|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
[TAG!]คู่มือทำความเข้าใจฉัน..(มังกรเขียวหัวยุ่ง)
กราบสวัสดีพ่อแม่+พี่น้องทุกท่าน ทั้งทางบล็อกและทางบ้าน
ฮ่าๆ ที่เริ่มต้นทักทายกันแบบนี้ ก็เพราะพ่อแม่และพี่สาวที่บ้าน
ก็จะได้รับชมบล็อกนี้เช่นกัน (หนูรู้นะ พี่ดูอยู่)
วันนี้ตอนบ่ายสองสี่สิบห้าส่งงานชิ้นสุดท้ายของเทอมนี้ไปเรียบร้อย
ก่อนจะวาร์ป มาที่บ้านแบบคาดไม่ถึง เห็นพี่เจส momster ถามอยู่บ่อยๆ
ว่าสอบเสร็จแล้วจะกลับบ้านเลยรึเปล่า ตอนแรกยังตอบไม่ได้ค่ะ
เพราะว่าพี่สาวจะมาหาที่กรุงเทพฯ วันศุกร์ แต่วันนี้ปรากฏว่า
พี่สาวก็กลับบ้าน เจื้อยแจ้วเลยตัดสินใจปุบปับตอนก่อนส่งงาน
เพียงครึ่งชั่วโมง พอส่งงานเสร็จก็บึ่งกลับหอ เก็บของกลับบ้านทันที
และบัดนี้ ทุกสิ่งปลอดโปร่งโล่งสบายแล้ว
จึงได้ฤกษ์สาธยายแท็ก 'คู่มื่อทำความเข้าใจตัวเอง' กันเสียที
ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจให้ทำแท็ก ของพี่เอ็ม discipula
พี่มีน(พี่บ๋อม) minporee และพี่เจส momster ค่ะ
--------------------------------------------------------------------------
ชื่อ
1. 'cruduslife' ตั้งใจจะให้แปลว่า ชีวิตสีเขียว ค่ะ
crudus เป็นภาษาละติน แปลว่าสีเขียวตามที่เปิดในพจนานุกรมออนไลน์
แต่ชีวิตก็เล่นตลก crudus ที่เปิดเจอ ดันหมายถึง สีเขียวแบบดิบๆ
(ออกจะโหดๆ เถื่อนๆ) ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ไปไกลลิบ
ซึ่งฉันไม่เคยรู้ โชคดีที่พี่เอ็ม discipula มาช่วยทักท้วง
และวันนั้นเองก็เป็นวันแรกที่ได้รู้จักพี่เอ็ม ขอบคุณมากค่ะ
2. มังกรเขียว ในหมู่ไม้ ใต้เงาเมฆ มังกรเขียวคือตัวฉัน
บางทีมันอาจจะเข้ากับคำว่า crudus ได้กระมัง
ในหมู่ไม้ ฉันรักธรรมชาติ รักต้นไม้ เรียนภูมิสถาปัตย์
ใต้เงาเมฆ มาจากนามสกุลของฉัน ที่มีคำว่าเมฆขึ้นต้น
อันมาจากแซ่จีน คือแซ่ฮุน
3. ฉันเป็นลูกคนเล็ก มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อจุ๊กจิ๊ก
4. เอ..ทราบกันหรือยังว่าฉันชื่อ เจื้อยแจ้ว
5. ที่บ้านและญาติๆ เรียกฉันว่าแจ้ว บางทีพี่สาวเรียกไอ่แห้ว
เพื่อนๆ ตั้งแต่อนุบาลถึงป.6 เรียกแจ้ว ม.ต้นก็ยังคงเรียกแจ้ว
มีสักคนสองคนที่เรียกเจื้อย ม.ปลาย เพื่อนๆ เรียกเจื้อยแจ้ว
หรือเจื้อยกันเกือบหมด มีคนสองคนที่เรียกแจ้ว
แต่ดันมีมากกว่าสองคนที่เรียกเจ๊ อีกประมาณ 5 คน เรียก เจเจ
และมีสัก 3 คน ที่เรียกได้ทุกชื่อ แล้วแต่อารมณ์
พออยู่มหาวิทยาลัยคนส่วนใหญ่ จะเรียกเจื้อยแจ้ว
ส่วนจะเรียกสั้นๆ ว่าอะไร ก็ปล่อยให้เลือกตามใจชอบ
6. มีอาจารย์คนหนึ่งสมัยม.ต้นเรียกฉันว่า 'มัต'
อันมาจากชื่อจริง คือ มัตตัญญู หมายถึง ผู้รู้จักประมาณตน
คือความพอเหมาะพอดี ซึ่งไม่ตรงกับนิสัยฉันเลย
โดยเฉพาะการประมาณตน เรื่องการทำงาน
การเรียน การทำงาน
7. ฉันเป็นคนขี้เกียจ และรักสบายอย่างหาตัวจับได้อยาก
อันมีผลให้การทำงานวิกฤตอยู่เนืองๆ
8. ฉันเป็นคนวิกฤตแบบหน้านิ่ง และจะหงุดหงิดทุกครั้ง
ที่ใครมาหาว่าฉันจะทำงานไม่ทัน เพราะฉันทำทัน
แค่เฉียดฉิวไปหน่อย (กำลังพยายามปรับปรุงตัวอยู่)
9. ฉันเรียนม.ปลายสายวิทย์ แต่ถนัดวิชาสายศิลป์
อย่างไทย สังคม และวิชาท่องจำทั้งมวล ความสามารถในด้านคำนวณ
ไม่ได้แย่ แต่ไม่ชอบทำแบบฝึกหัด
10. วิชาฟิสิกส์คือวิชาที่ฉันเรียนทฤษฎีแล้วเหมือนจะเข้าใจ
แต่ไฉน จึงทำโจทย์คำนวณไม่ได้ เป็นวิชาที่ได้เกรดตกต่ำที่สุดในชีวิต
คือสูงสุดไม่เกิน 2.5 และถ้าจำไม่ผิดต่ำสุดอาจถึง 1.5
11.ฉันไม่เคยเสียใจที่ได้เรียนสายวิทย์ เพราะทำให้ฉัน
เรียนคณะสถาปัตย์อย่างมีความสุข
12. ตอนประถม เกรดเฉลี่ย 12 เทอมของฉันได้ 3.98 เพราะได้
3 วิชาภาษาอังกฤษ ป.1 เทอม 1 เนื่องจากเขียนตัว b และ d
สลับกันตอนสอบเขียน a-z เกรดเฉลี่ยตอนม.ต้น ได้ 3.99
เพราะได้ 3 วิชาพละ ตอนม.4 เทอม 1ซึ่งเทอมนั้นเรียน'รักบี้'
หลังจากขึ้นม.ปลายฉันก็ไม่สนใจจะจำเกรดเฉลี่ยอีกเลย
13. ตอนสอบเข้าม.1 ฉันสอบเข้าได้เป็นที่ 1 ของรุ่น
ชนะที่ 2 เพียง 1 คะแนน เมื่อเรียนจบม.ต้น เพื่อนผู้ชายคนนั้น
ได้เกรดเฉลี่ย 4.00
14. ตอนประถมฉันเคยเป็น ดรัมเมเยอร์สีฟ้า ประธานสีแดง
เชียร์ลีดเดอร์สีแดงและประธานนักเรียน แต่ถ้าใครขอดูรูปในตอนนั้น
ฉันจะไม่ให้ดู ม.ต้น เป็นคณะกรรมการนักเรียน ม.ปลาย
ไม่ขอรับตำแหน่งบริหารใดๆ อ้อ..เป็นประธานพร็อพสีฟ้าตอนม.หก
15. ฉันเปลี่ยนโรงเรียน 3 แห่ง เรียนอนุบาล-ประถม
ที่โรงเรียนเอกชนใกล้บ้าน เรียนมัธยมต้นในจังหวัดใกล้เคียง
โรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนประจำ และมาเรียนมัธยมปลายในกรุงเทพฯ
ปัจจุบันเรียนปี 2 คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ
16. ตอนอยู่ประถมฉันชอบเขียนเรียงความมาก และประกวด
ได้รางวัลในโรงเรียนอยู่เสมอ จนคุณครูให้ฉันเป็นตัวแทนของโรงเรียน
ไปแข่งเขียนเล่าเรื่องจากภาพในงานแข่งขันทางวิชาการต่างๆ
ซึ่งต้องมีการฝึกซ้อมเข้มงวดมา หลังจากแข่งเสร็จฉันไม่ส่ง
การบ้านเรียงความในห้องเรียนอีกเลย
17. ความรู้ภาษาอังกฤษของฉันในตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลพวง
มาจากการเรียนสมัยประถม ที่เรียนอังกฤษอย่างบ้าเลือดมาก
พอขึ้นมัธยมต้นฉันไม่เคยอ่านหนังสือเตรียมสอบ ก็สามารถ
ไปสอบได้โดยไม่กังวล และรู้สึกเหมือนไม่ได้อะไรเพิ่ม
จนขึ้นมัธยมปลายนั่นแหละ จึงได้สำนึกว่าอังกฤษมันยาก
(ข้อสอบอังกฤษโรงเรียนเตรียมฯ มันโหด) และอาจารย์ถือว่า
เด็กน่าจะเรียนมาหมดแล้ว ใช่ เรียนมาหมดแล้วตอนประถม
แต่มันทิ้งช่วงนานเกินไป
18. ตอนสอบเอนท์ฉันอ่านวิชาภาษาอังกฤษน้อยมาก
ทำข้อสอบไปไม่เกินห้าพ.ศ. แต่คะแนนอังกฤษนี่แหละ
ที่ช่วยให้ฉันเอนท์ติด
19. ตอนสอบโอเน็ต ฉันไม่อ่านวิชาเลข
20. ฉันชอบแต่งกลอน
เพื่อน
21. ฉันเป็นคนมีเพื่อนเยอะ แต่มีที่สนิทจริงๆ อยู่ไม่กี่คน
ประถม ชายคนหญิงคน มัธยมต้นไม่แน่ใจแต่หนึ่งในนั้น
คือเพื่อนผู้ชายที่สนิทตั้งแต่ประถม มัธยมปลาย
ชายสองหญิงหนึ่ง มหาวิทยาลัยที่มั่นใจมีคนเดียว
22. ปกติฉันชอบคุยกับเพื่อนผู้ชายมากกว่าเพื่อนผู้หญิง
แต่เมื่อเข้าคณะนี้ ฉันชอบคุยกับเพื่อนผู้หญิงมากกว่า
เพราะนิสัยลุย คุยแมนๆ แต่เพื่อนผู้ชายกลับเป็นตรงกันข้าม
23. ฉันชอบคบเพื่อนกลุ่มเล็กๆ มากว่ากลุ่มใหญ่
เพราะกว่าจะครบองค์ประชุม ก็ต้องรอกันนานมาก แต่บางครั้งเพื่อนกลุ่มใหญ่ทำให้เฮฮาดี
นิสัยส่วนตัว
24. ฉันเป็นพวกปฎิเสธไม่เป็น
25. ฉันไม่ใช่คนเปิดเผย(ไปทุกเรื่อง) อย่างที่คนภายนอกเข้าใจ
26. ฉันมีโลกส่วนตัวสูง(เคยถกเถียงกับเพื่อนสนิทว่ามันแปลว่าอะไร)
27. ฉันเคยนอนกัดฟัน เป็นอาการที่พี่สาวเป็นผู้ค้นพบเมื่อนอนด้วยกัน
สันนิษฐานว่าเกิดจากความเครียดโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้ไม่ทราบว่ายังกัดอยู่รึเปล่า เพราะไม่มีใครช่วยมาพิสูจน์
28. ฉันเคยเป็นใจร้อนมาก และโมโหง่าย ถึงขั้นทำลายข้าวของ
แต่เมื่อเห็นว่าไม่เกิดผลดี จึงเลิกทำลายข้าวของ แต่ยังใจร้อนเหมือนเดิม
อืม...ดูเหมือนว่ายิ่งโตขึ้น อาการใจร้อนดูจะลดลง(มั้งนะ)
29. ฉันเคยคิดว่าตัวเองเป็นโรคสมาธิสั้น
30. แต่ฉันสามารถนั่งอยู่เฉยๆ ได้นานๆ ข้อ29. จึงน่าจะถูกลบล้างไป
31. ฉันไม่ชอบรอใคร และไม่ชอบให้ใครรอ
32. ฉันไม่ชอบคนพูดประชด(แบบตั้งใจประชดจริงๆ) ได้ยินแล้ว
อยากจะไปจับไหล่เขย่าๆ ให้หานรำคาญ
33. ฉันไม่ชอบกิริยาเบะปาก เห็นแล้วหงุดหงิด แต่บางครั้งตัวเองก็เผลอทำ
34. ฉันเป็นคนจู้จี้จุกจิก และเรื่องมากเมื่อยากให้สิ่งที่ต้องการออกมาดีที่สุด
35. หลายคนทักฉันว่าชอบพูดจาทำร้ายความรู้สึก แต่พักหลังไม่ค่อยมีแล้ว
36. ฉันปลอบคนไม่เป็น
37. ฉันห่วงใยคนอื่น แต่ไม่ค่อยรู้วิธีแสดงออก
38. ฉันเป็นคนเดินเร็ว และสมารถคุยกับเพื่อนไปด้วยโดยสปีดไม่ตก
39. ท่าเดินของฉันไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงเท่าไหร่
40. รวมทั้งท่ายืน และท่านั่งด้วย
41. ฉันโพสต์ท่าถ่ายรูปไม่เก่ง ถนัดเป็นคนเก็บภาพมากกว่า
และน่าแปลกที่พอเห็นนางแบบแล้วรู้สึกว่าเค้าควรทำท่าอย่างนี้
แต่ครีเอทท่าให้ตัวเองไม่ได้
42. ฉันคิดว่าการพูดกู มึง ไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่ใช้พูดในที่รโหฐาน
ไม่มีผู้ใหญ่หรือบุคคลภายนอกได้ยิน ฉันใช้คำว่า กู ในการรำพึง
กับตัวเองเท่านั้น มีโว้ย เว้ย เฮ้ย วะ บ้างประปราย แต่เสียงมีการกร่อนไปบ้าง
ไม่ได้ออกชัดเท่าคำที่เขียน
43. ฉันไม่ใช่คนเรียบร้อย
44. ฉันมักจะน้ำตาเอ่อ(จวนจะหยดแต่ยังไม่หยด) อยู่บ่อยๆ
เวลาที่ฟังเพลง ชมภาพ หรือฟังเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชวงศ์
(ฟังเพลงสรรเสริญฯ เวลาดูหนังก็มีอาการแล้ว) ความทารุณโหดร้าย
เรื่องราวบางตอนในประวัติศาสตร์ ความรักของพ่อแม่
เรื่องของคนที่ยากลำบากต้องต่อสู้ชีวิต หรือได้รับความทุกข์ทรมาน
45. หนังทุกเรื่อง จะมีฉากที่ทำให้ฉันร้องไห้ได้
46. ฉันไม่ร้องไห้เกี่ยวกับเรื่องความตาย แต่จะร้องไห้
เมื่อมีเรื่องของการรอคอย การจากลา หรือการเสียสละ
47. วันอำลาสถาบัน ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะต้องจากเพื่อน
แต่ร้องไห้ตอนร้องเพลงของสถาบัน เพราะคิดว่า
เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว แต่เพื่อนเรายังเจอกันได้
48. ตอนเด็กๆ ฉันเป็นพวกเอาแต่ใจตัวเอง แต่หลังจากถูกส่งไปอยู่
โรงเรียนประจำ ฉันยอมคนอื่นได้มากขึ้น
49. ฉันมักรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเองตอนตีห้าครึ่ง แต่ถ้านอนต่อ
จะตื่นอีกครั้งตอนเจ็ดโมงยี่สิบ
50. ฉันสามารถนอนในพื้นที่จำกัดได้ โดยไม่รู้สึกอึดอัด
ขอแค่มีที่พลิกตัวนิดหน่อย
อาหารการกิน
51. ฉันชอบกินปลา แทบทุกประเภท และทุกวิธีปรุง
52. ฉันชอบกินเห็ด เผือก และเครื่องใน ชอบกินผักด้วย
53. ฉันชอบกินอาหารทะเล
54. ฉันชอบกินขนมไทยไม่ใส่กะทิ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง
ช่วงประถมฉันเคยกิน ทองหยอด 10 ลูก นม และไข่ลวกเป็นอาหารเช้า
เมื่อเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนทำตาโต แล้วร้องว่าโอ้ มิน่าทำไมถึงดุ
(เพื่อนมันว่าถ้าให้หมากินน้ำตาลมากๆ แล้วจะดุ ทองหยอดเนี่ยน้ำตาลอย่างเยอะ)
55. เวลาฉันกินตะโก้เผือก ฉันจะกินหน้าที่เป็นกะทิ กับตัวเผือกแยกกัน
56. จริงๆ ขนมไทยที่ใส่กะทิฉันก็กินได้ อย่างพวกบัวลอยไข่หวาน
แต่ถ้าเป็นพวกแกงบวดจะตักกินแต่เนื้อ ขนมที่ต้องราดกะทิทีหลัง
ฉันจะไม่ราด
57. ฉันชอบกินผลไม้แทบทุกประเภท แต่ที่ชอบเป็นพิเศษ
คือน้อยหน่าและมังคุด แต่ที่กินบ่อยๆ ก็มะละกอ ฝรั่ง
ส้ม กล้วย แอปปเปิ้ล กินเพื่อช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
และตอนนี้กินองุ่นเพื่อให้กระปรี้กระเปร่า แทนเครื่องดื่มชูกำลัง
เวลาต้องทำงานหรืออ่านหนังสือดึกๆ (มันเยี่ยมมาก อยู่ได้ทั้งคืน
โดยที่สมองยังปลอดโปร่ง)
58. ฉันชอบดื่มนมรสจืด แต่ดื่มรสสตอเบอรี่นานๆที
59. ขนมตะวันตก ที่ชันกินประจำมีแค่คุกกี้ กับเค้ก
60. ฉันชอบกลิ่นเทียนอบในขนมไทย
61. เวลากินปลาที่บ้าน ฉันชอบแกะเนื้อปลาหย่อนลงไปในน้ำซุป
แล้วตักกินพร้อมกัน(มันอร่อยมากนะ)
62. ฉันชอบกินข้าวกล้อง+ธัญพืช
63. สมัยฉันอยู่ที่บ้าน กินขนมปัง เบเกอรี่ และไข่ลวก
เป็นอาหารเช้าอยู่หลายปี แต่พอมาอยู่หอกินข้าวเช้าทุกวันจนชิน
64. ฉันทานอาหารเป็นเวลาทั้งที่บ้าน ที่โรงเรียนประจำ
และที่หอพักตอนนี้ แต่พอเข้าเรียนคณะสถาปัตย์
เวลาอาหารแต่ละมื้อของฉันรวนไปหมด
65. ฉันชอบกินโยเกิร์ต
66. ถ้ามีรสของผลิตภัณฑ์ให้เลือก ฉันจะเลือกผลิตภัณฑ์รสสตรอเบอรี่
67. ฉันชอบกินไอศกรีมเชอร์เบท
68. ฉันดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เฉพาะเมื่อมีวาระสำคัญ
(จะให้ดีต้องฟรี) มีครั้งเดียวเท่านั้นที่อยู่ๆ ไปซื้อมาดื่มเอง
69. ฉันไม่ชอบดื่มน้ำเย็น ถ้าจะเย็นต้องไม่ใช่น้ำเปล่า
70. ฉันมักเทียบรสของที่ฉันไม่ชอบ กับสิ่งที่ไม่ใช่ของกิน
และเรียกแทนด้วยสิ่งนั้น เช่น เรียกรูทเบียร์ว่า ยาหม่อง,น้ำมันมวย
เชอร์รี่ที่อยู่บนไอศกรีมสเวนเซ่น มีกลิ่นเหมือนไบก้อน
ฉันก็เรียกมันว่าไบก้อน
71. ฉันมีช้อนส้อมประจำตัว ที่มีขนาดเล็กกว่าคนในบ้าน
ใช้มาตั้งแต่เด็ก แต่พี่สาวพยายามขอให้เปลี่ยนไปใช้เหมือนคนอื่น
โดยใช้เกณฑ์บรรลุนิติภาวะมาเป็นข้ออ้าง
การแต่งกาย
72. ชอบใส่กางเกง มากกว่ากระโปรง ใส่ขายาวเวลาเดินทาง
เข้าวัด และสถานที่ราชการ ใส่สามส่วนเวลาอยู่บ้าน
ใส่ขาสั้นเวลาไปออกกำลังกายหรือไปเที่ยวทะเล
ถ้าไปเที่ยวปกติก็ยังใส่ขายาวอยู่ เพราะกลัวฝุ่น และกลัวดำ
73. ชอบใส่ทั้งเสื้อยืด และเสื้อเชิ้ต ตามสภาพอากาศ
และรูปแบบที่ถูกใจ แต่มักเป็นเสื้อที่ยาวคลุมสะโพก
74. ใช้ของแบรนด์เนมบ้าง ตามแต่โอกาส คือถูกใจรูปแบบ
ราคาเหมาะสม มีคนออกตังค์ซื้อให้(เวลาไปกับพ่อแม่)
75. เลือกเสื้อผ้าจากรูปแบบ สี และเนื้อผ้าที่ถูกใจ
แต่มักจะกังวลว่าสิ่งที่ชอบเหมาะสมกับตัวเองหรือเปล่า
76. ชอบเสื้อผ้ายี่ห้อ Portland เพราะคลั่งไคล้รูปสมอเรือ
77. ตอนนี้เสื้อผ้าในตู้ถ้าเอามาเรียงแยกสีคงมีแค่
ขาว ดำ เทา น้ำตาล และเอิร์ธโทน ซึ่งเป็นสีที่คนทั้งคณะใส่
78. มีเสื้อสีสดๆ อย่างฟ้า เขียว ม่วง เอาไว้ใส่เวลา
ต้องการความสดชื่น ฉันไม่เคยมีเสื้อสีส้มเป็นของตัวเอง
80. ฉันชอบเสื้อผ้าและเครื่องประดับ สไตล์ที่เห็นแถวเชียงใหม่
กางเกงพริ้วๆ สะพายย่าม แต่แต่งตัวเท่ๆ ก็เป็น ฮ่าๆ
81. ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด
รองเท้าและกระเป๋าต้องเข้าชุดกัน ไม่เช่นนั้นจะหงุดหงิด
82. ฉันซื้อรองเท้าบ่อยกว่าเสื้อใส่เล่น เพราะรองเท้า
ต้องใส่ทุกวัน
งานอดิเรก
83. ฉันชอบวาดรูปมาแต่เด็ก แต่ไม่ชอบการวาดรูปที่มีการกำหนดหัวข้อ
84. ฉันชอบเที่ยวได้ทั้งภูเขา ทะเล แม่น้ำ หรือโบราณสถาน
หลายครั้ง ฉันชอบการนั่งบนรถระหว่างทาง มากกว่าตอนถึงที่หมาย
85. ฉันเป็นคนที่ดูแมนๆ ใครๆ ก็คิดว่าเล่นกีฬาเก่ง
แต่จริงๆ แล้วเล่นได้ไม่ดีสักอย่างเลย พ่อบอกว่ากีฬาที่ฉันจะเล่นได้ดี
ต้องเป็นกีฬาเดี่ยวอย่างแบดมินตัน หรือปิงปอง
86. ฉันไม่ชอบเล่นกีฬาทีม ที่ทุกคนในทีมเล่นเป็นอยู่แล้ว
แต่ฉันต้องไปหัดใหม่
87. กีฬาที่ฉันเล่นแล้วรู้สึกภูมิใจคือ รักบี้ เพราะมีเด็กผู้หญิงน้อยคน
ที่จะได้เรียน และเป็นกีฬาที่เมื่อฉันเรียนครั้งแรก ทุกคนเริ่มต้นพร้อมกันหมด
และเมื่ออยู่คณะสถาปัตย์ ฉันก็เป็นผู้หญิงในรุ่นคนเดียวที่เคยเล่นรักบี้
ไม่รวมพวกที่จบเมืองนอก
88. ฉันโดดเรียนว่ายน้ำ หลังจากที่จมน้ำหนึ่งครั้ง และไม่กลับไปเรียนอีกเลย
89. ฉันชอบวาดรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ระหว่างที่คุยโทรศัพท์
90. ก่อนหน้าที่จะเขียนบล็อกที่บล็อกแก๊งค์ ฉันมีไดอารี่ที่เย็นตาโฟ
(ไม่ล็อกอินนาน ถูกยกเลิกข้อมูลหายหมด) สเปซของmsn
และบล็อกที่ exteen แต่ไม่มีที่ไหนเล่นแล้วถูกใจเท่าที่นี่
91. ฉันชอบอ่านหนังสือ ทั้งเรื่องสั้น บทความและนิยาย
ชอบอ่านนิยายสืบสวน อย่างเชอร์ล็อคโฮล์ม ผลลงานของอกาธา คริสตี้
คินดะอิจิ การ์ตูนโคนันก็อ่าน แต่ตอนนี้เบื่อแล้วเลิกซื้อเลิกอ่าน
92. นิยายเล่มใหญ่ๆ ฉันไม่เคยกลัว ขอให้สนุกก็จมอยู่กับมันได้ทั้งวัน
93. ฉันซื้อนิตยสารเยอะมาก แต่พักหลังๆ ไม่มีเวลาอ่าน
บางเล่มเลยเลิกซื้อไป ที่ยังซื้ออยู่ประจำคือ บ้านและสวน
room a aday(ดองไว้ไม่ได้อ่านมาหลายเล่มแล้วเนี่ย)
I get Engliish(แม่สมัครสมาชิกให้กะให้ฟื้นฟูภาษาอังกฤษ
แต่ออกมาเป็นสิบเล่มแล้วเพิ่งอ่านไปสองสามเล่ม)
Reader's Digest แม่ก็สมัครให้ แต่ส่วนใหญ่อ่านไปแค่ขำขัน
94. นิตยสารที่ซื้อตามอารมณ์หรือตามเนื้อหาเล่มที่ที่สนใจ
ก็มี Art4D, Be1, Elle Decorate, ศิลปวัฒนธรรม,
National Geographic, Update, Bioscope
Computer Today, เมื่อก่อนที่บ้านซื้ออสท.
กับมติชนวิทยาศาสตร์ นิยายวิทยาศาสตร์ และเนื้อหาในเล่มดีมาก
อ้อ มีต่วยตูน อึกเล่มนึงด้วย
95. ชอบอ่านนิยายในสกุลไทย แต่ไม่เคยซื้อ อาศัยอ่านที่ห้องสมุด
บ้านคุณย่า บ้านเพื่อนแม่ บางกอก ตะวัน อ่านบ้านน้า
แล้วก็นิตยสารผู้หญิงเล่มอื่นๆ ที่มีนิยายไม่รู้อ่านของบ้านไหน
96. เคยเป็นประธานชมรมห้องสมุดตอนม.2
เป็นประธานชมรมที่อายุน้อยที่สุดตั้งแต่ที่โรงเรียนเคยมีมา
97. ส่วนใหญ่ฉันฟังเพลงpop และเพลง classic
หลังๆ ฟังเพลงอินดี้ ที่เพื่อนหามาให้ กับเพลงของเบเกอรี่
เพลงสากลฟังได้เรื่อยๆ ตามที่คลื่น get เปิด
เพลงสากลเก่าๆ ฟังเหมือนพ่อ โดยไม่รู้ทั้งชื่อเพลงและคนร้อง
98. หลังๆ โปรดปรานเพลงภาษาที่ตัวเองฟังไม่ออกเป็นพิเศษ
ถ้าเพลงไหนชอบมากๆ ค่อยไปหาความหมาย
ในโน้ตบุ๊ก นอกจากเพลงภาษาไทย และอังกฤษ ยังมีภาษาจีน ญี่ปุ่น
เกาหลี สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส อ้อ มีของลาวด้วย วง cells(อันนี้ฟังออก)
กำลังให้เพื่อนเอาเพลงแขกที่บ้านมาให้ฟัง
99. ไม่ค่อยดูหนังตามกระแส แต่ถ้ากระแสมันน่าดูก็ดู
100. หนังเรื่องแรกที่ดูคนเดียวคือเรื่อง 'โคตรรักเอ็งเลย'
ทั้งโรงมีแต่คนที่มาเป็นคู่ และมากับเพื่อน
เรื่องที่สองคือเรื่อง'แฝด' เรื่องนี้ระแวงมาก เพราะที่นั่งทั้งสองข้าง
ไม่มีคน แต่ที่นั่งถัดๆ ไปคนเต็มเหมือนจงใจเว้นไว้
ไม่รู้ว่าแฝดเราจะโผล่มานั่งข้างไหน หลังจากนั้นก็มีความสุข
กับการดูหนังคนเดียวมาเรื่อยๆ จะไปดูกับคนอื่นก็ต่อเมื่อเค้าชวน
101. หนังผี หนังฆาตกรรม ดูได้หมด แต่ไม่ดูหนังที่แบบ เลื้อยๆ
เละๆ แหวะๆ ซอมบี้ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ นอกนั้นดูได้หมด
102. ฉันเคยสะสมแสตมป์อย่างบ้าคลั่งอยู่พักหนึ่ง โดยพี่สาวเป็นผู้จุดประกาย
แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว เวลามีแสตมป์ออกใหม่ ก็จะซื้อเก็บไว้ที่บ้านชุดเดียว
อื่นๆ..เก็บตกที่ลืมพิมพ์ตามหมวด หรือหาหมวดไม่ได้
103. ฉันสนับสนุนโครงการเมาไม่ขับ
104. ฉันบริจาคเลือดครั้งแรกตอนอายุ 16 กว่าๆ ที่โรงเรียน
จริงๆ เค้าต้องให้อายุ 17 ปี บริจาค หลังจากนั้นก็ไปบริจาค
ที่สภากาชาดอีก 2 ครั้ง ช่วงวันเกิด ตั้งใจว่าจะบริจาคทุกปี
อย่างน้อยปีละครั้ง แต่พอขึ้นมหาวิทยาลัยก็ไม่สามรถทำได้
เพราะเวลานอนไม่พอ
105. ฉันชอบการดูดวงทุกรูปแบบ แต่ไม่เคยดูกับหมอดูจริงๆ
และเลือกเชื่อแต่สิ่งที่เป็นผลดีกับตัวเองเท่านั้น
106. ฉันชอบทำแบบทดสอบทางจิตวิทยา
107. ฉันชอบหาคำศัพท์ด้วยdict เป็นเล่มๆ มากกว่าเปิด talking dict
108. ฉันรู้สึกดีที่เห็นเลขสวยๆ ให้ความสำคัญกับเลขห้อง เลขรุ่น
ปีที่เข้าเรียน (แต่ทะเบียนรถกลับเฉยๆ) ฉันจึงทำแท็กนี้เป็นจำนวน 108 ข้อ
แต่ฉันรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอเอาเสียเลย ดังนั้น ฉันจะทำต่อ
109. ฉันชอบอ่านเรื่องโบราณๆ ของทุกชนชาติ และชอบฟัง
ผู้ใหญ่ เล่าเรื่องอดีต
110. ตอนเด็กๆ ฉันไม่มีเพื่อนหรือญาติรุ่นเดียวกัน
เพื่อนของฉันคือหนังสือ
111. ฉันชอบต้นไม้ แต่ไม่ได้ปลูกเองเพราะไม่มีที่
ต้นที่ปลูกเองก็ทิ้งไว้บ้านไม่ได้เป็นคนดูแลอีก
112. เคยมีคนทักว่าฉันน่าจะเรียนคณะอักษรศาสตร์
ไม่ก็เกษตรศาสตร์
113. ฉันไม่นิยมการซื้อลอตเตอรี่ การเสี่ยงโชคที่มีเดิมพันเป็นเงิน
หรือของมีค่า ส่วนการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงในชีวิต นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
114. ฉันเป็นโรคไขข้อ แต่จะไม่แสดงอาการตราบใดที่ยังออกกำลังกาย
115. ฉันเชื่อว่าคนจะดูดีขึ้นได้ ด้วยการใช้แสงและมุมกล้อง
รวมถึงการใส่แว่นกันแดด ที่บดบังเกือบครึ่งหน้าก็ช่วยได้มากเช่นกัน
116. ฉันคิดว่าแท็กนี้เป็นแท็กที่ดีมาก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแท็กที่
ไม่มีที่สิ้นสุด คนเราไม่สามารถรู้จักตัวตนของกันและกันได้ทั้งหมด
แม้จะใช้เวลาตลอดทั้งชีวิต การรู้จักทีละเล็กละน้อย มีอารมณ์ร่วม
ไปกับเหตุการณ์ของแต่ละชีวิต และใช้วิจารณญาณของตนร่วมด้วย
ดูจะเป็นการรู้จักกันอย่างมีคุณค่าและลึกซึ้งมากกว่า
ข้าพเจ้าขอจบการรายงานเพียงแค่นี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
Create Date : 05 มีนาคม 2552 |
Last Update : 8 มีนาคม 2552 11:03:43 น. |
|
45 comments
|
Counter : 805 Pageviews. |
|
|
|
โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:16:15:17 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:16:46:59 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:16:50:06 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:17:01:35 น. |
|
|
|
โดย: nanida วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:17:03:17 น. |
|
|
|
โดย: พี่มารูน...ในภาวะตกตะลึง... (Devonshire ) วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:17:46:07 น. |
|
|
|
โดย: momster วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:17:48:10 น. |
|
|
|
โดย: momster วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:17:50:51 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:18:27:04 น. |
|
|
|
โดย: momster วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:20:09:13 น. |
|
|
|
โดย: เอวาเจลีน วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:20:10:52 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:21:45:12 น. |
|
|
|
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:22:21:40 น. |
|
|
|
โดย: discipula วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:3:54:25 น. |
|
|
|
โดย: ตาติ๊ก...น๊ะน๊ะ..ครับ (สกุลเพชร ) วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:6:05:58 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:8:10:44 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:12:30:53 น. |
|
|
|
โดย: นริวรา (นริวรา ) วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:12:45:17 น. |
|
|
|
โดย: เอวาเจลีน วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:13:49:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:8:12:52 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:16:50:07 น. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:17:22:51 น. |
|
|
|
โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:22:16:58 น. |
|
|
|
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:22:42:01 น. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 7 มีนาคม 2552 เวลา:23:01:02 น. |
|
|
|
โดย: minporee วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:4:18:10 น. |
|
|
|
โดย: minporee วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:5:02:36 น. |
|
|
|
โดย: แล้วจะกลับมาเมื่อชาติต้องการ (minporee ) วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:5:08:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:8:06:21 น. |
|
|
|
โดย: เอวาเจลีน วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:19:10:00 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:23:04:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:8:27:39 น. |
|
|
|
โดย: พี่มารูน.. (Devonshire ) วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:12:35:08 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:19:24:13 น. |
|
|
|
โดย: Toon16 วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:9:26:04 น. |
|
|
|
โดย: เอวาเจลีน วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:18:02:21 น. |
|
|
|
โดย: discipula วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:19:01:05 น. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:19:29:34 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:20:10:40 น. |
|
|
|
โดย: อนันต์ครับ วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:21:27:45 น. |
|
|
|
|
|
|
Im not going to tell the story the way that
it happened. Im gonig to tell it the way
I remember it.
--Great Expectations--
|
|
|
|
|
|
|
แต่เขียนในบล็อกนี้หมด
ไม่มีอะไรให้น่าค้นหากันพอดี ฮ่าๆ
มีความสุขมากๆ นะคะทุกคน