สาระและแง่คิดดีๆ จาก แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง
อาหาร และ สุขภาพ สำคัญที่คุณค่ามากกว่ารสชาติ
แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง มีสาระและแง่คิดดีๆ ที่เห็นว่า ทุกๆ คนควรจะได้ดู โดยเฉพาะคนที่เป็นหมอเป็นแพทย์ รวมทั้งนักศึกษาแพทย์ ทั้งแพทย์สมัยใหม่ แพทย์แผนไทย และหมอพื้นบ้าน เพราะละครเรื่องนี้สอนจิตวิญญาณของการ เป็นแพทย์ได้อย่างน่าสนใจยิ่งกว่าการท่องจำจรรยาบรรณของแพทย์ แบบที่เราใช้อยู่ในระบบการศึกษาปัจจุบัน
สำหรับคนทั่วไป ละครเรื่องนี้ได้สอดแทรกความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารและสุขภาพ ในมุมมองของคนตะวันออกได้อย่างแยบคาย แม้ว่าการนำเสนอจะถูกปรับให้เหมาะ กับโลกสมัยใหม่ที่เชื่อมั่นกับวิธีคิดเชิงเหตุผลและการพิสูจน์ในเชิงประจักษ์ มากกว่าที่จะวางอยู่บนฐานวิธีคิดแบบดั้งเดิมไปทั้งหมดก็ตาม
-อาหารคือยาในชีวิตประจำวัน เมื่อแรกที่ได้ชมละครแดจังกึมโดยไม่ได้อ่านเรื่องย่อหรือรู้เค้าโครงของละครเรื่องนี้มาก่อน คิดว่าละครเรื่องนี้ต้องการอวดชาวโลกให้รู้จักกับศิลปะการอาหารชั้นสูงของเกาหลี ในยุคโบราณ เพราะความละเมียดละไมและพิถีพิถันของเหล่าบรรดาซังกุง ที่เรารับรู้จากตัวละครในเรื่องล้วนชวนให้คิดไปในทำนองนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรุงแต่งเพื่อให้รสชาติอาหารเป็นที่ถูกอกถูกใจของพระราชา พระพันปี พระมเหสี พระโอรส และพระธิดา ซึ่งดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ต่อมรับรสที่ลิ้น ของผู้ทรงอำนาจในราชสำนักสัมผัสกับอาหารที่ถวายจะเป็นช่วงเวลาแห่งการชี้ชะตา ความเป็นไปของเหล่าซังกุงและนางกำนัลห้องเครื่องมา จนทำให้คนดูต้องอดลุ้นไปด้วยไม่ได้
แต่แล้วในฉากที่ซอจังกึมต้องทำหน้าที่ปรุงอาหารให้ราชทูตจากต้าหมิง ซึ่งมีปัญหาระบบย่อยอาหาร เธอซึ่งเคยพิสูจน์ฝีมือในการปรุงอาหารในฉากก่อนหน้านี้ ว่าไม่เป็นสองรองใคร กลับบอกให้เรารู้ว่า รสชาติเป็นเพียงเหรียญด้านเดียวของอาหาร ในขณะที่อีกด้านหนึ่งผู้ปรุงอาหารต้องรู้ว่า อาหารมีทั้งคุณและโทษ โดยเฉพาะกับ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว จำเป็นต้องกินอาหารให้ถูกกับโรค มากกว่าที่จะกินอาหารให้ถูกกับลิ้น
ซอจังกึมเลือกปรุงอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของราชทูตต้าหมิง แทนที่จะทำอาหารเลิศรสตามใจปากของผู้กิน แม้จะต้องฝืนทนกับอาหารที่ไม่ชอบ แต่เพราะต้องการพิสูจน์ว่า อาหารจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นจริงตามที่ซอจังกึมให้สัญญาไว้หรือไม่
ในที่สุดราชทูตต้าหมิงก็ประจักษ์ด้วยตนเองว่า อาหารที่เหมาะกับสภาพของร่างกาย คือยาชั้นเลิศในชีวิตประจำวัน ในขณะที่อาหารที่ถูกลิ้นแต่ทำลายสุขภาพ ก็ไม่ผิดกับยาพิษที่ทำลายร่างกายไปทีละน้อยนั่นเอง
ดังนั้น ในแง่นี้เห็นว่าแดจังกึมบอกกับเราว่า อาหารนี่แหละคือยาในชีวิตประจำวันของเรา หากเรากินอาหารที่ไม่สอดคล้องกับสภาพของร่างกาย เราอาจเจ็บป่วยได้ และหากเรา มีพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมเช่นนั้นเป็นเวลานาน โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นย่อมยาก ที่จะรักษาให้หายได้โดยใช้แต่ยาเพียงอย่างเดียว
การแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหาโดยการปรับพฤติกรรมการกินอาหารจึงเป็นหัวใจของการแพทย์ ไม่เฉพาะการแพทย์เกาหลีซึ่งมีรากฐานมาจากการแพทย์จีน แต่รวมถึงการแพทย์อายุรเวท ของอินเดีย การแพทย์ทิเบต และการแพทย์แผนไทยของเราด้วย
ที่มา : หมอชาวบ้าน
Create Date : 26 มกราคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2556 18:08:59 น. |
Counter : 1922 Pageviews. |
|
|
|
|