|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวตะบันวันปิดเทอม ตอนที่1 ::: พิชิตโค้ง...เข้าป่า...ล่าน้ำตก

สีส้มๆ กระพริบอยู่ที่แถบโปรแกรมสนทนาด้านล่างจอคอมพิวเตอร์ เสียงเตือนข้อความเข้าทำเอาฉันสะดุ้งจากการใช้สมาธิทำโปรเจกท์ ฉันนึกแปลกใจเพราะไม่มีใครทักทาง msn มาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่มี Facebook แต่โปรแกรมก็ online ให้อัตโนมัติทุกครั้งที่ต่ออินเทอร์เน็ต
ฉันคลิกเปิดหน้าต่างที่ย่อไว้ขึ้นมาดู ทันทีที่สมองรับรู้ข้อความที่ค้างอยู่ บนหน้าต่างสนทนา ฉันเลิกคิ้วน้อยๆใจประหวัดถึงเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อน ‘...ไปทีลอซูกันไหม’ ฉันเหลือบมองรูปโปรไฟล์มุมหน้าต่างสนทนา คนตัวเล็กหน้าขาว ยิ้มตาหยี เจ้าของคำชวนที่แทบจะเหมือนกับ ครั้งนี้แบบคำต่อคำ ต่างกันตรงที่เมื่อสามปีก่อนนั้นเป็นคำชวนสดๆ (หรือแค่การเปรยที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น?) จากปากเจ้าตัวที่นั่ง อยู่บนเบาะรถไฟข้างๆ กัน แถมตอนนั้นปากของเธอยังไม่มีเหล็กจัดฟัน
หลังกลับจากค่ายอาสาของคณะค่ายแรกด้วยกันเมื่อตอนปีหนึ่ง เราก็มีความเห็นตรงกันว่าอยากไปค่ายอื่นๆ ด้วยกันอีก หรือไม่เช่นนั้น ก็ไปเที่ยวด้วยกัน ผ่านไปไม่ถึงปีเราไปเที่ยวปายด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ แต่หากใครเคยอ่านนิราศดงมะไฟแล้วจำได้ เธอคนนี้แหละที่เบี้ยว ไม่ยอมไปค่ายด้วยกัน ปล่อยเรารำพันอยู่คนเดียว
ส่วนทีลอซู เธอก็เปรยๆ ว่าอยากไป ตอนที่คุยกันที่ไหนสักครั้งนี่แหละ เราก็มีโอกาสคุยกันหลายครั้งอยู่ไม่ใช่หรือ และปีนี้ คราวนี้ เมื่อวันที่ 11-14 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้ แผนการในอากาศที่พลาดแล้วพลาดอีก ของพวกเราก็เป็นจริงโดยมีผู้ร่วมก่อการจำนวน 8 คน ฉันลังเลในตอนแรก เพราะแผนการช่วงปิดเทอมนั้นแน่นเอี๊ยด เดินทางแทบจะไม่เว้น แต่ละวันจนสามารถไปตั้ง status ใน facebook ได้ว่า
'This holidays BKK is like interchange station’
ส่วนฉันได้ไปที่ไหนมาบ้างไว้ค่อยมาเขียนถึงกันอีกทีชักเกริ่นนานไปแล้ว
เที่ยงๆ วันจันทร์ที่ 11 ฉันกลับจากบ้านที่ต่างจังหวัด รีบไปหาซื้อ Ocean Pack ที่คนจัดทริปผู้แสนรอบคอบ(ก็เธอนั่นแหละ) ประกาศเตือนเพื่อนๆ เอาไว้ในกำหนดการ(ที่ได้ศึกษาข้อมูลมาแล้ว เป็นอย่างดี) บ่ายวันเดินทางฉัน(ผู้ไม่รู้ว่า Ocean Pack คืออะไร) เดินหาซื้อในมาบุญครองตามร้านขายกระเป๋า เพราะรู้มาจากเพื่อนอีกคน ว่าน่าจะมีตามร้านขายกระเป๋าเดินทางร้านใหญ่ๆ แต่ก็ไม่พบ
สุดท้ายเลยโทร.ถามเธอมันซะเลย แล้วก็ถึงบางอ้อว่ามันคือกระเป๋า ที่กันน้ำได้เอาไว้ใส่ของมีหลายขนาด จำเป็นอย่างยิ่งในการไปล่องเรือ เดินป่า ล่าน้ำตกของเรา และมันมีขายที่ร้านอุปกรณ์เดินป่า ฉันระลึกได้ว่ามันมีร้านทำนองนั้นแถว Siam Discovery กำลังอยู่ในช่วงลดราคาพอดี ถ้าซื้อขนาด 20 ลิตร (ใหญ่อยู่นะ) จะแถมอีกใบสีเขียวขนาด 10 ลิตร ซะด้วย และฉันก็อดไม่ได้จริงๆ ใบเล็กใบใหญ่เราเขียวไว้ก่อน ราคารวม(ถ้าจำไม่ผิด) 750 บาท
กลับมาจัดกระเป๋า เห็นเธอว่าต้องเดินเท้า 10 กม. เอากระเป๋าใบไหน ไปดีหนอ ทั้งเป้ทั้ง Ocean Pack จะไหวไหม แต่จริงๆ เรานอนป่า แค่คืนเดียว ไม่ต้องเอาของเข้าไปหมด สุดท้ายลงตัวที่เอาของทุกอย่าง ใส่ใน Ocean Pack 20 ลิตร อัดเสื้อผ้าลงไปแล้วเหลือที่ พอสมควรกะว่าเผื่อเอาไว้ใส่กล้องตอนจะต้องเปียกน้ำ และกระเป๋า กล้องอีกหนึ่งใบ ไม่รู้นึกยังไงแวะซื้อกางเกงกับเสื้อยืดไปอีก 2 ตัว รีบเผ่นไปยังสถานที่นัด คือห้างBig C สะพานควาย ใกล้บ้านเธอ
เจอตี้ ที่สถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย สายกันทั้งคู่ เลยสองทุ่มอันเป็น เวลานัดมานิดหน่อยแล้ว คนที่มาถึงก่อน ได้แก่แม็กซ์ เอก และแบงค์ กำลังซื้อของใช้จำเป็นและขนมอยู่ในห้าง ตี้ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นมา แต่ได้เวลาที่รถควรจะออกแล้ว เลยไปซื้อขนมที่กาโตว์ เฮ้าส์ ติดไปกินบนรถแทน วิว แบม และปิติ มารอที่รถแล้ว แม่เอกมาส่ง ถึงรถ ขนข้าวของขึ้นรถเสร็จสรรพเราก็ออกเดินทาง

ขึ้นรถช่วงแรกเราคุยกันไม่หยุด ถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบกลุ่มใหญ่ ที่ทุกคนเคยผ่านมา ด้วยความที่เราทั้งหมดเป็นเพื่อนคณะเดียวกัน แต่ต่างภาค จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่จะมีบางคู่ หรือบางกลุ่มใน 8 คนนี้ ที่เคยไปเที่ยวด้วยกันมาแล้ว จะว่าไปมันก็เหมือนคุยกันเรื่องเซต คณิตศาสตร์บทแรกๆ ตอนม.ปลาย โดยมีเซตใหญ่ๆ ที่มีอย่างน้อย 2 คนจาก 8 เป็นสมาชิก อยู่ประมาณ 4 เซต
นั่นคือ ปาย สีชัง ภูเก็ต และภูกระดึง โดยเราเคยไปกับเพื่อนแค่ปาย และสีชังเท่านั้น บางคนก็เคยไปแค่ปายกับภูกระดึง หรือภูเก็ตกับภูกระดึง สรุปก็คือไม่มีใครที่เคยได้ไปครบทั้ง 4 ที่ เราเลยยุติประเด็นนี้ไป จะได้ไม่มีใครอิจฉากัน ก่อนออกจากกรุงเทพฯ ทุกคนโทร.หาคนที่บ้าน พร้อมแจ้งว่าจะปิดเครื่อง พรุ่งนี้ถึงที่พักเมื่อไหร่จะโทร.มารายงานทันที
หลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ คนขับรถตู้ของบุญล่ำทัวร์ ที่พวกเราเหมาจ่ายไป แล้วคนละ 3,300 บาท เป็นทั้งค่ารถตู้จากกรุงเทพฯ รีสอร์ทที่อุ้มผาง ค่าล่องเรือ ค่าลูกหาบ ค่าที่พักและเข้าชมอุทยาน อาหารและของว่าง ทุกมื้อยกเว้นมื้อสุดท้ายวันกลับ ก็จอดพักรถ เราได้แวะปั๊มกันสองสามครั้ง ฉันซื้อน้ำ พายเห็ดหอมของ 7-11 ที่มีขายเฉพาะช่วงกินเจมา เพิ่มเติม โดยไม่รู้เลยว่าครั้งนั้นจะเป็นการแวะปั๊มครั้งสุดท้าย ก่อนผจญกับความท้าทายที่รออยู่
หลับไปอีกตื่น รู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงถุงพลาสติกเสียดสีกับพื้นรถ และแรงเหวี่ยงขนาดหนัก ที่ถึงกับทำให้ตัวลอยเลื่อนหลุดจากเบาะรถ เสียงเพื่อนๆ เริ่มพึมพำอย่างงัวเงีย ฉันเอื้อมมือไปจับเบาะข้างๆ ไว้แน่น ปลายเท้าจิกพื้นรถอย่างเต็มความสามารถ เพิ่งตีสี่กว่าๆ ทุกคนพยายาม หลับต่อ แต่ดูเป็นเรื่องยากลำบากเหลือเกิน
‘โอ๊ะ!’ ฉันอุทานเมื่อสัมผัสได้ว่าถุงใส่พายเห็ดหอมตกปุ ลงบนพื้นรถ พยายามเก็บขึ้นมาวางบน Ocean Pack ที่วางพิงไว้กับผนังรถ เพื่อบังไฟกระพริบที่เราไม่ทราบวัตถุประสงค์ แต่รบกวนสายตา และจำเป็นต้องใช้ถุงขนมวางบน Ocean Pack อีกทีจึงจะมีความสูงที่บังพอดี เมื่อวางไว้เฉยๆ จึงไม่เป็นการยากเลยที่แรงเหวี่ยงขนาดนั้นจะทำให้ มันตกลงมาอีก
ยังมีเสียงกระเป๋าครูดพื้น ถุงพลาสติกเลื่อน และเสียงบ่นว่ารองเท้าหาย ดังเป็นระยะ ฉันปล่อยถุงขนมเลื่อนไปมาจากฝั่งซ้าย สุดฝั่งขวา กระแทกด้านหน้า ระรานเบาะหลังไปเรื่อยๆ ใจคิดว่าจะรอเก็บตอนเช้า เลยทีเดียว โดยไม่คาดคิด หลังการกระแทกครั้งหนึ่ง จู่ๆเสียง ถุงพลาสติกเสียดสีกับพื้นที่เคยมีเพียงเสียงเดียว ก็ถูกคั่นด้วยเสียงดัง แชะ! ตามด้วยเสียง ถุงพลาสติกอีกหลายถุงดังพร้อมกันบ้างผลัดกัน ดังบ้าง ตอนนี้ขนมในถุงของฉันคงลื่นไถลแยกจากกันอย่างเป็นอิสระ จนน่าเจ็บใจ ผิดกับตัวเราที่ต้องพยายามตรึงตัวเองกับเบาะนั่งและคอย ประคับประคองร่างกาย และสะกดใจไม่ให้อาหารที่กินเข้าไปต้องเสียของ บัดนี้ผู้ร่วมเดินทางทุกคนคงสำเหนียกแล้วว่า
‘…เราได้เข้าเขต 1,219 โค้งสุดท้าทายมาได้พักใหญ่แล้ว…’
แบมเริ่มร้องขอยาแก้เมารถ วิวลูกสาวคุณหมอได้จัดเตรียมมาพร้อม แต่เรายังประวิงเวลาไว้ก่อนเพราะไม่ค่อยชอบกินยาอะไรพร่ำเพื่อ และมีเพื่อนหลายคนที่อาการร่อแร่ จำเป็นต้องใช้ยากว่าเรามากนัก ฉันจึงพยายามหลับๆ ให้มันลืมๆ ไป
นั่งต่อไปได้สักพักรถตู้ก็จอดสนิทที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ที่มีรูปแบบห้องน้ำ และร้านกาแฟคล้ายคลึงกับปั๊มเดียวกันในต่างสาขาต่างจังหวัด ที่เราได้แวะไปแล้วเป็นอย่างมาก จนดูเหมือนยังหลงวนเวียนอยู่ที่เดิม ฉันตัดสินใจลงไปซื้อยาแก้เมารถ และของขบเคี้ยวเปรี้ยวๆ แก้วิงเวียน พอถามพนักงานถึงยาแก้เมารถ ปรากฏว่าหมดพอดี(ซึ่งเป็นที่คาดเดาได้ ว่ามันต้องขายดีแน่ๆ) และช่วงนี้เป็นช่วงที่เค้าจะเอาของมาลง กว่ายาแก้เมารถจะถึงมือพนักงานพร้อมขายให้ฉันได้ก็คงจะ ประมาณครึ่งชั่วโมง ฉันได้แต่แอบถอนใจและหันไปคว้ายาดมแทน พอขึ้นรถฉันเลยตัดใจขอยาแก้เมารถจากวิวซึ่งกำลังเกรงว่ายาจะไม่พอ และมีคนที่อาการหนักกว่าฉันอีกมาก แต่สุดท้ายก็ได้มาเม็ดหนึ่ง
กินยาเรียบร้อย บ่นกันเบาๆ ว่าอีกนานไหมจะถึง พี่คนขับรถได้ยินเข้า จึงบอกว่ายังไม่ถึงครึ่งทางช่วงที่มีโค้ง และยังมีโค้งที่สาหัสกว่านี้อีก ‘โอย...ตายแน่’นี่คือเสียงที่ก้องในอกของฉัน และคาดว่าเพื่อนๆ แต่ละคน คงอุทานต่างๆ กันไป บ้างก็ได้แต่ครางแบบไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านี้
โค้งสาหัสสมคำโฆษณา แต่ทั้งฉันและคนข้างๆ ทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง คงเพลียจนแทบไม่มีแรงต้านแรงหนีศูนย์ที่เหวี่ยงเมื่อผ่านโค้งน้อยใหญ่ เธอบอกฉันว่าอุ้มผาง จ.ตากนี้ ได้ชื่อว่า ‘แผ่นดินลอยฟ้า’ เพราะ นอกจากถนนหนทางจะตัดตามแนวเขาสูงชันแล้ว ยามเช้ามองไปทางไหนก็ ถูกรายล้อมด้วยหมอก จนเหมือนเราลอยอยู่บนฟ้า
แต่ตอนนี้สองข้างทางยังคงมืดสนิท ไม่เห็นทั้งหมอกและทิวทัศน์ สองข้างทาง รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิเย็นกว่าปกติ รถของพวกเราคงขับ ผ่านหมอก เพราะข้างหน้ารถแม้จะเปิดไฟสูง แต่ก็ยังมองเห็นได้แค่ ในระยะที่ใกล้มาก พี่คนขับรถใส่แว่นกันแดด ใครสักคนบอกว่า มันช่วยตัดแสงสะท้อนที่มากเกินออก(คงผ่านหมอกฟุ้งๆ จนหักเห กันมั่วไปหมด) ทำให้มองเห็นชัดกว่าตอนไม่ใส่ หลับต่อไปแบบไม่สบายตัวนัก หกโมงนิดๆ รถจอดฉันปรือตาขึ้นอย่าง ง่วงงุน มีเสียงที่ฟังดูง่วงกว่าถามขึ้นว่า ‘ถึงแล้วหรอ...’ พี่คนขับชิงพูดขึ้นพอดีว่า ‘ถึงจุดชมวิวแล้วครับ เชิญลงไปถ่ายรูปกันได้’
พวกเราค่อยๆ ทยอยลงจากรถ สะดุ้งนิดๆ อากาศเย็นใช้ได้ ลั่นชัตเตอร์ถ่ายทั้งรูปทิวทัศน์(ต้องออกตัวไว้ก่อนเพราะทริปนี้มีคนชื่อวิว) ถ่ายรูปเดี่ยว รูปคู่ รูปหมู่ แต่เกือบทุกรูปออกมาหน้าตายู่ยี่มาก
ด้วยความที่ยังงงๆ หรืออย่างไรไม่ทราบที่อยู่ๆ ถูกปลุกขึ้นมาถ่ายรูป อาการกระดี๊กระด๊าก็เลยยังไม่ค่อยบังเกิด ฉันเองเก็บมาเพียงไม่กี่ภาพ แต่สูดอากาศดีๆ บนภูเขาเข้าปอดไปหลายเฮือกเลยทีเดียวล่ะ


หมอกดูไม่มากเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่ามีวันที่มีมากกว่านี้หรือเปล่า แต่ประสบการณ์ชมหมอกหลายๆ ครั้งของฉัน ทำให้ไม่คาดหวัง อะไรมากกับการถ่ายภาพธรรมชาติอยู่แล้ว โดยเฉพาะหมอกที่ หลายครั้งหนาเกินจนมองอะไรไม่เห็น และไม่แน่ใจว่าครั้งนี้ คือหมอกที่เริ่มจากไปก่อนเราจะมาถึงหรือเปล่า แต่ทุกๆ ครั้งสิ่งที่เรา ได้รับอย่างแน่นอนก็คือ ความสุขใจที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาตินั่นเอง
โปรดติดตามตอนต่อไป>>>
--------------------------------------------------
อยากจะกล่าวขออภัยสักหลายๆ ครั้ง ที่เกริ่นบล็อกไว้แล้วไม่อัพต่อ แถมเขียนอะไรยืดยาวโดยแทบไม่มีรูปอีกแน่ะ ขอโทษพี่ๆ ที่เข้ามา เยี่ยมชม และหวังว่าจะได้เห็นภาพธรรมชาติสวยๆ
ทีแรกกะว่าจะเขียนบล็อกของที่ทีลอซูให้จบในตอนเดียว และจะต่อ ด้วยทริปอื่นๆ ของปิดเทอมอีก แต่แค่ตอนแรกก็ใช้เวลาในการเขียน มากกว่าที่คาดไว้ และมีหน้าที่ที่ด่วนกว่า คือการทำโปรเจกท์ส่งอาจารย์ ในวันจันทร์รออยู่จึงต้องตัดตอนให้จบก่อนสำหรับคืนนี้
ทริปทีลอซูเองมีรูปประกอบมากพอสมควร แต่เนื่องด้วยช่วงแรกกระหน่ำ เขียนแต่เรื่องการเตรียมตัว และการเดินทางทั้งหมด เลยไม่ทราบจะเฉลี่ย รูปมาลงยังไงดี รับรองตอนหน้ารูปเพียบแน่ค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันนะคะ อากาศเย็นๆ อีกแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ อากาศช่วงนี้เปลี่ยนแปลงบ่อยจริงๆ
Create Date : 18 ธันวาคม 2553 |
|
13 comments |
Last Update : 30 ธันวาคม 2553 16:24:34 น. |
Counter : 1969 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 18 ธันวาคม 2553 5:17:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 18 ธันวาคม 2553 5:41:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: MaFiaVza 18 ธันวาคม 2553 7:39:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: หน่อยอิง 18 ธันวาคม 2553 18:04:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 18 ธันวาคม 2553 20:50:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: MeMoM 18 ธันวาคม 2553 23:46:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 19 ธันวาคม 2553 6:54:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: noinanai 21 ธันวาคม 2553 10:51:42 น. |
|
|
|
|
|
|
Im not going to tell the story the way that
it happened. Im gonig to tell it the way
I remember it.
--Great Expectations--
|
|
|
|
|
|
|
สมัยเรียนพี่ก๋าก็เที่ยวไปทั่วเหมือนกัน
แต่อาจจะไม่ได้เที่ยวทั่วไทยไปทั่วทิศ
เพราะเมื่อก่อนหนทางยังไม่ดี สถานที่ท่องเที่ยวยังไม่มากเหมือนทุกวันนี้
แต่นี่คือความสะดวกของคนโสดและวัยรุ่น
ทุกวันนี้พี่ก๋าจะขยับไปไหนทีคิดแล้วคิดอีก
แล้วก็ไมไ่ด้ไปครับ 555
การมีลูกทำให้วิธีการเที่ยวเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงครับ 555