บ้านนี้ .. ที่โดดเดี่ยว

            ท้องฟ้ามืดลงแล้ว แต่ทำไมวันนี้เก๋ากี้รู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิมเอาเสียเลย บ้านเงียบวังเวงไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ไม่พบใคร เสียงที่นานๆจะได้ใช้ร้องเรียกสักทีมันก็เบาแสนเบา ไม่รู้ว่ามันจะดังพอไหมที่จะส่งให้ไปถึงคนที่เคยอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่กลับหายหน้าไปในค่ำวันนี้

            ‘แม่...’

            เก๋ากี้พยายามร้องเรียกคำๆนี้จนเสียงที่เบาอยู่แล้วแทบจะขาดหายไป ก็ยังไม่ปรากฏบุคคลที่ตามหา เดินจากห้องนอนใหญ่ที่เป็นเขตหวงห้ามซึ่งเก๋ากี้อาศัยนอนมาตั้งแต่บ่าย โดยไม่มีแม่มาดุมันทำให้เก๋ากี้เริ่มแปลกใจ

            ‘แม่ ... อยู่ไหน’

            ได้แต่เหลียวซ้ายแลขวา ข้างนอกก็มืดลงทุกทีลูกชายของแม่อีกคนก็ยังไม่กลับ เดินมาถึงในครัว อาหารที่เตรียมไว้ให้เก๋ากี้ทั้งในจานและในถ้วย เริ่มมีมดเดินขบวนเข้าคิวลำเลียงอาหารนั้นกลับไปยังถิ่นของพวกมัน

            เก๋ากี้หยุดมองเพียงครู่ไม่ได้อาลัยอาวรณ์อาหารที่กองกำลังตัวเล็กๆหากมีเป็นเรือนพันยุ่บยั่บทั้งต่อไต่ทยอยขนไปมากันหลายรอบ น้ำใสที่เตรียมไว้ให้กินพร่องไปบ้างเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้ต้องกินน้ำบ่อยครั้งก่อนจะเดินไปนอน

            ห้องน้ำห้องท่าที่ลูกชายคนเล็กเตรียมไว้ให้ เก๋ากี้ก็ไม่ได้ใช้บริการ แม้จะต้องถูกกักอยู่แต่ในบ้านไม่ให้ไปไหน แต่มีหรือเก๋ากี้จะพาตัวเองออกไปรับอากาศข้างนอกไม่ได้


            ปกติในเวลานี้ไฟในบ้านจะต้องส่องสว่างไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ห้องใหญ่ ห้องเล็ก ห้องครัว ห้องน้ำ หรือแม้แต่หน้าบ้าน แต่ค่ำคืนนี้ เก๋ากี้ได้แต่อาศัยแสงไฟจากเพื่อนบ้านข้างๆพอเห็นวับๆแวมๆ แต่ถึงไม่มีเก๋ากี้ก็ไม่เดือดร้อน เพราะอะไรก็รู้ๆกันอยู่

            ท้องเริ่มประท้วงขึ้นมานิดหน่อย แต่พอเหลือบตาไปมองจานข้าวใบเดิม เก๋ากี้ได้แต่ถอนใจออกมาอย่างทอดอาลัย

            ‘เฮ้อออ .. เอาไปทั้งจานก็ได้นะ

            พึมพำบอกกองทัพมดที่ยังขยันไม่สิ้นสุดเวียนเข้าเวียนออกอยู่อย่างนั้น


            ไม่มีอะไรในครัวที่น่าสนใจอีกแล้วเมื่อไม่มีแม่อยู่ที่นั่น เก๋ากี้เดินมานั่งลงที่หน้าประตูเหล็กซึ่งปิดล็อกกุญแจแน่นหนาจากภายนอก แต่ก็เปิดประตูไม้ชั้นนอกเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

            ‘แม่ .. แม่ .. อยู่ไหน’

            อีกครั้งที่เสียงอันแสนแผ่วเบาร้องเรียกหา แต่ความเงียบคือเสียงที่ตอบรับกลับมา เพื่อนที่อยู่กับเก๋ากี้ในขณะนี้ คือความหิว ความเหงา อ้างว้างและโดดเดี่ยว

            ใครๆต่างก็พากันหายไปจากบ้านกันหมด  


            จากที่นั่งคอยตรงหน้าประตูโดยไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปเท่าใด ความง่วงก็คืบคลานมาทีละน้อย เขาเรียกว่าแรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดูดอะไรสักอย่างนี่ล่ะ ที่เขาว่ากันมา มันมีผลทำให้เก๋ากี้ไม่อาจพยุงตัวนั่งคอยต่อไปได้

            ตัวค่อยๆโน้มลงมาช้าๆตาเริ่มหรี่ปรือจนกระทั่งฟุบหลับอยู่หน้าประตูในที่สุด ก่อนจะมาสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดตรงหน้าบ้านใต้ร่มสแลนของแม่

            ‘แม่ ...’

            คนเดียวที่เก๋ากี้นึกถึงในยามนี้มากกว่าใครๆ คือคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ไม่ว่าจะเวลาไหน เช้า สาย บ่าย เย็น เก๋ากี้เองเสียอีกที่ชอบหนีออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน ทิ้งแม่ให้หาข้าว เตรียมห้องน้ำ ปัดกวาดที่นอนให้ แล้วก็กลับมาเพื่อบอกแม่ว่า

            ‘ แม่ .. หนูหิวแล้ว’


            ทำไมนะ ทุกครั้งที่ต้องการจะร้องเรียกบ่งบอกว่า เก๋ากี้ดีใจแค่ไหนตอนที่แม่ไปที่อื่นแล้วกลับมาบ้านมันถึงได้ช่างแผ่วเบาจนตัวเองก็ใจหาย เค้นเสียงเท่าใด มันก็ออกมาเพียงนิดน้อย

            หรือเพราะเก๋ากี้เองนั่นล่ะ ที่มีโลกส่วนตัวสูงเกินไป ไม่ยอมเล่น ไม่ยอมพูดจาทักทายกับพวกละแวกใกล้เคียงกัน ถ้าไม่เดินเชิดหนี ก็ไล่พวกนั้นไปให้พ้นๆ ด้วยการกระทำไม่ใช่เสียงจึงทำให้เป็นผลเสียจนทุกวันนี้

            แต่แล้วคนที่ลงมาจากรถกลับเป็นลูกชายคนเล็ก เขาเดินลงมาพร้อมข้าวของบางอย่างขณะมืออีกข้างกำอะไรบางอย่างสนทนากับใครบางคนอยู่

            “ฮะ ถึงบ้านแล้วฮะ .. ได้ๆ เดี๋ยวเอาไปให้ ..”

            ขนาดเก๋ากี้นั่งมองตาแป๋วเขายังไม่สนใจเลย ร้องเรียกจนเสียงหายก็ยังคุยอยู่นั่นล่ะ

            “อืมๆ เดี๋ยวเปลี่ยนข้าวกับน้ำให้เก๋ากี้ .. พี่ล่ะจะให้หยิบอะไรไปอีกนอกจากของแม่”


            ‘หืม  .. แม่’

            หูเก๋ากี้ผึ่งทันทีที่ได้ยินคำนี้แล้วหันขวับเดินไปจ่อตรงหน้าประตูที่ลูกชายคนเล็กกำลังไขเข้ามา เขาเห็นเก๋ากี้แล้วน่ะสิถึงได้ยอมทักทายมา

            “ไงพี่เก๋า .. พี่เขาฝากดูแลบ้านด้วยนะ พรุ่งนี้เช้าถึงจะกลับมา”

            ‘แล้วแม่ล่ะ .. แม่อยู่ไหน’

            พี่ของลูกชายคนเล็กคือคนที่พาเก๋ากี้มาเป็นลูกสาวบ้านนี้เมื่อสี่ปีที่แล้ว แต่เพราะเหตุจำเป็นจึงต้องเดินทางไปๆมาๆ แต่เก๋ากี้ไม่สนหรอก

            ‘เอาเรามาเลี้ยงแล้วก็ทิ้งเรา .. ชิ’

            คนสำคัญที่สุดของเก๋ากี้มีแต่แม่เท่านั้น  แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า .. แม่ไปไหน?

            ลูกชายคนเล็กยังคงเดินคุยต่อไป ข้าวของที่ถือมา เก๋ากี้เห็นว่ามันเป็นนมกล่องที่แม่ชอบกิน มีลูกอะไรไม่รู้รีๆสีเขียว กับลูกกลมๆใหญ่ๆ สีเขียวอีกนั่นล่ะ .. อย่าถามนะว่าเก๋ากี้รู้ได้ยังไง .. เขาว่ามาอย่างนั้นนี่


            เขาวางเจ้าตัวประหลาดนั่นแล้ว และตอนนี้กำลังอาบน้ำอยู่ เก๋ากี้จะต้องรู้ให้ได้ว่าแม่ไปไหนจึงวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น รอแล้วรอเล่าก็ไม่ยอมออกมาสักที จนเก๋ากี้เคลิ้มหลับไปอีกครั้ง

            ตกใจตื่นเพราะเสียงปิดประตูล็อกกุญแจหน้าบ้าน ก่อนที่เสียงสตาร์ทรถจะกระหึ่มขึ้น จนแล้วจนรอดเก๋ากี้ก็เลยไม่รู้ว่า คนที่ถามหานั้นอยู่ที่ไหน

            คืนนี้เก๋ากี้ย้ายตัวเองจากเตียงนอนห้องใหญ่ มานอนที่พื้นหน้าประตูบ้านเพื่อรอแม่ ถ้าแม่กลับมาเก๋ากี้จะได้รู้ตัวและตื่นทันให้แม่เห็นเป็นคนแรก ว่าเก๋ากี้ไม่ได้หนีออกไปเที่ยวไหนอีกแล้ว

            สายตาที่คุ้นชินกับความมืดมิดส่องประกายวับวาวมองตรงไปข้างหน้าที่ไม่มีจุดหมายปลายทาง รู้เพียงว่า เก๋ากี้ต้องอยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้ .. เพื่อเฝ้ารอ

            ทำไมนะ  มันเหงาจัง


           ไก่บ้านไหนก็ไม่รู้ขันเจื้อยแจ้วในยามเช้า เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ของนกน้อยใหญ่ที่บินออกหากิน บ้างก็มาจับกลุ่มทักทายยามเช้าที่ซุ้มต้นไม้ของแม่

            เก๋ากี้ตื่นแล้วแต่ก็ยังนอนซึมกระทืออยู่อย่างนั้น ปกติจะรู้สึกหงุดหงิดกับเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่าคุณนายนักจ้อพวกนั้น แต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิม

            ความสดชื่น สดใสยามเริ่มวันใหม่ที่ไม่รู้ว่าแม่หายไปไหน มันช่างห่อเหี่ยว ว้าเหว่สิ้นดี

            ‘เฮ้อออ..’

            เป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่ได้นับขณะถอนหายใจ จริงอย่างใครคนสวยๆคนนั้นบอก มันแน่นอกก็ต้องยกออก

            ‘เฮ้อออ..’

            ออกไปข้างนอกให้จิตใจมันปลอดโปร่งคือทางเดียวที่เก๋ากี้คิดได้


            ‘นั่น .. พี่คนโตกลับมาแล้ว’

            เก๋ากี้เห็นใครคนนั้นเดินเข้ามาถึงบ้าน ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้เมื่อย เก๋ากี้รีบวิ่งพร้อมร้องเรียกด้วยเสียงที่คิดว่าดังที่สุดในชีวิตออกไป

            ‘เงี๊ยวววววววว ...’

            พี่คนโตหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาที่มาของเสียงนั้น ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นตัวเก๋ากี้

            “พี่เก๋า เป็นไงบ้างกินอะไรยัง มานี่มาเข้าบ้านกัน”

            พี่คนโตที่ยังสะพายเป้อยู่ด้านหลังเดินเข้ามาหาพร้อมๆกับอุ้มเก๋ากี้ไว้แนบอกลูบหัวอย่างรักใคร่ ถึงหน้าตาพี่คนโตจะคมเข้มค่อนข้างดุ อีกทั้งยังชอบทำหน้านิ่งๆ แต่ใครจะรู้ว่าพี่คนนี้ล่ะที่รักเก๋ากี้ที่สุด เพียงแต่ว่าเก๋ากี้ เทความรักไปให้แม่หมดแล้ว

            พอไขกุญแจบ้านเข้าไปด้วยกัน เก๋ากี้เดินตามประกบไม่ห่าง พี่คนโตวางกระเป๋าก็ตามไปด้วย จนกระทั่งเดินเข้าครัวเก็บถ้วยชามไปล้าง เปลี่ยนน้ำ หาข้าวให้เก๋ากี้กิน ก่อนจะทำธุระของตัวเอง


            พี่คนโตแต่งตัวออกมาแล้วเสียงประหลาดๆก็ดังขึ้น จนเมื่อเขาเอื้อมมือไปหยิบมาดู เขาก็กดอะไรไม่รู้แล้วยกมันแนบหูเพื่อพูดคุย ทุกอย่างอยู่ในสายตาเก๋ากี้ตลอดไม่มีตกหล่นเลยแม้แต่นิดเดียว

            “ฮะแม่  ว่าจะนอนสักชั่วโมงสองชั่วโมงค่อยออกไปฮะ”

            เก๋ากี้เงี่ยหูตาโตเดินเข้าไปใกล้คลอเคลียพี่คนโตจะได้รู้ซะทีว่าแม่อยู่ไหน

            “ได้ห้องพิเศษแล้วใช่ไหมฮะ ดีแล้วจะได้ไม่อึดอัด คนไข้เตียงข้างๆญาติเยอะเหลือเกิน”

            “........”

            “ฮะ ดูแลเรียบร้อยฮะ จะไปถึงโรงพยาบาลคงไม่เกินห้าโมงเย็นหรอกฮะ”

            “.......”

            “งั้นเย็นๆจะซื้อของกินเข้าไปด้วยแล้วกัน .. ฮะ ได้ฮะ”

            พี่คนโตหยุดพูดแล้วหันมามองเก๋ากี้พลางลูกหัวเบาๆอย่างอ่อนโยน

            “อยู่เฝ้าบ้านคนเดียวอีกไม่กี่วันนะพี่เก๋านะ เดี๋ยวแม่ก็ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านแล้ว”

            พูดจบประโยคพี่คนโตก็ล้มตัวลงนอนหลับไปในทันที


            เก๋ากี้ไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เรียกว่าโรงพยาบาลมันคืออะไร แต่แม่กำลังอยู่ที่นั่นและจะกลับมาในไม่ช้า

            แค่นี้ เก๋ากี้ก็พอใจแล้วว่า แม่ไม่ได้หายไปไหน และ ไม่ได้ทิ้งเก๋ากี้ไว้ให้โดดเดี่ยวตลอดไปด้วย

            เสียงแผ่วเบาดังขึ้นเท่าที่จะดังได้ทางด้านหลังของพี่คนโตเป็นการตอบว่ารับรู้แล้ว

            ‘เงี๊ยววว....’


******************************************




Create Date : 26 พฤษภาคม 2556
Last Update : 26 พฤษภาคม 2556 8:28:46 น.
Counter : 863 Pageviews.

5 comments
  
เก๋ากี้ เงี้ยวง่าว
โดย: มาโซคิส IP: 115.87.54.181 วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:7:19:16 น.
  
เงี๊ยวววววววววววววววว..

งิงิ
โดย: โค อัสดง วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:8:29:45 น.
  
พี่เก๋า มาให้พี่นุ่นปลอบใจม๊ายยยย
เงี้ยว ง๊าว ๆๆๆๆ

โดย: lovereason วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:41:10 น.
  
พี่เก๋าบอกว่า ..

ขอคิดดูก่อนฮะ ...

เงี๊ยวววว
โดย: โค อัสดง วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:44:21 น.
  
น้องเหมียว เก๋ากี้ นี่เอง
โดย: แม่ไก่ตัวเล็ก วันที่: 10 กรกฎาคม 2556 เวลา:18:57:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โค อัสดง
Location :
สุพรรณบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



.. ตามนั้น อย่างที่มันควรจะเป็น ..
New Comments
พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31