บ้านนี้ .. มีเพียงเรา

           เสียงตามสายของหมู่บ้านดังขึ้นอีกครั้งเพื่อเตือนว่า ขณะนี้ถึงเวลาเคารพธงชาติในเวลาแปดโมงเช้า  หลังจากที่กระจายเสียงข่าวภาคเช้าไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงตีห้าครึ่ง

          วันนี้ยังไม่เห็นแม่กรวดน้ำเลย เพราะปกติเมื่อใส่บาตรเสร็จแล้ว แม่จะกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแก่บิดามารดา ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ ตลอดไปจนถึงเทวดา เปรต เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลายทันที ด้วยบทสวด-กรวดน้ำตามที่เคยทำเป็นประจำ

         ในความรู้สึกของเก๋ากี้แล้ว ตอนนี้น่าจะสายมากเกินไปจนท้องเริ่มประท้วง เดินเข้าไปดูในครัว ก็เห็นของกินที่แม่วางไว้ในจาน แต่ .. เฮ้อออ

          ‘มันไม่น่ากินอ่ะ’


          เมื่อตอนตีสามที่แม่ลุกมาทำกับข้าวใส่บาตร เก๋ากี้ได้ยินเสียงกุกกักๆ ทำให้พลอยตื่นขึ้นมาด้วย เหมือนนอนเต็มที่แล้วตาสว่าง เมื่อลุกขึ้นมา ก็ลงจากเตียงไปที่ประตู  พอเปิดประตูออกจากห้องนอนได้ เก๋ากี้เดินเข้าไปในครัว

         เห็นแม่กำลังก้มๆเงยๆหน้าตู้เย็นที่เปิดอยู่  ไม่รู้ว่าแม่หาอะไร แต่วันนี้นึกอยากกินปลาทูจัง แม่จะทำด้วยรึเปล่านะ กำลังนั่งมองแม่เพลินๆ แม่ก็หันมาเห็นพอดี แม่ยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะทักทายว่า

          “อ้าว ตื่นแล้วเหรอลูก พี่เก๋าจะเข้าห้องน้ำหรือไง หรือว่าหิวแล้ว”

          ได้ยินเสียงแม่ถามอยากจะบอกแม่เหมือนกัน แต่คอแห้งจังเลยจึงเดินไปกินน้ำ แม่ทักทายเท่านั้นไม่ได้สนใจว่าจะได้รับคำตอบกลับมาหรือไม่ ก็หันไปเตรียมของต่อ

          พอกินน้ำเสร็จไม่รู้จะทำอะไร เพราะคงช่วยแม่ไม่ได้  นอกจาก ...

‘นอกจากรอชิม อิอิ’

          หยุดยืนมองแม่เปิดเตาแก๊สครู่หนึ่งแล้วเดินเลยไปนั่งบนเก้าอี้พับตัวเล็ก ตายังปรือๆอยากนอนก็อยากนอน อยากดูแม่ก็อยากดู

          “มาอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวยุงก็กัดหรอก ถ้าจะนอนก็เข้าห้องไป ไป๊”

          เสียงแม่ไล่ แว่วๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจ  ยังคงปักหลักนั่งอยู่ตรงนั้น แถมไม่ได้นั่งเฉยๆ เหยียดแข้งเหยียดขา บิดขี้เกียจ สลัดเนื้อสลัดตัวซะหน่อย .. อื้อออออ  

          แม่หันมาเห็น ก็หัวเราะชอบอกชอบใจใหญ่ ไม่รู้ขำอะไรนัก

‘ก็มันเมื่อยนี่นา แม่ก็’'

         ผัดผักในกระทะที่แม่กำลังทำ ส่งกลิ่นหอมไปทั้งครัว แม่ขยับตะหลิวตลบผัดไปมาอีกสองสามทีก็ปิดแก๊สก่อนจะปิดหัวเตา จากนั้น แม่เดินมาเปิดตู้กับข้าว ค้นหาถุงร้อนกับหนังยางมาเตรียมไว้ เพื่อตักกับข้าวใส่ถุง

          แต่ว่า ...

          “เอ อยู่ไหนนะ หรือว่าหมดแล้ว  เพิ่งซื้อมานี่นา แบ่งออกมาใช้แท้ๆ”

          แว่วๆเสียงพึมพำของแม่ลอยมาให้ได้ยิน  เหมือนแม่จะนึกอะไรขึ้นได้จึงปิดตู้ หันมาทางเก๋ากี้

          เปล่า! .. แม่ไม่ได้สนใจเก๋ากี้หรอก แม่เดินผ่านไปทางหลังเก้าอี้ ก่อนมาหยุดที่ลิ้นชักและดึงชั้นที่สามจากในสี่ชั้นนับจากข้างบนลงมา พอดึงออกมาแล้ว แม่มีสีหน้าพอใจเล็กน้อย ประหนึ่งว่า สิ่งที่แม่คิดไว้ไม่ได้ผิดพลาดไป

          “อยู่นี่เอง ก็ว่ายังอยู่อีกตั้งเป็นปึก”

          แม่รำพึงออกมาให้ได้ยิน เก๋ากี้หันไปมองแม่แวบหนึ่ง แม่ก็หันมามองพอดี ตาสบตา เก๋ากี้เห็นแม่ยิ้มๆ เลยเอียงคอมอง เหมือนจะบอกว่า

‘มันก็อยู่แถวๆนี้ล่ะแม่’

          เมื่อได้ของที่ต้องการ แม่นำถุงร้อนและยางมาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเก้าอี้ที่เก๋ากี้นอน ตอนนี้ เก๋ากี้ไม่ได้สนใจอะไร เพราะฟุบหลับคาเก้าอี้ไปแล้ว


          เก๋ากี้ตื่นมาอีกครั้ง ก็ไม่พบแม่ที่ในครัวแล้ว

‘แม่นะ ไปก็ไม่เรียก’

          ลุกจากเก้าอี้มาได้ เก๋ากี้จึงเดินมาหยุดที่หน้าประตูบ้าน มองผ่านมุ้งลวดที่ติดอยู่กับประตูเหล็กดัดอีกชั้น พบว่าตอนนี้ข้างนอกยังสลัวๆอยู่ ดูท่าทางไม่สู้จะปลอดภัยเท่าไร ได้แต่คิดในใจ

‘รอแม่กลับมาก่อนดีกว่า ข้างนอกดูน่ากลัวไงไม่รู้’

          ไม่รู้ว่าจะทำอะไร เก๋ากี้วนไปวนมาได้พักเดียว ก็เดินกลับไปนอนต่อที่เตียง โดยไม่รู้ว่า เวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว

           ภายนอกของตัวบ้าน นกน้อยนานาชนิดต่างพากันบินมาเกาะที่คบไม้บ้าง  กระเช้าเคราฤาษีที่แม่เลี้ยงไว้บ้าง  ไม่ก็บนกิ่งมะขามต้นใหญ่หน้าบ้าน ในบรรดานกพวกนี้ นกกางเขน กับ นกกระจิบกระจอก จะเสียงดังเป็นที่สุด
          นกกางเขน กู่ร้องขานกับพรรคพวกที่อยู่ห่างออกไป ด้วยเสียงคล้ายจะหวีดแหลม ที่ดังชัดเจน ก้องไปทั่ว  ส่วนนกกระจิบกระจอก พอได้รวมกันอย่างน้อยสักสามถึงสี่ตัว ก็ไม่ต่างไปจากเพื่อนบ้านที่รวมกลุ่มเม้าท์กระจาย  ต่างชิงกันส่งเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ อยู่บนคานสแลน ที่แม่ทำไว้บังแดดและให้ร่มเงาแก่ต้นไม้ที่เพาะเลี้ยงไว้

‘โอยยย ไม่เคยคุยกันหรือยังไงนะ .. จะนอน’

           ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงของบรรดาขาเม้าท์ หรือว่าท้องประท้วง เก๋ากี้ที่นอนอยู่งัวเงียตื่นขึ้นมา มองซ้ายมองขวาบ้านก็ยังคงเงียบ นึกฉงนเล็กน้อย

‘แม่ไปไหน’


          เมื่อรู้สึกตัวตื่นเต็มที่ ก็พรวดพราดกระโดดลงจากเตียงทันที ออกจากห้องนอน เดินทะลุมาห้องครัว เข้าไปในห้องน้ำแล้วเดินกลับออกมาอีกรอบ  จากที่เดินอยู่ เก๋ากี้เปลี่ยนเป็นวิ่งเหยาะๆ มาที่ประตูเหล็กหน้าบ้าน ก็ไม่พบแม้แต่เงา ...ของแม่

          หนำซ้ำ ตอนนี้ .. เก๋ากี้ก็หิวแล้วด้วย



          “จ้า วันนี้อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน  แม่ออกมาเด็ดพริกกับมะเขือเทศว่าจะเอามาผัดกะเพรา ... “

           “........”

           “จ้ะๆ ตอนแม่ออกไป เห็นหลับอยู่บนเตียงแน่ะ”

           “.......”

           “จ้ะ แม่วางสายก่อนนะ จะทำกับข้าวแล้ว ค่อยคุยกันนะลูก ....... จ้ะ สวัสดีจ้ะ”

              ‘เสียงแม่นี่’

              เก๋ากี้เดินตามเสียงที่ได้ยินไปทางท้ายครัว ประตูครัวที่ปิดอยู่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเก๋ากี้ เพราะดันเพียงนิดเดียวมันก็เปิดออกอย่างง่ายดาย

              “ ไง ตื่นแล้วหรือจ๊ะ”

             เดินพ้นประตูออกมา เก๋ากี้ก็เจอแม่พอดี ขณะที่แม่พูด เก๋ากี้เห็นแม่กำลังเก็บเจ้าสิ่งที่เรียกว่า ‘มือถือ’ ใส่ลงในถุงผ้าเล็กๆสีเทา

             “หิวล่ะสิ แม่วางของกินไว้ให้ กินบ้างหรือยัง”

             อย่างเคย... แม่ไม่ได้รอคำตอบใดๆ แต่แม่เดินเข้าบ้านไปดูจานของกินนั้น  ก่อนจะพูดทำนองบ่นๆว่า

             “วางไว้ให้ก็ไม่กิน อยากกินปลาทูหรือ”

             ได้ยินเพียงเท่านั้น เก๋ากี้รีบเดินตามแม่มาทันที ก่อนจะไปหยุดแล้วนั่งรออยู่ที่หน้าตู้เย็น มองจ้องมันราวกับว่า  ถ้าจ้องมากๆเข้า มันก็จะเปิดออกในทันใด

             “รอเดี๋ยวนะ แม่ขยำข้าวก่อน”

             พูดพลางแม่ก็เปิดตู้เย็น ก่อนจะหยิบกล่อง ‘ไอติม’ ที่ในนั้นบรรจุปลาทูตัวไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่ ก่อนแม่จะหยิบแบ่งออกมาครึ่งตัว เพื่อให้เก๋ากี้กินเป็นมื้อเช้า

            “เข่งละสิบบาทจากตลาดนัดก็ไม่กิน ต้องกินเข่งละยี่สิบจากตลาดสดนะเราน่ะ มันก็ปลาทูเหมือนกันแท้ๆ"  

           แล้วเก๋ากี้ก็เห็นแม่เดินไปตักข้าวที่หม้อข้าวพลางพึมพำๆไปด้วย  แว่วดังมาว่ายังไง เก๋ากี้ไม่รู้เรื่องหรอก  เพราะตอนนี้สายตาของเก๋ากี้จับจ้องอยู่แต่ที่ชามข้าวในมือแม่เท่านั้น

          ".. จะรู้มากเกินไปล่ะ”

          แม่บ่นกับเก๋ากี้แบบไม่จริงจังนัก เหมือนจะหยอกล้อเสียมากกว่า แล้วแม่ก็บรรจงคลุกเคล้าข้าวเท่าปลายหัวแม่มือกับปลาทูครึ่งตัวในชามสะอาดสำหรับเก๋ากี้

          ก่อนจะวางลงกับพื้นข้างๆชามน้ำ ให้เก๋ากี้ได้กินตามอัธยาศัย แล้วแม่ก็เดินออกไปเก็บผักตามที่ต้องการอีกครั้ง



           เก๋ากี้เงยหน้าขึ้นมองตามแม่นิดหนึ่ง ก่อนจะเปล่งเสียงเพียงแผ่วเบา ... คล้ายจะขอบคุณ

           “เงี๊ยวววว..”

           แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวขยำปลาทูในชามนั้น .. อย่างตั้งอกตั้งใจ

           เท่านี้ ... เก๋ากี้ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว


                                     ********************************************



Create Date : 28 มีนาคม 2556
Last Update : 28 มีนาคม 2556 0:39:14 น.
Counter : 968 Pageviews.

2 comments
  
คุณโค โครงการเดียวกับคุณทะเลเดือดรึเปล่าคะ
แนวคล้ายกันด้วยนะ มาเป็นตอนๆค่ะ



ฝันดีค่า ^^
โดย: lovereason วันที่: 28 มีนาคม 2556 เวลา:23:16:10 น.
  
อ้าว มีโครงการหรือฮะ ..
โคไม่ทราบฮะ นึกจะเขียนขึ้นมา แล้วแต่อารมณ์ฮะ

กะไว้เป็นตอนจริงๆล่ะ เพราะพี่เก๋าเค้าเรื่องเยอะ
โอกาสดีๆ ค่อยเขียนใหม่

ฝันดีฮะ
โดย: โค อัสดง วันที่: 29 มีนาคม 2556 เวลา:0:01:05 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โค อัสดง
Location :
สุพรรณบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



.. ตามนั้น อย่างที่มันควรจะเป็น ..
New Comments
มีนาคม 2556

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31