<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 พฤษภาคม 2551
 

9 วิธี "รัก" อย่างไร ไม่เป็นทุกข์






สงสัยกันบ้างไหมคะ ว่า เดี๋ยวนี้ทำไมคนเรามักตัดสินปัญหาความรักด้วยความรุนแรง ความรักเป็นความสุข หรือความทุกข์ขึ้นอยู่กับว่าเราคิดหรือมองความรักอย่างไร เพื่อไม่ให้ความรักเป็นความทุกข์กลับมาทำลายตัวเราเองและคนรอบข้าง

ความรัก ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองและคนที่เรารักมีความสุขด้วย ส่วนใหญ่ที่คนเรามีปัญหา อาจเพราะเรารักเขา แต่เขาไม่รักเรา
จึงไปทำให้เขาหรือตัวเราเป็นทุกข์ ซึ่งทางจิตวิทยามองว่า ความรักที่ดีต่อสุขภาพ หรือถูกสุขภาพจิตนั้น ควรเริ่มจาก
การรู้จักรักตัวเองเสียก่อน




“หลายคนมักจะมองว่า การรักตัวเอง คือ การเห็นแก่ตัว หลงตัวเอง ไม่สนใจคนอื่น
แท้จริงแล้ว หากรู้จักรักตัวเองอย่างพอเพียง จะเห็นถึงคุณค่าของตัวเอง
ความรู้สึกโหยหาความรักจากผู้อื่นก็จะมีอิทธิพลน้อยลง”


อีกประเด็นที่มักพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง คือ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าความรักต้องเกาะติด อยู่ไม่ได้ถ้าขาดอีกคน เป็นเหมือนความรักสไตล์คลาสสิกทั้งหลาย เช่น โรมิโอ&จูเลียต หรือสะพานรักสารสิน ที่หากไม่มีเธอ ฉันต้องขาดใจตาย ถือว่าเป็นความรักที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะหากอีกฝ่ายไม่ยั่งยืนหรือแม้ไม่คิดจะทอดทิ้งแต่ต้องจากไปด้วยกาลเวลา แล้วจะทำอย่างไร

นอกจากนี้ หากมองในแง่ที่ว่า คนเราเมื่อรักกันได้ ก็ย่อมเบื่อหน่ายจืดจางได้เช่นกัน หรือกระทั่งยามที่อีกฝ่ายจำเป็นต้องไปทำงาน
ไปทำภารกิจส่วนตัวจนต้องห่างกันสักระยะ ถ้าอีกคนไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ เพราะหวังให้อีกคนเป็นผู้ให้ความสุขทั้งหมด
ย่อมจะต้องทุกข์เป็นประจำ ส่วนคนที่ถูกพึ่งพิงเกาะติดก็จะรู้สึกอึดอัด เบื่อหน่าย หากต่างฝ่ายรู้จักสร้างความสุขด้วยตัวเองได้ด้วย
เช่น ทำงานอดิเรก คบเพื่อน ก็จะช่วยให้สัมพันธภาพดีขึ้น


แต่ก่อนที่ทุกข์อันเกิดจากความรักจะรุมเร้า วันนี้เรามี 9 วิธี “รัก” อย่างไร ไม่เป็นทุกข์ มาฝากค่ะ

1.ควรมีความสุขได้ด้วยตัวเอง คนอื่นเป็นเพียงโบนัสที่เพิ่มเข้ามา

2.ควรปรารถนาให้ผู้อื่นเกิดสุขด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของเรา เช่น เมื่อคนที่เรารักไม่รักเรา แต่เขามีความสุขของเขา แม้เราจะเศร้าก็ยังคิดได้ว่า อย่างน้อยก็ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข

3.ลดความคาดหวัง แม้เราจะเป็นปุถุชนซึ่งคงตัดความคาดหวังไม่ได้ แต่ถ้าเรายิ่งคาดหวังจากอีกฝ่ายน้อย
โอกาสที่เราจะสมหวังก็ยิ่งมากขึ้น

4.ยอมรับความแตกต่าง ทั้งด้านสรีระและความคิดของผู้อื่น ความคิดไม่ตรงกันนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ
หากฝ่ายหนึ่งไม่พยายามทำให้อีกฝ่ายคิดเหมือนกัน และพยายามเข้าใจว่าเหตุใดจึงคิดต่างกัน ปัญหาก็จะไม่เกิด
หากเข้าใจและยอมรับได้แล้ว เมื่อเห็นเขาทำตัวไม่ถูกใจ ไม่น่ารัก ขี้บ่น ใจร้อน เราก็จะปรับตัวให้เข้ากับเขา
และมอบความรักให้ได้ง่ายขึ้น

5.รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ความรักจึงจะยืนยาว เพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของโลก
เพลงโปรด ฟังซ้ำ อาหารจานประจำ กินบ่อยก็เบื่อ ความรักที่เคยจี๋จ๋าหวานแหวว อาจจืดจางลง
แต่ยังคงความผูกพันและสัมพันธ์อันดี หรือแม้จะเลิกราร้างห่าง บางคู่ก็ยังเป็นเพื่อนรู้ใจต่อกันได้

6.ไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งที่ตนคิดว่าดีให้คนอื่นเพียงอย่างเดียว จะต้องมองถึงความต้องการ
ของเขาด้วย จะได้ไม่ต้องมาน้อยใจว่าเราอุตส่าห์หวังดี ยอมเหน็ดเหนื่อยทำเพื่อเขา แต่เขากลับไม่เห็นคุณค่า

7.ความเกรงใจ เป็นองค์ประกอบสำคัญ ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะคนใกล้ชิดสนิทกัน มักคิดว่าจะสามารถทำอะไรตามใจตัวได้แทบทุกเรื่อง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกคนไป

8.พูดจาชื่นชมในสิ่งดีของกันและกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีมอบความรักที่ควรทำ บางคนละเลยว่าอยู่ด้วยกันมานาน เรื่องดีเขาคงรู้อยู่แล้วไม่ต้องชม จึงเอาแต่พูดถึงสิ่งไม่ดีหรืออยากให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลง เอาแต่บ่นโดยไม่เคยชม
คนฟังก็ท้อใจเหมือนกัน

9.การแสดงออกของความรัก ถ้ารักแล้วไม่แสดงออกเลยอีกฝ่ายคงไม่รู้ เพราะเขาไม่มีตาทิพย์
แต่การแสดงความรู้สึกแค่ไหน อย่างไร คงต้องดูว่าเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการด้วย ส่วนความต้องการของเราก็ควรบอกตรงๆ ไม่ใช่คาดหวังให้คู่ของเราเป็นหมอดู คอยเดาใจ



และถ้าจะรักให้ดีต่อสุขภาพจิต ทุกคนควรคิดให้ความรักเป็นดอกไม้สวยงาม เป็นของหวานสำหรับชีวิต
อย่ายึดติดว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าคิดว่า “รัก” เป็นข้าวปลาอาหารหรืออากาศที่ขาดไม่ได้


“อยากให้คนที่มีทุกข์เพราะรักคิดด้วยว่า
ก่อนที่จะมาเจอคนรัก ยังมีพ่อแม่พี่น้องเพื่อนพ้องและคนอื่นอีกมากมาย
ที่เรารักและรักเรา อย่าให้คนเพียงคนเดียวเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
แล้วปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ตามข่าว เช่น
เมื่ออีกฝ่ายขอเลิกก็มีการบุกไปยิงหรือทำร้ายร่างกาย
กระทั่งฆ่าตัวตาย กลายเป็นโศกนาฏกรรมแสนเศร้าของคนที่อยู่ข้างหลัง”


สรุปการจะรักใคร ควรรักอย่างมีสติ ไม่ทุ่มเทจนหมดตัว และควรเผื่อใจให้ตัวเอง ครอบครัว และเพื่อน เพราะหากเกิดพลาดพลั้ง
ครอบครัวและคนใกล้ชิดมีส่วนสำคัญที่จะเยียวยาหรือเตือนสติไม่ให้ผู้ผิดหวังในความรักกระทำเรื่องที่จะเสียใจในอนาคตได้

เท่านี้คุณก็มีความรักที่ดีต่อสุขภาพได้แล้วค่ะ


จากคอลัมน์ "สายตรงสุขภาพ" : ผศ.พญ.สุทธิภร เจณณวาสิน
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2551

ที่มา :
//www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9510000053432



เดี่ยวขิมเพลงนางครวญ




Create Date : 08 พฤษภาคม 2551
Last Update : 8 พฤษภาคม 2551 21:51:18 น. 11 comments
Counter : 1900 Pageviews.  
 
 
 
 
แวะมาทักทายตอนเย็น ๆ ค่ะ แอบเห็นด้วยกับบทความที่บอกว่า การที่จะรักใครได้ เราก็ควรรักตัวเองและเห็นคุณค่าของตัวเองให้ได้ก่อนค่ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันนะคะ
 
 

โดย: payun-sai วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:24:38 น.  

 
 
 
เรื่องการคาดหวังเนี่ย...กำลังพยายามค่ะ พยายามลดลง บางทีมันก็คาดหวังไปโดยไม่รู้ตัว
 
 

โดย: หนอนหลังยาว วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:30:43 น.  

 
 
 
ฟังเพลงแล้วเย็นใจดีจัง
ชอบรูปแกะในช่องคอมเม้นท์ด้วย
 
 

โดย: grappa วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:26:23 น.  

 
 
 
ขอบคุณครับพี่ ที่นำสิ่งดีๆมาฝาก
แล้วจะพยายามรักตัวเองให้มากๆ : )
 
 

โดย: ชรันจ์ วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:05:56 น.  

 
 
 
ไม่อยากคาดหวังแต่มันก็อดไม่ได้แหะๆ
 
 

โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:45:13 น.  

 
 
 
เป็นบทความที่ดีค่ะ อืม...แต่สงสัยจัง..ว่าจะมีคนทำตามได้จริงๆซักกี่คนน้อ... 555 เราว่าเราคงทำได้จริงๆซักครึ่งนึงอ่ะค่ะ (ครึ่งนึงก็ยังดีเนอะ)
 
 

โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:03:34 น.  

 
 
 
ทุกข้อ...ที่กล่าวมาเหมือนง่ายๆ
แต่จะมีซักกี่คน...ที่ทำได้อย่างนั้นหนอ
..
..
ส่วนตัว...เราคิดว่า
ร้อยแปดพันเก้าเหตุผล..ของความรัก
มักอยู่เหนือการควบคุม..ความรู้สึก
..
..
อกหักทีไร..เราก็ปลอบหัวใจ
ว่าคนที่ไม่รักเราต่างหาก...เค้าคือคนที่สูญเสีย
เสียคนที่รักเค้าอย่างจริงใจไป
..
..
ปลอบใจตัวเองอย่างนี้..รู้สึกดีขึ้นจริงๆแฮะ
 
 

โดย: nikanda วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:52:45 น.  

 
 
 
เรื่องความรักที่พูดยากค่ะ ......สุดแท้แต่ใครจะคิด (เข้าข้างตัวเอง) ยังไง

สำหรับคำแนะนำจากบทความนี้ น่าจะช่วยให้ "ปลงๆ " กันได้บ้างอ่ะนะ

ส่วนตัวเรา ....มักจะเผื่อใจไว้สำหรับทุกๆ เรื่องอยู่แล้วล่ะ

แต่มีทำให้ทุกข์สุด เพราะไม่เผื่อใจ หรือเผื่อไว้น้อยสุด ก็คงเป็นเรื่องงานนั่นแหละ ....
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:57:03 น.  

 
 
 
โห..คุณนัทธ์
มาจากบล็อกคุณอ้อนค่ะ
สี่สิบแปดเล่มนี่...มันจะราคาซักเท่าไหร่กันคะ
เพื่อ...อยากจะหามาอ่านบ้าง
อยากรู้ว่า...เรื่องนี้ มันมีเสน่ห์ตรงไหน
ใครๆก็ติดใจกันจัง
..
..
จริงด้วยค่ะ..เรื่องความรัก พูดยากจริงๆ
 
 

โดย: nikanda วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:38:11 น.  

 
 
 
แหม.คุณนัทธ์
เห็นบอกว่า..ทยอยซื้อ
เราก็นึกว่า..ปีละชุด..ครึ่งปีชุด
ที่ไหนได้...วันละชุด
..
..
ติดเป็นนิสัยแล้วค่ะ
ถ้าอ่านไม่จบเล่ม..ก็ไม่ยอมหลับยอมนอน
เมื่อคืน..อ่านหนังสือของ"เคย์ ฮูเปอร์"
เล่มเล็กนิดเดียว..กะว่าจะอ่านให้จบ
ปวดหัวด้วย...ง่วงนอนด้วย
สรุปว่า..หลับคาหนังสือตั้งแต่สามทุ่มเลยมั๊ง
ปกติทุกวัน...ตีสามก็ยังไม่นอนค่ะ
..
..
ว่าแต่ว่า...ช่วงนี้
หองดองที่บ้านคุณนัทธ์
เหลืออีกซักประมาณกี่เล่มคะ??อยากรู้..
 
 

โดย: nikanda วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:58:26 น.  

 
 
 
สวัสดียามเย็นค่ะคุณนัทธ์...

เรื่องความรักมีหลากหลายนิยามจริงๆ
ช่วงนี้เก็บเกี่ยวแต่ทฤษฎีแต่ไม่ได้ปฏิบัติเลยค่ะ เศร้า
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:17:17 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com