If you love someone, do not think of what she or he does for you. But think of 'Have you done anything for him or her yet?'...
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
22 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 

ถึงเวลาเริ่ม Toilet Training ได้หรือยัง

ลูกสาว 1 ขวบกับ 3 เดือนแล้ว ไม่รู้ว่าช้าไปหรือเปล่าที่จะเริ่มต้นสอน Toilet Training

เราอ่านหนังสือเกี่ยวกับการฝึกขับถ่ายของเด็กมาก็หลายเล่มทั้งไทย อังกฤษ ทั้งในอินเตอร์เนท แต่ละเล่มก็แนะนำไม่เหมือนกันเท่าไหร่ แต่ก็เป็นในในทิศทางเดียวกันในบางเรื่อง

จากที่ศึกษามาหลายที่ เราก็เห็นด้วยกับคำแนะนำของหนังสือเล่มขวามือค่ะ

 

เล่มด้านซ้ายมือ จะค่อนข้างเน้น กดดันให้เราเริ่มต้น Toilet Training เร็ว และต้องให้ได้ผลด้วย เรารู้สึกว่าอ่านแล้วหายใจแทบไม่ค่อยออกเพราะดูแล้วยังงัยเด็กก็ไม่น่าจะพร้อมเร็วขนาดนั้น อ่านได้ครึ่งเล่มก็เลยวางยาวเลยค่ะ

 

ส่วนเล่มขวามือ Your Baby & Child เราอ่านแล้วค่อนข้างเห็นด้วยในหลายๆ ประเด็น อีกอย่างเล่มนี้เป็นเล่มที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือทีเดียว เล่มนี้ขายดีมากในต่างประเทศ เราได้เล่มนี้มาจากงานเซลส์ของ B2S ตกเล่มนึง 200 บาทเอง ดีใจมากค่ะ  แถมเนื้อหามีประโยชน์มาก แบ่งเป็นช่วงอายุเด็กในแต่ละช่วง และแต่ละเรื่องที่เราควรศึกษาควรจะรู้

ในหนังสือบอกไว้ว่า .... (สรุปแบบคร่าวๆ เอาเฉพาะประเด็นสำคัญ)

เริ่มเมื่อไหร่ดี

เด็กส่วนใหญ่เมื่ออายุครบ 1 ขวบจะเริ่มขับถ่ายเป็นเวลา ซึ่งปกติจะเป็นช่วงหลังทานอาหาร (หรือระหว่างทานอาหารก็ได้) เด็กวัยนี้สามารถนั่งเองได้แล้ว และเข้าใจคำพูดบ้างแล้ว ดังนั้นพ่อแม่บางท่านอาจจะตัดสินใจให้เด็กเริ่มหัดนั่งกระโถนบ้างแล้ว เราเรียกช่วงเวลานี้ว่า Toilet Training แต่จริงๆ มันไม่ได้เป็นการ Training เลยค่ะ  

การเริ่มสอน Toilet Training เมื่อเด็กครบ 1 ขวบ นั้นยังไม่จำเป็น เค้ายังไม่รู้จักว่ากระโถนคืออะไร มันก็เป็นเหมือนที่นั่งทั่วๆ ไป ซึ่งเมื่อผ่านไปอีก 2 เดือนเด็กอาจจะรู้สึกไม่ชอบเจ้ากระโถนก็เป็นได้  เพราะเค้าไม่อยากจะนั่งเฉยๆ โดยไม่ต้องทำอะไร ซึ่งการนั่งกระโถนเหมือนกับการนั่งเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเด็กจะยังไม่รู้จักกับการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย โดยทั่วไปเด็กจะเรียนรู้ว่าเมื่อเค้านั่งเก้าอี้ เค้าจะได้ทานอาหาร เมื่อเค้านั่งรถเข็น เค้าจะได้ออกไปข้างนอก หรือเมื่อเค้านั่งบนคาร์ซีท เค้าจะได้นั่งรถไปเที่ยวข้างนอก แต่เมื่อเค้านั่งกระโถนเค้าไม่ได้อะไรจากการนั่ง

สังเกตุได้ว่าเมื่อเรานำกระโถนมาให้เด็กรู้จัก เค้าจะเล่นแค่ช่วงแรกๆ หลังจากนั้นเค้าจะไม่แยแสมันอีกเลย ยิ่งถ้าเราพยายามให้เค้านั่งบนกระโถนบ่อยๆ อาจจะมีผลต่อความพร้อมเรื่องการขับถ่ายของเด็กให้ช้าออกไปอีกได้

พ่อแม่ควรจะรอให้ร่างกายและความรู้สึกของเด็กพร้อมก่อนแล้วค่อยเริ่มสอน ... ผลการศึกษาบอกไว้ว่าโดยปกติเด็กจะเริ่มบอกฉี่หรืออึได้ประมาณ 2 ขวบครึ่ง เพราะฉะนั้นเริ่มสอนที่ 2 ขวบก็ยังไม่สายไป เพราะลองนึกดูว่าการสอน Toilet Training มันมี process ที่เราต้องถอด-ใส่กางเกงให้เค้าลองนั่งกี่ครั้งใน 1 วัน เอาช่วงเวลานั้นไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กับเค้าดีกว่า

ช่วงอายุ 15 เดือน เด็กส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักว่าตัวเด็กฉี่หรืออึ ให้ลองสังเกตุง่ายๆ เวลาเราถอดแพมเพิร์สออกแล้วเค้าไม่ได้ใส่กางเกง เมื่อเค้าฉี่หรืออึ ดูว่าเค้าได้หันกลับมามามองหรือสนใจสิ่งที่เค้าถ่ายไว้หรือเปล่า ถ้าเค้าไม่ได้สนใจเลยแสดงว่าเค้ายังไม่รู้จักว่าเจ้าก้อนอึหรือฉี่ที่เค้าได้ถ่ายไว้ เป็นของเค้า เค้าเป็นคนทำมัน หรือมันไม่เกี่ยวอะไรกับเค้าเลย  แสดงว่าเด็กยังไม่พร้อมที่จะเริ่มสอน Toilet Training  .... แต่ถ้าเด็กสนใจกองอึหรือฉี่ที่เค้าได้ถ่ายไว้ ด้วยความสนใจ และเด็กมีปฏิกิริยาเมื่อขับถ่ายออกมา ก็จะยังไม่พร้อมที่จะใช้กระโถน แต่ก็มีแนวโน้มที่จะใช้ได้ในเร็ววันข้างหน้า

เมื่อเด็กเริ่มรู้เรื่องมากขึ้น ใกล้ถึงเวลาที่จะเลิกแพมเพิร์สแล้ว ให้แนะนำให้เค้ารู้จักกระโถน บอกเค้าว่าเอาไว้ใช้ทำอะไร แล้วก็วางไว้ตรงมุมห้อง หรือในห้องน้ำ เด็กอาจจะเอาตุ๊กตาหมีวางบนกระโถนไว้ รอไปก่อน วันนึงเด็กพร้อมก็ยังยอมนั่งบนกระโถนเอง และเมื่อเค้ายอมนั่ง ก็ยังไม่จำเป็นต้องถอดแพมเพิร์สหรือกางเกงออก

ช่วงเวลาที่เค้าพร้อมที่จะสอนให้เริ่มนั่งกระโถนคือหลังจากที่เด็กเริ่มรู้แล้วว่าเค้า "กำลัง" จะฉี่หรืออึ ไม่ใช่ "หลังจาก" ที่ฉี่หรืออึแล้ว

SmileySmileySmileySmileySmiley

 

เริ่มเมื่อเค้าพร้อม เค้าจะให้สัญญาณเองว่าเค้าพร้อมแล้ว  เราจะรับรู้ได้เองค่ะ

 

จากหนังสือเล่มซ้ายมือ Baby Whisperer Potty Training แนะนำไว้ดีทีเดียว่า เริ่มแรก ... ก่อนจะเริ่มฝึกขับถ่าย เราก็ควรจะให้เจ้าตัวเล็กได้เรียนรู้ ความรู้สึกเปียก แฉะ ไม่สบายตัวก่อน

ช่วงเวลานี้อาจจะนานหรือสั้น ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนเพราะการรับรู้จะไม่เท่ากัน เด็กแต่ละคนมีความพร้อมในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน อย่าเปรียบเทียบว่าทำไมลูกเราช้า ทำไมลูกคนอื่นเร็ว

เมื่อเค้าเรียนรู้ไปสักพัก โดยสัญชาตญานของเด็กก็อาจจะมีวิธีการสื่อสารแตกต่างกัน อาจจะส่งเสียงบอก ชี้มือ หรือลากเราพาไปในห้องน้ำ ก็แล้วแต่เด็กแต่ละคน

 

SmileySmileySmiley  วิธีที่จะให้เค้าได้รับรู้ว่าฉี่หรืออึเร็วขึ้น ก็คือเจ้ากางเกงซับฉี่ (หรือ Training Pants) นี่ละคะ เริ่มเมื่อไหร่ดี เราว่าน่าจะสักขวบนึงนะ เพราะคุณหมอเคยบอกเราให้เริ่มใช้กางเกงซับฉี่ตอนประมาณ 1 ขวบพอดี แต่เราก็ไม่ได้เริ่มตอนนั้น เพราะกำลังหาข้อมูลการฝึกขับถ่ายหรือ Potty Training อยู่ แล้วก็กำลังเลือกหาเจ้ากางเกงซับฉี่อยู่ว่าจะเลือกใช้แบบไหนดี

 

มีหลายท่านสับสน หรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับกางเกงซับฉี่ กับผ้าอ้อมผ้า .... มันต่างกันค่ะ ต่างวัตถุประสงค์กันเลย

กางเกงซับฉี่ (Training Pants) จะเป็นกางเกงที่ไม่มีวัสดุซับ จะมีแค่ตัวกั้นไม่ให้ฉี่หรืออึเล็ดลอดออกมาเลอะเทอะข้างนอกแค่นั้นเอง แต่เด็กจะเปียกและเลอะอยู่ข้างใน ซึ่งต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่ฉี่หรืออึ

ในกรณีที่ต้องการฝึกขับถ่าย จำเป็นจะต้องใช้กางเกงซับฉี่ (Training Pants) ค่ะ


ผ้าอ้อมผ้า (Cloth Diapers)
อันนี้ใช้เพื่อประหยัดแพมเพิร์สค่ะ สามารถใช้ได้ตั้งแต่น้องไม่กี่เดือน ผ้าอ้อมผ้าจะมีแผ่นตัวซับฉี่ให้เปลี่ยน อาจจะรอให้น้องฉี่ได้ 2-3 ครั้งแล้วค่อยเปลี่ยนก็ได้ (แต่ความรู้สึกส่วนตัวถ้าเป็นผ้าอ้อมผ้า ถึงแม้จะแผ่นตัวซับอย่างหนาให้ เราว่ามันคงมีความชื้นอยู่บ้าง คงไม่ค่อยสบายกับก้นเท่าไหร่นะ ก็น่าจะต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เหมือนกัน)

 

Smiley Smiley Smiley Smiley

ตรงนี้เราจะพูดถึง กางเกงซับฉี่ (Training Pants) นะคะ เพราะเราติดใช้แพมเพิร์ส ไม่ได้ใช้ผ้าอ้อมผ้าเลย

ช่วงที่กำลังหากางเกงซับฉี่ที่ถูกใจก็มีหลายยี่ห้อที่เรามองๆ อยู่ รวมถึง Charlie Banana ที่ร้านในเมืองไทยเพิ่งเริ่มนำเข้ามาด้วย ราคาแสนแพง เกือบได้ตังเราไปแล้วนะ แต่ลองหาข้อมูลแล้วมันไม่ตรงใจเรา มันไม่ใช่ Training Pants แต่มันเป็น Cloth Diapers ก็เลยตัดออก ตอนนั้นเรายังไม่รู้ความแตกต่างของสองแบบนี้นะคะ ก็เลยต้องหาข้อมูลก่อนที่จะซื้อมาลองใช้

 

กางเกงซับที่ฉี่แบบเราอยากได้ ...  กางเกงแบบไม่หนา ไม่ต้องมีแผ่นซับ แต่ต้องรองรับปริมาณฉี่ได้ระดับนึง ไม่เลอะเทอะออกมาข้างนอก เลอะได้บ้างนิดหน่อย เพราะตั้งใจอยู่แล้วว่าจะต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่เค้าฉี่หรืออึ ลองเสริชดูก็ยังไม่มีถูกใจ จนวันนึงบังเอิญไปเดินเล่นเจอเจ้ากางเกงนี่แขวนอยู่คู่เดียว (มีเหลือแค่ 2 ตัวนะ) ก็เลยตัดสินใจเอามาลองใช้ดูก่อน เพราะตรงใจกับที่เรากำลังหาอยู่เลย ... เอากลับมาลองใส่ดูปรากฎว่าพอดีเลยค่ะ ช่วงขาพอดีไม่หลวมหรือแน่นเกินไป ก็เลยกลับไปเตร็ดเตร่แถวร้านนั้นอีกเผื่อว่าเค้าจะเอาเข้ามาอีก โชคดีที่ของเพิ่งเข้ามา เราก็เลยเหมามาเลย 10 ตัว แล้วก็ไปซื้อในงาน BBB เพิ่มอีก 10 ตัว แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วค่ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะซื้อทั้งหมด 30 ตัว แต่ลองใช้แล้ว 20 ก็เหลือเฟือค่ะ เพราะไม่ได้ตั้งใจว่าใส่ทั้งวัน ใส่แค่ตอนกลางวันแค่นั้นเอง

หน้าตาเจ้ากางเกงซับฉี่ของ Carter's ค่ะ ถูกใจคุณแม่ แล้วก็ลูกสาวมาก เห็นครั้งแรกนี่กรี๊ดกร๊าดดใหญ่เลยค่ะ เค้าชอบรูปการ์ตูนที่อยู่ตรงก้นมากเลยค่ะ

แพ็คสองตัวนี่จะมีรูปการ์ตูนแค่ตัวเดียวนะคะ อีกตัวจะมีไม่มีการ์ตูน จะเป็นลายผ้าธรรมดา น่ารักมากค่ะ ถูกใจเราสุดๆ

 

กางเกงซับฉี่นี่เวลาใส่ให้น้องมันก็จะโปร่งๆ ไม่อับชื้น เวลาเค้าฉี่หรืออึ ก็จะถอดกางเกงแล้วอุ้มไปล้างก้นเลยค่ะ เค้าก็จะได้สบายตัว ได้ล้างก้นทุกครั้งที่ฉี่ เพระาถ้าใส่แพมเพิร์สเนี่ยกว่าจะได้ล้างก้นก็ต้องรอไปหลายชั่วโมงเลย ฉี่ซ้ำไปก็หลายครั้ง อันนี้แค่เรื่องความสะอาด อนามัยส่วนตัวนะคะ

เด็กที่ใส่แพมเพิร์สตลอดเวลา เค้าจะรับรู้ถึงความเปียกแฉะได้ช้า เพราะแพมเพิร์สจะซึมซับฉี่ได้เร็ว ก็เลยทำให้การฝึกขับถ่ายทำได้ช้าลง

 

 

ช่วงที่เราจะเริ่มเอากางเกงซับฉี่มาใช้ ก็มีปัญหากับผู้สูงอายุที่บ้านพอสมควรค่ะ เค้าจะค่อนข้างกลัวว่าฉี่หลานจะเลอะเทอะเฟอร์นิเจอร์ พื้นบ้าน หรือเสื้อผ้าเค้า หรือจะต้องคอยตามเช็ด ไม่รู้ว่ารักหลาน หรือรักบ้านมากกว่า (ทั้งที่คนทำงานบ้าน พี่เลี้ยงก็มี) แต่พี่เลี้ยงเราค่อนข้างดีมากเลยค่ะ เค้าสนับสนุนให้ใส่กางเกงซับฉี่เพราะเค้าบอกว่าน้องจะสบายกว่าใส่แพมเพิร์สตลอดเวลา

วิธีการของเราก็คือ เราเขียนรายละเอียดข้อดีข้อเสียของการใช้กางเกงซับฉี่ พิมพ์ออกมาแล้วไปวางบนโต๊ะให้เค้าอ่านกันเอง เพิ่มความรู้ให้กับคนสูงอายุค่ะ เพราะยุคนี้มันไม่เหมือนยุคก่อนเมื่อ 60 ปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้ตัวช่วยมีเยอะ มีอีกหลายเรื่องค่ะที่คนต่างวัยจะมีปัญหากันเมื่อมีเจ้าตัวน้อยเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน (มีกันทุกบ้านจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วนะ...เราว่า)

 

ข้อดีของกางเกงซับฉี่

1.  ประหยัดแพมเพิร์สมาก เพราะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง  ลดปริมาณขยะ 2.  ประหยัดเงินในกระเป๋า แพมเพิร์สสำเร็จรูปที่ใช้อยู่ตกแผ่นละ 10 บาท ประมาณการใช้วันละ 8 แผ่น ต่อวันละ 80 บาท หรือประมาณ 2,400 บาทต่อเดือน หรือประมาณไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ต่อปี
3.  เด็กไม่อับชื้น เพราะกางเกงซับฉี่มันโปร่ง  ไม่อึดอัด ไม่ร้อนก้น ไม่อบ ไม่มีเหงื่อ ดีต่อสุขภาพเด็ก แพมเพิร์สมีโอกาสที่เด็กจะเกิดผื่นได้ง่ายกว่ากางเกงผ้าอ้อม – สารเคมีที่ใช้ในการดูดซับของแพมเพิร์สคือ Sodium Polyacrylate ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Toxic Shock Syndrome ซึ่งอาจทำให้เกิดภูมิแพ้ กางเกงซับฉี่ ทำจาก cotton 100% จึงทำให้เด็กเกิดผื่นน้อยกว่า
4. รองรับฉี่ได้ ไม่ไหลเลอะเทอะข้างนอก  แต่ก็อาจจะมีเล็ดลอดออกมาบ้างถ้าน้องฉี่เยอะ แต่ถ้าฉี่น้อยก็ไม่เลอะเทอะ
5. สอนให้เด็กเริ่มรู้ว่าตัวเองฉี่หรืออึเร็วขึ้น เพราะเค้าจะรู้สึกเปียกหรือแฉะเวลาฉี่หรืออึ และเริ่มรับรู้ได้ว่าตัวเองขับถ่ายแล้ว ทำให้ฝึกเข้าห้องน้ำได้ง่า ผลดีระยะยาว
6. ช่วยให้การเริ่มสอนฝึกขับถ่ายได้ง่าย และเร็วขึ้น จากเดิมที่เด็กโดยทั่วไปจะสามารถเริ่มต้นสอนกันอยู่ที่ 18 เดือนหรือขวบครึ่ง เป็นต้นไป

ข้อเสียของกางเกงซับฉี่
1. บางคนไม่ต้องการใช้เพราะไม่ต้องการล้างบ่อยๆ  กลัวตัวเองจะเลอะฉี่เวลาต้องอุ้ม กลัวพื้นบ้าน เฟอร์นิเจอร์เลอะฉี่
2. ใช้เงินก้อนใหญ่ซื้อกางเกงซับฉี่หลายตัวในครั้งแรก เพราะราคาเกงซับฉี่ราคาต่อตัวค่อนข้างแพง
3. 
ต้องคอยเปลี่ยนบ่อยๆ คอยตามเช็ดฉี่ (ถ้าตอนไหนฉี่เยอะ เด็กจะฉี่บ่อยและเยอะช่วงหลังกินนมหรือกินข้าวเสร็จใหม่ๆ) และต้องซักบ่อยๆ ทุกวัน กางเกงจะจะแห้งช้า อาจจะต้องตากกัน 2-3 วัน
4. ถ้าเลี้ยงคนเดียวอาจจะไม่ค่อยเหมาะเพราะอาจจะไม่มีเวลาคอยนั่งดูนั่งเปลี่ยนกางเกงให้ทุกครั้งที่เด็กฉี่หรืออึ

 

 

ช่วงนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นค่ะ เวลายังอีกยาวไกล อย่าเร่งรัด ค่อยๆ ทำให้เค้าได้เรียนรู้มากขึ้นด้วยตัวเค้าเอง เมื่อถึงเวลาเค้าจะนำทางเราไปเอง เราแค่เป็นคนชี้นำ คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ห่างๆ

 

 

 




 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2555
3 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2555 16:31:37 น.
Counter : 4375 Pageviews.

 

อยากกดไลค์ค่ะ ^^

 

โดย: เก๋ IP: 180.183.108.110 26 พฤศจิกายน 2555 8:12:43 น.  

 

ให้ความรู้ดีมากกกค่า

 

โดย: hikawa IP: 58.9.164.152 12 ธันวาคม 2555 19:14:01 น.  

 

ขอบคุณคะ มีประโยชน์มากๆ
ได้ทราบข้อมูลจากผู้ใช้จริง

 

โดย: care IP: 49.230.150.45 8 กรกฎาคม 2557 18:16:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Bigcrab
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 160 คน [?]




Friends' blogs
[Add Bigcrab's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.