมกำลังเข้าใกล้การเป็นพนักงานชั้นเลว (หรือจริงๆผมก็เป็นพนักงานชั้นเลวอยู่แล้ว แต่เพิ่งมาตระหนัก) เป็นเหลือบไรขององค์กร เป็นหนอนแมลงของบริษัท เป็นอะไรซักอย่างที่ไม่ได้เรื่อง อยู่ไปก็รกออฟฟิศ อย่ากระนั้นเลย กูออกไปหาอะไรทำดีกว่า ชีวิตมั่นคงมานานแล้ว หาอะไรเสี่ยงๆทำซะบ้างก็น่าจะตื่นเต้นดี
หลังจากที่คิดได้ดังนั้น ผมก็มานั่งนึกว่าตัวเองควรจะไปทำอะไรดี โดยสิ่งที่ทำต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขง่ายๆดังต่อไปนี้
1. ต้องไม่ตื่นเช้า เนื่องจากทุกวันนี้รู้สึกว่าการตื่นตีห้าไปทำงานเป็นเรื่องที่บัดซบมาก กูไม่ใช่ไก่ทำไมต้องตื่นมาขันแต่มืดแต่หมอกด้วย ดังนั้นต่อให้ใครมาบอกให้ทำธุรกิจโน่นนี่นั่นแล้วรวยแน่ๆ แต่ถ้ามันต้องแลกด้วยการตื่นเช้าก็จะไม่ทำเด็ดขาด
2. ต้องไม่เลอะเทอะ หน้ามัน เหงื่อท่วมตัว ข้อนี้อาจจะฟังดูกระแดะและเป็นคุณหนูมากๆ (หลายคนบอกไม่เข้ากับหนังหน้ามึงด้วย) แต่เป็นคนขี้ร้อน เหงื่อออกง่าย เคยไปช่วยเพื่อนเจ้าของร้านส้มตำที่อุบลเสริฟ์อยู่สิบนาที เหงื่อทะลักแทบจะหยดลงไปในชามต้มแซ่บ ลูกค้าร้องกรี๊ดแทบจะขอเปลี่ยนชาม เป็นเด็กเสริฟ์ที่ดูเหนื่อยเกินจริง ไม่เหมาะกับงานกลางแจ้ง หรืองานที่ต้องออกแรงหนักๆ เรียกว่าแม้ลุคจะดูแรงงาน แต่สันดานเป็นคุณชาย ฝืนธรรมชาติกันไม่ได้จริงๆ
3. ต้องเป็นสิ่งที่เรารัก ไหนๆจะต้องลงทุนลงแรงไปกับมันแล้ว ขอให้ได้ลงไปกับสิ่งที่ตัวเอง มีใจ ให้ก็น่าจะดีกว่า อย่างน้อยๆต่อไปถึงมันจะทำให้เราผิดหวัง เราก็คงไม่รู้สึกเสียใจมากนัก (หรือไม่ก็อาจจะเจ็บจนกระอัก เพราะยิ่งรักก็ยิ่งแค้น) 55
เมื่อนั่งคิดคำนวณตามเงื่อนไขนี้แล้ว โลกนี้ก็เหลือสิ่งที่ผมทำได้อยู่ไม่กี่อย่าง ที่พอจะทำได้และดูจะไม่ล่อแหลมเกินไปก็คืองานที่เกี่ยวกับหนังสือ (จริงๆจะพุ่งไปที่ คนเชียร์แขก เลย แต่ดูจะแหกไปจากชีวิตเดิมๆมากไปหน่อย และสังขารก็ไม่ค่อยอำนวยแล้ว) ทีแรกคิดว่าจะเปิดร้านขายการ์ตูน นึกภาพตัวเองเป็นโอตาคุนั่งเฝ้าหนังสือการ์ตูนแล้วดูสุขสงบอย่างบอกไม่ถูก แต่พอได้รู้ว่าไอ้ที่ขายๆกันอยู่นี่เค้าได้กำไรเล่มละเท่าไหร่ก็รู้สึกสลดใจ โอตาคุไม่ได้เป็นกันง่ายๆจริงๆ... สุดท้ายทุกอย่างเลยมาลงตัวที่ร้านเช่าหนังสือ หลังจากที่หาข้อมูลแล้วรู้สึกว่าตื่นเต้นเร้าใจ เป็นงานที่ท้าทายตบะและบารมีมาก การนั่งเฝ้าร้านเช่าหนังสือจะทำให้เราเป็นโอตาคุสายแผ่พุ่ง ไม่เงียบเหงาวังเวง ดูครื้นเครงตามสมควร จึงเกิดเป็นร้าน ฮะเก๋า ขึ้นมาด้วยประการฉะนี้ (โปรดอย่าถามถึงที่มาของชื่อร้าน เพราะไร้ซึ่งตรรกะใดๆจะอธิบาย แต่ถ้าอยากรู้จริงๆก็ย้อนไปดูที่ชื่อเรื่องอีกครั้ง)
จริงๆแล้วสิ่งที่ผมชอบนอกจากหนังสือก็คือหนัง แต่ในยุคที่ซึทาญ่าแทบสูญพันธุ์ และแมงป่องยังเหลืออยู่ไม่กี่สาขา การเปิดร้านเช่าหนังคงไม่ต่างอะไรกับการโดดบันจี้จั๊มพ์โดยไม่ได้ผูกเชือก และถึงแม้การเปิดร้านเช่าหนังสือในยุคที่เด็กไทยนิยมอ่านการ์ตูนสแกนผ่านเน็ตจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงไม่แพ้กัน แต่ต้นทุนที่แตกต่างและปัญหาลิขสิทธิ์ที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่ากันก็ทำให้ตัดความลังเลไปได้เยอะ (แต่ใจจริงก็อยากเปิดร้านเช่าดีวีดีให้หวือหวาอย่างร้าน แมงปอ ที่จันทบุรีเหมือนกันนะ แต่คงไม่มีปัญญาหาหุ่นกันดั้มมาสู้กับพี่เค้า ไหนจะชุดพนักงานที่เหมือนกับหลุดมาจากกองทัพสหพันธุ์นั่นอีก ไม่แปลกใจเลยที่ร้านพี่เค้าจะคนแน่นยังกะแจกฟรี บางครั้ง ลูกบ้า มันก็ช่วยได้จริงๆ) ถึงแม้ชื่อเสียงเรื่องปัญหาหยุมหยิมของร้านเช่าหนังสือจะน่าสยดสยอง (ลูกค้าเบี้ยวไม่คืนหนังสือ, ทำหนังสือหาย, หนังสือเปียก, หนังสือขาด, ถูกขโมย ฯลฯ) และผมก็ไม่พร้อมที่จะเจอ (อ้าว) แต่มันชอบมันรักนี่หว่า ถึงเค้าจะร้ายกับเราแค่ไหน เราก็ยอม (โกหก ถ้าเจอลูกค้าเกรียนมากๆก็คงอยากตบเหมือนกัน) เอาเป็นว่า ลุยเลยเถอะ อย่ากลัว (แต่ทุกวันนี้นอนไม่หลับเลย กูเครียด... T_T)
สรุปว่ารู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง แม้ว่าร้านหนังสือจะไม่ใช่ของสูง แต่เป็นของเสียวแน่ๆสำหรับคนที่ลงทุน ก็ได้แต่หวังว่าความรักความชอบที่เรามีให้มัน จะทำให้เราอยู่กับมันได้อย่างไม่เป็นทุกข์มากนัก ขออย่าให้ตอบแทนความรักของเราด้วยความร้ายเลยนะ เหล่าหนังสือทั้งหลายเอ๋ย...
ป.ล. ถึงร้านจะเปิดแต่ผมก็ยังไม่ได้ออกจากงานนะครับ ขอดูทิศทางลมก่อน อิ อิ (หัวเราะกลบเกลื่อนความประหวั่น) และเนื่องจากการเปิดร้านทำให้มีอะไรน่าเขียนถึงเยอะมาก ซี่รี่ส์ ฮะเก๋า ก็คงมีให้ได้อ่านกันอีกหลายตอน โปรดคอยติดตาม
ป.ล. อีกครั้ง ผู้สนใจ (จะมีมั๊ยหว่า?...) สามารถไปติดตามรายละเอียดและภาพสวยๆของร้านฮะเก๋าได้จากบล็อกคุณ Shallow Grave อีกหนึ่งกัลยาณบล็อกที่ใช้วิกฤตน้ำท่วมกรุงเทพไปเยี่ยมเยียนร้านฮะเก๋า ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้อีกครั้งนะครับ
Create Date : 04 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 4 ธันวาคม 2554 23:43:56 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1922 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: devilmanb วันที่: 4 ธันวาคม 2554 เวลา:9:31:16 น. |
|
โดย: VELEZ วันที่: 4 ธันวาคม 2554 เวลา:13:21:56 น. |
|
โดย: VELEZ วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:15:02:37 น. |
|
โดย: มินทิวา วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:16:30:26 น. |
|
โดย: ท้องฟ้าสีครามยามเย็น IP: 124.122.86.97 วันที่: 10 มีนาคม 2555 เวลา:20:38:00 น. |
|
โดย: mama hero IP: 125.27.79.160 วันที่: 24 มิถุนายน 2555 เวลา:8:41:30 น. |
|
| |
|
แฟนผมตัวดำ |
|
|
|
|