| ห้องฝากข้อความ | Youtube.com | เติมใจให้กัน | MY Photos | |www.facebook.com|

สรรพคุณและประโยชน์ของพริกไทยดำ พริกไทยอ่อน 50 ประการ !!+ เมนู " พริกไทยอ่อน " เพื่อสุขภาพ





นานาสาระน่ารู้เพื่อสุขภาพ


สรรพคุณและประโยชน์ของพริกไทยดำ พริกไทยอ่อน




พริกไทย สรรพคุณและประโยชน์ของพริกไทยดำ พริกไทยอ่อน 50 ประการ !!

พริกไทย ภาษาอังกฤษ Pepper มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Piper nigrum Linn
จัดอยู่ในวงศ์ Piperraceae และมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆอีก เช่น พริกขี้นก, พริกไทยดำ,
พริกไทยขาว, พริกไทยล่อน, พริกน้อย (ภาคเหนือ), พริก (ใต้) เป็นต้น มีถิ่นกำเนิด
ในประเทศอินเดีย บริเวณเทือกเขาทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับบ้านเราพริกไทยถือเป็นพืช
เศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่ง โดยนิยมปลูกพริกไทยกันมากในจังหวัดจันทบุรี ตราด และระยอง
ลักษณะพริกไทย ต้นพริกไทยเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืน จัดอยู่ในประเภทไม้เลื้อย สูงประมาณ 5
เมตร ลักษณะของลำต้นจะเป็นข้อๆ ลักษณะของใบพริกไทยจะมีสีเขียวสด ใบใหญ่คล้ายใบโพ
ส่วนลักษณะของดอกพริกไทยจะมีขนาดเล็ก จะออกช่อตรงข้อของลำต้น มีลักษณะเป็นพวง
ซึ่งจะมีเมล็ดกลมๆติดกันอยู่เป็นพวง

สายพันธุ์พริกไทย พริกไทยที่นิยมปลูกในบ้านเรามีอยู่ 6 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ใบหนา
พันธุ์บ้านแก้ว พันธุ์ปรางถี่ธรรมดา พันธุ์ปรางถี่หยิก พันธุ์ควายขวิด และสายพันธุ์คุชชิ่ง






สมุนไพรพริกไทย เป็นพืชที่มีผลเป็นพวงเม็ดขนาดเล็ก จัดเป็นสมุนไพรซึ่งมีสรรพคุณทางยา
และป็นราชาแห่งเครื่องเทศที่มีรสชาติเผ็ดร้อน สามารถนำมาทำเป็นพริกไทยแห้งไว้ใช้เป็นเครื่อง
ปรุงในการประกอบอาหาร ถ้าเป็นแบบแห้งทั้งเปลือกจะเป็น พริกไทยดำ หรือ Black Pepper
(เพราะมีผงของเปลือกสีดำปนอยู่) แต่ถ้าลอกเปลือกออกก่อนทำเป็นผงก็จะได้เป็น พริกไทยขาว
หรือ White Pepper (พริกไทยล่อน) เนื่องจากพริกไทยมีปริมาณน้ำในแต่ละเม็ดน้อยมาก
จึงไม่ค่อยขึ้นรา ซึ่งวิธีการเก็บรักษาก็ง่ายๆเพียงแค่เก็บไว้ในโหลแก้วให้มิดชิด ส่วนพริกไทยป่น
ก็ควรบดเก็บแต่น้อย ในภาชนะที่แห้งสนิทและปิดให้มิดชิดเช่นกัน

สำหรับสรรพคุณทางยานั้น พริกไทยดำจะมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าพริกไทยล่อน
(พริกไทยขาว) โดยเฉพาะสรรพคุณที่นำมาใช้ปรุงเป็นยาอายุวัฒนะ สำหรับบุคคลทั่วไป
ไม่ควรรับประทานพริกไทยในปริมาณที่มากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดโทษได้
และสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคตา มีอาการเจ็บคอก็ไม่ควรรับประทานพริกไทย
รวมไปถึงผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวารก็ไม่ควรรับประทานมากเกินไป
อาจจะทำให้อาการของริดสีดวงทวารกำเริบได้ !





ประโยชน์ของพริกไทย
1.เมล็ดพริกไทยมีสารฟินอลิกส์ และสารพิเพอรีน ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (เมล็ด)
2.เมล็ดพริกไทยมีสารพิเพอรีน (Piperine) ซึ่งเป็นสารอัลคาลอยด์ที่มีส่วนช่วยรักษา
และป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้ (อ้างอิง : รศ.ดร.อรุณศรี ปรีเปรม
อาจารย์จากคณะเภสัชศาสตร์) (เมล็ด)
3.สรรพคุณช่วยป้องกันและต่อต้านสารก่อมะเร็ง ช่วยเร่งการทำงานของตับ
ให้ทำลายสารพิษได้มากขึ้น (เมล็ด)
4.เมล็ดพริกไทยมีฤทธิ์ในการช่วยกระตุ้นประสาท (เมล็ด)
5.ช่วยแก้โรคลมบ้าหมูหรือลมชักได้ (เมล็ด)
6.ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (เมล็ด)
7.ช่วยทำให้เจริญอาหาร ทำให้ลิ้นของผู้สูงอายุรับรสได้ดียิ่งขึ้น
8.พริกไทยสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ (เมล็ด)
9.ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายและเสริมภูมิต้านทานไปด้วยในตัว (เมล็ด)
10.ช่วยแก้ตาแดงเนื่องจากความดันโลหิตสูง(ดอก)
11.ช่วยระงับอาเจียน (ดอก)
12.ช่วยแก้อาการปวดฟัน ด้วยการใช้พริกไทย พริกหาง
นำมาบดเป็นผงผสมยาขี้ผึ้ง แล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆ นำมาใช้อุดฟันตรงบริเวณที่ปวด (เมล็ด)
13.ช่วยขับเสมหะ เปิดคอให้โล่งขึ้น (เมล็ด)
14.ช่วยแก้เสมหะในทรวงอก แก้ลมพรรดึก (เถา)
15.ช่วยบรรเทาอาการและแก้อาการไอ หอบหืด สะอึก (เมล็ด)
16.ช่วยแก้อติสารหรืออาการลงแดง (เถา)
17.ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ (ราก)
18.สรรพคุณพริกไทยช่วยแก้หวัดและลดไข้ (เมล็ด)
19.พริกไทยสรรพคุณทางยาช่วยแก้ไข้เรื้อรัง ด้วยการใช้พริกไทยดำ
ใบบัวบกแห้ง ใบกะเพราแห้ง อย่างละเท่าๆกัน นำมาบดเป็นผงปั้นเป็นเม็ดเล็กๆ
กินครั้งละ 1 เม็ดเช้าและเย็น
20.สรรพคุณของพริกไทยช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยเพิ่มการสูบฉีดโลหิตเข้าใจ (เมล็ด)
21.พริกไทยดำสามารถช่วยละลายลิ่มเลือดและลดการจับตัวเป็นก้อนได้
(อ้างอิง :The Central Food Technological Research Institute)
22.ช่วยกระตุ้นการขับเหงื่อออกจากร่างกาย เมื่อเหงื่อระเหยออกจากผิวแล้ว
จะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นสบายมากยิ่งขึ้น (เมล็ด)
23.สรรพคุณของพริกไทยดําช่วยรักษาโรคกระเพาะและลำไส้
24.ช่วยแก้อาการปวดมวนท้อง (ใบ,ราก)
25.ช่วยรักษาอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง และท้องเดินหลายๆครั้ง (เถา)





26.ช่วยลดการเกิดก๊าซในระบบทางเดินอาหาร จึงช่วยแก้อาการจุกเสียด
แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ (ใบ,เมล็ด)
27.ช่วยแก้ลมอัมพฤกษ์ ขับลมในกระเพาะ (ใบ,เมล็ด,ราก)
28.ช่วยกระตุ้นการไหลของน้ำลายและน้ำย่อยในกระเพาะ ช่วยในการย่อยอาหาร
แก้อาการอาหารไม่ย่อย ช่วยย่อยสารพิษตกค้างที่ไม่สามารถย่อยได้ (เมล็ด,ราก)
29.ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น (ดอก)
30.ช่วยบรรเทาหรือผ่อนคลายอาการไม่สบายจากอาหารเป็นพิษจากอาหารทะเล
และเนื้อสัตว์ต่างๆ (ดอก)
31.ช่วยขับปัสสาวะ (เมล็ด)
32.ช่วยแก้ระดูขาว (เมล็ด)
33.ช่วยแก้อาการอักเสบและโรคอื่นๆ (พริกไทยดำ)
34.แก้ตะขาบกัด ด้วยการใช้ผงพริกไทยโรยบริเวณแผลที่ถูกกัด (เมล็ด)
35.ช่วยรักษาอาการเมื่อยขบ เป็นเหน็บชาง่ายในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว
โดยใช้พริกไทย น้ำกะทิ และไข่ไก่ ตีให้เข้ากันแล้วตุ๋นจนสุก และนำพริกไทย
ขาวเข้าเครื่องยากับเปลือกไข่ไก่ แล้วนำไปผิงไฟให้เหลือง แล้วนำมาบดเป็นผง
ผสมกับน้ำต้มสุก และยังช่วยรักษาอาการชักจากการขาดแคลเซียมได้อีกด้วย
36.รักษากระดูกหัก ด้วยการใช้พริกไทย 5 เมล็ด เปลือกต้นของสบู่ขาว และต้นส้มกบ
นำมาตำผสมเหล้าขาวแล้วผัดให้อุ่นพอกให้หนา และใช้ไม้พันผ้าให้แน่น
37.ใช้ทำเป็นยาแก้ผอมแห้งแรงน้อย ด้วยการใช้พริกไทยขาว ข้าวสารคั่วเกลือทะเล
อย่างละเท่าๆกัน นำมาบดจนเป็นผงและปั้นผสมกับน้ำผึ้ง ขนาดเท่าเมล็ดพุทรา
รับประทานก่อนอาหารเช้า เย็นและก่อนนอนครั้งละ 1 เม็ด จะช่วยทำให้
สุขภาพอนามัยดีขึ้นภายในเวลาไม่เกิน 3 เดือน
38.พริกไทยเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคุณแม่มือใหม่ เพราะช่วยทำให้น้ำนมของแม่เพิ่มขึ้น
(อ้างอิง : ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว เภสัชกรระดับ 6 รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร)
39.พริกไทยเป็นอาหารที่เหมาะอย่างมากสำหรับคนธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุลม
(พฤษภาคม-กรกฎาคม) ซึ่งจะช่วยป้องกันการเจ็บป่วยต่างๆได้
40.ประโยชน์จากพริกไทยช่วยทำให้ผิวสวย ด้วยการใช้พริกไทย ขมิ้นอ้อย
กระชาย แห้วหมู นำมาทุบแล้วดองด้วยน้ำผึ้ง นำมารับประทานก่อนนอนทุกวัน
จะช่วยทำให้ผิวสวยใสมากยิ่งขึ้น
41.พริกไทยมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากการถูกคุกคามจากแสงแดด
42.ประโยชน์ของพริกไทยช่วยป้องกันการหลับใน เมื่อขับรถเหนื่อยๆ หรือง่วงนอน
การได้กลิ่นของพริกไทยจะช่วยทำให้รู้สักตื่นตัวมากยิ่งขึ้น
43.น้ำมันพริกไทยสามารถช่วยลดน้ำหนักตัวได้ และยังสามารถใช้นวดส่วนที่ต้องการลดได้
44.สูตรสมุนไพรหลายชนิดที่นิยมนำมาปรุงเป็นยาอายุวัฒนะ มักมีพริกไทยรวมอยู่ด้วย
45.พริกไทยดำมีสรรพคุณช่วยต่อต้านความอ้วน เพราะมีสารพิเพอรีนที่มีรสฉุนและเผ็ดร้อน
จึงช่วยขัดขวางไม่ให้เซลล์ไขมันใหม่ก่อตัวขึ้น
46.เมล็ดพริกไทยดำและพริกไทยขาว นิยมนำมาใช้ทำเป็นเครื่องเทศเพื่อใช้แต่งกลิ่นอาหาร
ทำให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น (เมล็ดพริกไทย)
47.พริกไทยอ่อน ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ในอาหารได้ เช่น ผักเผ็ดปลาดุก ผัดเป็ดหมูป่า
48.พริกไทยช่วยถนอมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่างๆ ให้เก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้น
49.น้ำมันหอมระเหยจากพริกไทยช่วยรักษาผู้ที่ติดบุหรี่ โดยจะช่วยลดความอยากและ
ลดความหงุดหงิดลงได้
50.ในปัจจุบันพริกไทยดำได้ถูกนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย (Black Pepper Oil)
ซึ่งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้านพิษต่างๆ ช่วยทำให้เจริญอาหาร แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ
ช่วยในการย่อยอาหาร รักษาโรคกระเพาะ ใช้เป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการปวด ลดอาการ
กล้ามเนื้อกระตุก ช่วยกระตุ้นกำหนัด ขับเหงื่อ ลดไข้ และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบ
ประสาท (น้ำมันพริกไทย)

แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, เว็บไซต์เดอะแดนดอทคอม,
งานศูนย์บริการวิชาการและฝึกอบรม ฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ
คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่,
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.),
วารสาร “เกษตรกรรมและเคมีอาหาร” ของสหรัฐฯ
นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี




+++++++++++++++++++++


แนะนำเมนู...เพื่อสุขภาพ

"น้ำพริก พริกไทยอ่อน"





ส่วนประกอบ
กะปิเจ 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ
เห็ดเค็มป่น 1/4 ถ้วยตวง
เนื้อส้มซ่าซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มซ่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยอ่อนเด็ดเป็นเม็ด 3 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน 10-20 เม็ด
น้ำซุปผัก 1/4 ถ้วยตวง
ใบตอง, ไข่เค็ม, ผักสด และผักต้มตามใจชอบ





วิธีทำน้ำพริก พริกไทยอ่อน

ใบตองล้างและเช็ดให้สะอาด ฉีกขนาดกว้าง 6 นิ้ว ใส่กะปิเจ
กดให้แบเป็นสี่เหลี่ยม พับใบตองเข้าหากันทั้งสี่ด้าน นำไปย่างหรือจี่
ในกระทะเหล็กกระเทียมปอกเปลือกหั่นหยาบ พริกขี้หนูเด็ดขั้วก้านออก
ล้างน้ำผึ่งให้แห้งเห็ดเค็มป่น (แทนเนื้อกุ้งแห้งหรือเนื้อปลากรอบ)
คั่วให้กรอบผสมน้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มซ่า เนื้อส้มซ่า
น้ำซุปผัก คนให้น้ำตาลปี๊บละลายโขลกกะปิเจ กระเทียม
เห็ดเค็มป่นให้ละเอียด นำน้ำปรุงรสที่เตรียมไว้ใส่คลุกเบา ๆ ให้เข้ากัน
ชิมรสให้มีทั้งสามรส เปรี้ยว เค็ม หวาน และหอมกลิ่นส้มซ่า
แล้วใส่พริกไทยอ่อนคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง โรยหน้าด้วยพริกขี้หนู
รับประทานคู่กับไข่เค็ม ผักสด
และผักต้มตามชอบ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
//namprik-thai.blogspot.com/2010/05/blog-post.html



"น้ำพริกพริกไทยสด"



พริกไทย เป็นเพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่นิยมนำมา ประกอบอาหาร
ให้รสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณในการ ขับเหงื่อ ขับลม และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

เครื่องปรุง
(รับประทาน 4 คน)
กะปิดี ๒ ช้อนโต๊ะ
กระเทียมกลีบเล็ก ๗ 7 กลีบ
หัวหอมขนาดกลาง 3๓ หัว
กุ้งแห้งป่น ๒ 2 ช้อนโต๊ะ
เม็ดพริกไทยสดเด็ดก้าน ๑/๔ 1/4 ถ้วยตวง
หมูสามชั้น 200 ๒๐๐ กรัม
ตะลิงปลิงหรือมะดันสับ 2๒ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 4๔ ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวน ๑๕ 15 เม็ด
พริกชีฟ้าเหลือง เขียว แดง อย่างละ ๑ 1 เม็ด






วิธีทำ

1.ปอกกระเทียม หัวหอมใส่ครก โขลกกับกะปิ ใส่กุ้งแห้งป่น เนื้อตะลิงปลิง
(หรือมะดัน) พริกไทย และพริกขี้หนูสวนเด็ดก้าน ใส่ลงไปโดยไม่ต้องโขลก
2.หั่นหมูสามชั้น เป็นชิ้นเล็กใส่กระทะ ผัดรวมกับน้ำตาลปีบ และเติมน้ำทีละน้อย
ผัดจนเห็นว่า เนื้อหมูนุ่มแล้ว จึงค่อยใส่น้ำพริกลงผัด เมื่อน้ำพริกแห้ง ใส่พริกชี้ฟ้า
ที่หั่นตามขวาง เป็นท่อนสั้นๆ ลงไปผัดด้วย ตักใส่จาน รับประทานพร้อมกับผักสด
ไข่เจียวและแกงจืด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
//2g.pantip.com/cafe/chuanchim/recipe/food19.html
ขอบคุณรูปภาพจาก //www.google.co.th



******* ******* *******





++Bloggang :: jamaica++



Create Date : 10 กรกฎาคม 2556
Last Update : 10 กรกฎาคม 2556 6:43:08 น. 0 comments
Counter : 12245 Pageviews.

jamaica
Location :
1 Albania

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ฝากข้อความที่นี่ค่ะ^_^


++ Harmony of Life ++
ช่วงเวลาดีๆ และ....
ความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ
เมื่อเรามีหัวใจจะสรรค์สร้าง
รู้สึกดีกับตัวเราเองรู้สึกดีกับสิ่งต่างๆ
กับใครๆรายรอบตัว......และ
แบ่งปันความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน
ทุก ๆวัน ก็จะเต็มไปด้วยความสุข
และความรู้สึกดีๆ ค่ะ ^_^



"เปิดBlog 5 กรกฎาคม 2553"

ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่มอบให้
jamaica's Blog นะคะ


BlogGang Popular Award # 6

BlogGang Popular Award # 7

BlogGang Popular Award # 7

BlogGang Popular Award # 8

BlogGang Popular Award # 8

BlogGang Popular Award # 9

BlogGang Popular Award # 9

BlogGang Popular Award # 9

BlogGang Popular Award #10
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jamaica's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.