ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory)/นักคิด
เข้าไปอ่านข่าวๆ หนึ่งในเวปหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
"เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า กรณีที่ไทยถูกจัดอันดับเป็น PWL จะไม่มีผลต่อการพิจารณาสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ จีเอสพี และพร้อมจะหารือกับเพื่อเร่งแก้ปัญหา ส่วนการเดินทางไปสหรัฐฯ ของนายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เชื่อว่าคลี่คลายปัญหาได้ ทั้งนี้ ทูตสหรัฐฯ ยังปฏิเสธว่า สหรัฐฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการโจมตีประเทศไทยของบริษัทล็อบบี้ยิสต์ ส่วนข้อสงสัยต่อความสัมพันธ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีกับบุคคลระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเพียงทฤษฎีการสมคบคิด"
ครับ "ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory)"
เลยลองเอาไปโพสถามในห้องราชดำเนิน มีสมาชิกได้ให้ความหมายของคำๆ นี้เอาไว้อย่างนี้
ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) คือ เรื่องเล่า บทความที่สร้างขึ้นมาจากความคิดของคน หรือกลุ่มคน โดยนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นอื่นๆเพื่อให้ประโยชน์/ให้โทษต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งใด หรืออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลักษณะของทฤษฎีสมคบคิดโดยทั่วไปมีข้อเท็จจริงประกอบอยู่เพียงเล็กน้อย หรือส่วนหนึ่ง เพียงเพื่อเสริมให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีหลักฐานสนับสนุนที่ดูเหมือนเกี่ยวข้องกันเท่านั้น อาจมีเหตุผลสนับสนุนจากความเชื่อส่วนบุคคล ความเชื่อเกี่ยวกับทางศาสนา การเมือง หรือวัฒนธรรมที่แตกต่างไป เรื่องเหล่านี้นักวิชาการจะไม่ใช้อ้างอิง ผู้อ่านควรใช้วิจารณญานก่อนที่จะเชื่อเรื่องนั้นๆ ประเทศสหรัฐอเมริกามีหน่วยงานที่จะดูแล และกลั่นกรองเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะ (chalee2498)
โดยกำหนดเป้าหมายคำตอบไว้แล้ว พยายามหาเหตุผลต่างๆมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเพื่อสนับสนุนคำตอบให้ทุกคนเชื่อว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด (จงเผยจิง)
ตามหลักการ การอนุมาน ในทางตรรกะวิทยานั้น วิธีที่ถูกต้องคือ อนุมาน(อ้างอิง) จาก "เหตุ" ไปหา "ผล"
ตัวอย่างเช่น ความจริงคือ ฝนตกแล้วถนนเปียก
ถ้าเรา อนุมานจาก "เหตุ" ไปหา "ผล" คือ ถ้า "ฝนตก" เราเชื่อได้อย่างแน่นอนว่า "ถนนเปียก"
แต่ถ้าเราอนุมานในหลักการที่ผิด คือ จาก "ผล" ไปหา "เหตุ" เราจะได้ประโยคที่ว่า เราเห็น "ถนนเปียก" แสดงว่า "ฝน" เพิ่งจะตกไป ซึ่งผิดหลักการอย่างมากมาย เพราะ "ถนนเปียก" ที่เราเห็นนั้น อาจจะไม่ได้เกิดจาก "ฝนตก" ก็ได้
ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) นั้น เป็นการอนุมาน จาก "ผล" ไปหา "เหตุ" ซึ่งในทางหลักการมันผิด (แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องมันไม่ใช่เรื่องจริง) คือการกำหนด "คำตอบ" ไว้แล้ว ค่อยหา "เหตุผล" มารองรับ และเรื่องราวส่วนใหญ่ที่ใช้ "ทฤษฎี" นี้ในการวิเคราะห์มักจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น น่าคิด น่าสนใจ
ยกตัวอย่างนะครับ
ข้อสรุป :::: นีล อาร์มสตรอง พร้อมทั้ง อพอลโล่11 ไม่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ แล้วถึงไปหา "เหตุ" เช่น -นาซ่าและรัฐบาลสหรัฐจัดฉากขึ้นเพื่อแสดงศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ว่าก้าวหน้ากว่ารัสเซีย -มีผู้เกี่ยวข้องบางคนถูกฆ่าตาย -ธงในภาพวีดีโอ ที่ปลิว บนดวงจันทร์ -แสงและเงาที่ผิดธรรมชาติ ฯลฯ
ข้อสรุป :::: พระเยซูเคยแต่งงานและมีลูกแล้ว(The Da Vinci Code) จากข้อสรุปนี้นำไปสู่การหา "เหตุ" เช่น -มีองค์กรลับที่ชื่อ เดอะไพรเออรี่ออฟไซออน คอยเก็บรักษาความลับ -ประวัติพระเยซูในช่วงชีวิตหนึ่ง ไม่มีใน ไบเบิ้ล -ไม่มีประวัติว่า พระเยซู ไม่เคยแต่งงาน -Leonado Da Vinci บอกเอาไว้มากมายในภาพวาดของเค้า ฯลฯ
และล่าสุด
ข้อสรุป :::: ทักษิณ ชินวัตร ใช้เงินจ้างบริษัท ล็อบบี้ยิสต์ เพื่อดิสเครดิตประเทศไทยทำให้ไทยขาดความน่าเชื่อถือและโดนตัดสิทธิ์ในการค้ามากมาย มี "เหตุ" ดังนี้ -มีการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันกับผู้มีชื่อเสียงทางเศรษฐกิจของสหรัฐ -มีการจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์เป็นประจำ -ไทยถูกจัดอันดับเป็น PWL
เป็นการอนุมานที่ผิดวิธี (ขอย้ำว่า ไม่ได้หมายความว่า ไม่ใช่เรื่องจริง)
ตัวอย่างทฤษฎีสมคบคิดอื่นๆ
-เอลวิส ยังไม่ตาย ที่ต้องทำเป็นตายนั้นเพราะ FBI ต้องการกันไว้เป็นพยาน -เจ้าหญิงไดอาน่า ไม่ได้ตายเพราะประสบอุบัติเหตุ -JFK ไม่ได้ถูกคนเสียสติยิงตายแต่ถูกลอบสังหารเพราะเหตุถอนทหารออกจากเวียดนาม ฯลฯ
แม้ว่า จะไม่สมเหตุสมผลในวิชา ตรรกะวิทยา แต่ว่า การที่ทำให้คนเราได้ คิด ได้ จินตนาการ นั้น สนุกสนานและเสริมสร้างปัญญา ผมชอบทั้งความหมาย และ ชื่อที่แปลเป็นไทยว่า "ทฤษฎีสมคบคิด" ตรงที่คนได้มาร่วม "สมคบ" กันใช้ความ "คิด"
เพลงประกอบเรื่อง::::นักคิด ศิลปิน::::วงตาวัน
เหนือฟ้าที่ยังมีฟ้าคิดค้นหาเสาะหาดาวดวงใหม่ คิด คิด มันจะดีไหม มันจะอยู่ที่ใด โพ้นน้ำลงไปในน้ำ คิดซ้ำๆ ได้น้ำมีเมืองใหญ่ คิด คิด มันจะจริงไหมเราก็อยากค้นดู อยากเอาความคิดไปลอยฝากไว้ที่บนดวงจันทร์ ก็มีความฝันมันๆ แบบนี้อยู่เต็มดวงใจ
คิดไว้ในอนาคต มดเล็กๆ อาจเพี้ยนเป็นแม่ไก่ คิด ค้น มันต้องสูตรไหนเราก็เสาะหาไป คิดถึงนายได้โนเสาร์ คิดให้เขากลับฟื้นคืนมาใหม่ ฟื้นแล้วเขาจะไปไหนใครจะอยากเลี้ยงดู จะคูณจะยกกำลังสูตรไหนก็พอมีทาง ให้ลองมาคิดถึงวันอย่างนั้นก็ยังสบาย
แต่พอมาคิดเรื่องใจของคนที่แปรเปลี่ยน คิดว่าเธอจะเวียนกลับมาไหม คิดว่าใจเธอคิดยังไงก็ไม่รู้ คิดจะลองย้อนใจเธอดูใหม่ ย้อนเวลาถอยไปจะทันไหม คิดให้เอียนให้เพี้ยนให้ตายก็ไม่ออก
นึกไว้ไปอนาคต รถที่ใช้ขับไปคงคันใหญ่ นึก นึก ไปดาวดวงไหนเราก็เหาะเหินไป คิดค้นคนขึ้นมาใช้ แขนและขาจิตใจมีอะไหล่ คิดไว้ใครที่ใจเหงาเราก็เปลี่ยนหัวใจ จะคูณจะยกกำลังสูตรไหนก็พอมีทาง ให้ลองมาคิดถึงวันอย่างนั้นก็ยังสบาย
Create Date : 05 พฤษภาคม 2550 |
|
27 comments |
Last Update : 18 ธันวาคม 2552 12:39:45 น. |
Counter : 1085 Pageviews. |
|
|
|
ทฤษฎีสมคบคิดนี่ได้ยินมานาน และก็ถูกนำมาใช้ในหลายแวดวง
อย่างที่บอกนะคะ ข้อเท็จจริงอาจมีน้อย
แต่บางครั้งการคิดในมุมกลับดูมันก็ช่วยในการสืบเสาะ ค้นคว้า แสวงหา เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อดูมุมมองที่ต่างกันไป